พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 502 กระดูกหักแบบแตกละเอียด
พวกเขาย่อมไม่กล้ายิงอยู่แล้ว ก็กังวลว่าอะซาร์สจะตายอยู่ใต้เท้าของเนี่ยเฟิง ในเวลานี้อะซาร์สยังมีสติอยู่ เพราะว่าเนี่ยเฟิงไม่ได้ใช้ไม้ตายเลย
เขาเจ็บจนร้อง โอ้ว โอ้ว เสียงดัง ส่วนเนี่ยเฟิงคือเพิ่มแรงที่อยู่บนเท้าหนักมากขึ้น เนี่ยเฟิงยังคงควบคุมได้ดีมากอยู่ เพราะว่าเขาไม่คิดที่จะฆ่าอะซาร์ส
“เมื่อกี้ผมพูดอะไรอยู่นะ? ใช่แล้ว กล่าวขอโทษ”
เนี่ยเฟิงกดทับร่างกายลงไปกดแล้วกดทับอีก อะซาร์สเจ็บจนร้องเศร้าโศกออกมา
อะซาร์สได้รับความตื่นตระหนกตกใจอย่างมากเลย ที่ไหนเขายังจะกล้าตอบโต้อีกล่ะ? ทันใดนั้นเอ่ยปากพูดว่า “ขอโทษ ขอโทษ ผมผิดไปแล้ว เมื่อกี้ผมไม่ได้ตั้งใจล่ะ! ขอร้องพวกคุณอภัยให้ผมเถอะ!”
“ขอโทษจริงๆ เสียงของคุณเบาเกินไปแล้วจริงๆ ผมว่าคุณพูดเสียงดังหน่อยจะดีกว่า”
“ขอโทษ! ผมรู้จักผิดแล้วจริงๆ ขอร้องพวกคุณอภัยให้ผมเถอะ ผมไม่ควรลบหลู่พวกคุณล่ะ ให้โอกาสผมได้อยู่รอดต่อสักครั้งเถอะ!”
อะซาร์สพูดคำพูดเหล่านี้เสียงล้วนแทบจะแตกแล้ว คนทั้งซอยล้วนได้ยินแล้ว
จากนั้นเนี่ยเฟิงจึงเก็บเท้ากลับไป อะซาร์สคับขันลำบากมากๆดึงหัวของตนเองออกมา
“คุณควรรู้สึกโชคดีที่กระจกนี้ไม่ได้แหลมคมขนาดนั้น มิฉะนั้นก็ไม่ใช่แค่เสียโฉมง่ายๆขนาดนั้นแล้ว”
อะซาร์สกลืนน้ำลายหนึ่งทีอย่างลำบาก เขารีบถอยหลังก้าวหนึ่งจ้องมองเนี่ยเฟิงกับอะเดค่าอยู่ เขาโมโหมากๆ เมื่อกี้เขายังร้องขอชีวิตต่อๆกันอยู่ ในตอนนี้อะซาร์สกลับเหมือนเปลี่ยนรูปร่างลักษณะไปอีกแบบหนึ่งแล้ว “คุณถึงขนาดกล้าทำร้ายผม ผมว่าคุณไม่อยากอยู่ต่อแล้ว พวกคุณยังอึ้งอยู่ทำไมล่ะ ยังไม่รีบยิง!”
อะเดค่าอดไม่ไหวที่จะจับมือของเนี่ยเฟิงไว้อย่างแน่น “คุณผู้ชาย! จะทำยังไงดีล่ะ!”
กระสุนไร้ตา ถ้าหากบอดี้การ์ดเหล่านั้นยิงแล้ว งั้นพวกเขามีแค่ตายอย่างเดียว! เนี่ยเฟิงจ้องมองไปยังคนกลุ่มนั้นอย่างเย็นชา “คุณแน่ใจเหรอว่าจะยิงล่ะ?”
