พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 47 ไม่มีราคา
บทที่ 47 ไม่มีราคา
พวกเขาชำระสะสางกำแพงที่พังทลายรวมไปถึงเลือดเนื้อไม่ชัดเจนของศพอย่างเร่งรีบ
เพียงรวดเร็วบริเวณนี้ก็สะอาดสะอ้าน ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
เนี่ยเหล่าสี่ที่เห็นภาพนี้ก็สั่นสะเทือน ไม่มีวิธีที่จะพูดออกมา เขามองไปที่เนี่ยเฟิง กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
“คุณชาย นี่คือ…….สำนักมังกร?!”
บนใบหน้าของเนี่ยเฟิงปรากฏรอยยิ้มผลิบาน “ลุงสี่สายตาดีจริง ๆ ดูออกว่านี่คือคนของสำนักมังกร”
“คุณชาย ท่าน ท่านคือ…….”
“คารวะราชามังกร!”
เนี่ยเหล่าสี่ล้วนพูดไม่คล่องแล้ว เขายังไม่ได้ถามออกมา ผลคือเห็นคนมืดฟ้ามัวดินที่ด้านข้าง คุกเข่าข้างเดียวลงบนพื้น ทำความเคารพเนี่ยเฟิง
และเว่ยฉางจ้านที่ถูกระเบิดจนเวียนหัวไม่รู้ทิศทาง ก็ได้ถูกพวกเขาพามาเรียบร้อยแล้ว “กราบทูลราชามังกร คนได้พามาแล้วขอรับ”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า นั่งไขว่ห้างอย่างไม่สนใจไยดี หรี่ตามองเว่ยฉางจ้านที่เหมือนกับสุนัขที่ตายไปแล้ว
เว่ยฉางจ้านที่ถูกระเบิดจนฟันหลุดไปหลายซี่ ตอนนี้เวลาพูดก็มีลมเล็ดลอดออกมา เขาเมื่อกี้ยังยโสโอหังอย่างยิ่ง แต่ทว่าในตอนนี้กองทัพกว่าพันคนของเขาพังพินาศไปแล้ว!
แต่เขาคิดไม่ถึงว่าคนวัยรุ่นที่อยู่ด้านหน้านั้นจะเป็นถึงราชามังกรของสำนักมังกร!
“รู้สึกประหลาดใจหรือไม่?”
เว่ยฉางจ้านนั้นไม่เพียงแค่จะประหลาดใจเท่านั้น ยิ่งถ้าเกิดว่าเขารู้ว่าศัตรูของตัวเองนั้นคือราชามังกร แม้ว่าจะให้ความกล้าแก่เขาสักพันเขาก็ไม่กล้าที่จะเป็นศัตรูด้วย
“ราชามังกร ผมมีตาหามีแววไม่! คุณไว้ชีวิตของผมด้วย! ผมสำนึกผิดแล้ว!”
เว่ยฉางจ้านนั้นกลัวมาก ทั่วตัวสั่นจนเหมือนอาการสั่นระริก
“ไว้ชีวิตของแก?”
เนี่ยเฟิงหรี่ตา “ไว้ชีวิตของแกก็ได้ แต่ว่าฉันนั้นต้องดูก่อนว่าเบาะแสที่แกเสนอให้ฉันนั้นมีค่าเพียงพอหรือไม่”
“ราชามังกร! คุณบอกมา! ขอเพียงผมรู้ ผมจะไม่ปิดบังแม้แต่น้อย!”
“การสังหารหมู่ที่ทะเลในปีนั้นแกได้เข้าร่วมหรือไม่ คนที่เข้าร่วมนั้นมีเท่าใด?”
“ฟ้าดินเป็นพยาน ผมไม่เคยเข้าร่วม ผมก็ไม่รู้เรื่องการสังหารหมู่ที่ทะเล ข่าวนี้บุคคลลึกลับให้ผมมา! ตอนแรกที่ได้รู้ข่าวสาร ผมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่พริบตาหุ้นของตระกูลเนี่ยก็ดิ่งลง ผมรู้ว่านี่อาจจะเป็นโอกาส ผมต้องฉวยเอาไว้ ดังนั้นผมจึง ผมจึงทำให้เกิดการจลาจล……”
ในตอนนี้เว่ยฉางจ้านนั้นจนตรอกเป็นอย่างมาก เขาโดนระเบิดจนหน้าบวมเลือดกำเดาไหลอัปลักษณ์เป็นพิเศษ
“แกพูดจาช้าลงหน่อย ฟันของแกร่วงไปแล้ว ตอนนี้พูดก็มีลมเล็ดลอดออกมา ฉันฟังไม่ชัดเจน”
เนี่ยเฟิงคลึงที่ใบหูของตัวเอง ขัดการพูดของเว่ยฉางจ้าน เว่ยฉางจ้านกลืนน้ำเลือดลงไป จำต้องพูดซ้ำใหม่อีกครั้ง
“ราชามังกรขอให้ท่านตัดสินอย่างเฉียบแหลม ผมไม่เคยทำเรื่องแบบนี้เลยจริง ๆ !”
