พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 513 เข้าเรียน
อลิซพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก ประเด็นหลักคือเนี่ยเฟิงร้ายกาจมากเกินไปแล้วจริงๆ เมื่อกี้ก็เหมือนเช่นดั่งเทวดาจุติลงมาช่วยเธอ
“งั้นคุณจะต้องจ่ายค่าตอบแทนสักหน่อยจึงจะได้”
อลิซเห็นเนี่ยเฟิงซุกเข้ามาแล้ว ใบหน้าของเธอแดงขึ้นในทันที เธออ้ำๆอึ้งๆถามว่า “ฉันต้องจ่ายอะไรเหรอ? คุณต้องการเงินเท่าไหร่?”
“ใช้เงินซื้อผมไม่ได้นะ” เนี่ยเฟิงลูบคางแล้วลูบคางอีก พินิจพิเคราะห์อลิซขึ้นลงอยู่ เห็นอลิซใบหน้าแดงขึ้นแล้ว เขาเพียงรู้สึกว่าสนุก ดังนั้นเขาหยอกล้อพูดอยู่ว่า “ไม่งั้นคุณอุทิศตัวเองทั้งหมดเถอะ?”
แป๊บเดียวใบหน้าของอลิซแดงขึ้นเลยก็เหมือนเช่นดั่งแอปเปิล “คุณ! คุณพูดอะไรนะ!”
“ไม่ยินยอมล่ะก็แล้วไป” เนี่ยเฟิงยักไหล่แล้วยักไหล่อีก “ยังไงภารกิจผมก็ทำสำเร็จแล้ว สำหรับผู้ชายคนนี้คุณอยากจะจัดการยังไงเป็นเรื่องของคุณ ไม่เกี่ยวอะไรกับผม”
เนี่ยเฟิงพูดจบ ก้าวเดินเร็วเหมือนดาวตกออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อเลย
เดิมทีอลิซอยากจะไล่ตามขึ้นไป แต่เห็นไอ้คนที่หมดสตินอนอยู่กับพื้น เธอยุ่งจนทั้งตัวเป็นเกลียวอีก ได้เพียงแต่รอยามรักษาความปลอดภัยเข้ามาจัดการ
ในเวลานี้อลิซก็ไม่มีอารมณ์จะไปเรียนแล้ว เดิมทีเธอก็ไม่จำเป็นต้องเรียนอยู่แล้ว เพราะว่าเธอเป็นเจ้าเมืองน้อยของเมืองทอง
บวกกับเนี่ยเฟิงส่งภารกิจเสร็จแล้ว เจ้าเมืองเมืองทองดีใจมากๆ แต่ก็กังวลความปลอดภัยของลูกสาวตนเองมาก หลังจากติดต่ออลิซแล้ว รีบให้บอดี้การ์ดไปรับอลิซกลับมา
อลิซอยู่บนรถยังคิดเรื่องของเนี่ยเฟิงอยู่ เธอยิ่งคิดยิ่งรู้สึกเขินอาย เพราะว่าเธอไม่เคยเห็นผู้ชายแบบนี้มาก่อนเลย ตอนนี้เธอก็ยังรู้สึกว่าหัวใจดวงหนึ่ง “ตึง ตึง” เต้นมั่วไปหมดควบคุมไม่อยู่
ในเวลานี้เนี่ยเฟิงไม่มีความคิดเหล่านี้นะ หลังจากเขาส่งมอบภารกิจเสร็จ เจ้าเมืองของเมืองทองอยากจะให้เขาเข้าพบ เพราะว่าเขาใช้ฝีมือรวดเร็วรุนแรงจัดการคนร้ายที่คุกคามอลิซคนนั้นไปแล้ว
เนี่ยเฟิงไม่ได้ไปพบกับเขาเลย แต่ให้เขาเปลี่ยนค่าตอบแทนเป็นจดหมายแนะนำ
ต้องรู้ว่า นั่นเป็นเหรียญสิบล้านเหรียญ นี่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ! ซื้อจดหมายแนะนำอยู่ในตลาดมืดล้วนไม่ถึงราคานี้ วัยรุ่นคนนี้ถึงขนาดเปลี่ยนเป็นจดหมายแนะนำโดยตรงเลย
แม้ว่าเจ้าเมืองเมืองทองตกใจมาก แต่ยังคงเปลี่ยนเป็นจดหมายแนะนำให้กับเนี่ยเฟิง
เขากลับอยากจะรู้จักนักล่าเงินรางวัลคนนี้มากๆ แต่น่าเสียดายนักล่าคนนี้ไม่ระบุชื่อ แต่ว่านักล่าสามารถทำได้ทุกอย่างที่มีชื่อเสียงอยู่บนตารางจัดอับดับก็แค่ไม่กี่คนนั้น ตอนที่เขาเห็นจะเชิญเขากินข้าวได้หรือไม่
