พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 489 ไม่ใช่คนธรรมดา
เนี่ยเฟิงต่อสู้ด้วยมือเดียว ไม่คิดที่จะปล่อยออกเลยสักนิด หลันเฟิงหลิงรู้สึกว่าแขนของตนเองถูกบีบจนบอบช้ำแล้ว เธอไม่มีทางที่จะสลัดหลุด
เห็นกับตาว่าความเข้มข้นของแก๊สยิ่งรุนแรงขึ้น เวลาคับขัน!
“ตัดแขนของฉัน! ถอย!”
เดิมทีหลันเฟิงหลิงคิดว่าตนเองจะได้รับชัยชนะอย่างมั่นใจ เพียงแค่ในเวลานี้หลันเฟิงหลิงสับสนวุ่นวายยุ่งอุตลุดแล้ว ถ้าหากไม่ใช่มีคนมากขนาดนั้นขัดขวางอยู่ เนี่ยเฟิงอาจจะจัดการหลันเฟิงหลิงไปแล้ว
เพียงแต่เนี่ยเฟิงไม่คิดที่จะฆ่าหลันเฟิงหลิง เขาจะทรมานหลันเฟิงหลิง ทำให้หลันเฟิงหลิงรู้ถึงความรู้สึกในตอนต้นที่ตนเองสูญเสียญาติไป
ใครจะรู้ตอนนี้หลันเฟิงหลิงถูกบีบจนร้อนใจแล้ว ถึงขนาดต้องตัดแขนยังจะวิ่งหนี
คนเสื้อแดงยกมือฟันดาบลงโดยตรง ตัดแขนของหลันเฟิงหลิงไป ชั่วพริบตาเดียวเลือดสดไหลตรงออกมา! คนเสื้อแดงกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามา เห็นเพียงพวกเขาไล่ตามหลังด้วยความเร็วที่เร็วมาก สิ่งที่เนี่ยเฟิงจับไว้คือแขนที่ขาดของหลันเฟิงหลิง เธอถูกคนพาไปแล้ว
เนี่ยเฟิงจัดการคนเสื้อแดงกลุ่มนั้นอยากจะไล่ตามไปแต่ไม่ทันแล้ว
เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างดุเดือด
ความเข้มข้นที่อยู่ในอากาศสูงมากๆแล้ว ตอนที่เนี่ยเฟิงไล่ตามขึ้นไป ประตูปิดมิดชิดแล้ว
เขาจ้องมองคนเสื้อแดงที่อยู่ข้างหลังหนึ่งที ขวางเขาไว้อยู่สิบกว่าคนไม่สนใจถึงชีวิตก็จะคุ้มครองหลันเฟิงหลิงออกไป นี่ช่างสามารถจริงๆ
เนี่ยเฟิงทำตายี๋แล้วทำตายี๋อีก
ก็อยู่ในเวลานี้ เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง ที่แท้พวกเขาตั้งระเบิดไว้ที่นี่มานานแล้ว เห็นลักษณะท่าทีไม่คิดที่จะให้เนี่ยเฟิงมีชีวิตอยู่ออกจากที่นี่เลยสักนิด
อยู่ที่นี่ต่ออีก ย่อมจะขาดอากาศตายอยู่ที่นี่แน่นอน ถึงแม้ว่าไม่ขาดอากาศตายอยู่ที่นี่ ก็จะถูกระเบิดเกี่ยวพันไปด้วย
เพียงแค่หลันเฟิงหลิงคิดอยากจะให้เนี่ยเฟิงตายอยู่ที่นี่จริงๆ ดังนั้นตั้งแต่แรกก็ทำการจัดวางอย่างละเอียดแม่นยำแล้ว ตอนนี้ทั้งวิลล่าล้วนกลายเป็นตาข่ายดักแน่นหนาแล้ว
ในเวลานี้หลันเฟิงหลิงสีหน้าซีดขาวถูกคนพยุงขึ้นรถ เมื่อกี้เธอสูดคาร์บอนไดออกไซด์มากเกินไปแล้ว ตอนนี้สีหน้าของเธอดูแย่มากๆ
“เปิดใช้งานอุปกรณ์ระเบิดหรือยัง?” หลันเฟิงหลิงเอ่ยปากซักถาม
“คุณนายวางใจเถอะ เปิดใช้งานแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน! ตอนนี้สำคัญที่สุดคือบาดแผลที่อยู่บนแขนของท่าน!”
เมื่อกี้ที่เนี่ยเฟิงจับไว้คือแขนท่อนบนของหลันเฟิงหลิง ดังนั้นเธอได้แต่ตัดแขนทั้งหมดออกไป มิฉะนั้นไม่มีทางสลัดหลุดเลยสักนิด!
ในตอนนี้สีหน้าของหลันเฟิงหลิงซีดขาว เธอเสียเลือดมากเกินไป
รถขับออกจากวิลล่าดอกกุหลาบ เสียงระเบิดที่อึดอัดดังขึ้น หลันเฟิงหลิงก็ไม่มั่นใจว่าตกลงเนี่ยเฟิงจะตายอยู่ข้างในหรือไม่…….
