พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 539 แผนการตามไม่ทันความเปลี่ยนแปลง
จู่ๆลิซ่าก็หัวเราะออกมา“ระหว่างสมาพันธ์นักศึกษามีข้อพิพาทกันจริงๆ เพียงแต่ในนี้มีซ่อนคนที่มีความสามารถไว้ เป็นดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำขนาดย่อมๆ ตอนนี้วิทยาเขตBอาจจะต้องล่มสลายเพราะสูญเสียหลุยส์ไป แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าโรงเรียนจะล้มลงด้วย อำนาจของพันธมิตรที่หนึ่งรวมตัวอยู่ที่นี่ ฉันก็เป็นพันธมิตรที่หนึ่งเหมือนกัน เรายังคงรักษาความสมดุลอันน้อยนิดไว้”
“น่าเบื่อจริงๆ”เนี่ยเฟิงยักไหล่ เรื่องที่สามารถจัดการได้ในทันทีทำไมต้องทำให้มันยุ่งยากขนาดนั้นด้วย
“แต่ นายยังติดค้างฉันหนึ่งครั้ง นายพึ่งมาใหม่ ไม่รู้อิทธิพลของแจ็กสันหรอก หลังจากนี้นายก็จะต้องปรากฏตัวในฐานะว่าที่สามีของฉัน”
ใบหน้าของลิซ่าเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มได้ใจ“ไม่รู้ว่าอลิซรู้เรื่องนี้แล้วจะโกรธรึเปล่า!”
“งั้นว่ามาเลย เธออยากให้ฉันทำอะไร?”
“เข้าร่วมกับสมาพันธ์นักศึกษา เป็นไง?”ลิซ่าสนใจเนี่ยเฟิงมาก เธอชอบเนี่ยเฟิงมาโดยตลอด ประเด็นคือเนี่ยเฟิงเก่งมากจริงๆ
ดังนั้นหลังจากที่เนี่ยเฟิงทำให้หวางต้าฉิวแพ้ ลิซ่าต้องเชิญชวนเนี่ยเฟิง แต่กลับถูกเนี่ยเฟิงปฏิเสธในครั้งที่แล้ว
“ก็ได้ แต่ฉันมีเงื่อนไข”
ลิซ่าตกตะลึง“นายมีเงื่อนไขอะไร?”
“ตอนนี้ยังคิดไม่ออก รอฉันคิดออกแล้วค่อยพูดแล้วกัน”
“ได้ ไม่เป็นไร ถึงนายจะอยากนั่งตำแหน่งของประธานสมาพันธ์นักศึกษา ฉันก็จะให้ เพราะนายเป็นสเปคที่ฉันชอบ”ลิซ่าขยิบตาส่งให้เนี่ยเฟิงหนึ่งครั้ง
“พี่เฟิง!พี่เฟิงรอผมด้วย!”
พานฉางอันพึ่งถูกปล่อยตัวออกมา หลังจากที่พานฉางอันถูกปล่อยตัวเขาก็รีบมาหาเนี่ยเฟิงทันที ถึงได้พบว่าเนี่ยเฟิงเดินจากไปไกลแล้ว
เนี่ยเฟิงหันหลังกลับไป เห็นพานฉางอันวิ่งมาด้วยหายใจหอบไปด้วย“พวกเขาไม่ได้ทำอะไรนายใช่ไหม?”
“ไม่มีๆ แต่ผมตกใจแทบแย่ น่ากลัวเกินไปแล้ว ผมเห็นทหารพวกนั้นก็มือสั่นขาสั่นไปหมดเลย ผมตัวสั่นทั้งตัว”
พานฉางอันหายใจออกมายาวๆ รู้สึกว่าตัวเองแทบจะถูกคนพวกนั้นทำให้ตกใจแทบแย่
“พวกเขาถามอะไรนายไปบ้าง?”
เนี่ยเฟิงรู้ดีว่าพวกเขาไม่สามารถล้วงความลับจากปากของพานฉางอันออกมาได้
“ถามแค่ว่าเมื่อวานพี่เฟิงไปไหนมา เมื่อวานผมแทบจะอยู่กับพี่ทั้งวัน อีกอย่างในกล้องวงจรปิดในโรงเรียนก็ไม่มีพี่อยู่ด้วย ผมคิดว่าพวกเขาทำเรื่องให้เป็นเรื่องใหญ่!”
“แต่เมื่อวานเนี่ยเฟิงทำให้ผมตกใจจริงๆ พี่บอกว่าจะออกไปผมรู้สึกกลัวเหมือนกัน ผมเป็นห่วงว่าพี่จะไปหาคนของสมาคมเทพมรณะ แต่……พี่น่าจะไม่ไปหรอกใช่ไหม?”
