พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 491 วิ่งหนีแล้ว
เรื่องที่นักธุรกิจมากมายในมณฑลซานเจียงล้มละลายนี้ก่อให้เกิดความสนใจอย่างกว้างขวางในสังคม ทุกคนล้วนอยากรู้อยากเห็นต่อเรื่องนี้อย่างมาก นี่ตกลงว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่ล่ะ? ทำไมมีนักธุรกิจมากมายขนาดนั้นอยู่ในวันเดียวกันกระทั่งในเวลาเดียวกันประกาศล้มละลายล่ะ? นอกเหนือจากนี้ก็คือเรื่องการระเบิดของวิลล่าดอกกุหลาบ
วิลล่าดอกกุหลาบเป็นกิจการของใครทุกคนล้วนรู้ ก็คือของคุณนายหลันที่สวยเตะตาผู้อื่นคนนั้น
แต่การระเบิดของวิลล่าดอกกุหลาบและข่าวของคุณนายหลันหายสาบสูญไร้ร่องรอยทั้งครอบครัวนี้ไม่นานก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาหายสาบสูญโดยสิ้นเชิงมากเกินไปแล้ว ไม่มีใครสามารถสืบหาเบาะแสของพวกเขาได้
“เรียนให้ราชามังกรทราบ ดูเหมือนมีคนแอบช่วยเหลือพวกเขาอยู่ ดังนั้นพวกเขาในตอนนี้ออกจากประเทศแล้ว”
“ปัจจุบันนี้ ไปยังทิศทางไหนไม่ชัดเจน”
ตอนที่เนี่ยเฟิงเห็นข่าวนี้อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก ดูแล้วพวกเขามีทางหนีทีไล่ล่ะ
“ไปสืบหาเบาะแสของพวกเขาต่อ”
ก็อยู่ในเวลานี้ เนี่ยเฟิงได้รับสายของพี่สอง
“เสี่ยวเฟิง ตอนนี้แกอยู่ที่ไหนล่ะ? ฉันอยู่ข้างนอกวิลล่า ฉันจะพาแกกลับไปฐานลับสักหน่อย”
“ตอนนี้ผมก็อยู่ในบ้าน มีเรื่องอะไรล่ะ? ทำไมรีบร้อนขนาดนั้นเหรอ?”
“คำพูดนี้ชั่วครู่ชั่วยามก็พูดไม่ชัดเจนเช่นกัน แกยังคงขึ้นรถก่อนเถอะ!”
หลังจากหยูจิงหงพูดจบก็วางสายเลย เนี่ยเฟิงรู้ว่า หากหยูจิงหงไม่มีเรื่องอะไรจะไม่มาหาตนเองอยู่แล้ว เขาเดินออกไปก็เห็นรถของหยูจิงหง จอดอยู่ข้างนอกวิลล่าจริงๆ
เนี่ยเฟิงไม่เอ่ยอะไรขึ้นรถเลย ใส่เข็มขัดนิรภัยให้ดี หยูจิงหงก็ใจตรงกันมากๆ ขับรถออกไปเลย
รถขับไปยังทิศทางเขตนอกเมือง หยูจิงหงจึงเอ่ยปากพูดกับเขาว่า “พวกเราได้รับข้อความที่ส่งมาจากข้างบน บอกว่าตรวจวัดถึงเมืองจันทร์ทองคำฝั่งโน้นเหมือนเกิดการปะทะกันบ้าง เรื่องนี้อาจจะใหญ่อาจจะเล็ก…….”
หลังจากหยูจิงหงพูดจบเงยหน้าจ้องมองเนี่ยเฟิงหนึ่งที “เดิมทีไม่เกี่ยวอะไรกับแกเลย แม้แต่เมืองจันทร์ทองคำฝั่งโน้นก็มีคนทดลองยาปรากฏตัวแล้ว”
เนี่ยเฟิงรู้แจ้งกระจ่างในฉับพลันพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว”
“ข้อความที่แม่นยำปัจจุบันนี้ผมยังไม่ได้ยึดกุม แต่ว่าไม่เป็นไร อีกสักครู่ตาแก่ไป๋จะบอกกับแกเอง”
พวกเขาเนี่ยเฟิงมาถึงฐานลับพร้อมกัน หลังจากมาถึงฐานลับ หยูจิงหงก็เลยพาเนี่ยเฟิงมาถึงออฟฟิศของตาแก่ไป๋
หลังจากถึงออฟฟิศ เนี่ยเฟิงก็เลยได้เห็นลักษณะท่าทีสีหน้าที่หนักอึ้งของตาแก่ไป๋
“ตาแก่ไป๋ ทำไมท่านมีลักษณะท่าทีแบบนี้ล่ะ?”
