พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 467 เรือสำราญจมลง
โชคดีที่มีชั้นเรือชูชีพชั้นนี้ แม้ว่าจะระเบิดแล้ว แต่ว่าก็มีเรือไม่กี่ลำที่เสียหาย
เนี่ยเฟิงปล่อยเรือชูชีพออกไป จากนั้นทำสไลเดอร์กู้ชีพจากชั้นสูงให้กับพวกเขา ถึงแม้ว่าบันไดถูกทำลายแล้ว แต่ว่าพวกเขาสามารถไหลลงจากสไลเดอร์กู้ชีพ
คนเหล่านี้เห็นแล้วว่าในที่สุดก็มีทางออกแล้ว แย่งกันเฮโลไหลลงจากสไลเดอร์กู้ชีพ บางชั้นอยู่ค่อนข้างสูง พวกเขาล้วนมีความหวาดกลัวเล็กน้อย แต่ว่าถ้าไม่ลงไปก็มีเพียงแค่ทางตายทางเดียว
หลังจากผ่านการพิจารณาสักพัก ถึงแม้ว่าพวกเขาจะหวาดกลัวขนาดไหนก็ไม่มีทางอื่นเช่นกัน ถึงยังไงชีวิตน้อยๆก็สำคัญกว่า
อยู่ในเรือสำราญที่โออ่าหรูหราขนาดใหญ่ย่อมมีเรือชูชีพและชุดปฐมพยาบาลทุกอย่างอยู่แล้ว
เนี่ยเฟิงก็ไม่ได้สนใจพวกเขามากขนาดนั้นเช่นกัน แค่สร้างทางออกทางหนึ่งให้กับพวกเขาเท่านั้น ต่อจากนั้นเขาไปหาหมิงอี๋หานที่ห้องกัปตันเรือเลย
“พี่สี่ พวกเรารีบออกจากที่นี่เถอะ เรือลำนี้ไม่ปลอดภัยแล้ว……”
“ใต้ก้นเรือน่าจะถูกระเบิดออกแล้ว พวกเรารีบออกไปเถอะ!”
เสียงเนี่ยเฟิงพูดเพิ่งจบลง เสียงระเบิดดังขึ้นอีกแล้ว ในเวลานี้พวกเขาสังเกตถึงว่าตัวเรือกำลังเอียงไปอยู่
หมิงอี๋หานเห็นด้วยอย่างมากพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก พวกเขาทั้งสี่นั่งเรือชูชีพลำหนึ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
เรือสำราญที่โออ่าหรูหราลำนี้หนักอึ้งมากๆ แม้ว่าจะจมลงไปหมดยังต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่คนทั้งหลายถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อแล้ว
พวกเขากังวลว่าชีวิตน้อยๆจะไม่รอด แย่งกันที่จะคลานขึ้นเรือชูชีพ
เนี่ยเฟิงจ้องมองคนเหล่านั้น เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่รอดลงมือชกต๋อยกันอย่างไม่ลังเลจากที่ไกล รูปร่างลักษณะแบบนั้นช่างตลกขบขันจริงๆ
“รู้ตั้งแต่แรกผมควรที่จะให้พวกเขาอยู่ที่นั่น”
ถ้าหากเนี่ยเฟิงไม่ได้ยื่นมือช่วยเหลือล่ะก็ งั้นคนเหล่านี้ล้วนต้องจบเห่ไปหมด
หมิงอี๋หานจ้องมองท่าทางของคนเหล่านั้น อดไม่ไหวที่จะยิ้มแล้วยิ้มอีก “คนแบบนี้อยู่บนโลกนี้มีมากมาย ไม่จำเป็นต้องคิดเล็กคิดน้อยกับพวกเขา”
เธอก็เคยเห็นอยู่ในโรงพยาบาลมามากมายเช่นกัน
อยู่ในความมืดที่หนักอึ้งไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ตอนที่แสงอาทิตย์แรกอรุณในยามฟ้าสางสว่างขึ้น เรือสำราญจมลงไปหมดแล้ว มีเพียงเศษซากที่เหลือเศษเล็กเศษน้อยและคนรอดตายหลังจากภัยพิบัติ ทุกคนที่นั่งอยู่บนเรือชูชีพใช้สายตาที่นึกกลัวในภายหลังจ้องมองทั้งหมดนี้อยู่
ตอนที่ทีมกู้ภัยมาถึง พวกเขาเนี่ยเฟิงหลายคนก็อำพรางอยู่ในกองทัพใหญ่
และคดีร้ายแรงในทะเลครั้งนี้กลายเป็นข้อมูลการพูดคุยใหม่อีกครั้ง
แต่เทียบกับคดีร้ายแรงในทะเลครั้งก่อนมากล่าวแล้ว คดีร้ายแรงครั้งนี้ไม่ได้น่าเวทนากว่าครั้งก่อน ครั้งก่อนคนแทบจะทั้งหมดล้วนตายหมดแล้ว ครั้งนี้อย่างน้อยยังช่วยกลับมาได้เป็นส่วนใหญ่
