พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 463 ไม่เพียงแค่ขับเรือเป็น
“ผมได้ชิปมาแล้ว เป็นไปได้มากที่พวกเขาอาจจะกัดกันเอง ไม่ได้พบเห็นสถานะของพวกเราเลย พวกเราต้องไปห้องควบคุมย้อนเรือสำราญกลับไป”
ปัจจุบันนี้เรือสำราญที่โออ่าหรูหรากลายเป็นนรกบนดินแล้ว คนทั้งหลายล้วนลี้ภัยอยู่ คนทดลองยาเหล่านั้นเช่นดั่งหมาบ้า โจมตีฆ่าคนเหล่านี้เลย
“แกพูดถูกแล้ว”
หมิงอี๋หานพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “ฉันไปด้วยกันกับแกเถอะ”
หลังจากผ่านเรื่องเมื่อกี้ เนี่ยเฟิงมีความนึกกลัวในภายหลังเล็กน้อยแล้ว ถ้าหากเมื่อกี้เขามาไม่ทัน เป็นไปได้มากที่หมิงอี๋หานอาจจะได้รับบาดเจ็บแล้ว
“แกรอสักครู่”
หมิงอี๋หานดึงตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อออก ค้นหาเสื้อผ้าจากข้างในออกมาบ้าง “เสื้อกับรองเท้าที่ฉันสวมใส่ทั้งตัวนี้ไม่ค่อยเหมาะสม ฉันเปลี่ยนออกก่อน”
หมิงอี๋หานทั้งพูดอยู่ทั้งถอดกระโปรงที่อยู่บนตัวออก
เนี่ยเฟิงอดไม่ได้ที่จะอึ้งชะงัก “พี่สี่ ผมเป็นผู้ชายนะ คุณก็เปลี่ยนเสื้ออยู่ต่อหน้าผมอย่างนี้ไม่เหมาะสมมั้ง?”
“นี่มีอะไรไม่เหมาะสมล่ะ แต่ก่อนพวกเราทั้งสองคนจำนวนที่เปลือยกายพบกันยังน้อยไปเหรอ?”
รูปร่างของหมิงอี๋หานเซ็กซี่มาก ในยามปกติส่วนมากเธอล้วนสวมใส่เสื้อกาวน์ ดังนั้นดูไม่ออกเลยสักนิด
“แต่นั่นล้วนเป็นตอนเด็กนะ……”
นี่ตอนเด็กกับปัจจุบันใช้มาตรฐานเดียวกันได้ยังไงล่ะ?
อยู่ดีๆหมิงอี๋หานหัวเราะออกมาแล้ว “เป็นยังไงล่ะ? เสี่ยวเฟิงแกเขินอายแล้วเหรอ? ไม่ต้องเขินอาย แต่ก่อนบอกว่าให้ฉันแต่งงานกับแกไม่ใช่เหรอ? ยังไงแกก็ยังไม่มีคู่รักเช่นกัน ไม่งั้นพวกเราทั้งสองคนก็ใช้แก้ขัดไปก่อนเถอะ?”
เนี่ยเฟิงยักคิ้วหนึ่งที “พี่สี่ คุณกำลังหยอกเล่นกับผมอยู่เหรอ?”
“ก็คือหยอกเล่นกับแกอยู่ แกจะโมโหไหม?” บางทีหมิงอี๋หานเหมือนดั่งปีศาจเป็นพิเศษ แฝงไว้ด้วยเสน่ห์มอมเมาใจคนอย่างหนึ่ง
“ผมจะไม่โมโหพี่สี่” เนี่ยเฟิงส่ายหัวต่อๆกัน “แต่คุณดูผมคนนี้ เยาว์วัยอยู่กำลังรุนแรง, จิตใจฮึกเหิมนะ คุณก็ไม่กลัวจะทำให้ผมอารมณ์ขึ้นเลยเหรอ?”
เนี่ยเฟิงซักถามอย่างเสียงเบาๆ
“ไอ้หนุ่ม แกยังจะเรียนรู้การหยอกล้อกับพี่แล้วเหรอ?” หมิงอี๋หานสวมใส่เสื้อกับกางเกงอย่างว่องไว “พอเถอะ อย่าพูดเรื่อยเปื่อยเลย จัดการเรื่องสำคัญดีกว่า”
“งั้นคำพูดที่พี่สี่พูดเมื่อกี้จริงหรือเปล่า? คุณจะแต่งงานกับผมเหรอ?”
“เกรงว่าฉันจะแต่งกับแก แกก็จะไม่เอาเช่นกันล่ะ?”
หมิงอี๋หานใช้นิ้วจิ้มไหล่ของเนี่ยเฟิงจิ้มแล้วจิ้มอีก ทั้งสองคนสบตากันยิ้มหนึ่งที
พวกเขาทั้งสองไม่ได้หยุดอยู่ต่อที่สระว่ายน้ำที่นี่ “ห้องบังคับการเรืออยู่ชั้นสอง ตอนนี้พวกเราต้องลงไป”
ปัจจุบันนี้พวกเขาอยู่ชั้นที่สิบสอง เพราะว่าแหล่งจ่ายไฟพังไปแล้ว ทั้งเจอกับระเบิดอีก ลิฟต์ใช้ไม่ได้มานานแล้ว พวกเขาได้เพียงแต่ลงไปตามบันได
“แกระมัดระวังหน่อย…….”
