พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 526 ล้วงคองูเห่า
“พี่เฟิง!ผมขอโทษจริงๆ นะพี่ เรื่องแค่นี้ผมยังทำได้ไม่ดี ทำให้ห้องพี่ต้องเป็นแบบนี้ ผมสมควรตายจริงๆ !”
พานฉางอันรีบเดินเข้าไป อยากจะช่วยเนี่ยเฟิงเก็บของ แต่เนี่ยเฟิงกลับยกมือขึ้นมา “ไม่เป็นไร คุณไปถามคนอื่นดูสิว่าใครเป็นคนมาค้นห้องผม”
พานฉางอันรีบพยักหน้ายิกๆ แล้วเขาก็รีบออกไปถามทีละห้อง
แต่ว่าคนในหอพักนี้ชอบดูเรื่องสนุก พวกเขาไม่คิดจะบอกพานฉางอันเลยด้วยซ้ำ
พอพานฉางอันถามไปหมดแล้ว ก็ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย
เขาร้อนรน ราวกับมดแดงอยู่ในกระทะร้อน
ในตอนนี้เนี่ยเฟิงก็เดินออกมาจากห้องนอน ในมือของเขาก็ถือของตกแต่งห้องรูปดอกทานตะวัน ของสิ่งนี้มันพังไปแล้ว เสียงที่คางเมิ่งบันทึกไว้ด้านในก็หายไปหมดแล้ว เนี่ยเฟิงก็โกรธจนคิดจะฆ่าคน
“ไม่ต้องหาแล้ว พี่รู้แล้วว่าใครเป็นคนทำ”
เนี่ยเว็บไซต์พูดจบ ก็มือขึ้นมาดูจดหมายท้าสู้ฉบับนั้น
พานเว็บไซต์อันก็รีบตามไป “พี่เฟิง นี่มันคืออะไรพี่?”
“รู้จักสมาคมเทพมรณะของที่นี่ไหม?” สายตาของเนี่ยเฟิงนิ่งมาก แต่พานฉางอันกลับรู้สึกว่าเย็นๆ สันหลัง พานฉางอันขนลุกแล้วก็พยักหน้า
สมาคมเทพมรณะเป็นสมาคมของวิทยาเขตB สมาคมนี้มันทำอะไรกัน ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าในวิทยาเขตB ก็ถือว่ามีตำแหน่งเหมือนกัน ครั้งก่อนผมก็เคยบอกพี่ไปแล้ว ถ้าพวกมันต้องการพื้นที่ใดๆ ก็ตามของโรงเรียน จะต้องผ่านสภานักเรียน เท่าที่ผมรู้มา สมาคมเทพมรณะและสภานักเรียนสนิทสนมกันมาก หรือว่าครั้งนี้จะเป็นเพราะพวกนั้นทำ?
พานฉางอันกลืนน้ำลายอยากลำบาก ตัวนี่สั่นเป็นตะแกรงร่อนข้าว เขามองเนี่ยเฟิงด้วยความกลัว “พี่เฟิง ถึงแม้วิทยาเขตB จะสู้วิทยาเขตAไม่ได้ แต่ว่าสมาคมของพวกนั้นไม่เหมือนกันสักที่ สมาคมเทพมรณะก็โหดมาก พวกเราไปหาเรื่องไม่ไหวแล้วล่ะ!”
เนี่ยเฟิงทำตาหยี แล้วก็ฉีกจดหมายท้าสู้นั้นทิ้ง “คุณไปช่วยผมเก็บห้องหน่อย เดี๋ยวผมกลับมา แล้วเอาของที่ผมเอามาด้วย ใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางให้หมด”
พอเขาพูดจบ ก็จะแยกกับพานฉางอัน พอเห็นดังนั้นพานฉางอันก็ตามไปด้วย “พี่เฟิง!ผมไปด้วย!”