เนี่ยเฟิงซักถามอย่างไม่เกรงใจสักนิด
หลังจากคุณท่านไป๋เห็นเนี่ยเฟิงมาแล้ว ความหนักอึ้งที่อยู่บนสีหน้าไม่ลดกลับเพิ่ม “คุณมาได้พอดี ผมมีเรื่องจะเจรจาหารือกับคุณ หยูจิงหงคุณไปแผนกข่าวกรองสักหน่อยเอาข้อมูลบางอย่างเข้ามาก่อน ตอนนี้น่าจะมีข้อมูลใหม่แล้ว”
หยูจิงหงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “งั้นฉันรีบไปรีบกลับ เสี่ยวเฟิง แกรออยู่ที่นี่ก่อน”
หลังจากหยูจิงหงออกไป เนี่ยเฟิงก็เลยหาที่นั่งสักที่นั่งลง “ในเมื่อท่านหาข้ออ้างให้พี่สองของผมออกไปแล้ว งั้นท่านก็พูดมาตรงๆก็พอแล้ว”
“การระเบิดใหญ่เมื่อคืนของวิลล่าดอกกุหลาบคุณเป็นคนก่อให้เกิดใช่ไหม?”
ตาแก่ไป๋ก็ไม่อ้อมค้อม พูดตรงประเด็นโดยตรง
“ไม่ใช่ผมก่อให้เกิดล่ะ แต่เป็นเกิดขึ้นเพราะว่าผม ผมกำลังสืบหา เบาะแสของยาห้ามใช้อยู่ อีกทั้งได้รับข้อมูลบางอย่าง หลันเฟิงหลิงประธานสมาคมหอการค้าทั่วไปที่ในตอนต้นรุกล้ำอยู่มณฑลซานเจียงพวกเขาจัดรวบรวมคนให้เป็นกลุ่มใช้ยาห้ามใช้มาหาผลกำไรที่ผิดกฎหมาย เครือข่ายที่อยู่ภายใต้สลับซับซ้อนผมคิดว่าท่านน่าจะรู้เช่นกัน”
ตาแก่ไป๋พยักหน้านิดๆ “นี่ผมรู้ด้วยจริงๆ”
“เรื่องที่เรือสำราญจมอยู่ในทะเลนี้ และเรื่องที่นักธุรกิจเกือบหกร้อยกว่าแห่งประกาศล้มละลายในคร้้งนี้ แท้ที่จริงมีความเกี่ยวโยงกันอยู่แล้ว”
เนี่ยเฟิงจ้องมองตาแก่ไป๋หนึ่งที จากนั้นพูดต่ออีกว่า “เบื้องหลังของพวกเขาล้วนเกี่ยวข้องกับการค้าขายยาห้ามใช้อยู่ เพียงแค่คนของผมให้เบาะแสผมบางอย่าง ผมคิดว่าที่นี่น่าจะไม่นานท่านก็สืบได้แล้วเช่นกัน”
“สิ่งที่คุณพูดน่าจะเป็นชิปใช่ไหม? ที่นี่พวกเราก็ได้รับข่าวสารเช่นกันจริงๆ พวกเขาผู้รับผิดชอบทุกคนชิปที่ถืออยู่ในมือทุกเขตล้วนไม่เหมือนกัน อีกทั้งยาห้ามใช้จำเป็นต้องผลิตผ่านกระบวนการแต่ล่ะชั้นออกมาก็เนื่องเพราะยานี้กำไรอันมหาศาลมากเกินไปแล้วจริงๆไม่สามารถให้จับกุมด้วยตัวคนเดียวเป็นเพราะอย่างนี้นั่นเอง พวกเขาจึงแบ่งระบบอย่างนี้ออกมา”
ตาแก่ไป๋ลูบคางแล้วลูบคางอีก หลายวันนี้เพราะเรื่องเหี้ยๆนี้ เห็นได้ชัดว่าตัวเขาเองทรุดโทรมไปเยอะเลย เดิมทีเส้นผมของเขาขาวอยู่แล้วแต่ตอนนี้ดูแล้วเห็นได้ชัดยิ่งเหนื่อยล้า หนวดเครารุงรังจนยังไม่ทันได้โกน
“ตอนนี้ชิปถูกพวกเขาเก็บไปแล้ว อีกทั้งขาดไปชิ้นหนึ่ง ดังนั้นยาที่จัดจำจ่ายให้ท้องตลอดย่อมน้อยมากแล้วแน่นอน บวกกับคนของคุณกดขี่อยู่ คนของผมสืบอยู่อีก ก่อให้เกิดการจลาจลขึ้นมาทั่วทุกหนแห่งทั้งประเทศไม่น้อย”
“คนที่ในมือถือชิปอยู่เหล่านั้นย่อมคิดว่าที่นี่ไม่มีตลาดแล้วแน่นอน ดังนั้นพวกเขายังคงจะเก็บรวบรวมชิปอยู่อีก ปัจจุบันนี้เมืองจันทร์ทองคำฝั่งโน้น ก็ก่อให้เกิดการจลาจลไม่น้อยออกมาเช่นกัน ผมสงสัยว่าพวกเขานำพาชิปไปยังเมืองจันทร์ทองคำแล้ว”
