พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 503 จัดการเอง
อะเดค่าอึดอัดมากๆ เธอจ้องมองเนี่ยเฟิง ยิ้มขมพูดอยู่ว่า “คุณผู้ชาย ไม่งั้นพวกเราเปลี่ยนสถานที่ใหม่กันเถอะ?”
เนี่ยเฟิงก็รู้ คนเหล่านี้แสวงหาโชคหลีกเลี่ยงความชั่วร้ายอยู่แล้ว นี่ก็เป็นปกติของความเป็นคนเช่นกัน เป็นเรื่องปกติมาก
แต่ว่าพวกเขาเปลี่ยนสถานที่ต่อๆกันหลายแห่งยังคงไม่มีคนยินยอมให้พวกเขานั่งกินข้าวสักมื้อ
อะเดค่าท้อแท้แล้ว “คุณผู้ชาย ไม่งั้นคุณไปกินข้าวเองเถอะ? หลายร้านนั้นที่เสนอไปเมื่อกี้ล้วนไม่เลวมากนะ พาฉันไปด้วยวันนี้คุณน่าจะไม่มีข้าวกินเลย”
เนี่ยเฟิงจ้องมองนาฬิกาข้อมือหนึ่งที เวลายังไม่สาย ดังนั้นเขาไม่พูดแม้แต่คำเดียวมาถึงซูเปอร์มาร์เก็ต อะเดค่าก็ไม่รู้ว่าเนี่ยเฟิงอยากจะทำอะไร เธอรีบตามเข้าไป
เนี่ยเฟิงเข้าไปเลือกวัตถุดิบทำอาหารบ้างเล็กน้อยในซูเปอร์มาร์เก็ต จากนั้นถามอะเดค่าว่า “ห้องครัวของคุณยังใช้ได้หรือไม่?”
“ถ้าจะใช้ก็ยังใช้ได้ แต่ว่าคุณผู้ชายถามสิ่งนี้ทำไม คุณอยากจะเอาวัตถุดิบทำอาหารกลับไปทำกับข้าวเลยเชียวเหรอ?”
อะเดค่าติดตามอยู่ข้างกายเนี่ยเฟิง เงยหน้าจ้องมองเนี่ยเฟิงอยู่
“ไม่งั้นล่ะ?” เนี่ยเฟิงพูดจบวางไข่กล่องหนึ่งไว้ในรถเข็นอีก เขาซื้อของเร็วมาก ผ่านไปไม่นานก็ซื้อเสร็จจ่ายเงินแล้ว อะเดค่าคล้อยตามทุกอย่างติดตามอยู่ข้างหลังเนี่ยเฟิง ยังช่วยหิ้วน้ำดื่มสองขวดอีกด้วย
“คุณผู้ชายแท้ที่จริงไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้นนะ คุณไปแค่คนเดียวละก็จะไม่มีคนขวางคุณอยู่นะ ประเด็นหลักคือเนื่องเพราะคุณพาฉันไปอยู่ข้างกาย ดังนั้นพวกเขาล้วนไม่ยอมขายของให้คุณ พวกเขาล้วนเป็นคนดี เพียงแค่พวกเขาถูกเจ้าเมืองกดดัน ดังนั้นไม่ยอมขายของให้คุณเท่านั้น”
อะเดค่ามีความลำบากใจเล็กน้อย พอนึกถึงเนี่ยเฟิงเนื่องเพราะเธอจะต้องทำกับข้าวเอง อะเดค่าก็เลยรู้สึกว่าเธอไม่เอาไหนมาก
เนี่ยเฟิงไม่ได้ตอบคำพูดของอะเดค่า ถือของไว้เรียกรถกลับไปถึงเมืองกู่ปาโดยตรง หลังจากกลับถึงคลินิกแพทย์แผนจีน เวสลี่เด็กกลุ่มนั้นเฮโลเข้ามาทันที จ้องมองถุงที่หิ้วอยู่ในมือเนี่ยเฟิงตาปริบๆ
“หลังจากพวกเราออกไป ไอ้คนกลุ่มนั้นได้มาอีกหรือไม่?” เนี่ยเฟิงมาถึงห้องครัวสำรวจหนึ่งที ของที่อยู่ในห้องครัวยังคงสะอาดมากอยู่ ดังนั้นล้างหม้อสักหน่อย ก็เลยให้เวสลี่ก่อไฟ
เวสลี่วิ่งกระโดดไปก่อไฟขึ้นมา จากนั้นส่ายหัวอย่างโอหังมากๆ “ไอ้คนกลุ่มนั้นน่าจะหวาดกลัวอานุภาพของคุณผู้ชายแล้ว ดังนั้นพวกเขาไม่กล้ามาอีก! คุณผู้ชาย พวกเราจะทำอะไรล่ะ?”
