พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 478 เขาหมดน้ำยาแล้ว
หวางชุนก็ถือว่าผ่านประสบการณ์มามาก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นผู้หญิงที่สวยเช่นนี้ เช่นเดียวกับพ่อของเขา ตอนนี้เขาไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้เลย
หวางชุนพยักหน้าซ้ำๆ ถ้าเขาได้แต่งงานกับสาวสวยเช่นนี้ ต่อให้เป็นความฝันก็จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม!
“เสี่ยวเชา คุณว่าหลานชายของผมเป็นไงบ้าง? เขาเป็นคนมีความสามารถ ทำธุรกิจเก่ง ถ้าคุณแต่งงานกับหลานชายของผม ทุกคนก็จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้ว! ธุรกิจจะต้องเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไปอย่างแน่นอน! ดีกว่าคนที่คุณหาเองไหม? คุณดูสิเขาไม่เป็นที่รู้จัก ไม่ได้มาจากตระกูลเก่าแก่ร่ำรวย ถ้าคุณแต่งงานกับเขา คุณก็จะได้แต่งงานกับผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินเท่านั้น!”
เหล่าหลี่เหยียบเนี่ยเฟิงจนจมดิน
“ประธานหลี่ กรุณาอย่าพูดอย่างนั้น คู่หมั้นของฉันเขาแสวงหาความก้าวหน้ามาก แล้วยังมีแผนการของตัวเอง เขาแค่เป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงนี้เท่านั้น”
“คุณดูนะ ตอนนี้คุณยังต้องออกหน้าพูดแทนเขาเลย สังคมแตกต่างกันก็เข้ากันได้ยาก คุณลองคิดดู ต่อไปพวกคุณต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก! ธุรกิจของคุณจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ คุณเต็มใจจะแต่งงานกับคนธรรมดาสามัญไปตลอดชีวิตงั้นหรือ? คุณยังเด็กเกินไป ไร้เดียงสาเกินไป อย่างที่เขาว่ากันเรื่องวงศ์ตระกูลที่มีฐานะเท่าเทียมกัน คุณว่าไม่ถูกงั้นเหรอ”
ประธานหลี่พูดจบก็ดึงหวางชุนเข้ามา เขาตบบ่าหวางชุนแล้วพูดด้วยรอยยิ้มอันเบิกบาน
“แต่เสี่ยวชุนนั้นไม่เหมือนกัน บรรพบุรุษของพวกเขาเป็นข้าราชการทั้งหมด ตอนนี้ก็ยังทำธุรกิจอีก ครอบครัวของพวกเขาติดหนึ่งในสิบอันดับแรกของตระกูลที่มีทั้งเงินและอิทธิพล แถมยังเป็นหนึ่งในลิ่วซานเหมินอีกด้วย คุณคิดว่าเขาไม่เหมาะสมกับพวกคุณงั้นเหรอ?”
“ไม่เหมาะสมกันจริงๆ”
ในเวลานี้เนี่ยเฟิงได้เอ่ยปากขึ้น สีหน้าของประธานหลี่และหวางปินบึ้งตึงทันที
“ลูกชายของผมดีเลิศขนาดนั้น ทำไมถึงไม่เหมาะสมกับคุณชิวล่ะ? คนที่ไม่เหมาะสมกับเธอน่าจะเป็นคุณมากกว่าล่ะมั้ง? คุณไม่ดูตัวเองหน่อยเหรอว่ามีสภาพเป็นยังไง! ความสามารถก็ไม่มี รูปร่างหน้าตาก็ใช้ไม่ได้ คนอย่างคุณน่ะเหรอที่เหมาะสมกับคุณชิว?”
หวางปินกลอกตาใส่ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะระบายความโมโหออกมา
แม้ว่าสาวสวยคนนี้จะไม่ได้แต่งงานกับเขา แต่ถ้าแต่งงานกับลูกชายของเขา เขาเชื่อว่าอาจจะมีโอกาสในอนาคต เมื่อหวางปินคิดถึงเรื่องนี้ก็อดตื่นเต้นดีใจไม่ได้ มองชิวมู่เฉิงด้วยสายตาราวกับจะกลืนกินเธอทั้งเป็น
“ไม่เหมาะสมจริงๆ คนขี้ขลาดอย่างนี้จะเหมาะสมกับชิวมู่เฉิงได้ยังไง?”