พานฉางอันคิดในใจว่าเวลาไม่กี่นาที มันไม่สามารถไปวิทยาเขตBได้ด้วยซ้ำ ยิ่งอย่าพูดถึงเรื่องฆ่าคนเลย
และด้วยเหตุนี้ ดังนั้นพานฉางอันจึงมั่นใจว่าเนี่ยเฟิงไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่าหลุยส์อย่างแน่นอน
เนี่ยเฟิงกลับมาโดยไม่ได้บอกพานฉางอันว่าตัวเองไปทำอะไรมา เมื่อพานฉางอันต้องเผชิญหน้ากับการซักถาม สิ่งที่พูดออกมาก็จะเป็นความจริงทั้งหมด
“นายว่ายังไงล่ะ?”เนี่ยเฟิงไม่ได้ตอบกลับคำถามของพานฉางอัน แต่ถามกลับพานฉางอันแทน
พานฉางอันฉีกยิ้ม“ผมคิดว่าพี่เฟิงไม่น่าจะไปหรอกครับ ถ้าพี่เฟิงจะไปจริงๆ ไม่มีทางกลับมาภายในระยะเวลาอันสั้นขนาดนี้หรอก ที่ผมพูดถูกไหมครับพี่เฟิง?”
เนี่ยเฟิงหัวเราะแต่ไม่พูดอะไร
“เอาล่ะ ตอนนี้ใกล้ได้เวลาทานข้าวแล้ว ฉันก็ควรกลับแล้ว อย่าลืมมารายงานตัวตอนบ่ายล่ะ”
ลิซ่าพูดจบ ก็ส่งจูบให้กับเนี่ยเฟิง หลังจากนั้นก็เดินจากไป
เมื่อครู่พานฉางอันตื่นเต้นมาก จึงไม่ได้สังเกตคนที่อยู่ข้างๆเนี่ยเฟิงอีกคน ถ้าหากลิซ่าไม่พูด พานฉางอันก็ไม่มีทางสังเกตเห็นแน่
“พี่เฟิง ประธานสมาพันธ์นักศึกษาพูดอะไรหรอครับ?อีกอย่างเธออยู่ที่วิทยาเขตBได้ยังไงครับ?คนของผู้บังคับบัญชาพวกนั้นยังจะมาอีกไหม?”
“นายถามทีละคำถามไม่ได้รึไง?ต้องพูดออกมาเป็นชุดแบบนี้หรอ?”
เนี่ยเฟิงมองไปที่พานฉางอันอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร พานฉางอันรู้สึกเขินเล็กน้อย ประเด็นคือเขาไม่เคยพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้ ดังนั้นตอนนี้พานฉางอันจึงมักรู้สึกว่าสมองของตนเองไม่พอใช้
“เมื่อกี้ไอลีนวางแผนคิดจะใช้วิธีทำร้ายคนอื่นจนทนทุกข์ทรมานไม่ไหว ให้ฉันเป็นแพะรับบาป อาจจะเป็นเพราะคิดว่าฉันไม่มีฐานะอะไรดังนั้นเลยจัดการฉันค่อนข้างง่าย”
“ห้ะ!มิน่าล่ะ!ผมก็ว่าทำไมพวกเขาถึงจับพี่กับผมมา!ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!ไอลีนคนคนนี้เลวเกินไปแล้ว?หลุยส์ที่อยู่ในวิทยาเขตของพวกเขาตาย แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเราด้วย?อีกอย่างนะ เรื่องชั่วๆที่หลุยส์ทำยังมากกว่าต้นไม้ในโรงเรียนเสียอีก!”
พานฉางอันกำหมัดด้วยความรู้สึกไม่ยุติธรรม เขามองรอบๆอย่างระมัดระวัง หลังจากที่มั่นใจว่าไม่มีคน เขาถึงพูดกับเนี่ยเฟิงว่า“เอาจริงๆนะพี่เฟิง หลุยส์มีศัตรูเยอะมากเลยนะ ผมยังแอบสงสัยเลยว่าคนที่อยากให้เขาตายมีความเกี่ยวข้องอะไรกับวิลรึเปล่า ก็คือผู้ชายที่มีรอยสักเมื่อคืนนั่นแหละ เป็นเทพแห่งวิทยาเขตC”
พานฉางอันไม่กล้าพูดต่อหน้าคนอื่น เขากล้ากระซิบเอ่ยกับเนี่ยเฟิงเท่านั้น เนื่องจากนี่ไม่ใช่เรื่องดีอะไร ถ้าถูกคนอื่นได้ยินเข้าแล้วเอาไปบอกกับวิล เกรงว่าตนเองจะต้องตายอย่างแน่นอน
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็เหมือนกัน
ตอนนี้พานฉางอันยังคงรู้สึกหวาดกลัว
“ไอลีนใช้วิธีทำร้ายคนอื่นจนทนทุกข์ทรมานไม่ไหว ตามหลักแล้วพี่ไม่มีทางรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาได้นินา……หรือว่า!ประธานสหพันธ์นักศึกษาลิซ่าหรอครับ?”
