พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 480 ผู้คนก่อจลาจล
เนื่องจากความวุ่นวายในช่วงเวลานั้น พ่อแม่ของเนี่ยเฟิงจึงรีบส่งเขาไปอยู่ที่บ้านคุณตาในชนบท ขอให้คุณตาช่วยคุ้มครองเขา
ในเวลานั้นเนี่ยเฟิงยังเด็กเกินไปที่จะรับรู้เรื่องเหล่านี้ และพ่อแม่ก็ปกป้องเขาเป็นอย่างดี
ต่อมาหลังจากที่เนี่ยเจิ้งและคนอื่นๆ ถอนตัวจากหอการค้าใหญ่ ทุกคนก็เฝ้ารอดูการล่มสลายของตระกูลเนี่ย
แต่ชื่อเสียงของตระกูลเนี่ยนั้นดีมากเสมอมา แม้จะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหอการค้าใหญ่ แต่พวกเขาก็ยังพลิกฟื้นขึ้นมาใหม่ได้ แม้ว่าจะมีหลายคนใส่ร้ายพวกเขา แต่เสียงของคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นตัวแทนของคนส่วนใหญ่
ดวงตาของทุกคนเป็นประกาย แน่นอนว่าพวกเขารู้ดีว่าอะไรคือข่าวลือ อะไรที่เห็นได้ด้วยตาของตัวเอง
แม้ว่าเนี่ยเฟิงจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเวลานั้น แต่เมื่อเติบโตขึ้นมาเขาก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ รู้ว่าเหตุใดพ่อแม่จึงถอนตัวออกจากหอการค้าใหญ่ในเวลานั้น เพราะหอการค้าใหญ่ไม่ใช่สถานที่ที่ควรไป
แต่เนี่ยเฟิงก็ไม่ต้องการเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของชิวมู่เฉิง ในเมื่อชิวมู่เฉิงต้องการเข้าร่วมหอการค้าใหญ่ เขาก็ย่อมไม่พูดอะไร แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเทียนหลงอินเตอร์เนชั่นแนลเพิ่งเข้าร่วมหอการค้าใหญ่ได้ไม่นาน ก็ต้องมาพบกับเรื่องราวแบบเดียวกันกับในตอนนั้น
ในเวลานั้นเรื่องแบ่งแยกหอการค้าใหญ่ได้ก่อให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ และในตอนนี้เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ก็ยังทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดผวาอยู่
เมื่อตระกูลเนี่ยออกจากหอการค้าใหญ่ ผู้คนมากมายต่างรู้สึกยินดีบนความโชคร้ายของคนอื่น คิดว่าพวกเขาจะอยู่ได้อีกไม่นานแน่ แต่หลังจากที่ตระกูลเนี่ยออกจากหอการค้าใหญ่แล้วก็มีความเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะมีข้อมูลด้านลบมากมายเพียงใด ก็ไม่สามารถสั่นคลอนสถานะของพวกเขาได้
ต่อมาผู้คนดูเหมือนจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว ยังแอบร่วมมือกับตระกูลเนี่ยอย่างลับๆ เพื่อให้ได้เงินมากขึ้น เพราะช่องทางของตระกูลเนี่ยนั้นสุดยอดจริงๆ
เพียงแต่ว่าคดีร้ายแรงบนทะเลในเวลาต่อมา ทำให้ผู้คนต่างทอดถอนใจ
หลันเฟิงหลิงมองดูผู้คนที่อยู่ข้างล่างด้วยรอยยิ้มและไม่พูดอะไร ทุกคนรู้สึกว่าการคาดเดาของพวกเขาได้รับการยืนยันแล้ว ส่วนเนี่ยเฟิงได้หรี่ตาลง ดูท่าทางคนผู้นี้จะเคียดแค้นตระกูลเนี่ยมาก
ชิวมู่เฉิงตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีของผู้คน ทุกคนต้องการไล่เธอออกจากหอการค้าใหญ่
แม้ว่าชิวมู่เฉิงจะไม่รู้ว่าทำไมตนเองถึงตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีของคนเหล่านี้ แต่เธอก็รู้สึกผิดหวังเมื่อเห็นพวกเขาฟังคำพูดของคนอื่นอย่างไม่แยกแยะถูกผิด
“เป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งแก่สายตาของทุกคนแล้วว่า ตอนแรกเทียนหลงอินเตอร์เนชั่นแนลเป็นเพียงบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็ก แต่ตอนนี้ได้กลายเป็นผู้นำของเมืองจินไห่ ไม่เพียงแต่ผูกขาดธุรกิจของเมืองจินไห่ แต่ยังได้ครอบครองโครงการอ่าวนกยูงที่แม้แต่องค์กรขนาดใหญ่ยังทำไม่ได้ กระทั่งขับไล่นักลงทุนเดิมในอ่าวนกยูงออกไป การกระทำเช่นนี้มิได้คิดวางแผนจะกินรวบแต่เพียงผู้เดียวหรือ?”
