พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 518 สัญญาระหว่างความเป็นกับความตาย
ประสิทธิภาพในการดำเนินงานของพวกลูกน้องหลี่สิ้นยังสูงมากนะ ผ่านไปไม่นานก็กระจายข่าวนี้ออกไปแล้ว
เพราะว่าเป็นคนของทหารพันธมิตร ดังนั้นมีคนมากมายในโรงเรียนล้วนแห่กันมาดู ประเด็นหลักคือสามารถผูกสัมพันธ์กับทหารพันธมิตรได้ สำหรับพวกเขามากล่าวก็ดีมากเช่นกัน
พูดได้อีกว่าสิ่งที่พวกเขาอยากจะเห็นที่สุดก็คือ ความกล้าหาญของใครใหญ่ขนาดนั้น ถึงขนาดกล้าไปแส่หาเรื่องคนของทหารพันธมิตร
พานฉางอันสั่นระริกๆพาเนี่ยเฟิงมาถึงชมรมเทควันโดในวิทยาเขต A
เนี่ยเฟิงทั้งเดินไปข้างหน้าทั้งมองดูทิวทัศน์รอบด้านนี้อยู่ “ที่นี่ยังค่อนข้างไม่เลวนะ”
“นี่แน่นอนอยู่แล้ว เพราะว่ามีเพียงแค่คนมีฝีมือจึงจะสามารถยึดใช้ทรัพยากรของโรงเรียนได้”
พานฉางอันตอบกลับเสียงเบาๆคำหนึ่ง ตอนนี้เขาล้วนอยากจะถอนตัวแล้ว แต่เขาก็ทำอย่างนี้ไม่ได้อีก แม้พานฉางอันรู้ว่าเนี่ยเฟิงชกต่อยร้ายกาจมาก แต่ว่าต่อสู้กับหวางต้าฉิวที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีจริงๆ เขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของทหารพันธมิตรได้จริงๆเหรอ?
พานฉางอันพยายามส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก กระทั่งตัวเขาเองล้วนไม่กล้าคิด เพราะว่าพอแค่คิดก็ทำให้เขารู้สึกสั่นระริกทั้งตัว
เพียงแค่ตอนนี้ธนูอยู่บนคันธนูแล้วไม่ปล่อยไม่ได้แล้ว พานฉางอันล้วนกลายเป็นลูกศิษย์ครึ่งหนึ่งของเนี่ยเฟิงแล้ว เขาจะทิ้งอาจารย์ไปก็ไม่ได้
“แต่ก่อนชมรมเทควันโดไม่ได้รับการให้ความสำคัญขนาดนั้น ไม่ต้องพูดถึงวิทยาเขต A เลย ก็แค่วิทยาเขต D พวกเขาล้วนเข้าอันดับไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสถานที่เลย”
พานฉางอันพยายามให้ตนเองใจเย็นลง เพราะถึงแม้ว่าร้อนใจขนาดไหนก็ไม่มีประโยชน์เช่นกัน เขาได้เพียงแต่เลือกที่จะเชื่อเนี่ยเฟิงแล้ว
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงชมรมเทควันโดแล้ว เนี่ยเฟิงอยู่ไกลๆก็มองเห็นชมรมของพวกเขาใหญ่มากๆ เทียบกับแต่ก่อนที่เนี่ยเฟิงไปชมรมของบ้านเหลยจ้านพวกเขาแห่งนั้นล้วนจะยิ่งใหญ่กว่าหน่อย
ที่นี่เป็นโรงเรียนผู้ดีเมืองจันทร์ทองคำ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองด้วย ที่ดินที่นี่เป็นที่ดินที่มีราคาสูง อยู่ในสถานที่อย่างนี้สามารถมีชมรมของตนเอง แทบจะเป็นนิทานพันหนึ่งราตรีของอาหรับจริงๆเลย ยิ่งไม่ต้องพูดว่าเป็นเนื้อที่ที่ใหญ่ขนาดนั้นแล้ว
“เพราะว่ามีหวางต้าฉิวคนหนึ่งปรากฏตัวออกมา หวางต้าฉิวเป็นทหารพันธมิตรที่ได้กำหนดเป็นการภายในโดยทหารพันธมิตรของพันธมิตรที่หนึ่ง หลังจากเรียนจบสามารถเลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าหมู่โดยตรง เขาสามารถมีชมรมก็เป็นเรื่องปกติมาก”
พานฉางอันอธิบายเช่นนี้กับเนี่ยเฟิง
“อีกทั้งคนที่เข้าร่วมชมรมล้วนต้องจ่ายค่าใช้จ่ายก้อนหนึ่งนะ ในตอนต้นผมคิดอยู่ว่าค่าใช้จ่ายก้อนนี้ค่อนข้างแพงมาก แต่ติดตามหวางต้าฉิวผมอาจจะสามารถกลายเป็นสมาชิกของทหารพันธมิตรได้ ถึงแม้ว่าไม่ได้อย่างน้อยผมก็สามารถได้รับการคุ้มครองจากทหารพันธมิตร”
ในเวลานั้นพานฉางอันก็คิดอย่างนี้ แต่น่าเสียดายรูปร่างของพานฉางอันนี้ ไม่เข้าตาหวางต้าฉิว ถูกเยาะเย้ยเสียดสีด่าคนจนถอยออกไปโดยตรงเลย
ตอนนี้พานฉางอันนึกขึ้นมาแล้วล้วนรู้สึกในใจไม่พอใจมาก
แต่ว่านี่ก็เป็นเรื่องที่ไม่มีทางช่วย ใครให้หวางต้าฉิวมีอำนาจมีอิทธิพลล่ะ?
