พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 514 ยกหอพักให้
“ย้ายมาใหม่เกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ? พูดได้อีกว่า ทุกปีโรงเรียนผู้ดีเมืองจันทร์ล้วนจะมีนักเรียนย้ายมาใหม่มากมาย นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรเช่นกัน”
อลิซยักไหล่แล้วยักไหล่อีก
“สิ่งที่แกพูดนี้ก็ถูก แต่ครั้งนี้ดูเหมือนย้ายมาคณะของพวกเรา ได้ยินว่าหลายคนนั้นหน้าตาหล่อมากนะ อีกทั้งล้วนไม่ใช่ชาวยุโรป”
ตอนนี้อลิซที่ไหนจะสนใจสิ่งเหล่านี้ได้อีกล่ะ ปัจจุบันนี้หัวใจของอลิซล้วนพุ่งอยู่บนกายของเนี่ยเฟิงแล้ว แค่พอได้นึกถึงท่าทางอันองอาจห้าวหาญของเนี่ยเฟิงที่ช่วยตนเอง อลิซก็ไม่สามารถไปมองคนอื่นอีกได้ กระทั่งรู้สึกว่าพวกผู้ชายที่อวดเบ่งในโรงเรียนเหล่านั้นล้วนเป็นขยะ
อลิซอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจหนึ่งที แต่น่าเสียดายเนี่ยเฟิงไม่ยอมเป็นบอดี้การ์ดติดตัวของตัวเอง ส่วนนี้ก็ทำให้คนรู้สึกเสียใจมากเลย
“อีกทั้งฉันยังได้ยินว่ามีหลายคนล้วนมีความสัมพันธ์กับบ้านของหัวหน้าพันธมิตรอย่างสนิทสนมมากๆล่ะ คิดดูแล้วก็สามารถคบหากันได้จริงๆนะ”
คนเหล่านี้ที่มาเข้าเรียนอยู่ในโรงเรียนผู้ดีเมืองจันทร์ทองคำล้วนจะเอ้อระเหยไปวันๆ และสิ่งที่พวกเขาคิดมากที่สุดก็คือควรจะคบหากันกับคนที่สถานะใกล้เคียงกันได้ยังไง
โดยเฉพาะพวกหญิงสาว ตั้งแต่เล็กจนโตล้วนถูกปลูกฝังความคิดต่างชนชั้นอย่างหนึ่ง เป็นเพราะว่ามีความคิดที่ปลูกฝังอย่างนี้นั่นเอง ดังนั้นโดยจิตใต้สำนึกพวกหญิงสาวทั้งหลายล้วนถือว่าตนเองเป็นสินค้า
พวกเธอล้วนตั้งค่าตัวให้กับตนเองแล้ว
อลิซกลับไม่มีความคิดแบบนี้ แต่ว่าบิดาของอลิซมักจะบอกกับเธอว่า ดีที่สุดอยู่ในโรงเรียนต้องรู้จักสังเกตสีหน้าคำพูด โดยเฉพาะต้องดูว่าคนแบบไหนสามารถคบหากันได้คนแบบไหนไม่สามารถคบหากัน แต่ว่าบิดาของอลิซก็ไม่ได้สั่งสอนอลิซจนเข้มงวดเกินไปเช่นกัน
ถึงยังไงบิดาของอลิซก็มีเพียงอลิซลูกสาวคนนี้คนเดียว รักทะนุถนอมจนเหมือนเช่นดั่งลูกตา ดังนั้นอลิซอยากจะเล่นกับใครอยากจะไปไหน ตั้งแต่ไหนแต่ไรบิดาของเธอล้วนจะไม่ถามมากเกินไป
ดังนั้นสำหรับต่างชนชั้นเหล่านี้อลิซไม่ได้มีความรู้สึกไวมาก
แต่ว่าบิดาของอลิซก็เคยบอกกับเธอมาก่อนว่า ถ้าหากเป็นอิทธิพลของหัวหน้าพันธมิตร จงต้องปฏิบัติต่ออย่างระมัดระวัง จะล่วงเกินไม่ได้ เพราะว่าทั้งเมืองจันทร์ร้ายกาจมากที่สุดก็คือสามพันธมิตรใหญ่
ปัจจุบันนี้หัวใจของอลิซยังแขวนอยู่บนกายของเนี่ยเฟิง ดังนั้นอลิซก็สนใจมากขนาดนั้นไม่ได้แล้ว เต็มใจเต็มตาคิดอยู่ว่าทำยังไงจึงจะได้ข่าวเกี่ยวกับเนี่ยเฟิง
และในเวลานี้ยามนี้หอพักชายฝั่งโน้น ส่งเสียงการเกิดความวุ่นวายที่เห็นได้ชัดมา
เนี่ยเฟิงจ้องมองคนกลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่นอกประตูตนเองอย่างเย็นชา พวกเขามีผมสีดำผิวสีเหลืองมาจากเขตเดียวกันกับเนี่ยเฟิง กระทั่งภาษาที่พูดก็เช่นดั่งเนี่ยเฟิง ล้วนเป็นภาษาหวาเซี่ย
ผู้ที่นำหน้าคนนั้นสวมใส่ชุดลำลองสีดำ ดูก็รู้ว่าราคาไม่ธรรมดา ผู้ชายคนนั้นพินิจพิเคราะห์เนี่ยเฟิงขึ้นลงหนึ่งที จากนั้นเชิดคางแล้วเชิดคางอีก “ขอโทษจริงๆ พี่ใหญ่ของเราถูกใจหอพักของคุณห้องนี้ ดังนั้นถ้าอ่านสีหน้าคนอื่นออกก็รีบออกไปเถอะ อย่าบีบบังคับให้ผมลงมือ!”