เนี่ยเฟิงยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง จากนั้นก็เชิดคางใส่หวางชุน “คุณว่าถูกไหม? หวางชุน?”
หวางชุนนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เขาทั้งโกรธและหวาดกลัว เขาโกรธเพราะคนที่อยู่ตรงหน้ากล้าพูดออกมา และเขากลัวว่าตัวเองจะสู้เนี่ยเฟิงไม่ได้
พลังในการต่อสู้ของเนี่ยเฟิงนั้นแข็งแกร่งเกินไป เมื่อคืนวานเขาคนเดียวได้กำจัดพวกเขาไปมากกว่าสามสิบคน ตอนนี้เขาก็ยังคงรู้สึกปวดท้องอยู่
แต่เมื่อหวางชุนเปลี่ยนความคิดว่าพ่อของตนก็อยู่ที่นี่ เขาจะถูกรังแกอีกงั้นหรือ? ดังนั้นเขาจึงเงยหน้าขึ้นแล้วยืดคอกล่าวว่า
“ถูกบ้าอะไร ทำไมผมถึงไม่เหมาะสม ผมเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบของเธอ คุณดูสิ คุณต่างหากที่ไม่เหมาะสม คุณเหมือนคางคกที่พยายามจะกลืนกินเนื้อหงส์ก็ไม่ปาน!”
หวางปินยิ้มด้วยความโล่งใจ พลางมองเนี่ยเฟิงด้วยสายตายั่วยุ เนี่ยเฟิงเลิกคิ้วขึ้น พลางคิดในใจว่าเมื่อคืนหวางชุนยังไม่ได้เรียนรู้บทเรียนที่สมควรได้รับ
“ได้ยินแล้วหรือยัง? เจ้าหนู ถ้าไม่ใช่คู่ที่เหมาะสมกัน คุณก็อย่าคิดอะไรที่มันไม่เป็นความจริงอีกเลย ถ้าทำให้เสี่ยวชิวต้องเสียเวลาไปทั้งชีวิต คุณจะรับผิดชอบไม่ไหว”
ประธานหลี่ท่าทางภาคภูมิใจ คิดว่าหากเรื่องนี้เป็นจริงได้ การติดต่อของพวกเขากับเทียนหลงอินเตอร์เนชั่นแนลจะราบรื่นยิ่งขึ้นในอนาคต เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ประธานหลี่ก็รู้สึกว่าการเดินหมากในวันนี้ดีมาก
“ถ้าอย่างนั้นพวกเธอสองคนก็มาทำความรู้จักกันก่อน!”
หวางปินพูดพลางผลักลูกชายของตนออกไป ในขณะที่หวางชุนเดินไปข้างหน้าอย่างตื่นเต้น เนี่ยเฟิงก็ถอนหายใจช้าๆ “มีเงินก็ส่วนมีเงิน แต่น่าเสียดาย…ที่ยังทำให้ชิวมู่เฉิงมีความสุขไม่ได้”
“เจ้าหมอนี่กำลังพูดเรื่องอะไร? เมื่อกี้ให้เทียบเรื่องกำลังเงินคุณก็สู้ไม่ได้ ตอนนี้ยังมาพูดเรื่องไร้สาระอีก ผมว่านะ คุณแค่ไม่ยอมที่ถูกเปรียบเทียบกับคนอื่นแล้วสู้ไม่ได้!”
ประธานหลี่มองเนี่ยเฟิงอย่างเย็นชา เนี่ยเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม
“ผมไม่ได้พูดจาไร้สาระ คุณดูหวางชุนก้าวเดินอย่างล่องลอยสิ ใบหน้าซีดขาว หน้าผากเขียวคล้ำ ไม่มีชีวิตชีวา ถ้าไม่ใช่น้องชายไม่แข็ง ก็ต้องเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ…”
เนี่ยเฟิงพูดพลางส่ายหน้า ส่วนใบหน้าของหวางชุนนั้นซีดเผือดทันที!