เนี่ยเฟิงรู้ว่าตอนนี้พานฉางอันหวาดกลัวอยู่มาก ดังนั้นเขาพูดว่า “คุณรู้สึกว่าผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหวางต้าฉิวใช่หรือไม่?”
พานฉางอันมีความคิดอย่างนี้จริงๆ ประเด็นหลักคือการคงอยู่ของแรงกำลังหวางต้าฉิวก็เช่นดั่งพลิกฟ้าจริงๆเลย……
เขาเป็นผู้ชายที่ใช้มือเปล่าชกหมีสีน้ำตาลตายนะ ผู้ชายอย่างนี้ล้วนร้ายกาจกว่าหมีอีก
แม้ว่าเนี่ยเฟิงก็ร้ายกาจมากเช่นกัน แต่เพียงแค่จะต่อสู้กับหวางต้าฉิวจริงๆ เกรงว่าไม่มีโอกาสชนะเลย
แต่ว่าพานฉางอันก็ไม่กล้าพูดอีกด้วย เขาก้มหัวอยู่
เนี่ยเฟิงยิ้มแล้วยิ้มอีก “ถ้าหากคุณรู้สึกหวาดกลัว ตอนนี้คุณก็สามารถออกไป ยังมีเรื่องที่คุณพูดว่าจะกราบไหว้เป็นอาจารย์นั้น ผมก็สามารถถือว่าคุณไม่เคยพูดมาก่อน เป็นยังไงล่ะ?”
ในใจพานฉางอันดีใจทันที เขาเงยหน้าขึ้นอย่างดุเดือด เห็นเนี่ยเฟิงกำลังจ้องมองตนเองอยู่ พานฉางอันหวาดผวาขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ
เดิมทีก็เป็นเขาเอ่ยปากก่อนอยู่แล้ว แต่ว่าตอนนี้เขาจะผิดคำพูดอีก ดูแล้วก็ขายหน้ามากเกินไปหน่อยล่ะ? หลังจากหลักการกับความเห็นแก่ตัวของพานฉางอันขัดแย้งกันในใจไปยกหนึ่ง เขาตัดสินใจแล้ว “ไม่! ในเมื่อผมพูดออกมาแล้ว งั้นผมก็จะไม่เก็บคำพูดของผมกลับ! คุณเอาแต่ขึ้นไปก็พอแล้ว!”
เนี่ยเฟิงทำตายี๋แล้วทำตายี๋อีก พานฉางอันที่อยู่ต่อหน้าทั้งๆที่หวาดกลัวมากอยู่แล้ว แต่เขากลับยังฝืนใจทำเป็นเยือกเย็น
แต่ว่า เขาก็ถือว่าไม่เลวเช่นกัน ในเวลาแบบนี้ยังยืนอยู่ฝั่งของตนเองนี้ งั้นเขาก็สอนเทคนิคการป้องกันตัวให้พานฉางอันสักหน่อยเถอะ
ตอนที่พวกเขาเนี่ยเฟิงเข้าไปในชมรม หวางต้าฉิวและคนอื่นๆล้วนรออยู่ที่นี่แล้ว
หลี่สิ้นมองเห็นเนี่ยเฟิงเข้ามา ใบหน้าที่คอยประจบสอพลอนั้นปรากฏรอยยิ้มที่เหน็บแนมหนึ่งที “คุณยังกล้ามาจริงๆล่ะ! เห็นลักษณะท่าทีคุณคงไม่รู้จักความร้ายกาจของพี่หวางของเรา! นี่ก็โทษคุณไม่ได้ ถึงยังไงคุณก็เพิ่งมาโรงเรียนผู้ดีเมืองจันทร์”
หลี่สิ้นล้วนบาดแผลหายแล้วก็ลืมว่าเคยเจ็บไปหมด บาดแผลที่อยู่บนกายเขาทั้งๆที่ยังไม่หายดีแต่เป็นเพราะว่าสาเหตุที่มีคนหนุนหลัง ดังนั้นเขาล้วนไม่หวาดกลัว
เนี่ยเฟิงทำตายี๋แล้วทำตายี๋อีกจ้องมองหลี่สิ้นอยู่ เขาหัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่งพูดว่า “ตอนนี้ปล่อยคุณไปก่อน อีกสักครู่ค่อยคิดบัญชีกับคุณ”
ข้างในนี้มีเวทีประลองมากมาย เห็นลักษณะท่าทีคนที่เข้าร่วมชมรมเทควันโดล้วนจะทำการฝึกอบรมทุกวัน
นัยน์ตาทั้งคู่ของหวางต้าฉิวดูเหมือนเปล่งแรงอาฆาตที่น่ากลัวออกมา เขาจ้องมองเนี่ยเฟิงอยู่อย่างแน่น
ในเวลานี้ก็มีนักศึกษาเข้ามามากมาย นักศึกษาเหล่านั้นล้วนอยากจะมาดูความคึกคักอยู่
กระทั่งมีคนเร่งทำป้ายไวนิลออกมาแล้ว ก็เพื่อที่จะประจบสอพลอ
