พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 555 ใคร่ครวญคิดวางแผน
ผลประโยชน์แบบนี้ยั่วยวนคนมากเกินไปแล้วจริงๆ เนี่ยเฟิงไม่รู้สึกเลยว่าพวกเขามาถึงเมืองจันทร์ทองคำเพื่อใช้ชีวิตในวัยเกษียณอย่างสงบจิตสงบใจอยู่ที่นี่ วิ่งมาถึงสถานที่ความวุ่นวายจากภัยสงครามนี้ ก็ไม่ใช่เพื่อที่จะขายยาห้ามใช้ให้กับผู้ที่อยู่ตำแหน่งสูงเหรอ?
แต่เริ่มแรกเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเอายาห้ามใช้ไปพูดคุยกับผู้อยู่ตำแหน่งสูงเหล่านั้น พวกเขามาถึงที่นี่ไร้อำนาจไร้อิทธิพล พวกเขาย่อมจะพึ่งพาอาศัยอำนาจอิทธิพลบางฝ่ายก่อนแน่นอน มิฉะนั้นด้วยฐานะกับความสามารถอย่างพวกเขาแบบนี้ อาจเป็นไปได้มากจะถูกฝ่ายตรงข้ามกินเรียบไม่เหลือซาก
ถึงเวลานั้นอย่าพูดถึงการเจรจาเลย แม้แต่ชิปที่อยู่ในมือจะเก็บไว้ได้หรือไม่ก็ยังเป็นปัญหาเช่นกัน คนในเมืองจันทร์ทองคำไม่ได้พูดง่ายขนาดนั้นล่ะ พูดได้อีกว่าที่นี่ก็ไม่มีประเทศมหาอำนาจที่ก่อตั้งขึ้นโดยพวกเขาหลันเฟิงหลิง
หลังจากเนี่ยเฟิงได้รับข้อมูลมหาศาล เริ่มทำการคัดตรวจและลิซ่าฝั่งโน้นเขียนรายงานที่เป็นลายลักษณ์อักษรเสร็จแล้ว ให้เสี่ยวเฮยยื่นส่งขึ้นไปโดยตรง ใบหน้าของลิซ่าคร่ำเครียดไปหมด มองออกได้ว่าลิซ่าเกลียดชังมากๆกับพฤติกรรมของวิล ถึงยังไงนี่ก็คุกคามถึงความปลอดภัยในชีวิตลิซ่าแล้ว
และเรื่องนี้ก็ปกปิดกับนักศึกษาคนอื่นๆที่อยู่ในโรงเรียนเลย สำหรับประธานสหภาพนักศึกษาที่เกี่ยวข้องกับคดีหลายคนนั้น ได้ถูกกองทัพทหารของลิซ่าควบคุมไว้แล้ว คนเหล่านั้นไม่จำเป็นที่จะคงอยู่แล้ว
แต่แม้ว่าฐานะตำแหน่งของลิซ่าสูง ถึงยังไงโรงเรียนก็เป็นสามพันธมิตรใหญ่ร่วมก่อตั้งขึ้นมา ไม่ใช่ด้วยลิซ่าตัวคนเดียวก็นับได้เลย มิฉะนั้นครั้งก่อนแจ็กสันมาถึงที่นี่เป็นไปได้ยังไงจะปล่อยพวกเขาอย่างง่ายดายขนาดนั้นได้อีกล่ะ? เป็นเพราะว่าแจ็กสันไม่กล้าบุ่มบ่ามนั่นเอง
“เนี่ยเฟิงขอโทษจริงๆ ฉันคิดว่าเรื่องนี้น่าจะพุ่งเป้ามายังฉัน ถึงยังไงพันธมิตรที่หนึ่งกับพันธมิตรที่สองและพันธมิตรที่สามอยู่ในสภาพที่แบ่งเป็น3ก๊ก ทุกคนล้วนเฝ้ารอคอยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ครั้งนี้ก็ขอบคุณคุณจริงๆ ถ้าหากไม่มีคุณ ฉันอาจจะตายอยู่บนถนนไปแล้ว”
หลังจากลิซ่าจัดการกิจธุระที่อยู่ในมือเสร็จก็เข้าไปหาเนี่ยเฟิง ในเวลานี้เนี่ยเฟิงรวบรวมข้อมูลเสร็จสิ้นแล้วเห็นเพียงเขาเก็บมือถือขึ้นมา เขายิ้มอยู่พูดว่า “นี่ก็ไม่มีอะไรเช่นกัน ผมไม่ใช่เคยบอกแล้วเหรอ คุณให้สิทธิที่สูงเลิศล้ำแก่ผม งั้นผมย่อมต้องตอบแทนบางสิ่งบางอย่างให้คุณอยู่แล้ว ก็อย่างเช่นเมื่อกี้”
เนี่ยเฟิงจะไม่ถูกคนผูกมัด แต่เขากลับสามารถดำเนินงานตามที่ใจตนเองคิดไว้ ได้รับความเชื่อใจจากลิซ่า ไม่ได้อยู่ในแผนการของเขาเลย แต่ว่าการขยายแบบนี้ดูเหมือนค่อนข้างไม่เลวเช่นกัน
“เป็นอย่างที่คิดไว้รับคุณเข้าในสหภาพนักศึกษาเป็นเรื่องที่ถูกต้องมากๆอย่างหนึ่งจริงๆ คุณวางใจเถอะ วิลทำเรื่องแบบนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะคำนึงถึงแต่ประโยชน์ของตนเองคนอื่นเป็นอย่างไรก็ไม่สนแน่นอน ฉันยื่นส่งรายงานที่เป็นลายลักษณ์อักษรให้กับศาลทหารแล้ว แม้แต่โอกาสเจรจาล้วนเป็นไปไม่ได้ที่จะมี บิดาฉันจะดีใจมาก ถึงยังไงก็สามารถที่จะจัดการภัยที่แอบแฝงใหญ่ขนาดนั้นอย่างหนึ่งไปได้”
“แต่ว่าวิลคนนี้โอหังขนาดนั้น อิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังของเขาย่อมแข็งแกร่งมากๆแน่นอน คุณมีความเชื่อมั่นที่จะทำให้เขาล้มไหม?”
