พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 462 คนที่ขวางผมตาย
เนี่ยเฟิงตามหาเบาะแสของหมิงอี๋หาน ถึงแม้ว่าตอนนี้วุ่นวายมากแล้ว แต่เนี่ยเฟิงรู้ว่า จัดการคนที่ก่อจลาจลเหล่านั้นเสร็จแล้วจึงจะสามารถหาเธอเจอ
ในตอนนี้หมิงอี๋หานก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง อยู่ที่ไหนแล้ว
แต่ก่อนเนี่ยเฟิงปฏิบัติภารกิจ ตอนที่รู้ว่าตนเองตกอยู่ในภาวะชะงักงันก็ไม่เคยร้อนใจขนาดนี้มาก่อน แต่ว่าในตอนนี้เขากลับรู้สึกร้อนใจมาก
ประเด็นหลักยังเป็น คนที่อยู่ในสนามรบเดียวกันกับเขาเป็นคนที่ตนเองคุ้นเคย
เมื่อกี้หมิงอี๋หานกับเฟยหลงยังมีหม่างซือเดินคลาดกันแล้ว เธอไม่ได้บอกทิศทางของเธอกับเนี่ยเฟิง
เนี่ยเฟิงก็ไม่รู้ว่าหมิงอี๋หานอยู่ที่ไหน ตอนนี้ใช้ตัวระบุตำแหน่งก็หาทิศทางของหมิงอี๋หานไม่เจอเช่นกัน
เนี่ยเฟิงมีความโมโหเล็กน้อยแล้ว เขาจัดการคนทดลองยาคนหนึ่งไป ต่อจากนี้ดึงเข็มกลัดของคนทดลองยาคนนั้นออก ติดอยู่บนหน้าอกของตนเอง ตามหาเบาะแสของหมิงอี๋หานต่อ ในเวลานี้เขาปลอมแปลงเข้าไปในกลุ่มคนทดลองยาแล้ว
การแยกแยะคนของคนทดลองยาก็คือแยกแยะเข็มกลัดนี้ เนี่ยเฟิงอาศัยเข็มกลัดนี้ฆ่าคนทดลองยาไปมากมาย
ถ้าหากว่าเป็นคนอื่น ย่อมจะไม่กล้าทำเช่นนี้อยู่แล้ว เพราะว่าพวกเขากังวลว่าเพื่อนร่วมทีมจะพลาดทำร้ายตนเอง
แต่ว่าเนี่ยเฟิงไม่เหมือนกัน เนี่ยเฟิงไม่กังวลว่าเฟยหลงกับหม่างซือจะจำเขาไม่ได้ เพราะว่าสำหรับเนี่ยเฟิงมากล่าวแล้ว ความสามารถของเฟยหลงกับหม่างซือทำร้ายเขาไม่ได้เลยสักนิด
แม้ว่าเนี่ยเฟิงพอใจมากที่ได้เห็นพวกเขากัดกันเอง แต่ว่าส่งผลกระทบถึงพี่สี่เขา นั่นก็ไม่เหมือนกันแล้ว
พอเนี่ยเฟิงลงมือ เฟยหลงกับหม่างซือได้เพียงแต่เห็นศพคนตามหลังแล้ว
พวกเขาทั้งสองคนก็เคยปฏิบัติภารกิจมากก่อนเช่นกัน จะเคยอึดอัดเป็นทุกข์ขนาดนี้มาก่อนเมื่อไหร่ล่ะ?
ตอนนี้ถ้าหากพวกเขาไม่กระตุ้นสติขึ้นมา ทุกนาทีล้วนสู้เนี่ยเฟิงไม่ได้
คนทดลองยาในห้องอาหารถูกฆ่าล้างพอสมควรแล้ว เนี่ยเฟิงตามหา “หมิงอี๋หาน?” ทันที
เขาทั้งหาทั้งเรียกอยู่ แต่ว่าไม่มีคนตอบเขา
เนี่ยเฟิงทำตายี๋แล้วทำตายี๋อีก เมื่อกี้เขาอาศัยแสงไฟตรวจหามาก่อนแล้ว คนที่ตายหรือว่าในคนที่หมดสติไปอยู่ในห้องอาหารล้วนไม่มีเงากายของหมิงอี๋หานเลย
ชุดราตรีที่หมิงอี๋หานสวมใส่เด่นชัดมาก ดังนั้นพอเห็นก็มองออก
บวกกับหน้าตาของหมิงอี๋หานเด่นกว่าเพื่อนอีก ทำให้คนแค่ดูผ่านตาก็จำได้ไม่ลืม
“ครู ดูเหมือนเธอไม่ได้อยู่ในชั้นนี้แล้ว” หม่างซือรายงาน
“เห็นลักษณะท่าทีน่าจะใช่ เมื่อกี้เธอยังอยู่ด้วยกันกับพวกคุณ ถ้าหากกลับไป น่าจะแค่ชั้นบนกับชั้นล่างต้องไปไม่ไกล พวกเราแยกย้ายไปดำเนินการ จะต้องหาเธอให้เจอ!”