“ฮึ! เมื่อกี้คุณโหดเหี้ยมมากจริงๆ ยกเท้าเหยียบผมอยู่บนกระจกรถ แต่ว่าตอนนี้คุณควบคุมผมไม่อยู่แล้ว! ฮึ ฮึ! คุณรอกลายเป็นตะแกรงเถอะ!”
อะซาร์สยื่นมือออกมาลูบหน้าของตนเองลูบแล้วลูบอีก เขาสีหน้าโหดเหี้ยมจ้องมองเนี่ยเฟิงอยู่ คล้ายดั่งจะมองใบหน้าของเนี่ยเฟิงให้ทะลุกลายเป็นรูอันหนึ่งออกมา
“พวกคุณยังอึ้งอยู่ทำไมล่ะ? รีบยิงสิ ยิงเหี้ยชู้สาวคู่นี้ให้ตายเลย เมื่อกี้พวกคุณไม่เห็นพวกเขาปฏิบัติต่อผมยังไงเหรอ? ชนชั้นต่ำเหล่านี้ก็ควรไปตายให้หมดเลย!”
อะซาร์สเห็นพวกเขาอึ้งอยู่ไม่ยอมยิง ทันใดนั้นโมโหจนยั้งสติไม่อยู่!
เพียงแต่พวกเขาก็รักษาท่าทางอย่างนี้ไว้ ไม่ขยับสักนิด อะซาร์สมีความสงสัยงงงวยเล็กน้อย เขายื่นมือออกไปผลักบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆผลักแล้วผลักอีก ใครจะรู้ว่าบอดี้การ์ดคนนั้นถึงขนาดล้มอยู่กลับพื้นเสียงดังลั่น! อะซาร์สตื่นตกใจหนึ่งที ไอ้คนกลุ่มนี้ทำไมตั้งอยู่กับที่ล่ะ?
เมื่อกี้อะเดค่าก็ได้รับความตกใจไม่เบาเช่นกัน แต่พอเห็นฉากนี้อะเดค่าสงสัยงงงวยมากๆ ตกลงนี่เป็นเรื่องอะไรกันแน่ล่ะ?
“ขอโทษจริงๆนะ บอดี้การ์ดกลุ่มนี้ของคุณใช้ไม่ได้เป็นเวลาชั่วคราวล่ะ”
เนี่ยเฟิงทั้งพูดอยู่ทั้งเดินเข้าไป อยู่มุมสูงจ้องมองอะซาร์สอยู่ ในเวลานี้อะซาร์สอยากจะวิ่งหนี แต่วิ่งหนีไม่ได้แล้วเนี่ยเฟิงยกเท้าเตะไปยังข้อเท้าของเขา เขาล้มกับพื้นโดยตรง
เนี่ยเฟิงก้มหัวจ้องมองอะซาร์สอยู่ “เดิมทีผมอยากจะให้ทางรอดทางหนึ่งแก่คุณ แต่นึกไม่ถึงคุณอยากชนกับปากกระบอกปืน ทำให้ผมเสียเวลาไม่ว่า ยังจะรังเกียจผมอีก งั้นผมได้เพียงแต่สั่งสอนคุณสักหน่อยแล้ว”
ในตอนนี้อะซาร์สก็เหมือนเช่นดั่งเนื้อปลาที่อยู่บนเขียง ไม่สามารถขยับตัวเลยสักนิด เนี่ยเฟิงยกเท้าขึ้นเหยียบอยู่บนหัวเข่าของอะซาร์ส จากนั้นยิ้มตาหยีพูดว่า “คุณรู้ไหมอะไรเรียกว่ากระดูกหักแบบแตกละเอียดล่ะ?”
อะซาร์สกลืนน้ำลายหนึ่งทีอย่างลำบาก เหงื่อไหล่ลงมาในชั่วพริบตาเดียว!
“คุณ! คุณอยากจะทำอะไร!”
“คว้าก!”