คำพูดนี้ของเนี่ยเฟิงเป็นความจริงอย่างมาก ครั้งนี้วิลเพื่อที่จะฆ่าพวกเขาจึงเรียกใช้เครื่องบินทิ้งระเบิด เหมือนการกระทำที่ยิ่งใหญ่อย่างเขาแบบนั้น คิดว่าเอาเงินหว่านซื้อความสะดวกกับคนทั้งหลายมานานแล้ว มีฝีมือเช่นนี้ งั้นก็ต้องมีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งอยู่
“เขาคาดการณ์อย่างมั่นใจว่าจะฆ่าพวกเราไป ถึงเวลานั้นตายแล้วไม่สามารถให้การได้ เป็นไปไม่ได้ที่พันธมิตรที่หนึ่งจะพูดเพื่อคนตายหลายคนเลยสักนิด อันไหนเบาอันไหนหนักพวกเขายังคงแยกแยะอย่างชัดเจนมาก นี่ก็คือนายทุน แต่น่าเสียดาย คู่กรณีไม่ได้ตายเลย ฉันยังอยู่รอด ดังนั้นพวกเขาย่อมไม่สามารถประสบผลอย่างเด็ดขาด และก็เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะให้วิลได้ดี”
เพียงแค่มีความรู้สึกเสียดายเล็กน้อยเท่านั้น ถึงแม้ว่าเรื่องนี้ขึ้นถึงศาลทหาร วิลย่อมจะถูกพันธมิตรที่สองคุ้มครองไว้ ถึงเวลานั้นพิจารณาตัดสินคดีลงมาย่อมจะมีโทษเบา
“แต่ว่าครั้งนี้วิลย่อมจะถูกให้ออกจากโรงเรียนแน่นอน ก็แสดงให้เห็นว่าเขาไม่สามารถได้รับทรัพยากรจากที่นี่อีก บวกกับพวกประธานสหภาพนักศึกษาที่เขาติดสินบนล้วนจะถูกปลดออกจากตำแหน่งไปหมด นี่ก็นับได้ว่าเป็นการล้างครั้งใหญ่อีกครั้ง ฉันมองคนเหล่านั้นขัดตามานานแล้ว พวกเขาล้วนเป็นคนที่เอนลู่ไปตามใครก็ได้ ลมพัดไปทางไหนก็ล้มไปทางนั้น ส่วนใหญ่ล้วนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ปัจจุบันนี้ก็ถึงเวลาเปลี่ยนรุ่นแล้วเช่นกัน”
นี่สำหรับลิซ่ามากล่าวมีผลดีมากๆ เดิมทีลิซ่าก็คิดที่จะประคองอิทธิพลของตนเองเข้าไปเป็นหนอนบ่อนไส้ในวิทยาเขตแต่ละแห่ง ตอนนี้ประธานล้มละลายแล้ว งั้นลิซ่าก็สามารถจัดวางอิทธิพลของตนเองได้แล้ว
แม้ว่าวันนี้ลิซ่าได้รับความตื่นตกใจอยู่ในการต่อสู้ แต่ว่านี่ดีเลวก็แค่ใจหายใจคว่ำแต่ไม่มีอันตราย
“ในเมื่อคุณพูดเช่นนี้ งั้นคุณก็ไปทำเช่นนั้นเถอะ”
เนี่ยเฟิงไม่มีความสนใจใดๆเลยสักนิดกับแผนการเหล่านั้นที่ลิซ่าพูด พูดได้อีกว่า ยามปกติเขาล้วนไปมาอย่างอิสระคนเดียว เขาไม่คิดที่จะขยายอิทธิพลของตนเองเลย
ปัจจุบันนี้สิ่งที่เขาได้รับมากพอแล้ว
คนกลุ่มนั้นเจ้าเล่ห์ขนาดนั้น ย่อมจะหลบซ่อนพัฒนาขยายเส้นสายข้างล่างอยู่ ซุกซ่อนตนเองไว้อย่างดี
แต่ก่อนยาห้ามใช้เคยขายอยู่ที่นี่ แต่เพราะว่าผลข้างเคียงของยาห้ามใช้ค่อนข้างรุนแรง ด้วยเหตุนี้มีคนมากมายเลิกใช้ ตอนนี้พวกเขากลับมาอยากจะเปิดตลาดอีก ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะปรากฏตัวด้วยตนเองอย่างแน่นอน มิฉะนั้นหากถูกกดขี่พวกเขาก็อยากที่จะปลีกตัวออกมา ดังนั้นพวกเขาน่าจะจัดวางฐานปฏิบัติการแต่ละแห่งไว้
