พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 544 มีคนหนุนหลังหรือ
ลิซ่าส่ายหัวไปมาเป็นสัญลักษณ์ว่าถึงจะบั่นทอนความกระตือรือร้นของพวกเขาก็ไม่เป็นไร เนื่องจากคนกลุ่มนี้ขาดจิตวิญญาณของการทำงานเป็นทีม ทำให้พวกเขามีความรู้สึกวิกฤติอันตรายบ้างก็ดี
“แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ฉันอยากถามนายมาก หลังจากที่นายเข้ามาในสมาพันธ์นักศึกษาแล้วได้รับอำนาจไป นายจะทำอะไรอย่างงั้นหรอ?”
ลิซ่าอยากรู้เรื่องนี้มาก เธอมองไปที่เนี่ยเฟิง แล้วกะพริบตาปริบๆ เนี่ยเฟิงลูบคางไปมา พลางครุ่นคิด หลังจากนั้นก็เขาก็ออกคำสั่งออกไปว่า
“การเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด แน่นอนว่าต้องการจัดตั้งทีมแม่บ้าน ผมดูออกว่าคนชั้นสูงพวกนี้สวยมากๆ ทำให้ผู้ดีชั้นสูงพวกนี้หมอบคำนับผม”
รอยยิ้มของลิซ่าชะงัก แต่ผ่านไปไม่นานลิซ่าก็พบว่า ในตอนที่เนี่ยเฟิงพูด มุมปากมีรอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้น ลิซ่ามองทะลุคนอื่นได้ดี ดังนั้นเธอจะเข้าใจได้ในทันทีว่าสิ่งที่เนี่ยเฟิงพูดเป็นเรื่องล้อเล่นเท่านั้น
“ขอเพียงแค่นายมีอำนาจสูงสุด ผู้หญิงมากมายก็จะเข้ามาเอาใจนาย นายไม่จำเป็นต้องไปจัดตั้งอะไรหรอก พวกหล่อนอาจจะเข้ามาบริการนายด้วยตัวเอง”
ไม่เพียงแค่ผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายระดับล่างพวกนั้นก็เหมือนกัน พวกเขาจะตั้งทีมให้เนี่ยเฟิง เพื่อที่จะได้รับประโยชน์สิทธิพิเศษบางอย่างจากเนี่ยเฟิง
ที่นี่ก็เหมือนกับสังคมเล็กๆ ทุกที่เต็มไปด้วยผู้อ่อนแอเป็นเนื้อผู้แข็งแกร่งเป็นผู้ได้กินเนื้อก้อนนั้น มีเพียงแค่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะสามารถได้รับทรัพยากรที่มากกว่า ทุกคนต่างเข้าใจกันดี ดังนั้นพวกเขาจึงผูกสัมพันธ์กับผู้แข็งแกร่ง
เนี่ยเฟิงอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศมานาน จะไม่รู้ความคิดของพวกเขาได้อย่างไร แต่ถึงจะรู้แล้ว เขาก็ไม่ไปเปิดโปงหรอก มีแรงงานให้ใช้ฟรีๆ ทำไมเขาจะไม่ใช้มันล่ะ?
“ผมล้อเล่นน่ะ ผมไม่ได้อยากจะจัดตั้งทีมแม่บ้านอะไรหรอก หลังจากที่มีอำนาจสูงสุด ผมมีแผนของตัวเอง เรื่องพวกนี้คุณไม่จำเป็นต้องถามหรอก”
เนี่ยเฟิงเห็นสีท้องฟ้าตอนเย็นแล้ว จึงตัดสินใจโบกมือลาลิซ่า แล้วเดินกลับไปที่หอพักของตนเอง เดิมทีลิซ่าอยากจะกล่าวทักทายเนี่ยเฟิงอีกเล็กน้อย แต่คิดไม่ถึงว่าเนี่ยเฟิงจะเดินจากไปทั้งๆอย่างนี้
ลิซ่าเหมือนจะเริ่มสนใจผู้ชายที่ไม่มีความรู้สึกคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
และในตอนนี้วิลก็ให้คนไปสืบตัวตนของเนี่ยเฟิงเรียบร้อยแล้ว
“แกหมายความว่าเขาเข้าไปในสมาพันธ์นักศึกษาและกลายเป็นคนดังของลิซ่าไปแล้ว?”