ถึงยังไงเมืองจันทร์ทองคำที่นี่มักจะเกิดการจลาจล มีนักล่าเงินรางวัลที่ไว้ใจได้สักคนเฝ้าคุ้มครองอยู่ สำหรับเขามากล่าวจะดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
เนี่ยเฟิงก็ได้จดหมายแนะนำอย่างง่ายดาย
มีจดหมายแนะนำ อยากจะเข้าโรงเรียนผู้ดีเมืองจันทร์ทองคำก็จะค่อนข้างง่ายเลย
เนี่ยเฟิงก็ไม่ได้เสียเวลาเช่นกัน ไปฝ่ายลงทะเบียนดำเนินขั้นตอนการลงทะเบียนโดยตรง มีจดหมายแนะนำกับเงินเนี่ยเฟิงอยู่ในช่วงบ่ายก็กลายเป็นนักเรียนคนหนึ่งของโรงเรียนผู้ดีเมืองจันทร์ทองคำแล้ว
เขาย่อมสามารถพักอยู่ข้างนอกอยู่แล้ว แต่ว่าเนี่ยเฟิงคิดแล้วคิดอีก ในโรงเรียนมีหอพักนักเรียนที่แยกต่างหาก เขาก็ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากขนาดนั้น เขาไปดำเนินขั้นตอนการเข้าพักโดยตรง ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายที่นี่แพงจนทำให้คนตื่นตะลึง แต่สำหรับเนี่ยเฟิงมากล่าวแล้วเพียงแค่เรื่องขี้ปะติ๋วเท่านั้น
หลังจากเนี่ยเฟิงทำขั้นตอนเสร็จสิ้น ถ่ายวิดีโอส่งไปยังกลุ่มแชทของพวกพี่ๆโดยตรง “พวกพี่ๆ ผมเข้าพักในหอพักของโรงเรียนแล้ว ที่นี่ดีมาก พวกคุณวางใจเถอะ!”
ตอนจบ เนี่ยเฟิงยังชูสองนิ้วขึ้นมาอีก ดูแล้วก็เหมือนเช่นดั่งนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ไร้เดียงสาใสซื่อบริสุทธิ์คนหนึ่ง
หลังจากชิวมู่เฉิงและพี่ๆคนอื่นเห็นเนี่ยเฟิงเข้าพักในเโรงเรียนแล้ว ก็โล่งอกไปที
ถึงแม้ชิวมู่เฉิงรู้ว่าเนี่ยเฟิงไปเรียนที่นั่นเพียงแค่ตบตาคน สิ่งที่เขาอยากทำจริงๆคือหาพวกไอ้คนที่หนีไปยังเมืองจันทร์ทองคำเหล่านั้น
แต่ว่าชิวมู่เฉิงยังคงปลื้มใจมาก
“แกอยู่ที่นั่นต้องอยู่ร่วมกับพวกเพื่อนๆนักเรียนให้ดี อย่าเกิดความขัดแย้งอะไรกันนะ รู้ไหม?”
“รู้แล้วล่ะ! พี่ใหญ่วางใจเถอะ! หอพักที่นี่ยังเป็นตัวของตัวเองอยู่ผมก็เป็นไปไม่ค่อยได้ที่จะเกิดความขัดแย้งกันและการปะทะกันกับคนอื่นเช่นกัน ผมจะเป็นเด็กดีมาก!”
เนี่ยเฟิงส่งข้อความนี้กลับไปอย่างรวดเร็ว
“เสี่ยวเฟิงไม่อยู่ในประเทศแล้ว ฉันเสียใจมากนะ ทุกครั้งถ่ายหนังเสร็จกลับมา เห็นในห้องนอนโหรงเหรงวังเวงอยู่ บนโต๊ะอาหารก็ไม่มีอาหารที่อร่อยเช่นกัน ฉันก็รู้สึกทรมาน ไอ้”
คางเมิ่งดูน่าสงสารมากส่งอีโมจิไปอันหนึ่ง
“กับข้าวที่ฉันทำไม่ถูกปากคุณช่างขอโทษจริงๆนะ!” เย่หรูเสว่หัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง คางเมิ่งรีบอธิบายว่า “น้องหกแกเข้าใจผิดฉันแล้ว! ฉันไม่ได้หมายความว่าอาหารที่แกทำไม่อร่อยฉันเพียงแค่พูดว่าสิ่งที่เสี่ยวเฟิงทำอร่อยมากจริงๆล่ะ!”
พวกเธอทั้งสองคนร้องเพรียกทะเลาะวิวาทขึ้นมาเลย ในเวลานี้พี่สี่หมิงอี๋หานซักถามว่า “แกอยู่ที่นั่นเงินพอใช้ไหม? ค่าเรียนในโรงเรียนนี้แพงมากนะ ฉันโอนไปให้แกสักหน่อยเถอะ”
เนี่ยเฟิงรู้สึกหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “ไม่ต้อง ผมพอใช้!”