พวกผู้รอดชีวิตบรรยาย มีคนบ้ากลุ่มหนึ่งมาตอนที่พวกเขาสร้างปาร์ตี้สนุกสนานอยู่ นี่เป็นการสังหารในครั้งหนึ่งที่วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว พวกเขาก็เช่นดั่งผู้ก่อการร้าย เผ่าฆ่าแย่งชิง เพียงแค่เป็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่ หายใจหอบหนึ่งทีก็จะถูกพวกเขาฆ่าตาย
สุดท้ายเป็นแสงไฟทั่วท้องฟ้าการระเบิดที่น่ากลัว……
“ในเวลานั้นผมคิดว่าตายแน่ไม่ต้องสงสัยอีกเลย แต่นึกไม่ถึงว่ามีวีรบุรุษคนหนึ่งลงมาจากฟ้า ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่เขาพูดเพียงแค่สองคำ ‘รอก่อน’ ในเวลานั้นผมหมดหนทางจนปัญญาไม่รู้จะทำอย่างไรดีไปแล้ว แต่ผมไม่กล้าลงไปตามเชือกที่เขาลงมาเส้นนั้นจริงๆ เพียงแค่นึกไม่ถึงเขากลับมาอีกแล้ว จัดวางความช่วยเหลือให้กับพวกเรา! พวกเราสามารถขึ้นเรือชูชีพอย่างราบรื่นได้ล้วนอาศัยบุญวาสนาของวีรบุรุษท่านนี้!”
ตอนที่เนี่ยเฟิงเห็นการรายงานข่าวเหล่านี้ กำลังอยู่ในฐานลับ
บนตัวเขายังสวมใส่เสื้อกาวน์อยู่ ชิปส่งไปวิเคราะห์มานานแล้ว
“เห็นคนเหล่านี้ชื่นชมแก ในใจแกจะสบายหน่อยไหม?”
หมิงอี๋หานชะโงกหัวจ้องมองคอมพิวเตอร์หนึ่งที ซักถามแบบนี้
“พวกเขาชื่นชมผมเกี่ยวอะไรกับผม นั่นคือเรื่องของพวกเขา พูดได้อีกว่า ถ้าหากพวกเขารู้ว่าคนที่ช่วยเหลือพวกเขาเป็นลูกหลานของตระกูลเนี่ย คาดว่าก็จะไม่พูดคำพูดแบบนี้แล้ว”
เนี่ยเฟิงไม่รู้สึกว่าพวกเขาอยากจะกล่าวคำขอบคุณอย่างสัตย์ซื่อจริงใจกับตนเองนะ
“พวกคุณล้วนอยู่ที่นี่ล่ะ งั้นดีมากเลย รีบมาดูสิ เนื้อหาในชิปทำการวิเคราะห์แล้ว อีกทั้งส่วนประกอบทั้งหมดล้วนตีตารางเสร็จแล้ว”
หยูจิงหงทั้งพูดทั้งยื่นข้อมูลที่อยู่ในมือออกไป หลังจากพวกเขาเนี่ยเฟิงตรวจดูหนึ่งรอบ ขมวดคิ้วขึ้นมา
“ดูแล้วตารางส่วนประกอบนี้ไม่ได้เป็นตารางที่สมบูรณ์”
“แต่ว่าคิดดูแล้วก็เป็นเรื่องปกติมาก เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเอาไข่ทั้งหมดล้วนวางไว้ในตะกร้าเดียวกัน”
เนี่ยเฟิงนึกถึงสาเหตุที่เกิดคดีร้ายแรงในครั้งนั้นแล้วล่ะ เป็นไปได้มากคือมือดำที่อยู่เบื้องหลังอยากจะเก็บชิปกลับไป ดังนั้นจึงก่อเรื่องขึ้น
“แต่ว่าเรามีชิปบางส่วนที่สามารถค้นคว้าวิจัยยาถอนพิษรอบแรกออกมาได้แล้ว น่าจะสามารถคลี่คลายอาการของพวกเขาลงได้”
หมิงอี๋หานทั้งพูดอยู่ทั้งหยิบกระดาษกับปากกามาจดยาที่ต้องใช้ไว้
“เรื่องนี้ก่อขึ้นช่างรุนแรงมากนะ ตอนนี้คนที่รู้เรื่องนี้จิตใจน่าจะล้วนหวาดผวามากแล้ว และเกรงว่าพวกเขาก็ไม่ค่อยกล้าที่จะมีการเคลื่อนไหวใดๆ แต่ว่าพวกเราฝั่งนี้จะทำการกดดัน เป็นไปไม่ได้ที่่พวกเขาจะจ้องมองเส้นทางทรัพย์สินถูกจัดการไปอย่างนี้”
จับได้คนหนึ่ง แต่ว่าภายใต้นี้ยังมีคนมากมายนะ พวกเขากำลังแอบจ้องมองอยู่
หยูจิงหงถอนหายใจหนึ่งที “ถ้าหากจะจับคนชั่วเหล่านี้ให้ได้ เป็นอย่างที่คิดไว้ภารกิจหนักอึ้งจริงๆ แต่ว่าครั้งนี้โชคดีมีพวกคุณอยู่มิฉะนั้นพวกเราเป็นไปไม่ได้ที่อาจจะได้รับข้อมูลที่ล้ำค่าขนาดนี้”
หยูจิงหงพูดจบคำพูดเหล่านี้เดินเข้าไปตบไหล่ของเนี่ยเฟิงตบแล้วตบอีก “เสี่ยวเฟิง แกทำได้เยี่ยมมาก!”