สิ่งที่หลันเฟิงหลิงพูดมีความปลุกปั่นอย่างมาก บวกกับทุกคนที่อยู่ในที่นี้ล้วนเป็นนักธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์เป็นหลัก
นอกจากนี้หลายคนยังเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เรื่องนี้มีผลกระทบกับผลประโยชน์ของพวกเขาอย่างแน่นอน พวกเขาย่อมไม่สามารถนั่งดูเฉยๆ ได้
คนคนหนึ่งลุกพรวดขึ้นมา ชี้ไปที่ชิวมู่เฉิงแล้วพูดอย่างโกรธจัด “คุณไม่มีคุณสมบัติที่จะอยู่ในหอการค้าใหญ่!”
“ใช่แล้ว!“
“พฤติกรรมเช่นนี้มันเลวร้ายเกินไป! คนอย่างคุณมันน่ารังเกียจจริงๆ!”
หลายปีที่ผ่านมาชิวมู่เฉิงได้ล้มลุกคลุกคลานอยู่ในวงการธุรกิจ และได้เห็นใบหน้าที่น่าเกลียดเช่นนี้มามากมาย ถ้าไม่เช่นนั้นหากเป็นคนทั่วไปถูกวิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้ อาจจะรู้สึกกลัวและหวาดผวา จนถึงขั้นถูกแรงกดดันอย่างท่วมท้น
เพียงแต่ว่าชิวมู่เฉิงต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาของผู้คนมากมาย เธอถูกตัดขาดให้โดดเดี่ยวจริงๆ
เนี่ยเฟิงรู้ว่าพวกเขาคิดจะทำตามสูตรสำเร็จรูป เพื่อทำให้กิจการของชิวมู่เฉิงล่มสลายเหมือนตระกูลเนี่ยในตอนแรก
ในเวลานี้หลันเฟิงหลิงได้มองไปทางเนี่ยเฟิง รอยยิ้มอ่อนๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ
ในเวลานี้เนี่ยเฟิงได้เดินเข้าไปอยู่ข้างกายชิวมู่เฉิง “การเข้าร่วมหอการค้าใหญ่ มันทำให้พวกคุณเสียสติไปแล้วเหรอ? ทำไมพวกคุณถึงดูเหมือนพวกคนโง่ไอคิวต่ำ?“
ทันทีที่เนี่ยเฟิงพูดออกมาเช่นนี้ ทุกคนก็โมโห
“คุณเป็นใคร? กล้าดียังไงมาพูดแบบนี้กับพวกเรา?”
“ใช่แล้ว! หรือว่าคุณจะอยู่กลุ่มเดียวกับพวกที่แบ่งแยก?”
พวกเขายอมรับว่าชิวมู่เฉิงนั้นสวยมากจนทำให้คนที่มองละสายตาจากเธอไม่ได้ แล้วอย่างไรล่ะ? พวกเขาชัดเจนว่าเงินหรือคนที่สำคัญกว่า
“ที่ผมพูดคือความจริง หาเหตุนานาประการมาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น? ผู้หญิงบนเวทีคนนั้นพูดอะไรพวกคุณก็เชื่อหมดงั้นเหรอ? พวกคุณไม่รู้สึกเหรอว่ามันตลก?”