เนี่ยเฟิงพูดจบ เก็บปืนที่อยู่บนพื้นขึ้นมา เขาชั่งน้ำหนักด้วยมือสักหน่อยก็รู้ว่าในนั้นยังมีลูกกระสุนสิบแปดลูก
เขาไม่มีความคิดที่จะหลบซ่อนเลยสักนิด เขาทั้งเดินทั้งยิงปืน เปิดทางเลือดเส้นหนึ่งออกให้กับตนเองโดยตรง
คนที่ขึ้นเรืออย่างน้อยยังมีสองพันกว่าคน ในปัจจุบันนี้ที่นี่กลายเป็นทะเลไฟไปหมด อีกทั้งทุกชั้นล้วนเต็มไปด้วยซากศพ
เนี่ยเฟิงข้ามซากศพที่นอนสลับซับซ้อนอย่างสงบมั่นคง ตามหาทีละห้องทีละห้องอยู่
ตอนนี้เขาไปชั้นที่สิบเอ็ด หาหมดทั้งชั้นยังหาคนไม่เจอ เนี่ยเฟิงขึ้นไปชั้นที่สิบสองอีก
ชั้นที่สิบสองเป็นสถานบันเทิง ข้างในมีสระว่ายน้ำที่ใหญ่มากสระหนึ่ง ที่นี่เทียบกับข้างล่างจะเงียบกว่าเยอะเลย
หลังจากเนี่ยเฟิงเข้าไปก็ได้กลิ่นคาวเลือดออกมา
เขาทำตายี๋แล้วทำตายี๋อีก จ้องมองไปยังสระว่ายน้ำ ข้างในมีซากศพที่ลอยขึ้นมาหลายศพ
ถ้าหากไม่ใช่สระว่ายน้ำค่อนข้างใหญ่ ตอนนี้น้ำที่อยู่ในสระว่ายน้ำอาจจะเปลี่ยนสีแล้ว
ข้างสระว่ายน้ำเป็นห้องเปลี่ยนเสื้อ แยกเป็นชายหญิง ที่นี่เดิมทีก็โออ่าหรูหรามากอยู่แล้ว ห้องเปลี่ยนเสื้อย่อมไม่ได้ต่างกันไปถึงไหนแน่นอน
เนี่ยเฟิงแอบเข้าไปในนั้นอย่างเงียบสงบ ที่นี่ไม่มีแสงไฟ อาจจะโดยสาเหตุที่เพราะว่าเป็นสระว่ายน้ำ
ก็อยู่ในเวลานี้ เนี่ยเฟิงได้ยินเสียงร้องที่ทั้งด่าทั้งบ่น “แม่มึงเอ่ย! ตีให้ตายเลย! หญิงน่ารังเกียจนี้ถึงขนาดกล้าเตะผม!”
สายตาเนี่ยเฟิงขึงลับทันที
ห้องเปลี่ยนเสื้อในเวลานี้ หมิงอี๋หานถูกชายใหญ่ล่ำสองคนล้อมไล่สกัดกั้นอยู่ ตอนนี้เธอไม่มีทางถอยแล้ว
เมื่อกี้เธอพบหน้ากันกับคนทดลองยาเหล่านั้น ทันใดนั้นเธอสังเกตถึงความผิดปกติ แต่ในเวลานี้ไม่ทันแล้ว
รูปร่างของพวกเขาคล่องแคล่วแข็งแรง ทั้งแรงระเบิดแข็งแกร่งอีกมาก หมิงอี๋หานได้เพียงแต่หลบซ่อนอยู่
เพียงแค่คนนำหน้าคนนั้นมองเห็นใบหน้าของหมิงอี๋หานแล้ว รู้สึกว่าเธอสวยเกินไปแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ต้องจับไว้ให้ได้
หมิงอี๋หานเห็นคนที่นี่มากเกินไปแล้วจริงๆ ดังนั้นเธอบอกกับเนี่ยเฟิงทันทีว่า “อย่าเข้ามา”
อยู่ภายใต้สภาพการณ์ที่มืดฟ้ามัวดินนี้ หมิงอี๋หานกังวลว่าเนี่ยเฟิงจะชนกับปากกระบอกปืน ดังนั้นเธอจึงไม่ให้เนี่ยเฟิงมา
หมิงอี๋หานหลบอยู่ในสถานที่ที่ค่อนข้างอำพรางตัวแล้ว แต่นึกไม่ถึงคนกลุ่มนี้ยังเช่นดั่งหมาฝูงหนึ่งมาหาจนได้
“ผมกลับอยากจะเห็นว่าพวกคุณใครกล้าเตะต้องผู้หญิงของผม”
ก็อยู่ตอนที่หมิงอี๋หานกำลังคิดว่าจะทำยังไงดี เสียงของเนี่ยเฟิงค่อยๆดังขึ้น
หมิงอี๋หานนิ่งอึ้งไปเลย เธอพยายามจ้องมองไปยังทิศทางที่มืดสลัวนั้น เธอรู้ว่าคนที่ยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขาไม่ใช่คนอื่น เป็นเนี่ยเฟิงนั่นเอง
“โย่โฮ? ใครล่ะ? กล้าถึงขนาดนั้น!”