เนี่ยเฟิงเอียงอายยิ้มแล้วยิ้มอีก “ก็ไม่มีอะไรเช่นกัน เพียงแค่ทำเรื่องที่ผมควรทำเท่านั้น แต่ว่าต่อจากนี้การค้นคว้าวิจัยยาถอนพิษอาจจะยังต้องใช้เวลาหน่อย”
“ไม่เป็นไร เพียงแค่สามารถศึกษาค้นคว้าผลิตออกมาได้ งั้นก็เป็นสิริมงคลทุกอย่างแล้ว”
หยูจิงหงรู้สึกรบกวนเนี่ยเฟิงอย่างมาก “เสี่ยวเฟิง ฉันให้ตาแก่ไป๋ยื่นคำร้องให้รางวัลแกแล้ว แกอย่าบอกว่าไม่เอานะ ไม่ว่าเป็นยังไง พวกเราล้วนต้องให้เขาเสียเงินเยอะๆจึงจะได้!”
เนี่ยเฟิงแสยะปากยิ้มหนึ่งที ในใจคิดอยู่ว่าตาแก่ไป๋ก็ไม่ถือสาสิ่งเหล่านี้เช่นกัน เขายังอยากให้ตัวผมเองขอสิ่งของกับเขามากกว่านี้หน่อยจะตายไปล่ะ อย่างนี้ทั้งสองฝ่ายก็สามารถสร้างความสัมพันธ์ในการร่วมงานที่มั่นคงกว่าแล้ว
“ใช่แล้ว เสี่ยวเฟิง หลังจากสิ่งที่อยู่ในมือแกยุ่งเสร็จแล้ว ก็เข้าไปฝั่งโน้นดูหน่อยเถอะ ตาแก่ไป๋บอกว่าอยากจะเจอแก”
เนี่ยเฟิงวางเอกสารที่อยู่ในมือลง พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “เขาน่าจะมีเรื่องอะไรล่ะ ผมเข้าไปสักหน่อยเดี๋ยวนี้”
เนี่ยเฟิงรู้ว่าตาเฒ่าคนนั้นมีอะไรจะพูดกับเขา คาดว่าตอนนี้ร้อนใจแล้ว
หยูจิงหงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “แกน่าจะจำทางไปได้ล่ะ ก็คือออฟฟิศห้องนั้นที่ก่อนหน้านั้นแกเคยไป ตอนนี้เขาก็รอแกอยู่ที่นั่น”
“สำหรับที่นี่ผมถือว่ายังค่อนข้างคุ้นเคย ไม่ต้องกังวล”
เนี่ยเฟิงโบกมือแล้วโบกมืออีก จากนั้นค่อยๆเดินไป ออกไปไม่นาน เขาก็มาถึงออฟฟิศของตาแก่ไป๋แล้ว
คุณท่านไป๋รอคอยด้วยความเคารพอยู่ที่นี่มาหลายชั่วโมงแล้ว หลังจากเห็นเนี่ยเฟิงมา บนใบหน้าเขาปรากฏรอยยิ้มออกมาหนึ่งที
“หน่วงถ่วงพวกคุณดำเนินงานหรือไม่ ถ้าหากคุณไม่ว่างล่ะก็ ช้าหน่อยค่อยเข้ามาอีกก็ได้!”
“ไม่เป็นไร ที่นั่นมีคนของผมอยู่ ท่านก็อย่าอ้อมค้อมอีกเลย มีเรื่องอะไรพูดตรงประเด็นเถอะ”
เนี่ยเฟิงหาที่นั่งสักทีนั่งลงมา ก็ไม่ได้เกรงใจกับตาแก่ไป๋ หลังจากตาแก่ไป๋ได้ยินหัวเราะ ฮึๆพูดว่า “คุณเนี่ย…….ผมมีความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย ครั้งนี้คุณทำไมตรงไปตรงมาขนาดนั้นล่ะ?”
“ผมตรงไปตรงมาหน่อย จับองค์กรนี้ออกมาให้ได้ จะไม่ใช่ช่วยพวกคุณได้มากมายเลยเหรอ?”