พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 465 ฝีมือก็แค่นี้เหรอ
“คุณช่างโอหังนะ”
ฝ่ายตรงข้ามทั้งพูดอยู่ ทั้งทะลุผ่านเปลวไฟ เดินมายังเนี่ยเฟิง
รูปร่างของเขาสูงใหญ่บึกบึน,ใหญ่ล่ำแข็งแรงมากๆ อีกทั้งล้วนสักลายทั้งตัว ดูแล้วไม่ค่อยเหมือนคนประเภทเดียวกันกับพวกเขา
โดยจิตใต้สำนึกหมิงอี๋หานจับชายเสื้อเนี่ยเฟิงอย่างแน่น ประเด็นหลักคือผู้ชายที่อยู่ต่อหน้าคนนี้ดูแล้วจัดการยากมาก
แม้ว่ากังฟูหมิงอี๋หานไม่ได้แข็งแกร่งมาก แต่ว่าเธอดูคนแม่นมากนะ
เพราะเธอเรียนด้านการแพทย์ กล้ามเนื้อในร่างกายคนจะมีแรงกำลังหรือไม่ กับมีโครงร่างที่ว่างเปล่าอะไรหรือไม่ พอเห็นก็ดูออก
เห็นได้ชัดมาก ชายคนนี้ที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาย่อมไม่ใช่แค่ภายนอกดูดีไร้ความสามารถแน่นอน
เนี่ยเฟิงหัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง “ผมโอหังอย่างนี้มาโดยตลอดอยู่แล้ว”
เขาได้สังเกตถึงว่าชายสักลายคนนี้น่าจะเป็นคนทดลองยาระดับสูงมาก เขาน่าจะมั่นใจในความสามารถของตนเองอย่างมากนะ
ถึงแม้ว่าทะลุกำแพงไฟ เขาก็ไม่ร้องสักนิด นี่ก็แสดงได้ว่าเขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดแล้ว
เนี่ยเฟิงกวักมือแล้วกวักมืออีกกับเขา “สู้กันอยู่ที่นี่ไม่ค่อยดี ถ้าไม่ลงมาเถอะ?”
“เหอะๆ! ไม่ใช่คุณพูดแล้วนี่ก็จะได้นะ!”
เห็นเพียงชายสักลายงัดราวบันไดออกอย่างดุเดือด ราวของบันไดนี้ทำมาจากโลหะผสมกับไม้มะฮอกกานีอีกนะ ไม้มะฮอกกานีนั่นถูกเปลวไฟเผาจนแดงระเรื่อแล้ว
เนี่ยเฟิงได้ยินผิวหนังของชายสักลายสัมผัสกับราวบันไดที่ถูกเผาจนแดงระเรื่อนั้นชั่วพริบตาเดียวเกิดเสียงเผาไหม้ “ผลัวะ ผลัวะ” ออกมา
“ในเมื่อคุณจะรีบไปตาย งั้นผมก็ให้คุณสมปรารถนาเถอะ”
เนี่ยเฟิงยักไหล่แล้วยักไหล่อีก ในใจคิดว่าคนเหล่านี้ช่างสามารถย่ำยีร่างกายของตนเองจริงๆ
แม้ว่าไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดแล้ว แต่ก็ไม่ได้แสดงว่าร่างกายได้รับบาดเจ็บจะไม่ต้องฟื้นฟูและทำให้บาดแผลหายสนิทล่ะ
แต่ว่าสิ่งเหล่านี้เกี่ยวอะไรกับเขาอีกล่ะ? ถึงยังไงคนที่ได้รับบาดเจ็บก็ไม่ใช่เขา
ชายสักลายโมโหร้องตะโกนเสียงหนึ่ง เห็นเพียงเขาฟาดราวบันไดโลหะผสมที่อยู่ในมือของเขานั้นลงไปยังเนี่ยเฟิงอย่างโหดร้าย
เนี่ยเฟิงหมุนตัวหนึ่งที กอดหมิงอี๋หานที่อยู่ข้างหลังตนเองไว้ทันที หลบหนีอย่างรวดเร็ว เขาผลักหมิงอี๋หานไปอยู่ทางโค้งของบันได “พี่สี่ คุณรออยู่ที่นี่”
ในใจหมิงอี๋หานแม้ว่ากังวล แต่เธอยังเลือกที่จะเชื่อเนี่ยเฟิง เธอพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “แกระมัดระวังหน่อย”
ชายสักลายฟาดหนึ่งทีไม่โดน ราวบันไดโลหะผสมฟาดอยู่บนบันไดที่ทำด้วยไม้โดยตรง
เดิมทีที่นี่ก็ไฟไหม้อยู่แล้ว ทั้งถูกชายสักลายฟาดจนแตกละเอียดย่อยยับ บันไดที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาหักเป็นสองท่อนโดยตรง
เนี่ยเฟิงจ้องมอง อดไม่ไหวที่จะผิวปากหนึ่งที่ “ช่างมีแรงกำลังแข็งแกร่งมากนะ”
ชายสักลายถูกคำพูดเหล่านี้ของเนี่ยเฟิงสะเทือนถึงอารมณ์แล้ว “ตอนนี้คุณแทบจะตายแล้วก็ยังปากดีเถอะ! อีกสักครู่จะให้คุณเห็นดีนะ!”