เสียงดังเสียงหนึ่ง หัวเข่าของอะซาร์สแตกร้าวทันที!
เนี่ยเฟิงเย็นชากดขี่อยู่ เลือดแดงสดไหลออกมาจากหัวเข่าของอะซาร์ส เขาเจ็บจนกระทั่งร้องไม่ออก
“นี่ก็เรียกว่ากระดูกหักแบบแตกละเอียด”
เท้านี้ของเนี่ยเฟิง เหยียบจนเรียกได้เป็นคำที่ว่าไม่ลังเลแม้แต่น้อยอย่างนั้น ที่ไหนอะซาร์สจะเป็นคู่ต่อสู้ของเนี่ยเฟิงล่ะ ถูกเนี่ยเฟิงควบคุมไปหมดเลย หลังจากเหยียบไปหนึ่งทีเนี่ยเฟิงทั้งยังหักขาอีกข้างหนึ่งของอะซาร์สไป
ในเวลานี้แม้แต่ขยับอะซาร์สก็ขยับไม่ได้ จ้องมองลักษณะท่าทีที่หมดอาลัยตายอยากของเขา เนี่ยเฟิงค่อยๆดึงเข็มเงินที่อยู่บนกายชายใหญ่ล่ำหลายคนนั้นออก
“เป็นความซวยจริงๆ”
เนี่ยเฟิงลืมตาขาวหนึ่งที จากนั้นปัดฝุ่นที่อยู่บนกายปัดแล้วปัดอีก ส่วนคราบเลือดที่อยู่บนรองเท้าคือใช้เสื้อราคาแพงที่อยู่บนกายอะซาร์สมาเช็ดให้สะอาดแลย
อยู่ที่นี่หลังจากเกิดความวุ่นวาย ไม่มีใครกล้าใกล้ชิด พวกเขาล้วนหลบไปไกลๆ ถึงยังไงเดือดร้อนและถูกทำร้ายก็จะไม่ดีเลย
ดังนั้นตอนที่พวกเขาเห็นเนี่ยเฟิงกับอะเดค่าทั้งสองคนไม่ได้รับบาดเจ็บสักนิดเดินเข้าไปในหมื่นช้าง พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเบิกตาโพลง
นี่ตกลงว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่? ทั้งสองคนนี้ถึงขนาดไม่ได้ถูกอะซาร์สจัดการไปเหรอ?
ในเวลานี้ร่างกายของบอดี้การ์ดหลายคนนั้นชา ไม่สามารถขยับตัวเลยสักนิด อีกทั้งคนที่นี่เย็นชามากๆอีก ไม่มีคนยินยอมโทรเรียกรถพยาบาล ผ่านไปนานมากเนี่ยเฟิงจึงได้ยินเสียงรถพยาบาลมา คิดว่าไอ้คนกลุ่มนั้นน่าจะถูกลากไปยังโรงพยาบาลแล้ว
เนี่ยเฟิงเก็บสายตากลับไป ดูรุ่นของมือถือเหล่านี้ต่อ
อาจจะเป็นเพราะว่าเกิดความวุ่นวายของข้างนอก ดังนั้นคนในอาคารตอนนี้ก็เคารพต่อเนี่ยเฟิงมากๆเช่นกัน ถึงยังไงคนที่อยู่ในประเทศนี้มีเงินมีอำนาจมีความสามารถก็คือตัวแทนของผู้แข็งแกร่ง พวกเขาจะไม่โง่เขลาจนไปแส่หาเรื่องกับผู้แข็งแกร่งคนหนึ่ง
เนี่ยเฟิงซื้อมือถือได้อย่างราบรื่นมากๆ จากนั้นเอามือถือเก่าของตนเองยื่นไปให้อะเดค่า “มือถือเครื่องนี้เปลี่ยนซิมการ์ดของที่นี่แล้ว ถ้าจะใช้ยังใช้ได้อยู่ล่ะ แต่เพียงแค่ไม่ได้ใช้ดีเท่ากับมือถือที่นี่เท่านั้น”
อะเดค่าตกกะใจ เธอยื่นมือที่สั่นระริกออกไปรับมือถือเก่าเครื่องนั้นมา “คุณผู้ชาย อันนี้จะให้ฉันจริงเหรอ?”