“ย่อมจะทำกับข้าวอยู่แล้ว”
อาหารที่เนี่ยเฟิงทำไม่ใช่ใครก็จะสามารถได้กินนะ อีกทั้งเขาทำอาหารใช้เพียงแค่วัตถุดิบทำอาหารที่ง่ายๆ ก็สามารถทำอาหารที่อร่อยมากๆออกมาได้
ผ่านไปไม่นาน ในคลินิกแพทย์แผนจีนขนาดเล็กเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของอาหารอยู่ เด็กคนอื่นๆจ้องมองตาปริบๆอยู่ล้วนหิวจนท้องร้องจ้อกๆแล้ว เนี่ยเฟิงทั้งทำกับข้าวอยู่ทั้งส่งข้อความให้กับพวกพี่ๆ
ประเด็นหลักคือเขามาถึงที่นี่มือถือใช้ไม่ได้แล้ว ดังนั้นก็ติดต่อคนในประเทศไม่ได้เช่นกัน ตอนนี้เปลี่ยนมือถือเครื่องหนึ่งทั้งเปลี่ยนซิมการ์ดแล้ว ดังนั้นก็สามารถโทรติดต่อกับคนในประเทศเลย
“เสี่ยวเฟิง แกทำให้พวกพี่ๆตกใจแทบตายเลย! พี่ห้าไอ้คนนี้จัดการเรื่องทำไมไม่เป็นอย่างที่ควรล่ะ ตั้งแต่แรกก็ควรที่จะให้เธอช่วยแกเปลี่ยนซิมการ์ดให้เรียบร้อยแล้ว พวกเรายังคิดว่าแกเกิดอุบัติเหตุอะไรไปแล้ว เกือบจะแจ้งความเลย!”
โจวลี่ซือรู้สึกผิดยิ้มอยู่พูดว่า “นี่ฉันไม่ใช่ลืมแล้วเช่นกันเหรอ? พูดได้อีกว่า ฉันบินไปบินมาอยู่บนท้องฟ้าเล่นมือถือก็ไม่ได้ ดังนั้นน้อยมากที่ฉันจะใช้เครื่องสื่อสารล่ะ ครั้งนี้ก็อภัยให้ฉันเถอะ!เสี่ยวเฟิง ทางนั้นแกเป็นยังไงบ้างแล้ว? ไปรายงานตัวที่โรงเรียนหรือยัง?”