ถึงแม้พานฉางอันจะเป็นคนที่ชอบอึดอยู่กับห้อง แต่สมองของเขาไม่เลวเลย
เขานึกถึงจุดนี้ขึ้นมาได้ในทันที
“อาจจะเป็นเพราะเห็นถึงความสามารถของฉันล่ะมั้ง?เพราะฉะนั้นลิซ่าเลยพูดชี้แจ้งกับผู้บังคับบัญชาถึงเรื่องนี้ ฉันเลยถูกปล่อยออกมา”
พานฉางอันที่ได้ยินเนี่ยเฟิงพูดแบบนั้น จึงถอนหายใจยาวๆอย่างโล่งอก
“เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว!ผู้บังคับบัญชารู้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพี่ เขาน่าจะลงโทษไอลีนอย่างสาสมแล้วล่ะ!ไอลีนคนอย่างผู้หญิงคนนั้นน่ะ เพื่อตำแหน่งแล้วเธอก็เอาแต่อาศัยหลุยส์ แล้วร่วมมือกับสมาพันธ์นักศึกษาวิทยาเขตBกับสมาคมเทพมรณะ ตอนนี้สมาคมเทพมรณะถูกยุบไปแล้ว ผู้บังคับบัญชาไม่น่าจะปล่อยเธอไว้แน่”
พานฉางอันรู้ถึงความโหดร้ายในนี้ดี แต่เขาไม่มีความคิดที่จะอยากช่วยไอลีนแก้ตัวแม้แต่คำเดียว ต้องรู้ว่าไอลีนเป็นคนที่จะใช้วิธีทำร้ายคนอื่นจนทนทุกข์ทรมานไม่ไหวกับอาจารย์ของตนเอง!
ลำพังแค่นึกคิด พานฉางอันก็รู้สึกโกรธมากแล้ว
“พี่เฟิง ผมบอกแล้วว่าการได้เข้าสมาพันธ์นักศึกษาเป็นสิ่งที่ดีที่สุด!ผมไม่ได้หมายความว่าพี่ไม่เก่งพอ แต่ในลักษณะสังคมเล็กๆแบบนี้ ความสะดวกสบายในการได้เข้าไปในสมาพันธ์นักศึกษาเป็นอะไรที่มากกว่าที่พี่คิดไว้เยอะมาก”
ในตอนเริ่มแรกที่เนี่ยเฟิงเข้ามาเรียนที่โรงเรียนผู้ดีเมืองจันทร์เป็นเพียงเพื่อให้บรรดาพี่สาววางใจ แต่หลายวันมานี้เนี่ยเฟิงได้รู้ว่า ที่นี่เก็บซ่อนคนที่มีความสามารถเอาไว้ มีคนทุกรู้แบบ
ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำใหญ่มากจริงๆ ถ้าอยากได้ข้อมูลอะไรเพียงเข้าร่วมกับพันธมิตรนักล่ารางวัลก็พอแล้ว มาวันนี้วิทยาเขตที่เขาอยู่กำลังจะให้ข้อมูลมากมายกับเขา
เพราะมีลูกหลานของข้าราชการระดับสูงเรียนอยู่ที่นี่ พวกเขามักจะได้รับอิทธิพลสิ่งที่ได้เห็นและได้ยินอยู่เป็นประจำจากพ่อแม่ของตนเอง อีกทั้งยังข่มเหงรังแกผู้อื่น
ด้วยเหตุนี้ เนี่ยเฟิงจึงได้รับข้อมูลที่มากกว่านี้
ดังนั้นเนี่ยเฟิงจึงฝืนใจรับปากคำขอของลิซ่า สำหรับเนี่ยเฟิง ไม่มีอะไรน่าใส่ใจอยู่แล้ว
“พี่เฟิง!หลังจากนี้ไว้ผมต้องพึ่งบารมีของพี่แล้วล่ะ พี่เป็นคนของสมาพันธ์นักศึกษา จากนี้ไปไม่มีใครกล้ารังแกผมอีกแล้ว!”