ตาแก่ไป๋ขมวดคิ้วอย่างแน่น เขาอดไม่ไหวที่จะยื่นมือออกไปกดขมับหนึ่งที “เห้อ คุณรู้ไหมว่าเมืองจันทร์ทองคำฝั่งโน้นมีความรู้สึกไวมากขนาดไหนล่ะ”
เนี่ยเฟิงย่อมชัดเจนอยู่แล้ว สถานที่ผืนนั้นแตกแยกกลายเป็นสามพันธมิตรแล้ว ตลอดทั้งปีไฟแห่งสงครามไม่หยุดยั้ง เพียงแต่เมืองจันทร์ทองคำทั้งอุดมสมบูรณ์มากๆอีก คนทั้งหลายล้วนจับตาดูอยู่ ล้วนอยากจะแบ่งผลประโยชน์
แต่น่าเสียดายแล้ว นี่ไม่ใช่จะเข้าไปยุ่งด้วยได้อย่างง่ายดายขนาดนั้นล่ะ
เพราะว่าสามพันธมิตรใหญ่นี้รีบร้อนหวังแต่จะยึดพันธมิตรอื่นๆไว้เป็นของตน ดังนั้นพวกเขาไม่เอาด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกลรับซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เรือรบต่างๆจำนวนมาก
คิดว่ายาห้ามใช้สำหรับพวกเขามากล่าวแล้วก็จะเป็นของที่ทำสิ่งที่สวยงามอยู่แล้วให้สวยงามยิ่งขึ้นล่ะ
“คนกลุ่มนั้นทำความชั่วไว้มากมายอยู่ในประเทศของผมนานมากขนาดนั้น ปัจจุบันนี้หนีลอยนวลไปอีกทั้งยังนำชิปไปด้วย แต่เหลือพวกเหยื่อทดลองที่ถูกยาพิษทำร้ายมากขนาดนั้นไว้ พวกเขามีบางส่วนอายุยังน้อยขนาดนั้น พวกเราจำเป็นต้องเอาชิปที่เหลือมาให้ได้ทำการผลิตยาถอนพิษที่สามารถถอนยาห้ามใช้ให้หมดจึงจะได้”
ตาแก่ไป๋พูดจบใช้สายตาที่เฝ้ารอคอยจ้องมองเนี่ยเฟิง “ผมรู้ว่าตอนนี้ผมเอ่ยคำขอนี้ออกมาไร้เหตุผลมาก แต่ผมหวังว่าคุณเนี่ยจะสามารถพิจารณาช่วยพวกเราได้สักหน่อย”
คนของพวกเขาไม่สามารถส่งไปที่เมืองจันทร์ทองคำฝั่งโน้น เพียงแค่เขาเหยียบถึงเมืองจันทร์ทองคำ ก็ย่อมต้องขึ้นศาลทหารแน่นอน
“เรื่องนี้ผมจะพิจารณาสักหน่อยนะ”
ตาแก่ไป๋ก็เข้าใจเช่นกัน เนี่ยเฟิงจะไม่รับปากอย่างง่ายดายขนาดนั้น แต่ว่าถึงยังไงพวกเขาก็เป็นองค์กรทหารรับจ้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีกลุ่มทหารรับจ้างที่สุดยอดที่สุดอยู่! ถ้าหากสามารถร่วมงานกับเนี่ยเฟิงได้จริงๆ งั้นพวกเขาจะหาชิปกลับมาก็จะง่ายเยอะเลย
เวลานี้หยูจิงหงก็กลับมาแล้วเช่นกัน ในมือเธอถือข้อมูลที่นำมาจากแผนกข่าวกรอง เหมือนอย่างที่คิดข้อมูลเหล่านี้ แสดงให้ดูเหมือนแบบที่พวกเขาคาดเดาเมื่อกี้อย่างนั้น
“พวกเขาน่าเกลียดชังมากเกินไปแล้วจริงๆ หนี้ไปถึงที่นั่นก็จะไม่มีคนสามารถลงโทษพวกเขาได้แล้วเชียวเหรอ”
หยูจิงหงรู้สึกโมโหมากๆทุบโต๊ะทุบแล้วทุบอีก เพราะว่าเธอโมโหมากไปแล้ว ดังนั้นใช้แรงกำลังมากไปหน่อย ทุบโต๊ะจนเป็นหลุมโดยตรง
ตาแก่ไป๋พูดปลอบใจอยู่ว่า “คุณก็อย่าโมโหเลย พวกเขารู้ว่าทำมาหาเลี้ยงชีพให้รอดไปวันๆต่อไม่ได้แล้ว ย่อมต้องหาสถานที่อื่นอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าปัญหาทุกอย่างมีทางออก มักจะมีวิธีอยู่แล้ว!”
ตาแก่ไป๋พูดจบจ้องมองเนี่ยเฟิงหนึ่งที