เนี่ยเฟิงมาถึงที่นี่ไม่ได้จะไปเรียนเลยสักนิด แต่เนื่องเพราะข่าวสารจะถูกคอยสังเกตควบคุมอยู่ ดังนั้นเนี่ยเฟิงคิดที่จะไปศึกษาเพิ่มเติมในโรงเรียนสักครั้งจริงๆ หนึ่งสามารถตบตาคน สองทั้งยังสามารถทำให้เขามีสถานที่ซุกหัวนอนแห่งหนึ่ง
พูดได้อีกว่า ใครก็ไม่รู้ว่าการต่อสู้ฉากนี้จะเป็นการต่อสู้อย่างต่อเนื่องฉากหนึ่งหรือไม่ ถ้าไอ้คนกลุ่มนั้นหลบอยู่ตลอดล่ะก็ เขาจะเรียกใช้ความสามารถของตนเองหาคนอยู่ที่นี่ อาจจะยากลำบากกว่าเล็กน้อย ถึงยังไงนี่ก็เป็นเขตอิทธิพลของคนอื่น
“ผมเตรียมตัวจะไปรายงานที่โรงเรียน อยู่ก่อนหน้านี้ผมคิดว่าจะทำความคุ้นเคยๆกับสภาพแวดล้อมทางนี้ก่อน พวกคุณวางใจ ผมได้ผู้นำทางมาแล้ว”
พอได้ยินเนี่ยเฟิงพูดอย่างนี้ พวกเธอก็วางใจลงเลย “เพียงแค่แกปลอดภัยไม่เป็นไร งั้นทุกอย่างคุยกันง่าย! นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว แกก็รีบไปกินข้าวเถอะ มีเรื่องอะไรค่อยพูดคุยกับพวกพี่ๆอีก”
หลังจากพวกพี่ๆวางสายลง เนี่ยเฟิงตักอาหารออกมา เขาทำอาหารหลายอย่าง ทั้งยังหุงข้าวหม้อหนึ่ง ร่างกายของเด็กเหล่านี้ยังอยู่ในช่วงเติบโตอยู่ เห็นอาหารที่เพียบพร้อมด้วยรูปกลิ่นรส พวกเขาล้วนจะน้ำลายไหลแล้ว
เนี่ยเฟิงเห็นเด็กกลุ่มนี้เกาะดึงขอบประตูอยู่ จ้องมองตาปริบๆอยู่ข้างนอก ดังนั้นเขากวักมือแล้วกวักมืออีกกับเด็กๆกลุ่มนี้ “ถ้าไม่เข้ามากินข้าวอีก กับข้าวเหล่านี้ล้วนจะเย็นแล้ว พวกแกอยากจะกินตอนเย็นๆเลยเชียวเหรอ?”
พวกเด็กพอได้ยินเนี่ยเฟิงพูดอย่างนี้ก็ไม่สนใจอย่างอื่นอีกเลย เห็นเพียงพวกเขาพุ่งเข้าไปหยิบถ้วยกับช้อนกินเข้าไปเลย
หลังจากอะเดค่าได้ชิมฝีมือของเนี่ยเฟิง เธอตกกะใจ “คุณผู้ชาย รสชาติกับข้าวที่คุณทำอร่อยจริงๆนะ!”
“ยังพอใช้ได้ล่ะ” เนี่ยเฟิงโบกมือแล้วโบกมืออีก ไม่นานก็กินอิ่มแล้ว
ตอนที่อะเดค่าเก็บโต๊ะเสร็จออกไป มองเห็นเนี่ยเฟิงกำลังฝึกหายใจเข้าออกอยู่ อะเดค่าอยากรู้อยากเห็นเดินเข้าไป ก็ไม่กล้ารบกวนเนี่ยเฟิงเช่นกัน
ตลอดจนเนี่ยเฟิงฝึกหายใจเข้าออกเสร็จ อะเดค่าจึงเข้าไปยื่นผ้าเช็ดหน้าให้
“คุณปู่ของพวกคุณเสียชีวิตไปแล้ว เห็นลักษณะท่าทีน่าจะไม่มีคนปกป้องพวกคุณได้แล้ว คลินิกแพทย์แผนจีนนี้ก็เปิดต่ออีกไม่ได้เลย พวกคุณจะเฝ้าไว้อยู่ที่นี่ตลอดชีวิตเลยเชียวเหรอ?”