ครั้งนี้เนี่ยเฟิงมาตัวคนเดียวจริงๆ ตอนนี้เขาถูกขังไว้อยู่ในห้องนี้ เสียงระเบิดดังขึ้นทั่วทุกที่ ปึ้งๆปั้งๆ อยู่ในห้อง เนี่ยเฟิงอาศัยความสามารถในการวินิจฉัยและความเร็วที่เหนือกว่าคนธรรมดาหลบการทำลายที่เกิดขึ้นจากระเบิดอยู่
ดูออกได้ว่าประตูเหล็กนี้หนักหนามากๆ การระเบิดอย่างนี้ถึงขนาดไม่ทำให้ประตูเหล็กเหล่านี้กระเทือนเลยสักนิด
ในเวลาสั้นๆจะออกจากในนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ง่ายๆเรื่องหนึ่ง
แต่สำหรับเนี่ยเฟิงมากล่าวแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องยาก
เนี่ยเฟิงทำการวินิจฉัยอย่างรวดเร็ว หาโครงสร้างที่สลับซับซ้อนและเปราะบางที่สุดในห้องเจอ เขาใช้ของที่ประยุกต์ใช้ได้ เคาะกำแพงออกก่อน ต่อจากนี้ขุดจุดที่ประตูเหล็กติดกับพื้นออก
ในอากาศมีแก๊สที่มีความเข้มข้นสูง ลูกระเบิดจะทำให้แก๊สระเบิดขึ้น ปัจจุบันนี้เพียงแค่ส่วนน้อย อีกไม่นานก็จะกลายเป็นดั่งทิ้งระเบิด
ถึงเวลาการระเบิดจะกลายเป็นเช่นดั่งระเบิดนิวเคลียร์ขนาดเล็ก
ความเร็วของเนี่ยเฟิงเร็วมาก แต่ก่อนเขาตั้งใจไปเรียนสถาปัตยกรรมมา ดังนั้นรู้ว่าสถานที่จุดไหนออกไปได้ง่ายที่สุด
ก่อนที่เนี่ยเฟิงจะเข้ามาก็ได้ตรวจดูสภาพการณ์ข้างนอกแล้ว จากนั้นหลังจากเข้าไปแล้วสำรวจโครงสร้างของบ้านอีกสักหน่อย
เพียงแค่เนี่ยเฟิงนึกไม่ถึงจะมีประตูเหล็กที่หนาแน่นเช่นนี้เท่านั้น
ไม่นานเนี่ยเฟิงก็ขุดทางออกได้แล้ว ด้วยความสามารถของคนธรรมดาอยากจะทำให้ประตูเหล็กแผ่นนี้กระเทือนจะเป็นไปไม่ได้เลยสักนิด เพราะว่าประตูเหล็กแผ่นนี้หนักอึ้งมากเกินไปแล้วจริงๆ
อยากจะยกประตูเหล็กบานนี้ขึ้น ยังมิสู้ขุดข้างใต้ออกโดยตรงจะยิ่งมีผลมากกว่า
เท้าหน้าเนี่ยเฟิงเพิ่งออกไป เท้าหลังข้างในนั้นก็มีเสียงระเบิดที่น่ากลัวดังขึ้นแล้ว
เนี่ยเฟิงสามารถรู้สึกถึงว่าทั้งวิลล่าล้วนสั่นสะเทือน เขารู้ว่าอยู่ต่ออีกไม่ได้แล้ว ดังนั้นเขาออกไปอย่างรวดเร็ว
เหมือนอย่างที่คิด เขาเพิ่งลงจากถนนคดเคี้ยว วิลล่าดอกกุหลาบก็กลายเป็นทะเลไฟไปหมดแล้ว
เนี่ยเฟิงจ้องมองวิลล่าดอกกุหลาบที่กลายเป็นทะเลไฟไปหมดจากที่ไกลๆ สายตามืดมนไม่ชัดเจน
เขานำกลิ่นควันทั้งตัวกลับถึงโรงแรมเมเปิล หลังจากกลับไปเขาไปอาบน้ำสักหน่อย รู้ว่าครั้งนี้หลันเฟิงหลิงออกไปคาดว่าต้องซ่อนตัวอยู่ หลันเฟิงหลิงก็น่าจะรู้เรื่องที่ก่อนหน้านี้ตนเองส่งคนไปเฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวเธออยู่นี้
เนี่ยเฟิงวางแผนคนอื่นไปตามหาเบาะแสของหลันเฟิงหลิงแล้ว หลันเฟิงหลิงแขนขาดข้างหนึ่งน่าจะต้องไปรักษาที่โรงพยาบาล
ในเวลานี้หลันเฟิงหลิงก็รู้ว่าถ้าหากเนี่ยเฟิงออกมาล่ะก็ ย่อมจะให้คนไปค้นหาในโรงพยาบาลแน่นอน หลันเฟิงหลิงยากที่จะสลัดหลุดจากการควบคุมของเนี่ยเฟิง ตอนนี้ไปโรงพยาบาลจะไม่ใช่โยนตนเองเข้าไปในแหเลยเหรอ?