พานฉางอันเห็นมีคนมากมายขนาดนั้นล้วนคอยเป็นกองเชียร์ให้กับหวางต้าฉิวอยู่ เขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายหนึ่งที เมื่อกี้เขายังมีความรู้สึกเสียใจภายหลังเล็กน้อย แต่ตอนนี้อยากจะเสียใจภายหลังอีกก็ไม่ทันแล้ว
“เซนต์สัญญาชุดนี้เถอะ”
หวางต้าฉิวพูดอยู่ ให้หลี่สิ้นเอาสัญญาเข้ามา
หลี่สิ้นถือสัญญาไว้เดินเข้าไปอย่างองอาจ ความกระหยิ่มยิ้มย่องที่อยู่บนใบหน้าเขา ล้วนให้คำอรรถาธิบายที่อะไรเรียกว่าหมาอาศัยบารมีเจ้าของ
เขาเอาสัญญาชุดนั้นตบอยู่บนกายของพานฉางอันโดยตรง เพราะว่าเมื่อกี้เขาถูกเนี่ยเฟิงจัดการไปยกหนึ่ง ตอนนี้ในใจเขายังมีความหวาดกลัวเนี่ยเฟิงเล็กน้อย
แต่ว่าเนี่ยเฟิงจะร้ายกาจขนาดไหนอีก เป็นไปได้ยังไงที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของหวางต้าฉิวที่เป็นทหารพันธมิตรล่ะ? เขาเป็นผู้ชายเช่นดั่งหมีนะ!
“ไอ้หนุ่ม ความตายของคุณมาถึงแล้ว!”
พานฉางอันหัวใจเต้นดั่งฟ้าร้อง เขาก้มหัวจ้องมองสัญญาชุดนี้ที่หลี่สิ้นถือเข้ามาหนึ่งที ตอนที่เขาเห็นสัญญาระหว่างความเป็นกับความตายคำนี้ ทั้งตัวล้วนอึ้งชะงักอยู่กับที่เลย
เพราะว่าลักษณะพิเศษในเมืองจันทร์ทองคำ ดังนั้นยังมีกฎหมายที่ไม่เหมือนกันมากมาย
เพียงแค่เซนต์สัญญาระหว่างความเป็นกับความตายของการต่อสู้ทั้งสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งในนั้นตายแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งจะไม่ต้องรับผิดชอบ
เพราะว่าทั้งสองฝ่ายล้วนยินยอมสัญญาชุดนี้ก็เกิดผลแล้ว
บนสัญญาระหว่างความเป็นกับความตายชุดนี้มีลายเซ็นของหวางต้าฉิวแล้ว ก็เหลือแค่เนี่ยเฟิงแล้ว
พานฉางอัน “อึก” กลืนน้ำลายหนึ่งที โดยจิตใต้สำนึกเขายื่นมือเช็ดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผากเช็ดแล้วเช็ดอีก “พี่เฟิง นี่เป็นสัญญาระหว่างความเป็นกับความตายนะ ไม่เหมือนกับอยู่ในประเทศ สัญญาระหว่างความเป็นกับความตายชุดนี้มีผลนะ คุณ…….”
เนี่ยเฟิงรับสัญญาระหว่างความเป็นกับความตายเข้าไปตรวจดูหนึ่งที จากนั้นยิ้มอยู่ตอบกลับว่า “คุณยังรออะไรอยู่ล่ะ? รีบช่วยเอาปากกามาให้ผม”
พานฉางอันเห็นลักษณะท่าทีของเนี่ยเฟิงล้วนไม่หวาดกลัวเลยสักนิด เขาก็รู้สึกประหลาดใจรวบรวมความกล้าขึ้นมาแล้วเช่นกัน ตอนนี้เขาไม่เชื่อเนี่ยเฟิงก็ไม่มีคนยืนอยู่ฝั่งนี้ของเนี่ยเฟิงแล้ว
ดังนั้นพานฉางอันหยิบปากกาออกมาทันที
เนี่ยเฟิง “ตึกตึก” สองที เซนต์ชื่อของตนเองลงไปโดยตรง
คนในชมรมยิ่งมายิ่งเยอะ คล้ายเช่นดั่งคนทั้งโรงเรียนล้วนมาแล้ว คึกคักมากๆ
ทุกคนล้วนเอนเอียงเข้ามากระซิบกระซาบกันอยู่ ถกการแข่งขันความเป็นความตายในครั้งนี้กันอยู่
ก็อยู่ในเวลานี้ มีคนกลุ่มหนึ่งสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว ติดป้ายชื่อสีทองเดินเข้ามาเลย