หมิงอี๋หานมีความกังวลเล็กน้อยจ้องมองไปยังเนี่ยเฟิง
“ไม่ต้องกังวล” เนี่ยเฟิงส่ายหัวต่อๆกัน ไม่มีความคิดที่จะซ่อนไว้หลบไว้เลย เขาพาหมิงอี๋หานเดินลงไปอย่างองอาจ
เพียงเจอกับคนทดลองยางั้นก็จัดการไปเลย ไหลลื่นไม่มีอุปสรรคตลอดทาง
คนทดลองยาเหล่านี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเนี่ยเฟิง
ตอนที่เนี่ยเฟิงมาถึงชั้นที่สอง กล่าวเตือนกับเฟยหลงคำหนึ่งว่า “พวกคุณทั้งสองระวังความปลอดภัยด้วย พวกเขาล้วนเป็นคนที่ฉีดยามห้ามใช้แล้ว ด้านคุณสมบัติทางกายแข็งแกร่งมากกว่าคนทั่วไปเยอะเลย ในเวลานี้พอดีพวกคุณสามารถฉวยโอกาสฝึกฝนๆสักหน่อย”
เฟยหลงกับหม่างซือทั้งสองคนไม่ได้โจมตีจนสะใจอย่างเต็มที่ขนาดนั้นมานานแล้ว ตอนนี้กระทั่งโยนอาวุธทิ้งไปแล้วพวกเขา ตะลุมบอนโดยตรง
เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่ยิ่งแข็งแกร่งมากกว่าพวกเขาเหล่านี้ พวกเขาทั้งสองไม่ได้หดถอย เพราะว่าเรือสำราญลำนี้ปัจจุบันนี้ยังขับต่อไปยังข้างหน้าอยู่ ก่อนที่พวกเขาจะกลับไปต้องจัดการคนเหล่านี้ที่อยู่บนเรือสำราญให้หมด
“ถ้าหากพบเจอกับคนที่ไม่กลัวเจ็บปวดมีความเร็วที่เร็วมาก พวกคุณจะสู้ไม่ไหว ไม่ต้องฝืนสู้”
ตอนนี้เนี่ยเฟิงกับหมิงอี๋หานทั้งสองคนยังไม่ได้พบเจอกับคนทดลองยาระดับสูง แต่ไม่ได้แสดงว่าเรือสำราญที่โออ่าหรูหราลำนี้ไม่มีคนแบบนี้
หลังจากเนี่ยเฟิงสั่งการเสร็จเดินเข้าไปในห้องบังคับการเรือเลย
“แกรู้ว่าจะขับยังไงเหรอ?”
เครื่องมือที่อยู่ข้างบนนี้ก็สลับซับซ้อนมากๆ เนื่องด้วยสาเหตุที่ไฟดับแผงควบคุมมืดมิดไร้แสง แต่ว่าเรือสำราญยังขับต่อไปข้างหน้าอยู่ ไม่ใช่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเลย แต่อาศัยน้ำมันปิโตรเลียม
“อย่าดูถูกน้องชายของคุณล่ะ” เนี่ยเฟิงแสยะปากยิ้มหนึ่งที เห็นเพียงนิ้วของเขากดอยู่อย่างรวดเร็ว ผ่านไปไม่นานแผงควบคุมที่ดับไปนั้น ถึงขนาดสว่างขึ้นมาอีกแล้ว
“ถึงแม้ว่าไฟขาดไปแล้ว แต่ว่าในห้องกัปตันเรือมีกล่องไฟฟ้าสำรองอยู่”
ไม่นานเนี่ยเฟิงก็หาการนำทางอัตโนมัติเจอแล้ว แน่ใจถึงตำแหน่งที่อยู่ในปัจจุบันนี้ของพวกเขา จากนั้นเขาหันหัวเรือย้อนกลับทันที
หมิงอี๋หานรู้สึกถึงตัวเรือค่อยๆโยกไปโยกมาอยู่ เธอจ้องมองคลื่นสะท้อนแสงแวววาวที่อยู่บนพื้นทะเลภายใต้แสงจันทร์ เรือสำราญเริ่มค่อยๆเลี้ยวไป
เรือสำราญขนาดยักษ์อย่างนี้จะเลี้ยวโค้งทันทีไม่ได้ มิฉะนั้นเป็นไปได้มากที่อาจจจะเกิดการพลิกคว่ำ
“นึกไม่ถึงแม้แต่เรือสำราญแกถึงขนาดล้วนขับเป็น” หมิงอี๋หานอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างทอดถอนใจ
“อย่าพูดถึงเรือสำราญเลย แม้แต่เรือรบผมก็เคยขับมาแล้ว”
พลังความสามารถของเนี่ยเฟิงไม่มีเพียงแค่นี้นะ เป็นนักฆ่าที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง ไม่ว่าอะไรเขาล้วนรู้
“ผมตั้งเส้นทางอัตโนมัติไว้แล้วตามความเร็วอย่างนี้ เช้ามืดวันนี้พวกเราก็น่าจะถึงท่าเรือได้แล้ว”
เนี่ยเฟิงค่อยๆถอนหายใจออกหนึ่งที “พี่สี่ คุณน่าจะเหนื่อยแล้วเช่นกัน คุณรีบนั่งลงพักผ่อนสักหน่อยเถอะ?”