รถของพวกเขาวิ่งอยู่บนถนนเหมือนเดิม ในเวลานี้หลันเฟิงหลิงกลับส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก บอกกับพวกเขาจำเป็นต้องออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องสนใจบาดแผลเหล่านี้ที่อยู่บนแขนของเธอเลย
ถึงแม้ว่าบาดแผลที่อยู่บนแขนเลือดยังไหลไม่หยุดแต่หลันเฟิงหลิงกลับเข้าใจเช่นกัน อยู่เมืองซานเจียงต่อสำหรับพวกเขามากล่าวแล้วไม่มีผลดีใดๆเลย
“แต่ว่าคุณนายบาดแผลที่อยู่บนแขนท่านน่ากลัวมากเกินไปแล้วจริงๆ ถ้าหากไม่รีบจัดการล่ะก็ ท่านจะเสียเลือดมากเกินไปจนช็อกนะ!”
ถึงแม้ว่าเลขาจะช่วยปฐมพยาบาลฉุกเฉินให้หลันเฟิงหลิงแล้ว แต่บาดแผลที่น่ากลัวเช่นนี้ จะไม่ใช่ทำการปฐมพยาบาลฉุกเฉินก็สามารถแก้ไขได้นะ
“พวกเราไม่มีเวลาแล้ว!”
“คุณนายท่านวางใจเถอะ เห็นได้ชัดที่นั่นกลายเป็นห้องลับไปแล้ว จะไม่มีคนสามารถออกจากสถานที่ที่ละเอียดรอบคอบขนาดนี้ได้!”
แม้ว่าหลันเฟิงหลิงจะรู้สึกอย่างนี้เช่นกัน แต่ว่าฝ่ายตรงข้ามถึงยังไงก็เป็นเนี่ยเฟิง ดังคำกล่าวที่ว่าไม่กลัวเรื่องที่แน่นอน ก็กลัวเหตุไม่คาดฝัน
“อย่าพูดจาไร้สาระอีกเลย ยังคงรีบไปเถอะ ยิ่งไปเร็วในใจฉันยิ่งรู้สึกวางใจ”
คนอื่นๆก็ไม่มีทางอื่น ได้แต่ทำตามการวางแผนของหลันเฟิงหลิง พวกเขาขับรถไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ออกจากเมืองซานเจียงแล้ว
คนของเนี่ยเฟิงไปตามหาเบาะแสที่โรงพยาบาลและทางออกของแต่ละเมือง แต่ว่าที่พวกเขาหลันเฟิงหลิงเดินทางเป็นทางหลวงระดับสอง ดังนั้นคนของเนี่ยเฟิงสูญเสียเบาะแสไป
วันรุ่งขึ้นเนี่ยเฟิงตื่นขึ้นมาได้รับรู้ข่าวสารนี้ คนขององค์กรข่าวกรองตำหนิตนเองอย่างมาก
“เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกคุณเลย เป็นพวกเขาเจ้าเล่ห์จริงๆ นึกไม่ถึงหลันเฟิงหลิงจะไม่ห่วงชีวิตเช่นนี้ แขนล้วนขาดไปแล้ว ยังจะนำบาดแผลวิ่งหนีทั้งคืน ต้องบอกว่า ผู้หญิงคนนี้โหดเหี้ยมกับตนเองมากจริงๆ”
เนี่ยเฟิงอดไม่ไหวที่จะยิ้มแล้วยิ้มอีก “ไม่เป็นไร ให้เธอหนีเถอะ ดังคำกล่าวที่ว่าหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้นวันยังค่ำ ผมกลับอยากดูว่าพวกเขาจะสามารถหนีได้ถึงตอนไหน”
สำหรับเรื่องเมื่อคืนที่เนี่ยเฟิงออกไปชิวมู่เฉิงล้วนไม่ได้สังเกต แต่เช้าวันนี้ ชิวมู่เฉิงสังเกตถึงว่าบนใบหน้าของเนี่ยเฟิงมีรอยแผลที่เล็กนิดเดียวแผลหนึ่งอย่างฉลาดหลักแหลม
“รอยแผลของแกโดนอะไรมาเหรอ? ทำไมไม่ระมัดระวังขนาดนั้นล่ะ?” ชิวมู่เฉิงชี้ไปยังบาดแผลที่อยู่บนใบหน้าเนี่ยเฟิงชี้แล้วชี้อีกซักถามแบบนี้
เนี่ยเฟิงลูบหน้าลูบแล้วลูบอีก ยิ้มอยู่พูดว่า “เมื่อคืนเล่นมือถือไม่ทันระวัง มือถือนั้นตกลงมา ฟาดอยู่บนใบหน้าผมพอดี”
ตามความจริง นั่นเป็นรอยแผลที่ถูกเศษระเบิดกรีดผ่าน