เห็นเพียงชายสักลายทำการจู่โจมอย่างบ้าคลั่ง! กิริยาท่าทางอยู่ในมือเขายิ่งรวดเร็วรุนแรงขึ้นมา ความเร็วก็พุ่งขึ้นมาแท้ๆเลย!
เนี่ยเฟิงก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน การเคลื่อนไหวของเขาคล่องแคล่วว่องไวมากๆ อ้อมผ่านการโจมตีของชายสักลายโดยตรง ต่อจากนี้เนี่ยเฟิงยกเครื่องดับเพลิงที่อยู่ในมือขึ้น ผงแห้งมากมายปรากฏออกมาฉับพลันในทันที! แม้ว่าชายสักลายไม่กลัวเจ็บปวดคุณสมบัติทางกายกับความแข็งแกร่งมากกว่าคนปกติไม่รู้กี่เท่า แต่ก็ไม่ได้แสดงว่าเขาจะได้เรียนรู้วิชาระฆังทองคุ้มกายและวิชาภูษาเหล็กแล้ว
เขาถูกผงแห้งทำให้สายตาพร่ามัว เนี่ยเฟิงสงบมั่นคงใช้เครื่องดับเพลิงฟาดไปยังศีรษะของเขาโดยตรง!
ร่างกายที่แข็งแรงกำยำของชายสักลายถึงขนาดถูกกดขี่ลงไป เสียงแตกร้าวที่น่ากลัวเกิดขึ้นทันที เขาตกลงจากบันได ร่างกายตกลงไปอย่างรวดเร็ว!
เนี่ยเฟิงกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยเขาไปเลย เขาไล่ตามลงไปซ้ำอีกที เครื่องดับเพลิงที่อยู่ในมือเขาบุ๋มลงไปแล้ว แค่คิดก็รู้ว่าเขาใช้แรงกำลังแรงมากขนาดไหน
ทั้งๆที่ชายสักลายไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดแล้ว แต่ในเวลานี้เขากลับรู้สึกถึงการเวียนหัวตาลายขึ้นมา ล้วนไม่รู้เวลามากมายขนาดไหนที่ไม่เคยมีความรู้สึกอย่างนี้มาก่อนแล้ว มหัศจรรย์แท้ๆเลย!
เขาเลอะๆเลือนๆคิดอยากจะคลานขึ้นมาจากพื้น กลับถูกเนี่ยเฟิงกดขี่อยู่กับพื้นอีก
“ผมยอมรับว่าร่างกายของคนที่ใช้ยามห้ามใช้อย่างพวกคุณจะแข็งแรงกำยำยิ่งกว่าคนธรรมดาบ้าง แต่ไม่โชคดีมาก คนที่คุณพบเจอเป็นผม งั้นก็หมายความว่าเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะมีชีวิตรอดออกจากที่นี่”
ตอนที่เนี่ยเฟิงพูดคำพูดเหล่านี้ กระทั่งน้ำเสียงก็ไม่มีการขึ้นลงใดๆ เขาทำให้แขนทั้งสองข้างของชายสักลายหักเลย ทั้งยกเท้าเตะเขาออกไปอีก
เสียง ปุ๊กปั๊กๆ ดังขึ้นพักหนึ่ง ชายสักลายชนอยู่ข้างเรือสำราญ เกิดเสียงดังมากขึ้นมา
เนี่ยเฟิงจ้องมองเขาอยู่อย่างรังเกียจมากๆ “แสวงหาเพื่อที่จะได้ความแข็งแกร่งขึ้นมา แม้แต่ร่างกายของตนเองล้วนละทิ้งไป คุณช่างทำให้ผมรู้สึกคลื่นไส้จริงๆ”
ชายสักลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว แต่เขาไม่มีโอกาสโต้ตอบคืนเลยสักนิด ถูกเนี่ยเฟิงโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว
ร่างกายเขาแข็งแกร่งขนาดนั้น ตามหลักการมากล่าวแล้วไม่สมควรนะ เนี่ยเฟิงคนนี้ดูแล้วเพียงแค่เป็นไอ้หนุ่มที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนหนึ่ง แรงกำลังมาจากที่ไหนล่ะ?
เขาก็เป็นคนที่ฉีดยาเทพแล้วเช่นกันเชียวเหรอ?