“หมายเลขในตอนนั้นยังมีอยู่ไหม?” เนี่ยเฟิงถามอีกครั้ง
“นั่นไม่มีชื่อโดเมน ดังนั้นผมก็เลยไม่ได้บันทึกเสียงของอีกฝ่าย ฟังดูแล้วผู้หญิงก็ไม่ใช่ผู้ชายก็ไม่เชิง น่าจะใช้เครื่องมือเปลี่ยนเสียงเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว ผม ผมสำนึกผิดแล้ว! เป็นผมที่มีตาหามีแววไม่! ปล่อยผมไปเถอะนะ!”
เว่ยฉางจ้านพูดไปพลาง คุกเข่าคลานไปพลาง บนตัวของเขามีกระดูกหักหลายส่วน และก็ได้รับบาดเจ็บที่ค่อนข้างรุนแรง ตอนที่เขาคลานเข้าไปก็ต้องทนกับความเจ็บปวด
เนี่ยเฟิงก้มหัวมองเว่ยฉางจ้าน “ตอนแรกแกใช้กำลังแย่งยื้อข้อมูลของตระกูลเนี่ย ฆ่าคนตระกูลเนี่ยจำนวนมาก ในตอนที่บังคับให้ตระกูลเนี่ยถึงทางตันนั้น ทำไมแกไม่ปล่อยพวกเขาไปล่ะ?”
เว่ยฉางจ้านใจฝ่อมาก “ตอนแรกนั้นเป็นผีสิงผม ผมรู้ถึงความผิดแล้วจริง ๆ ! ผม! สิ่งของที่ผมเอามาในตอนนั้นจะคืนให้คุณทั้งหมด ขอร้องให้คุณปล่อยผมให้รอดไปเถอะ!”
“สิ่งของของพวกเราตระกูลเนี่ยจำเป็นต้องให้แกเอามาคืน?”
เนี่ยเฟิงเหอะเย็นหนึ่งที ใช้สายตาที่มองคนตามองเว่ยฉางจ้าน “ช่างน่าเสียดายนัก เบาะแสที่แกให้กับฉันนั้นไม่มีประโยชน์อันใด”
“อะไรนะ? !”
เว่ยฉางจ้านรีบร้อน “คุณให้เวลาผมอีกหน่อย ผมจะต้องหาเบาะแสที่มากกว่าเดิมให้คุณได้แน่นอน! ในปีนั้นที่คนที่ได้รับโทรศัพท์ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว! เพียงใช้ความสัมพันธ์ของผม!”
เว่ยฉางจ้านยังพูดไม่ทันจบ เสียงจากเครื่องกำจัดเสียงก็ดังขึ้นมาอย่างฉับพลัน เขาเบิกตาโตอย่างไม่สามารถจะจินตนาการได้ ก็ค่อย ๆ ล้มลงที่ข้างเท้าของเนี่ยเฟิงทันที ชักไม่กี่ครั้ง จากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวอีกเลย
“ขอโทษครับ ราชามังกร สกปรกสายตาท่านแล้ว พวกเราจะจัดการเขาทันที!”
คนของสำนักมังกรเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันตั้งตัว นำศพของเว่ยฉางจ้านออกไปอย่างรวดเร็ว
เนี่ยเฟิงค่อย ๆ พ่นลมออกจากปาก จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน ถอยหลังไปมอง ที่นี่ถูกทำลายด้วยระเบิดจนกลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว
สมัยก่อนนั้นในตอนที่เขาและพ่อแม่ของเขาอยู่ที่นี่นั้น มีความทรงจำที่สวยงามไม่น้อย แต่ตอนนี้ของคือสรรพสิ่งไม่เคยเปลี่ยนแต่คนกลับเปลี่ยนไป ที่นี่ได้กลายเป็นแหล่งซ่องสุมของเว่ยฉางจ้าน การตกแต่งประดับประดาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในล้วนแต่เปลี่ยนไป ในเมื่อมันขวางหูขวางตา งั้นก็ระเบิดที่นี่ทั้งหมดทิ้งไป
เนี่ยเฟิงดูเวลาในโทรศัพท์มือถือ จากนั้นก็ดีดนิ้ว “พรุ่งนี้เช้าให้ตระกูลเว่ยล้มละลาย”
“รับทราบ! ราชามังกร!”
เนี่ยเฟิงคิดแล้วก็เพิ่มอีกประโยค “ทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้ไปลงทุนกับที่บริษัทเทียนหลง ปิดข่าวของที่นี่ไว้ชั่วคราว พรุ่งนี้ค่อยแจ้งข่าวแก่สื่อมวลชน”
“รับทราบ! ราชามังกร!”