เนี่ยเฟิงอยากจะหาพวกเขาเจออยู่ที่นี่ ก็จำเป็นต้องระมัดระวังมากๆ เพราะว่าคนที่เขาเผชิญหน้าเป็นสุนัขจิ้งจอกแก่เฒ่าสารพัดพิษกลุ่มหนึ่งนะ
“วันนี้คุณก็ยุ่งมาทั้งวันแล้ว ยังคงไปพักผ่อนๆให้ดีๆเถอะ แต่หลังจากรอศาลทหารทำการเปิดศาลแล้ว ฉันต้องการอยากจะให้คุณออกหน้า”
เนี่ยเฟิงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “ไม่เป็นไร มีที่ไหนต้องการใช้ผมเอาแต่พูดก็พอแล้ว”
หลังจากเนี่ยเฟิงกลับไป ลิซ่านึกถึงแท่งขนมพลังงานชิ้นนั้นที่อยู่ในกระเป๋าของตนเอง
เธอให้คนส่งแท่งขนมพลังงานไปยังสถาบันวิจัยทำการเปรียบเทียบและทำการวิเคราะห์ข้อมูลทันที เธอกล้ามั่นใจว่าแท่งขนมพลังงานชิ้นนี้จะเป็นชิ้นที่แต่ก่อนเธอไม่เลยลิ้มรสมาก่อนแน่นอน
รสชาตินี้และความเร็วในการเสริมพลังงาน ล้วนจะยิ่งเลิศล้ำกว่าแท่งขนมพลังงานที่แต่ก่อนเธอเคยลิ้มรสมาก่อนเหล่านั้น
ถ้าพูดว่าเนี่ยเฟิงเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง งั้นอยู่ในมือคนธรรมดาคนหนึ่งเป็นไปได้ยังไงที่จะมีของแบบนี้ล่ะ?
ลิซ่าต่อเนี่ยเฟิงยิ่งมายิ่งอยากรู้อยากเห็นแล้ว อยู่ในสายตาของลิซ่าเนี่ยเฟิงเป็นผู้ชายที่ลึกลับมากๆคนหนึ่ง และสิ่งที่จับกุมอยู่ในผู้ชายคนนี้อาจเป็นสิ่งที่เธอจินตนาการไม่ถึง แต่ไม่ว่าเป็นยังไง ลิซ่าล้วนจะดึงเนี่ยเฟิงเข้ามาเป็นพวก มีเนี่ยเฟิงแล้ว งั้นก่อตัวเป็นพันธมิตรที่สี่เป็นไปได้มากที่จะเหมือนดั่งเสือติดปีก
ในเวลานี้เนี่ยเฟิงออกจากออฟฟิศมองเห็นพานฉางอันกับอลิซนั่งอยู่ข้างนอก หลังจากอลิซเห็นเนี่ยเฟิงออกมา เธอลุกขึ้นมาทันที รีบเร่งเดินไปยังข้างหน้าเนี่ยเฟิง ร้อนใจซักถามว่า “คุณไม่เป็นไรนะ? ลิซ่าว่ายังไงล่ะ?”
“ไม่มีอะไร เรื่องเหล่านี้ลิซ่าจะจัดการด้วยตนเอง”
เนี่ยเฟิงตบไหล่ของอลิซเบาๆตบแล้วตบอีก นี่อลิซจึงโล่งอกไปที ต่อจากนี้อลิซมีความรู้สึกหงุดหงิดโมโหเล็กน้อยพูดว่า “ขอโทษ ล้วนเป็นฉันทำให้คุณต้องเดือดร้อนแล้ว……ถ้าหากฉันเหมือนเช่นดั่งลิซ่ามีคุณภาพจิตที่แข็งแกร่งขนาดนั้นก็ดีเลย เดิมทีฉันคิดว่าตนเองช่วยอะไรได้บ้างแต่นึกไม่ถึงเผชิญหน้ากับอันตรายฉันถึงขนาดจะกลายเป็นตัวภาระอย่างหนึ่ง”
อลิซอยู่ที่นี่เป็นองค์หญิงน้อยคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ดีกินดี ยามปกติล้วนถูกคนปกป้องไว้ ที่ไหนจะเคยพบเจอกับสภาพการณ์ แบบนี้ ครั้งก่อนถูกคนคุกคาม อลิซล้วนหวาดกลัวจนไม่ไหวแล้ว ครั้งนี้พบเจอกับการจู่โจมอย่างน่ากลัว อลิซยิ่งจะขยับตัวไม่ได้