ชายสักลายกระอักเลือดออกมาอย่างลำบาก
และอยู่ในเวลานี้ หม่างซือที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของระเบียงทางเดินกับไอ้คนที่ต่อสู้กับเขาคนนั้นสายตาล้วนตื่นกลัวจ้องมองฉากนี้ที่อยู่ต่อหน้า
คนที่หม่างซือเห็นคือบุตรผู้ประเสริฐที่สวมใส่เสื้อเชิ้ตขาวกางเกงสแล็ครองเท้าหนังคู่หนึ่ง เส้นผมหวีจนละเอียดรอบคอบ——นอกเหนือจากใบหน้าใบหนึ่งที่แยกแยะหน้าตาไม่ได้ ถึงขนาดถือเครื่องดับเพลิงอันนั้นฟาดจนชายใหญ่ล่ำที่ใหญ่กว่าเขาหนึ่งเท่าตัวคนหนึ่งจนไม่มีแรงกำลังรับมือเลยสักนิด
นี่ยังเป็นคนเหรอ?
คนที่มีความรู้สึกเช่นเดียวกันแบบนี้คือคนชกต่อยกันกับหม่างซือ เขาก็นึกไม่ถึงเช่นกัน ลูกพี่ที่แข็งแกร่งขนาดนั้นถึงขนาดถูกฟาดจนมีลักษณะอย่างนี้……
หลังจากเนี่ยเฟิงสังเกตถึงสายตาของฝ่ายตรงข้ามแล้ว มองตามทิศทางของสายตาไป หลังจากเขาเห็นหม่างซือ พูดอย่างเย็นชาว่า “จำไว้ทำอะไรเรียบง่ายหน่อย อย่าอืดอาดชักช้าล่ะ”
เนี่ยเฟิงพูดคำพูดนี้จบ เตะชายใหญ่ล่ำลงจากเรือทันที
หม่างซือกลืนน้ำลายหนึ่งทีอย่างลำบาก “ผม ผมเข้าใจแล้ว!”
และคนคนนั้นที่อยู่ข้างกายหม่างซือได้เห็นฉากนี้ ตกใจจนหน้าซีดไปเลย เขารายงานทันทีว่า “ในชั้นที่ห้านี้มีไอ้คนคนหนึ่ง แข็งแกร่งมากๆ! ลูกพี่กลุ่มBถูกฆ่าตายแล้ว! ซ้ำอีกรอบหนึ่ง ลูกพี่กลุ่มBถูกฆ่าตายแล้ว!”
“คู่ต่อสู้ของคุณอยู่ที่นี่!”
หม่างซือไม่ได้ให้คนรายงานจบ ก็โจมตีเขาไปแล้ว ความเร็วของหม่างซือเร็วขึ้นอีก
หมิงอี๋หานกำกำปั้น กำแล้วกำอีก เธอเห็นฉากนี้ในใจรู้แล้วว่า “เสี่ยวเฟิง ฉันตามแกไปเพียงจะเป็นภาระแกเท่านั้น ไม่งั้นแกให้ฉันกลับไปที่ห้องกัปตันเรือเถอะ?”
เนี่ยเฟิงขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก “พี่สี่ คุณไม่ได้เป็นภาระผม”
“แต่ว่าแกต้องคุ้มครองฉัน ก็จะปัดแข้งปัดขานะ…….พลังการต่อสู้ของแกแข็งแกร่งพอ เมื่อกี้คนเหล่านั้นที่ยังอยู่ข้างบนตอนนี้ลงมาน่าจะเพื่อทำลายห้องกัปตันเรือ พวกเขาไม่มีความคิดที่จะให้พวกเรากลับไป”
หมิงอี๋หานเข้าใจถึงความคิดของพวกเขาแล้ว
แท้ที่จริงในใจเนี่ยเฟิงก็ชัดเจนมากเช่นกัน เพียงแค่ให้เขาทิ้งหมิงอี๋หานไว้……
“ฉันกับเฟยหลงยังมีหม่างซืออยู่ที่นี่ ยอดฝีมือที่ร้ายกาจของพวกเขาน่าจะไม่กี่คน ดังคำกล่าวที่ว่าจับโจรต้องจับหัวหน้าเสียก่อน”
เนี่ยเฟิงเห็นสายตาที่เด็ดเดี่ยวขนาดนั้นของหมิงอี๋หาน ก็รู้ว่าตนเองควรทำอะไรเช่นกัน
สำคัญที่สุดก็คือ ไอ้คนกลุ่มนั้นยั่วให้เขาโกรธแล้ว
“ได้”
เนี่ยเฟิงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก เขาเดินสองสามเก้าเข้าไป จัดการไอ้คนที่ยังรับมือกับหม่างซืออยู่คนนั้นโดยตรง หม่างซือเห็นฉากนี้อดไม่ได้ที่จะพูดไม่ออก พอเนี่ยเฟิงลงมือ ก็รู้กันแล้ว นี่ก็ร้ายกาจเกินไปแล้วมั้ง?
“คุ้มครองเธอให้ดีๆ ถ้าหากว่าเธอมีอันเป็นไปอะไร พวกคุณก็จบเช่นกัน”