เนี่ยเฟิงยักไหล่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนี้ที่ชื่อหลันเฟิงหลิง
หลันเฟิงหลิงเป็นคนที่มีอิทธิพล เรื่องนี้เข้าใจได้ อีกอย่างเธอต้องรู้จักตัวตนของชิวมู่เฉิงด้วย ดังนั้นเธอจึงจงใจทำ
แบบนี้
จุดประสงค์ก็เพื่อให้ชิวมู่เฉิงแสดงอำนาจใส่ตน
เนี่ยเฟิงอดยิ้มเยาะไม่ได้ ดูเหมือนว่าตนเองจะให้อิสระแก่พวกเขามากเกินไป ทำให้คนพวกนี้คิดว่าจะรังแกตนได้ง่ายๆ
หากเป็นเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องทดสอบอีก
ในตอนนั้นเนื่องจากพ่อแม่ของเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่อง “ยาห้ามใช้” คนเหล่านี้จึงต้องการฆ่าพวกเขาปิดปากเพื่อปกปิดเรื่องอื้อฉาว พวกเขาสร้างเรื่องราวมากมายเพื่อใส่ร้ายตระกูลเนี่ย
ไม่จำเป็นต้องสืบแล้ว แค่ฆ่าพวกเขาทีละคน
“ดูเหมือนว่าท่านนี้จะเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวของตระกูลเนี่ย ฉันแปลกใจที่ได้พบคุณที่นี่”
หลันเฟิงหลิง ผู้หญิงคนนี้เหมือนสุนัขจิ้งจอก เจ้าเล่ห์มาก สิ่งที่เธอพูดล้วนมีจุดประสงค์และปลุกปั่น ตอนนี้เธอเบนเข็มไปที่เนี่ยเฟิงคนเดียวแล้วใช่ไหม?
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็รู้แจ้งในทันใด พวกเขายังนึกว่าเป็นใคร ที่แท้ก็เป็นคนของตระกูลเนี่ย
“ไม่แปลกใจเลยที่คุณพูดแทนคนที่ต้องการแบ่งแยก! ที่แท้คุณก็เป็นผู้แบ่งแยกคนหนึ่ง!”
“ออกไปเดี๋ยวนี้! ไสหัวออกไป!”
พวกเขาตะโกนโห่ร้อง
เนี่ยเฟิงแค่รู้สึกว่ามันน่าขัน คนพวกนี้ไม่รู้เหรอว่ากำลังถูกใช้เป็นอาวุธอยู่?
แต่มันก็เป็นเรื่องปกติ คนแบบนี้ก็จะเป็นแบบนี้ไปทั้งชาติ
“ผมเองก็ไม่อยากอยู่ที่หอการค้าใหญ่นี่เหมือนกัน แต่ผมมีสิ่งที่อยากได้จากหอการค้าใหญ่”
เนี่ยเฟิงมองดูผู้คนที่อยู่ข้างหลังเขา สายตาของเขาเฉียบคมมาก กวาดผ่านพวกเขาราวกับมีด ทำให้คนเหล่านี้รู้สึกถึงความกดดันที่มองไม่เห็น
“คุณจะมาเอาอะไรจากหอการค้าใหญ่! ล้อเล่นหรือเปล่า!”
“ต้องมีแน่นอนอยู่แล้ว” เนี่ยเฟิงพูดยิ้มๆ “ตอนนี้ของที่พ่อและคนอื่นๆ ทิ้งไว้ในหอการค้าใหญ่ยังคงถูกพวกคุณใช้ประโยชน์อยู่ พวกคุณไม่รู้สึกละอายใจบ้างเหรอ? ทางหนึ่งก็กล่าวหาผู้แบ่งแยก อีกทางหนึ่งก็ใช้สิ่งของของผู้แบ่งแยก”
หลันเฟิงหลิงหรี่ตาลง เธอย่อมรู้ว่าเนี่ยเฟิงหมายถึงอะไร เหตุผลที่หลันเฟิงหลิงมายืนที่หอการค้าใหญ่ในวันนี้ก็เพื่อปลุกปั่นให้ทุกคนต่อต้านชิวมู่เฉิง ก็เพราะเธอคาดหวังว่าเนี่ยเฟิงจะออกหน้าอย่างแน่นอน
ขอเพียงเนี่ยเฟิงออกหน้า หลันเฟิงหลิงก็จะทำให้มณฑลซานเจียงขับไล่เขา แม้ว่าเขาจะเป็นราชามังกรแห่งสำนักมังกรก็ไม่มีประโยชน์ หากเขาถูกต่อต้านจากมณฑลซานเจียง เขาก็จะมีแต่คำว่าพ่ายแพ้เท่านั้น
อันที่จริงเนี่ยเจิ้งนั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างอยู่ในหอการค้าใหญ่ ตอนนั้นแม้แต่หลันเฟิงหลิงก็ยังไม่ใช่ประธานหอการค้า แต่เนี่ยเจิ้งนั้นได้เป็นเลขาธิการหอการค้าแล้ว
เนี่ยเจิ้งมีมันสมองเป็นเลิศ เขาได้เสนอความคิดมากมาย นำพาให้บรรดานักธุรกิจทำกำไร