ขอบตาของอะเดค่าแดงแล้วแดงอีก เธอส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีกหมดหนทางเหลือเกินพูดว่า “พวกเราก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี แต่ว่าที่นี่ถึงยังไงก็เป็นคลินิกแพทย์แผนจีนของคุณปู่ ถึงแม้ว่าดูแล้วชำรุดทรุดโทรมมากๆ แต่กลับเคยเป็นบ้านที่อบอุ่นของพวกเราเช่นกัน พูดได้อีกว่าไอ้คนกลุ่มนั้นที่บังคับแย่งชิง ไม่คิดที่จะให้เงินเลยสักนิด พวกเราล้วนเป็นคนที่ลำบากยากแค้น ฉันไม่รู้ว่าจะเลี้ยงพวกน้องๆอยู่รอดได้ยังไง”
อะเดค่ากำกำปั้นกำแล้วกำอีก จากนั้นถอนหายใจหนึ่งที “ถ้าหากฉันไม่ใช่เด็กกำพร้าจากสงครามฉันมีปริญญาบัตร ฉันน่าจะไม่ตกอับร่อนเร่ถึงขั้นนี้ เพียงแค่ชีวิตก็เป็นเช่นนี้ล่ะ ฉันก็ไม่มีทางอื่นเช่นกัน”
อะเดค่าเช็ดน้ำตาที่อยู่หางตาเช็ดแล้วเช็ดอีก จากนั้นจ้องมองไปยังเนี่ยเฟิงด้วยรอยยิ้มที่สวยสดงดงาม “คุณผู้ชาย คุณไม่ต้องห่วงพวกเรา พวกเราย่อมมีวิธีให้คงอยู่ต่อไป กลับเป็นคุณ คุณช่วยพวกเราเยอะมากแล้ว พวกเราไม่หวังที่จะเพิ่มความยุ่งยากให้กับคุณ!”
เนี่ยเฟิงนึกถึงว่าเมื่อกี้ที่จัดการลูกชายของเจ้าเมือง เขาย่อมจะหาตนเองทั่วโลกอย่างแน่นอน
ช้าเร็วก็จะมาหาถึงที่นี่เช่นกัน เนี่ยเฟิงทำตายี๋แล้วทำตายี๋อีก “ผมจะไปพูดคุยกับพวกเขาสักหน่อยเถอะ”
อะเดค่าเบิกตาโพลงอย่างดุเดือด เธอส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีกอย่างรีบเร่งมาก “อย่างนี้ไม่ได้นะ พวกเขาล้วนเป็นไอ้คนพวกผีห่าซาตานทั้งหลาย คุณไปที่นั่นได้แต่อาจจะถูกรังแกเท่านั้น พูดได้อีกว่าพวกเขาไม่มีเหตุผล คุณไปแล้วก็ไม่มีประโยชน์เช่นกัน!”
เนี่ยเฟิงรู้ ไอ้คนกลุ่มนั้นย่อมไม่ใช่คนดีอะไรแน่นอน อะซาร์สสามารถขูดรีดคนอื่นอย่างนี้ได้ ไม่ต้องคิดก็รู้ไอ้คนนี้ก็เป็นไอ้ทุเรศตั้งแต่หัวจรดเท้าคนหนึ่ง
“ผมทำร้ายลูกชายของเจ้าเมือง ถึงเวลานั้นพวกเขาย่อมจะมาหาถึงที่นี่แน่นอน อะซาร์สก็เห็นใบหน้าของคุณไปแล้ว คุณรู้สึกว่าคุณจะสามารถหลบพ้นได้เหรอ?”
ใบหน้าของอะเดค่าซีดขาวในชั่วพริบตาเดียว เธอมีความตกตะลึงพรึงเพริดเล็กน้อย
“ในเมื่อผมเป็นคนตี งั้นสมควรเป็นผมมาจัดการ เรื่องอื่นๆคุณก็อย่ายุ่งเลย”