ไอ้คนนั้นหัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง แต่ยังไม่ทันรอให้เขาเห็นชัดถึงลักษณะท่าทีของเนี่ยเฟิง เนี่ยเฟิงก็ปล่อยหมัดชกเขาจนสมองเลอะเลือนแล้ว
“ไอ้โย!”
เนี่ยเฟิงได้ยินเสียงร้องทรมานของฝ่ายตรงข้าม รู้ว่าไอ้คนนี้ยังไม่ได้บรรลุถึงระดับของคนทดลองยาระดับสูง ตอนนี้เขายังรู้สึกถึงความเจ็บปวดได้ ก็พูดได้ว่าระดับของเขาไม่สูง
“ก็แค่พวกคุณหน้าตาน่าเกลียดเหล่านี้ยังกล้ารังแกคนของผม ผมว่าพวกคุณอยู่จนเบื่อแล้ว”
เมื่อกี้เนี่ยเฟิงตามหาหมิงอี๋หานตลอดทาง อารมณ์ของเขาแย่ถึงสุดขีดแล้ว ตอนนี้คนกลุ่มนี้ชนอยู่บนปากกระบอกปืนของเขาพอดี เป็นไปได้ยังไงที่เขาจะปล่อยไปได้อีกล่ะ?
“แม่มึงเอ่ย! พวกมึงอึ้งอยู่ทำไมล่ะ? ยังไม่รีบจัดการไอ้คนนี้ให้กูเดี๋ยวนี้ เขาถึงขนาดกล้าชกกู!”
เนี่ยเฟิงล้วนไม่ได้ใช้แม้กระทั่งปืนในมือเลย เห็นชายใหญ่ล่ำทั้งสองนั้นพุ่งเข้ามายังตนเอง เนี่ยเฟิงใช้หนึ่งหมัดหนึ่งคน ชกจนหัวกะโหลกของคนบุ๋มเข้าไปโดยตรงเลย!
แม้กระทั่งเสียงพวกเขายังไม่ทันออก ก็ถูกชกจนลอยไปเลย
ถึงแม้ว่าอยู่ในความมืดสลัว แต่ว่าไอ้คนนั้นก็ได้ยินเสียงที่เนี่ยเฟิงชกคนอยู่
เขาอดไม่ไหวที่จะตัวสั่นขึ้นมา ในเวลานี้ก็ไม่กล้าเอ่ยปากเลย เห็นเพียงเขาค่อยๆถอยไปยังข้างหลัง เห็นลักษณะท่าทีคิดว่าน่าจะวิ่งหนี
เนี่ยเฟิงจะให้โอกาสเขาที่ไหนล่ะ?
เห็นเพียงเนี่ยเฟิงเข้าไป อยู่มุมสูงจ้องมองไอ้คนเมื่อกี้ที่ยังพูดจาโอหังอยู่ “ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่ว่ารังแกผู้หญิงของผมไปแล้ว ผมย่อมจะไม่ปล่อยคุณออกไปอย่างง่ายดายขนาดนั้นเด็ดขาด”
เสียงเนี่ยเฟิงเพิ่งจบ เสียงร้องทรมานของไอ้คนนั้นก็ดังขึ้นมาเลย ที่แท้เนี่ยเฟิงเพียงแค่ยกเท้าเหยียบมือของเขาหักเลย!
ใบหน้าเนี่ยเฟิงไร้สีหน้าทำให้มือสองข้างกับขาสองข้างของไอ้คนนี้หักเลย จากนั้นยกเท้าเตะเขาลงไปในสระว่ายน้ำ แขนขาของเขาในตอนนี้ใช้ไม่ได้ จะพลิกตัวก็ยาก ได้เพียงแต่ดิ้นรนอยู่ในสระว่ายน้ำ
“พี่สี่ คุณได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”
เนี่ยเฟิงไม่มีเวลาไปสนใจไอ้คนนั้นนะ เขารีบเข้าไปซักถามอย่างร้อนใจทันที
หมิงอี๋หานส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก “ฉันไม่เป็นไร ฉันก็เพิ่งถูกพวกเขาพบเห็นเช่นกัน เมื่อกี้เขาอยากจะทำเรื่องที่ผิดต่อจริยธรรมกับฉัน แต่ยังไม่ทันรอเขาลงมือล่ะ ฉันก็เตะน้องชายเขาไปเลย”
ดังนั้นเขาจึงโมโหขนาดนั้น
นี่เนี่ยเฟิงจึงโล่งอกไปที เขาพูดอย่างตำหนิตนเองมากๆว่า “ล้วนเป็นความผิดของผม ทำให้คุณตกอยู่ในอันตราย”
“เรื่องเกิดฉับพลันเกินไป ก็ยังเป็นฉันที่ไม่ได้ปกป้องตนเองให้ดีเช่นกัน ความวุ่นวายเมื่อกี้นั้นมากะทันหันเกินไปแล้วจริงๆ”
หมิงอี๋หานเห็นเนี่ยเฟิงไม่เป็นไร หัวใจที่ตึงเครียดของเธอก็วางลงแล้วเช่นกัน