“ไม่จำเป็นหรอก” เนี่ยเฟิงส่ายหัว “พี่หวังว่าก่อนกลับมา ข้าวของในห้องจะเป็นระเบียบดีแล้วนะ”
เนี่ยเฟิงคนนี้ ปกติแล้วเหมือนจะพูดดี แต่จริงๆ แล้วเขาก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน อยู่ที่นี่เขาสามารถหัวเราะเฮฮากับคนอื่นได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะโกรธไม่เป็น
เนี่ยเฟิงจะไปอีกวิทยาเขตหนึ่ง พานฉางอันกังวลมาก แต่พานฉางอันก็ตามไปไม่ได้ เพราะว่าเนี่ยเฟิงได้สั่งแล้วว่าให้เก็บห้อง เนี่ยเฟิงก็ได้แต่ต้องเริ่มเก็บห้องให้เนี่ยเฟิงไป
คนพวกนี้นี่ร้ายจริงๆ อาศัยจังหวะที่ตนเองกับเนี่ยเฟิงไม่อยู่ มาสร้างความวุ่นวายนี้ไว้ แม้แต่กระดาษที่แปะตามหนังก็ยังดึงออกมา ภายในเวลาอันสั้น พานฉางอันไม่มีทางเก็บได้หมด
นี่ก็แสดงให้เห็นว่าพานฉางอันไม่สามารถตามไปกลับเนี่ยเฟิงได้
พานฉางอันก็ร้อนรนมาก แต่เขาเป็นผู้ชายที่ไม่ได้ออกไปไหนนัก รู้จักคนก็น้อย ดังนั้นพานฉางอันก็เลยบอกให้ใครมาช่วยไม่ได้
เขาก็ได้แต่หวังว่าตนเองจะทำให้เสร็จโดยเร็ว
เนื่องจากชื่อเสียงของสมาคมเทพมรณะนั้นดังมาก ดังนั้นขอเพียงถามใครสักคน ก็รู้แล้วว่าสมาคมเทพมรณะไปทางไหน
ไม่นานเนี่ยเฟิงก็มาถึงยังพื้นที่ของสมาคมเทพมรณะ
สิ่งก่อสร้างที่นี่เป็นสีดำทั้งหมด ด้านบนมีภาพวาดสีสเปรย์อะไรวุ่นวายไปหมด ส่วนที่ประตูเป็นรูปกระดูก ดูเหมือนจริงดี ถึงแม้จะไม่รู้ว่าใครวาด แต่ว่าสวยเอาเรื่องเหมือนกัน
แต่ว่าตอนนี้เนี่ยเฟิงไม่มีอารมณ์ไปชมสิ่งพวกนี้ ในมือของเนี่ยเฟิงยังถือของที่พังไปแล้วนั้นอยู่ แล้วเขาก็ค่อยๆ เดินเข้าไป
ตอนนี้ ในห้องโถงกำลังเปิดเพลงดังสนั่น ผู้หญิงผู้ชายแต่งตัวสไตล์พังค์สีดำกำลังโยกหัวส่ายเอวกันอยู่ รอบด้านมืดไปหมด เพราะว่าหน้าต่างของที่นี่ถูกปิดไปหมดแล้ว
ดิสโก้บอลด้านในก็สาดแสงสีต่างๆ ออกมา ทำให้ในห้องโถงนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับในผับบาร์
การมาถึงของเนี่ยเฟิง ไม่ได้ดึงดูดคนพวกนี้ให้สนใจ พวกเขายังคงกระโดดโลดเต้นไปตามเสียงเพลงเหมือนเดิม
“พวกเอ็งส่งจดหมายท้าสู้มาใช่ไหม?”
เนี่ยเว็บไซต์พูดเสียงปกติ ไม่นานก็ถูกเสียงดนตรีที่ดังสนั่นกลบเสียงไปจนสิ้น ไม่มีใครได้ยินว่าเนี่ยเฟิงพูดอะไร
เนี่ยเฟิงก็รู้ ว่าคนพวกนี้อยากข่มตนเอง
ตอนที่พวกเขากำลังเต้นกันอย่างสนุกนั้น เนี่ยเฟิงก็หยิบไพ่ขึ้นมาจากพื้น ต่อให้อยู่ในความมืด เนี่ยเฟิงก็ยังมองหาวงจรไฟฟ้าได้ แล้วเขาก็เอาโยนไพ่ใบนั้นไปตัดวงจรไฟฟ้าน
เกิดประกายไฟออกมาพรึบ เสียงเพลงที่ดังสนั่นนั้นก็เงียบลง แสงไฟต่างๆ ก็ดับ
ทุกคนก็อึ้งไปตามกัน และตอนนี้เสียงของเนี่ยเฟิงก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง “พวกเอ็งส่งจดหมายท้าสู้มาใช่ไหม?”