เนี่ยเฟิงยักคิ้วหนึ่งที เขาเพิ่งจัดเก็บเรียบร้อยเมื่อกี้ ถึงแม้ว่าของที่อยู่ในหอพักไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่ว่านั่นล้วนเป็นสิ่งที่พวกพี่ๆของตนเองยัดเข้าไปในกระเป๋าเดินทางของเขา
อะเดค่าหยิบกระเป๋าเดินทางของเนี่ยเฟิงก็ถูกเนี่ยเฟิงตามล่าไปหลายซอย ถ้าหากไม่ใช่นิสัยอะเดค่าเป็นผู้ดีบริสุทธิ์ คืนนั้นเนี่ยเฟิงอาจจะจัดการอะเดค่าไปแล้ว
ตอนนี้คนเหล่านี้ถึงขนาดจะบุกเข้าหอพักที่เขาเพิ่งเก็บเสร็จเมื่อกี้?
“พวกคุณถูกใจหอพักห้องนี้แล้ว ผมก็ต้องยกให้พวกคุณเลยเชียวเหรอ?” ตั้งแต่ไหนแต่ไรเนี่ยเฟิงคนนี้ล้วนพูดคุยได้ง่ายมาก ขอให้ไอ้คนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไม่โอหังขนาดนั้น อย่างนั้นจะให้เขายกหอพักให้ เขาก็ไม่ว่าอะไรเช่นกัน
เพียงแต่ไอ้คนหลายคนนี้ทุบประตูของเขาออกอย่างดุเดือด รูปร่างลักษณะดั่งอันธพาลอย่างนั้น เป็นไปได้ยังไงที่เนี่ยเฟิงจะยกให้ล่ะ?
“ดูแล้วในเมื่อคุณพูดด้วยดีๆไม่ยอมทำตามก็คงต้องใช้กำลังบังคับ งั้นเป็นเช่นนี้ล่ะก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจคุณแล้ว พวกพี่น้องซ้อมมันให้ออกไปเดี๋ยวนี้!”
เห็นเพียงไอ้คนนั้นยกมือขึ้น คนที่สวมใส่เสื้อแบรนด์หรูมากเหมือนกันที่ติดตามอยู่ข้างหลังกลุ่มนั้น ก็พุ่งเข้าไปเลย เนี่ยเฟิงก็ไม่ได้ขวางไว้ให้พวกเขาเดินเข้าไปตามใจ เห็นเพียงพวกเขาใช้สายตาที่เหยียดยหยามพยายามจับผิดพินิจพิเคราะห์หอพักที่ไม่ถือว่าใหญ่มากห้องนี้ขึ้นลงอยู่
ถึงแม้ว่าหอพักไม่ถือว่าใหญ่มากแต่กลับประณีตมาก ของของเนี่ยเฟิงไม่ได้เยอะมากเลย สิ่งของก็เพียงแค่กระเป๋าเดินทางอันหนึ่งเท่านั้น แต่สิ่งของเหล่านี้สำหรับเนี่ยเฟิงมากล่าวมีความสำคัญมาก ถึงแม้ว่าเพียงแค่ขนมและของประดับบ้างเล็กน้อยที่คางเมิ่งจัดไว้ให้เขาและยังมีสิ่งของสำหรับป้องกันตัวบ้างเล็กน้อยที่เย่หรูเสว่ให้เขา
เสื้อผ้าต่างๆที่พวกพี่คนอื่นๆจัดแต่งให้เขา
ดูแล้วล้วนเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ว่าถ้าหากมีคนอยากจะเตะต้องของเหล่านี้ งั้นเนี่ยเฟิงจะไม่ปล่อยพวกเขาไปแน่
คนกลุ่มนี้อาจจะคิดว่าเนี่ยเฟิงเป็นคนที่รังแกได้ง่าย ไม่งั้นเป็นไปได้ยังไงจะให้พวกเขาเข้ามา หลังจากพวกเขาเข้าไปเนี่ยเฟิงค่อยๆปิดประตูไว้
“เป็นยังไงล่ะ? คุณกังวลว่าอีกสักครู่ลักษณะท่าทีที่ตนเองถูกซ้อมจะคับขันลำบากมากเกินไปจริงๆ ดังนั้นจึงปิดประตูไว้เลยเชียวเหรอ? คุณวางใจเถอะ เพียงแค่คุณยกห้องนี้ออกมาให้ดีๆ พวกเราจะไม่ทำอะไรคุณอย่างแน่นอน”
ผู้ที่นำหน้าคนนั้นเห็นแล้วกลับเป็นคนที่มีเหตุผลมาก แต่เขายื่นมือหยิบของประดับดอกทานตะวันชิ้นหนึ่งขึ้นมา ของประดับขนาดเล็กชิ้นนี้เป็นคางเมิ่งยัดเข้าไปในกระเป๋าของเขา กดหนึ่งครั้งยังจะร้องเพลงได้ด้วย
“ฉันตั้งใจอัดเพลงไปหลายเพลง แกอยู่ต่างประเทศฉันกังวลว่าแกจะนอนไม่หลับ ฉันให้คนไปสั่งทำของประดับอย่างนี้ชิ้นหนึ่ง ถ้าหากแกนอนไม่หลับล่ะก็อย่างนั้นก็กดปุ่มของประดับนี้ เสียงเพลงของฉันจะปรากฏออกมา กล่อมแกนอนหลับยังไงล่ะ? พี่ดีต่อแกมากเลยใช่ไหม?”