เนี่ยเฟิงขึ้นไปบนรถ ในเวลานี้เนี่ยเหล่าสี่อารมณ์ก็ยังไม่คงที่จากการตกใจ ขาเท้าเขาที่ใช้ขับรถล้วนสั่นเทา
“ลุงสี่ ทำให้คุณตกใจไหม?”
จิตใจของเนี่ยเหล่าสี่กลับเข้ามา ส่ายหัวอย่างรีบเร่ง “ไม่ได้ทำให้ตกใจ เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าคุณชายจะเติบโตมาจนถึงระดับเช่นนี้!”
“เป็นคนล้วนต้องพัฒนากันบ้าง ผมเคยพูดไปแล้ว พวกเขาปล้นชิงสิ่งของของพวกเราไปอย่างไร พวกเราก็ค่อย ๆ ตามกลับมาทีละก้าว พวกเขากินเข้าไปอย่างไร ผมก็จะให้พวกเขาอ้วกออกมาอย่างนั้น!”
“คุณชายวางใจได้! ต่อไปคุณส่งให้ผมไปบุกน้ำลุยไฟ ผมก็ไม่ปฏิเสธทั้งสิ้น!”
เนี่ยเฟิงเก็บสายตากลับมา หัวเราะ “ขับรถเถอะ ฝุ่นไปทั้งตัวแล้ว ฉันจะต้องกลับไปอาบน้ำ”
เนี่ยเฟิงกลับถึงบ้าน ในเวลานี้ชิวมู่เฉิงนั้นยังไม่กลับมา เขาอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ดูแล้วน่าเอ็นดูเป็นอย่างยิ่ง
ถึงแม้ว่าการเคลื่อนไหวที่วิลล่าซิงเยว่นั้นจะใหญ่ ดึงดูดพวกที่ไม่ต้องการชีวิตมาค้นข่าวสาร แต่ว่าพวกเขากลับถูกคนของสำนักมังกรใช้วิธีการอันชาญฉลาดขับไล่ไปทั้งหมด
เนี่ยเฟิงตรวจดูข้อมูลข่าวสาร นอกจากสี่ตระกูลตัวพ่อแล้ว ก็ยังมีพวกกิจการเล็ก ๆ ที่เข้าร่วมในเหตุการณ์ปล่อยข่าวคราวในครั้งนั้น แต่ว่าพวกกิจการเล็ก ๆ เหล่านั้นก็ถูกรวมเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว
เว่ยฉางจ้านใกล้ที่จะตายแล้ว คำพูดที่พูดออกมานั้นล้วนเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ที่เหลือยังมีสามตระกูลตัวพ่อ พวกเขาน่าจะยังมีเบาะแสอื่น ๆ อีก?
“พรุ่งนี้หลังจากที่ปล่อยข่าวแล้ว ให้จับตามองทิศทางการเคลื่อนไหวของสามตระกูลตัวพ่ออย่างละเอียด จักต้องควบคุมแหล่งทรัพยากรมาไว้ในมือให้ได้”
เนี่ยเฟิงมอบหมายภารกิจเสร็จ ก็กลับไปที่ห้อง นอนหลับอย่างเต็มที่
คืนนี้ชิวมู่เฉิงที่มีเรื่องหนักอกหนักใจกลับมา เดิมทีเธอนั้นไปหาหยูจิงหง หยูจิงหงไม่ให้เธอแหวกหญ้าให้งูตื่นก่อน แม้ว่าตระกูลเว่ยจะคุกคามเนี่ยเฟิง งั้นเธอก็จะรออย่างตรงไปตรงมาอีกหน่อย ค่อยจัดการจับมือมืดที่อยู่เบื้องหลังออกมาให้แน่น ไม่ให้รอดไปแม้แต่คนเดียว!
เพียงแต่เช้ามืดวันรุ่งขึ้น ชิวมู่เฉิงถูกโทรศัพท์จากเลขาปลุกให้ตื่น
คุณภาพการนอนของชิวมู่เฉิงนั้นไม่ดีมาโดยตลอด เลขาจะไม่โทรมาปลุกเธอในเวลาเช่นนี้ แต่วันนี้เลขากลับโทรมาหา ชิวมู่เฉิงกังวลว่าที่บริษัทเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า ดังนั้นจึงรีบรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว
“ประธาน! เว่ยซื่อกรุ๊ปล้มแล้ว!”
ชิวมู่เฉิงเบิกตาโต “คุณพูดว่าอะไรนะ?”
“เปิดตลาดวันนี้ พริบตาเดียวเว่ยซื่อกรุ๊ปก็ลิมิต ดาวน์! มีคำสั่งระงับรายการอสังหาริมทรัพย์ในมือของเขา