“อ้าว? มาถึงที่นี่เร็วจริงๆ เลยนะ ไวเหมือนกันนะเนี่ย!”
มีเสียงเอื่อยๆ ส่งเขามา “พวกเอ็งจอรออะไรกันอยู่ล่ะ? ยังไม่รีบไปต่อวงจรไฟอีก?”
“ไม่มีประโยชน์หรอก วงจรไฟถูกกูตัดขาดไปแล้ว”
เนี่ยเฟิงเดินไปยังหน้าต่างบนหนึ่ง แล้วก็เปิดผ้าม่านออก หลังจากผ้าม่านหนาๆ ถูกเปิดออก แสงอาทิตย์สว่างจ้าก็ส่องเข้ามา ทำเอา “พวกผีดิบ” พวกนี้ลืมตากันไม่ขึ้นเลย
“เอ๊ะหมอนี่มันบ้าหรือเปล่าวะ? รีบปิดม่านไปเดี๋ยวนี้เลย!”
อยู่ในความมืดนานเข้า พอเจอกับแสงสว่าง ก็จะรู้สึกไม่สบายระคายเคืองตา พวกเขามามั่วสุมกันอยู่ในที่มืดๆ แบบนี้ ไม่ได้เห็นแสงอาทิตย์ พอตอนนี้ถูกแสงอาทิตย์ส่องเข้ามา ก็ต้องไม่สบายตาเป็นธรรมดา
เนี่ยเฟิงไม่ได้คิดจะปิดผ้าม่านกลับไป เขามองกลุ่มชายหญิงพวกนั้นนิ่งๆ ถึงแม้เมื่อครู่จะมีแสงไฟน้อย แต่เนี่ยเฟิงก็สามารถมองเห็นชัดเจนว่าพวกนี้แต่งตัวกันอย่างไร ยืนกันตรงไหน
ผู้ชายที่ถูกห้อมล้อมอยู่ตรงกลางนั้น ก็คือหัวหน้าของพวกเขา
“กูจะถามอีกรอบนะ พวกเอ็งส่งจดหมายท้าสู้มาใช่ไหม?”
“ไอ้หมอนี่มันเป็นเครื่องอักเสียงหรือเปล่าวะ จดหมายท้าสู้เป็นของพวกเราแน่นอน นายรู้ไหมว่ามึงได้หาเรื่องหัวหน้าสมาคมเทพมรณะของพวกเราเข้าแล้ว เพราะว่านายไปตีน้องเล็กของพวกเรา!”
หนึ่งในนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งมองเนี่ยเฟิงอย่างไม่พอใจ ปากของเธอก็ยังเคี้ยวหมากฝรั่งอยู่
“น้องเล็กงั้นหรือ?”
เนี่ยเฟิงทำตาหยี เขาก็นึกถึงหวางต้าฉิวขึ้นมาได้ แต่ว่าตอนนี้หวางต้าฉิวคงจะกำลังจัดการกับความพ่ายของตนเองอยู่ ดังนั้นยังมีอีกคน นั่นก็คือ หลี่สิ้น
“พวกเอ็งหมายถึงหลี่สิ้นใช่ไหม?”
“กูนี่แหละ คิดไม่ถึงนะว่ามึงจะเอาชนะหวางต้าฉิวได้ แต่คงไม่มีทางเอาชนะสมาคมเทพมรณะของพวกเราได้หรอก! ถ้าฉลาดก็คุกเข่าลงขอร้องสิ ไม่งั้นพี่ใหญ่กูไม่ปล่อยมึงไปแน่!”