เนี่ยเฟิงยังจำใบหน้าเล็กๆที่หยิ่งผยองของคางเมิ่งนั้น ตอนนี้เขานึกขึ้นมาแล้วมีความรู้สึกหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้เล็กน้อย
ตาทั้งคู่ของเนี่ยเฟิงขึงลับลง “ตอนนี้ดีที่สุดคุณก็วางสิ่งของที่อยู่ในมือของคุณลงเดี๋ยวนี้”
ไอ้คนนั้นจ้องมองของประดับที่อยู่ในมือหนึ่งที จากนั้นยิ้มอยู่โยกไปโยกมา “ยังไง สิ่งของนี้สำคัญกับคุณมากเหรอ ดูแล้วเพียงแค่ของเล่นที่ราคาถูกชิ้นหนึ่งเท่านั้น”
ในเวลานี้เนี่ยเฟิงโมโหมากแล้ว บนใบหน้าของเขาไม่มีรอยยิ้มใดๆตาทั้งคู่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงอาฆาต “ผมกล่าวเตือนคุณอีกรอบหนึ่ง ดีที่สุดคุณเอาสิ่งของที่อยู่ในมือของคุณวางลงเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นผลลัพธ์รับผิดชอบเอง”
“ไอ้โย? ขู่ขวัญผมเหรอ ผมบอกกับคุณ คุณสิ่งที่ผมพี่สิ้นไม่กลัวที่สุดก็คือถูกคนขู่ขวัญ คุณรู้ฐานะของพวกเราที่อยู่ในเมืองจันทร์หรือไม่? พวกเรามีสายสัมพันธ์ทางด้านญาติพี่น้องกับท่านหัวหน้าพันธมิตรอยู่นะ ถ้าหากคุณกล้าทำอะไรกับพวกเรา งั้นก็คือไม่เคารพนบนอบกับท่านหัวหน้าพันธมิตรอยู่ ถึงเวลานั้นคุณจะร้องไห้ล้วนไม่ทัน!”
“เห็นลักษณะท่าทีคุณไม่คิดที่จะวางลงแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นผมก็ไม่เกรงใจเช่นกัน”
เนี่ยเฟิงพูดจบ เดินเข้าไป ในเวลานี้คนที่อยู่รอบข้างพุ่งเข้ามาเป็นกลุ่ม เห็นลักษณะท่าทีอยากจะขวางเนี่ยเฟิงไว้ แต่ยังไม่ทันรอพวกเขาขวางไว้ เนี่ยเฟิงก็ยื่นมือบีบคอไอ้คนที่เรียกตนเองว่าพี่สิ้นคนนี้ไว้แล้ว
พี่สิ้นย่อมนึกไม่ถึงว่าความเร็วของเนี่ยเฟิง ถึงขนาดจะเร็วเช่นนี้ พี่สิ้นที่ถูกบีบคอไว้ทั้งตัวถูกแขวนไว้อยู่บนกลางอากาศ เขาพยายามดิ้นรนอยู่ ส่วนคนอื่นอยากจะขย่มเนี่ยเฟิงกลับถูกเนี่ยเฟิงใช้มือที่ว่างอยู่อีกข้างหนึ่ง หนึ่งหมัดหนึ่งคนชกจนล้มอยู่กับพื้นไปหมดเลย
พวกเขากระทั่งล้วนไม่ได้เข้าใกล้เนี่ยเฟิง ก็พลิกหงายลงไปหมดแล้ว
เนี่ยเฟิงยกมือขึ้นไปยังพี่สิ้นอย่างเย็นชา “เอาของให้ผม”