“ถ้าหากคุณไม่เอาละก็งั้นก็คืนให้ผมเถอะ”
“เอา! เอาอยู่แล้ว! ขอบคุณคุณผู้ชาย!” อะเดค่าดีใจจนกระโดดโลดเต้น
“ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเวลากินอาหารเที่ยงแล้ว พวกเราหาสถานที่หนึ่งกินข้าวก่อนเถอะ”
เนี่ยเฟิงซื้อมือถือเสร็จหลังจากทดสอบสมรรถนะสักหน่อย ก็เลยรู้สึกท้องหิวจนร้อง ปุด ปุด เช้าวันนี้เขาไม่ได้กินอะไรเลย เพราะว่าถูกไอ้คนกลุ่มนั้นทำจนรู้สึกคลื่นไส้กินไม่ลง
อะเดค่าพยักหน้าทันทีติดตามอยู่ข้างหลังเนี่ยเฟิง บอกกับเนี่ยเฟิงว่าร้านอาหารที่ไหนค่อนข้างอร่อย หลังจากเนี่ยเฟิงได้ยินหันหน้าไปถามอะเดค่าว่า “คุณรู้ได้ยังไงว่าร้านอาหารเหล่านั้นอร่อย คุณเคยกินมาก่อนเหรอ?”
ใบหน้าเล็กๆของอะเดค่าแดงแล้วแดงอีก เธอพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกนิดๆ “แต่ก่อนตอนที่ยังไม่ได้ล่วงเกินเจ้าเมืองเมืองกู่ปา ฉันวิ่งเต้นบากบั่นช่วยร้านอาหารพวกเขาเหล่านี้ล้างจานบ่อยๆ มีลูกค้ามากมายล้วนกินเพียงแค่เล็กน้อย ถ้าเหลือเยอะมากละก็ฉันสามารถห่อกลับไปได้”
แต่เพราะว่าล่วงเกินเจ้าเมืองเมืองกู่ปาแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวล้วนถูกทำให้โดดเดี่ยวเดียวดายเลย ดังนั้นคนอื่นๆก็ไม่กล้ายื่นมือช่วยเหลือพวกเขาเหมือนกัน ด้วยเหตุนี้อะเดค่าจึงไปที่บาร์นั้นขโมยของ
“งั้นก็เลือกสักร้านที่คุณรู้สึกอร่อยไปกินเถอะ” เนี่ยเฟิงไม่มีการเรียกร้องสูงมากกับอาหารเลย เพราะว่าฝีมือการทำอาหารสำหรับตัวเขาเองก็เก่งมากอยู่แล้ว กล่าวโดยทั่วไปเนี่ยเฟิงล้วนจะทำกับข้าวกินเอง เพียงแค่อยู่ในต่างแคว้นแดนไกลนี้อยากจะทำอาหารเกรงว่ามีความยากเล็กน้อย
“ก็ร้านนี้เถอะ อาหารของร้านนี้ไม่เลวมากนะ!”
อะเดค่าตื่นเต้นดีอกดีใจชี้ไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่ง ชี้แล้วชี้อีก เนี่ยเฟิงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก ทั้งสองคนเพิ่งเข้าไปจะสั่งอาหาร เถ้าแก่ก็ออกมาเลย
“อะเดค่าคุณคงยังรีบไปก่อนเถอะ ถ้าหากถูกเจ้าเมืองรู้ว่าคุณมาหาผมที่นี่ พวกเราย่อมจะถูกกระทบไปด้วยอย่างแน่นอน!”