เดิมทีหลังจากที่พักรักษาตัวหายแล้ววิลคิดที่จะไปคิดบัญชีกับเขา แต่คิดไม่ถึงว่าเนี่ยเฟิงจะกลายเป็นคนของสมาพันธ์นักศึกษาไปแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ เขาก็จะทำอะไรได้ไม่สะดวก แต่เขาไม่อาจกล้ำกลืนฝืนทนได้จริงๆ เขาจะต้องลงโทษเนี่ยเฟิงให้ได้
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าไอ้หมอนี่จะร่ายเวทมนตร์เอายาอะไรให้ลิซ่ากิน แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางปล่อยเนี่ยเฟิงไปอย่างแน่นอน!
“เขาทำให้ฉันอับอายที่ผับเยว่สื้อ ฉันไม่มีวันปล่อยให้มันอยู่อย่างสงบแน่ รีบไปทำการสมัครกับเบื้องบน ใส่การวิ่งแข่งมาราธอนในวาระการประชุม ฉันจะทำให้มันตาย!”
ในโรงเรียนมีแต่คนชั้นสูง แต่ในทุกวิทยาเขตจะมีการจัดการแข่งขันเล็กน้อยขึ้นทุกปี และการวิ่งมาราธอนก็เป็นหนึ่งในรายการการแข่งขัน
การวางแผนเส้นทางของการวิ่งมาราธอนจะแตกต่างกันทุกปี ปีนี้ยังไม่ได้วางแผนอะไร แต่ภายใต้การกระตุ้นของวิล ในเวลาไม่นานพวกเขาก็ได้รับแผนที่เส้นทาง วิลพบบางเส้นทางที่เปลี่ยวห่างไกลหลายเส้นทาง เมื่อมองดูเส้นทางหลายเส้นนี้แล้ว ใบหน้าของวิลก็เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มชั่วร้าย
ถึงจะเข้าสมาพันธ์นักศึกษาได้แล้วยังไง?เขาไม่มีทางให้เนี่ยเฟิงใช้ชีวิตอย่างสงบสุขหรอก
วันนี้หลังจากที่ลิซ่าได้รับการแจ้งข่าว เธอก็อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้
“พวกเขาทำอะไรกันเนี่ย ประชุมกันแล้วไม่ใช่หรอ วาระการวิ่งมาราธอนอีกครึ่งเดือนถึงจะเสนอขึ้นมาได้ ทำไมตอนนี้จะเริ่มวิ่งมาราธอนล่ะ นี่มันเร็วเกินไปรึเปล่า?”
ลิซ่ามองดูเอกสารที่พวกเขาเอามาให้ คิ้วขมวดเป็นปมแน่น
“ได้ยินมาว่าเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายขอกันมา เนื่องจากฤดูหนาวในปีนี้อาจจะมาเร็วกว่าปกติเล็กน้อย ดังนั้นพวกเขาจึงวางแผนที่จะจบการวิ่งมาราธอนนี้โดยเร็วที่สุด ตอนนี้อากาศเย็นลงแล้ว ผ่านไปอีกไม่นานก็น่าจะมีหิมะตก ถึงเวลานั้นการวิ่งมาราธอนอาจจะค่อนข้างลำบาก”
ถึงจะพูดอย่างนี้ แต่ลิซ่ากลับไม่คิดอยากที่จะจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนเร็วขนาดนี้ ถึงคนที่ตั้งใจแข่งขันจะมีไม่กี่คน แต่การวิ่งมาราธอนในแต่ละปีเป็นกิจกรรมทางสังคม อีกทั้งผู้ที่ชนะการแข่งขันวิ่งมาราธอนจะได้รับรางวัลก้อนใหญ่ เงินก้อนนี้เป็นอะไรที่เยอะมากๆ
อย่างไรก็ตามสมาพันธ์นักศึกษาอื่นๆได้รวมตัวกันเพื่อตัดสินใจเรื่องนี้ งั้นพวกเขาก็ไม่อาจหลบเลี่ยงอะไรได้ ลิซ่านวดขมับเบาๆ หลังจากนั้นก็ทำได้เพียงแค่โบกมือไปมา“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ไม่จำเป็นต้องมาถามฉันหรอก ฉันตอบตกลงแล้วกัน”
ข่าวการวิ่งมาราธอนที่จัดเร็วกว่ากำหนดได้แพร่กระจายไปทุกซอกทุกมุมอย่างรวดเร็วราวกับติดปีก และในตอนนี้เนี่ยเฟิงได้เปิดกระดานข่าวครั้งก่อนขึ้นมาดูอีกครั้ง
มาวันนี้กระดานข่าวนี้ได้กลายเป็นแอปพลิเคชันที่ทุกคนใช้การสนทนาที่ไม่ระบุชื่อไปแล้ว ที่นี่พวกเขาอิสรเสรี อีกทั้งจะวิพากษ์วิจารณ์พูดอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นหัวข้อสนทนาแบบไหนก็ไม่สามารถถูกปิดหรือลบออกได้
เว็บไซต์ที่เนี่ยเฟิงทำขึ้นให้อิสระกับพวกเขาเยอะมาก ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงชอบกระดานข่าวนี้มาก
“พี่เฟิงได้ข่าวอะไรไหม?การวิ่งมาราธอนจะจัดก่อนกำหนด?”