หมิงอี๋หานมีความเหนื่อยเล็กน้อยแล้วจริงๆ เพราะว่าเมื่อกี้เพื่อที่จะหลบการไล่จับของคนกลุ่มนั้น เธอวิ่งขึ้นไปหลายชั้น หลบไปหลายห้อง ยังคงหลบไม่พ้นไอ้คนเหล่านั้น
หมิงอี๋หานเพิ่งนั่งลงก็เห็นเนี่ยเฟิงเดินไปยังห้องข้างใน เธอมีความสงสัยงงงวยเล็กน้อยถามว่า “เสี่ยวเฟิงแกไปทำอะไรตรงนั้นล่ะ?”
“อยู่บนเรือสำราญที่โออ่าหรูหรานี้เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัย ผมอยากจะตรวจดูว่าที่นี่มีเครื่องดับเพลิงหรือไม่สักหน่อย ผู้ที่ลี้ภัยเหล่านั้นทำการระเบิดเรือสำราญแล้ว แม้ว่าไม่ได้ทำให้สิ่งที่ใหญ่มหึมานี้เงียบไป แต่ว่าตามแนวโน้มอย่างนี้ เป็นไปได้มากว่าพวกเราอาจจะยังไม่ทันถึงฝั่งเรือลำนี้ก็พังไปแล้ว ดังนั้นผมต้องไปดับไฟ”
พวกตระกูลสูงศักดิ์ที่ได้รับการตื่นตระหนกตกใจอย่างมากแล้วเหล่านั้นฝากความหวังไว้ไม่ได้แล้ว ตอนนี้พวกเขาสามารถอยู่รอดมาได้ล้วนต้องเผาเครื่องหอมถวายพระพุทธรูปแล้ว
หมิงอี๋หานรู้แจ้งกระจ่างในฉับพลันพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “ที่แท้เป็นเช่นนี้ ดูสมองของฉันนี้ ทันใดนั้นก็หมุนไม่ทันเช่นกัน”
เนี่ยเฟิงทั้งหาเครื่องดับเพลิง ทั้งพูดกับเฟยหลงว่า “พวกคุณอย่าขี้เล่นอีกเลย ผมทำการเปลี่ยนแปลงเส้นทางของเรือสำราญแล้ว พวกคุณส่งคนคนหนึ่งมาเฝ้าห้องกัปตันเรือก่อน อีกคนหนึ่งตามพวกเราไปดับไฟด้วย”
เฟยหลงกับหม่างซือทั้งสองคนยังไม่เคยเจอกับบทบาทที่ค่อนข้างเก่งกล้า ถึงแม้ว่าความแข็งแรงทางร่างกายของคนเหล่านั้นแข็งแกร่งมากกว่าพวกเขา แต่การเคลื่อนไหวยังมีความงุ่มง่ามเล็กน้อย ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา
พวกเขาก็พอดีโจมตีจนมีการขาดความตื่นเต้นเล็กน้อยเช่นกัน หลังจากได้รับคำสั่งของเนี่ยเฟิง พวกเขาก็เช่นดั่งลมพัด ไม่นานก็มาถึงข้างหน้าเนี่ยเฟิงแล้ว
“ความเร็วของพวกคุณทั้งสองคนเร็วจริงๆนะ”
หมิงอี๋หานเห็นเฟยหลงกับหม่างซือมาถึงหน้าประตู อดไม่ได้ที่จะอึ้งชะงัก พวกเขาทั้งสองคนเมื่อกี้อยู่ที่ชั้นที่สิบกว่านะ ตอนนี้ถึงขนาดมาถึงชั้นที่สองแล้ว ความเร็วนี้พอใช้ได้นะ
ได้รับการชื่นชมจากหมอคนสวย พวกเขาทั้งสองคนล้วนปรากฏสีหน้าที่ภาคภูมิใจในตัวเองออกมา “พวกเรามาจากกองกำลังพิเศษนะ ถ้าไม่มีความเร็วแค่นี้พูดออกไปจะขายหน้าคนนะ”
เนี่ยเฟิงตบไหล่ของเฟยหลงตบแล้วตบอีก “งั้นคุณก็เฝ้าอยู่นี่ต่อเถอะ อย่าให้คนมาทำลายห้องกัปตันเรือ มีสถานการณ์อะไรร้องเรียกทันที พวกเราจะเริ่มดับไฟจากชั้นที่สาม”