เพราะสิ่งที่เนี่ยเฟิงพูดนั้นเป็นความจริง! หวางชุนตั้งแต่เด็กจนโตที่บ้านนั้นร่ำรวยมาก เขาไม่เคยพบกับรสชาติของความยากจน ดังนั้นจึงมักจะมีผู้หญิงไล่ตามเขาอยู่เสมอ
หวางชุนอยู่กับผู้หญิงหลากหลายประเภทมาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น จนกระทั่งถึงตอนนี้ เขาก็หมดน้ำยาแล้ว
แม้ว่าเขาจะยังมีอารมณ์ทางเพศอยู่ แต่เขานั้นมีแต่ความกล้าแต่กลับไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว
“ดูเหมือนว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นถูกต้องใช่ไหม? หวางชุน ถ้าหวางชุนป่วยก็ต้องพบแพทย์ จะปกปิดปมด้อยกับหมอแบบคุณมันไม่ถูกต้องนะ”
เนี่ยเฟิงส่ายหน้าด้วยความปวดหัว ริมฝีปากของหวางชุนขมุบขมิบอยู่เป็นเวลานานแต่ก็พูดอะไรไม่ออก เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเนี่ยเฟิงมองออกได้อย่างไรว่าเขาหมดน้ำยา
เมื่อหวางปินเห็นกิริยาของลูกชายตัวเองก็รู้ว่าเขาพูดถูก เขาทั้งกังวลและโกรธอยู่พักหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะโต้แย้งอย่างไร ในเวลานี้เนี่ยเฟิงได้กล่าวว่า
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ผมแต่งตัวดูเหมือนไม่มีเงิน แต่จริงๆ แล้ว…ผมร่ำรวยมากนะ”
ประธานหลี่ไม่เคยเชื่อว่าเนี่ยเฟิงร่ำรวย เขาจึงตอกกลับเสียงดังว่า “เป็นไปไม่ได้ คุณต้องเสแสร้งแน่ คนแบบคุณจะร่ำรวยได้ยังไง!”
“ประธานหลี่ ที่เขาว่ากันว่าคนเราไม่อาจตัดสินกันด้วยหน้าตา น้ำทะเลไม่อาจตวงวัด คุณอย่าตื่นเต้นจนเกินไป เดี๋ยวเกิดเส้นเลือดแตกในสมองขึ้นมา จะไม่มีใครช่วยคุณได้นะ”
ประธานหลี่สะดุ้งตกใจ เนี่ยเฟิงรู้ได้อย่างไรว่าเขาความดันสูง?
เมื่อชิวมู่เฉิงเห็นพวกเขาทั้งสามคนเสียหน้า เธอก็รู้สึกสบายใจมาก
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอตัวก่อนล่ะ”
เธอพูดจบก็พาเนี่ยเฟิงออกไปให้พ้นจากสายตาของทั้งสามคน
“พี่ใหญ่ดึงผมออกมาทำไม? ผมยังอยากแสดงความสามารถต่อไปอีก ผมยังไม่ได้โชว์เลยว่าผมมีเงินมากแค่ไหน!”
“นายจะมีเงินมากสักเท่าไหร่กัน? พวกเขาล้วนแต่เป็นคนมีอำนาจทั้งนั้น อย่าไปขัดแย้งกับพวกเขาซึ่งๆ หน้าดีกว่า ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะแอบกลั่นแกล้งนายลับหลังได้ ถ้านายถูกกลั่นแกล้งฉันจะรู้สึกเสียใจมาก”
ชิวมู่เฉิงมองเนี่ยเฟิงอย่างจริงจัง
“พี่ใหญ่ พี่อย่าสบประมาทผมนะ ก่อนหน้านี้ผมเคยไปทำภารกิจบางอย่างมาแล้ว แล้วยังช่วยโรงพยาบาลของพี่สี่พัฒนายาอีกด้วย ตอนนี้ผมหาเงินได้เยอะแล้ว!”
ตอนนี้เนี่ยเฟิงมีเหตุผลที่เหมาะสมพอที่จะเปลี่ยนรถดีๆ สักคันให้กับชิวมู่เฉิง
“นายทำหลายอย่างขนาดนั้นเลยเหรอ?” ชิวมู่เฉิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเธอก็พูดอย่างรู้สึกผิดว่า “เสี่ยวเฟิง นายไม่ต้องทำให้ตัวเองเหนื่อยมากนักนะ รู้ไหม เทียนหลงอินเตอร์เนชั่นแนลของพี่ใหญ่เป็นทรัพย์สมบัติของนาย ต่อไปมันจะเป็นของของนาย นายไม่ต้องไปสนใจว่าคนพวกนั้นจะพูดอะไร”
เนี่ยเฟิงไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี “นั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะทำ ผมไม่รู้สึกเหนื่อยเลย”