แต่ยังไม่ทันรอเนี่ยเฟิงมีปฏิกิริยากลับมา เขาก็ได้รับข้อความเงินโอนเข้าแล้ว—ได้รับการโอนเงินจากบัตรธนาคารหนึ่งล้านบาท
ต่อจากนี้มาอีกหลายข้อความ ล้วนเป็นนับล้านขึ้นไป พี่ๆอีกหลายคนก็โอนเงินให้เขาเช่นกัน
เนี่ยเฟิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจหนึ่งที เพราะว่าเขาไม่ได้พูดเล่น เขามีเงินมากจริงๆ
เดิมทีเนี่ยเฟิงอยากจะโอนเงินเหล่านี้คืนไปให้พวกพี่ๆของตนเอง ใครจะรู้ว่าพวกเธอชัดเจนว่าเนี่ยเฟิงอยากจะทำอะไรแล้ว ทันใดนั้นกล่าวเตือนว่า “แกจงอย่าโอนเงินก้อนนี้กลับคืนให้พวกเรานะ รู้ไหม? ให้แกก็เก็บไว้ รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม!”
นิ้วของเนี่ยเฟิงหมุนหนึ่งที ไม่มีทางอื่น รอถึงเวลานั้นค่อยให้พวกสมาชิกของสำนักมังกรดูแลพวกพี่ๆหลายคนมากหน่อย ให้พวกเธอหาเงินได้ยิ่งมากกว่านี้ก็พอแล้ว
“รู้แล้ว รู้แล้ว! ผมจะประยุกต์ใช้ให้ดีๆ พวกพี่ๆก็ต้องรู้จักพักผ่อนเช่นกัน! ตอนที่ผมปิดเทอมแล้วก็จะกลับไปหาพี่ๆ!”
ตามความจริง คางเมิ่งและหลายๆคนคิดจะไปหาเนี่ยเฟิงแล้ว เธอถ่ายหนังที่ไหนล้วนไปได้ แม้ว่าเมืองจันทร์ทองคำมักจะเกิดการจลาจล แต่ว่าทิวทัศน์ของที่นั่นสวยมาก ก็เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เอามาเป็นฉากถ่ายหนังได้อยู่แล้ว
หลังจากเนี่ยเฟิงทักทายตามธรรมเนียมกับพวกพี่ๆหลายคำ ก็ทำการจัดเก็บห้องนอนที่ตนเองพักสักหน่อย
และในเวลานี้อลิซกลับไปถึงเมืองทองแล้ว อลิซตั้งใจจะไปสืบเรื่องเกี่ยวกับเนี่ยเฟิงกับบิดาของตนเอง บิดาก็ไม่ค่อยชัดเจนมากเช่นกัน ทันใดนั้นอลิซหงุดหงิดโมโห
“แม้ว่าบิดาเป็นคนจ้างเขา แต่ไม่ว่าเป็นยังไงเขาล้วนเป็นผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตฉันเช่นกันล่ะ พ่อ ฉันไม่ควรต้องไปขอบคุณกับเขาให้ดีๆเลยเชียวเหรอ? ท่านก็ช่วยฉันสืบเส้นสนกลในของเขาสักหน่อยเถอะ?”
เจ้าเมืองเมืองทองก็มีลูกสาวคนนี้คนเดียว เขาปกป้องอยู่ในมือก็กลัวทำหล่น อมอยู่ในปากก็กลัวละลายเลย พอขอร้องย่อมจะรับปากทันทีอยู่แล้ว
“ได้ พ่อรับปากแก ตอนนี้ในโรงเรียนก็ไม่มีคุกคามแกแล้วเช่นกัน แกเอาแต่ไปเรียนเถอะ”
อลิซพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก กลับไปยังโรงเรียนผู้ดีเมืองจันทร์
แท้ที่จริงพวกเธอนักศึกษากลุ่มนี้อยู่ในโรงเรียนไม่ได้ศึกษาเรียนรู้อยู่แล้ว เพียงแค่คบหาเพื่อนเล่นสนุกอยู่ที่นี่เท่านั้นหลังจากอลิซกลับไป เพื่อนๆซักถามเธอว่าเป็นอะไรไหม เพราะเรื่องนี้ยังคงครึกโครมฮือฮาอยู่มาก ทางโรงเรียนล้วนแจ้งออกมาแล้ว
“ไอ้หยะ ไม่เป็นไรล่ะ! ฉันดีๆอยู่ล่ะ!” อลิซหัวเราะขึ้นมาอย่างสดใส เพียงแค่พอนึกถึงจุดนี้ เธอก็นึกถึงเนี่ยเฟิงขึ้นมา พอนึกถึงเนี่ยเฟิงใบหน้าของเธอก็แดงระเรื่อขึ้นมาเลย
“ว่ากันแล้ว ช่วงนี้โรงเรียนของพวกเรามีคนย้ายเข้ามาใหม่อีกหลายคน”