หลังจากที่พานฉางอันเห็นข่าว ก็รีบยื่นโทรศัพท์ออกมาอย่างยินดีปรีดา เนี่ยเฟิงเหลือบตามองเล็กน้อย หลังจากนั้นก็เก็บสายตา
ฃ
“มีอะไรให้น่าแปลกใจกัน?”
“พี่ไม่รู้อะไร!การแข่งขันวิ่งมาราธอนเป็นการแข่งขันใหญ่ประจำปีของเราที่นี่ ทีมที่ชนะจะได้รับเงินจำนวนมากเลยนะ เงินก้อนนี้เป็นสิ่งที่ทำให้คนจำนวนมากตาร้อนกันเลยแหละ!แต่การแข่งขันวิ่งมาราธอนต้องมีสมาชิกในทีมห้าคน ต้องหาคนให้ได้ตามที่กำหนดถึงจะสามารถสมัครได้”
ในปีก่อนๆพานฉางอันอยากหาคนไปวิ่งมาราธอนแต่หาไม่ได้ ถึงพานฉางอันจะรู้ว่าตนเองแข่งไปก็ไม่ชนะ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าร่วม เพราะทุกคนที่เข้าร่วมจะได้รับรางวัลเล็กๆน้อยๆ
ถึงเงินก้อนนี้จะไม่ได้เยอะมาก แต่จะมีไอ้งั่งคนไหนที่มีเงินแต่ไม่อยากได้ล่ะ
เนี่ยเฟิงเห็นพานฉางอันมองมาที่ตัวเองด้วยตาลุกวาว เขาจึงอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
“ทำไมนายต้องมองฉันอย่างนั้นด้วย?หรือนายคิดที่จะให้ฉันเข้าร่วมการแข่งขันวิ่งมาราธอนด้วย?”
“แน่นอนสิ พี่เฟิง แค่ร่วมการแข่งขันก็สามารถได้รับรางวัลแล้ว โลกใบนี้จะมีใครบ้างไม่ชอบที่ตัวเองมีเงิน?”
ในตอนที่พานฉางอันกำลังพูดโน้มน้าวอยู่นั้น เขาสามารถสัมผัสได้ว่าเนี่ยเฟิงไม่สนใจการแข่งขันนี้ ดูท่าเนี่ยเฟิงคงจะไม่เข้าร่วมการแข่งขัน พานฉางอันรีบลุกขึ้นมานั่งข้างๆเนี่ยเฟิง
“พี่เฟิง ช่วงนี้พี่บอกให้ผมหมั่นออกกำลังกายไม่ใช่หรอครับ?การเตรียมความพร้อมให้ตัวเองมันถึงจะสามารถฝึกฝนวิทยายุทธ์ได้ดีขึ้น เราวิ่งมาราธอนก็สามารถออกกำลังกายไปด้วยได้!”
ภายใต้การใช้วิธีโน้มน้าวทั้งไม้แข็งและไม้อ่อนของพานฉางอัน เนี่ยเฟิงจึงพยักหน้าตอบตกลง
“สุดยอดไปเลย งั้นผมไปถามคนอื่นๆนะว่ามีใครจะร่วมแข่งขันกับเราไหม!”
พ่านฉางอันพูดไปด้วยฮัมเพลงเดินออกไปด้วย ผ่านไปไม่นานเขาก็เดินกลับมาด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย เพราะมนุษยสัมพันธ์ของพานฉางอันไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นจึงไม่คนไหนตอบตกลงร่วมทีมกับเขาเลยแม้แต่คนเดียว
“พี่เฟิง ทำยังไงดีล่ะ?ฝั่งพี่มีคนที่พอเรียกได้ไหม?