พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 556 การขอร้องของอลิซ
อลิซรู้สึกว่าลิซ่าแสดงให้เห็นได้ดีมากๆ เปรียบเทียบกับเธอแล้วก็ยิ่งเหมือนเป็นตัวภาระคนหนึ่งที่ไม่มีประโยชน์เลย อลิซยิ่งคิดยิ่งรู้สึกเสียใจ อีกทั้งรู้สึกว่าตนเองไม่มีสิทธิ์อยู่ข้างกายเนี่ยเฟิงต่อไปเลยสักนิด
เห็นลักษณะท่าทางแบบนี้ของอลิซ โดยสัญชาตญาณเนี่ยเฟิงคิดว่าอลิซได้รับความตกใจจนแย่แล้ว นิสัยของอลิซมีความคล้ายคลึงกันกับคางเมิ่งพี่สาวของเขาเล็กน้อย ก็ร่าเริงกระฉับกระเฉงขนาดนั้นเช่นกัน
ไร้ทุกข์ ไร้โศก ล้วนไม่เคยมีความกลัดกลุ้มเพราะเรื่องทางโลกมาก่อนเลย
ครั้งนี้ที่อลิซรู้สึกเสียใจก็เป็นเพราะว่านิสัยเดิมค่อนข้างใจงามบริสุทธิ์ เดิมทีเนี่ยเฟิงไม่คิดที่จะยุ่งเรื่องของอลิซ แต่ว่าอลิซมีความคล้ายคลึงกันหลายส่วนกับพี่สาวของตนเองจริงๆ ดังนั้นเนี่ยเฟิงก็เลยเอ่ยคำพูดปลอบโยนว่า “คุณทำได้ดีมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องเพราะเรื่องจุกจิกเหล่านั้นมาเรียกร้องตัวเองโหดเกินไป”
การปลอบโยนของเนี่ยเฟิงเหล่านี้ไม่ได้เกิดผลใดๆเลย กลับยิ่งทำให้อลิซรู้สึกว่าตนเองไม่มีประโยชน์ อลิซแอบตัดสินใจอยู่ในใจว่า จะต้องเป็นคนคนหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อเนี่ยเฟิงอย่างแน่นอน อย่างน้อยถ้าพบเจอกับเรื่องแบบนี้อีก เธอก็จะมีความสามารถที่ป้องกันตนเองได้ อลิซรวบรวมความกล้าจ้องมองไปยังเนี่ยเฟิง
“เนี่ยเฟิง! ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องคุณ!”
เนี่ยเฟิงอึ้งชะงักไปหนึ่งที “เรื่องอะไรเหรอ?”
“ฉันรู้สึกว่าฉันอ่อนแอมากเกินไปแล้วจริงๆ ดังนั้นฉันอยากขอให้คุณฝึกกังฟูให้กับฉัน สอนฉันยิงปืน! สอนความสามารถและทักษะการต่อสู้พอสมควรให้ฉัน แน่นอนคุณไม่ได้สอนฉันเปล่าๆอยู่แล้ว ฉันจะจ่ายเงินอยู่นะ!”
เนี่ยเฟิงเห็นนัยน์ตาของอลิซเขียนเต็มไปด้วยความจริงจัง เดิมทีอลิซก็เกิดอยู่ในเมืองทองอยู่แล้ว วันหลังเธอก็จะกลายเป็นเจ้าเมืองน้อย เดิมทีชีวิตควรต้องไร้กังวลเรื่องอาหารเสื้อผ้าเสวยสุขทั้งชีวิต แต่ตอนนี้อลิซถึงขนาดพิจารณาสิ่งเหล่านี้
“อยู่ดีๆทำไมมีความคิดเช่นนี้ล่ะ? สามารถให้บิดาคุณจัดวางบอดี้การ์ดมาปกป้องคุณมากหน่อย การฝึกกังฟูไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายขนาดนั้น อีกทั้งยังต้องค่อยๆก้าวไปตามลำดับ ไม่มีทางลัดอะไรให้เดิน?”
อลิซมีความร้อนใจเล็กน้อย เธอจับข้อมือของเนี่ยเฟิงไว้ทันที เธอส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก พอนึกถึงว่าวันนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา วันหลังอาจจะมีอีก อลิซก็รู้สึกว่าตนเองอยู่ในความอันตราย อลิซล้วนไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน
“ก็เหมือนเช่นดั่งครั้งก่อน บอดี้การ์ดถูกกั้นไว้อยู่นอกประตู ฉันอยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อเกือบถูกทำร้าย…..สรุปก็คือ ไม่ว่ายังไงมีทักษะอย่างหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร! คุณก็ช่วยฉันหน่อยเถอะ ฉันไม่ใช่ประเภทที่ทำไม่เสมอต้นเสมอปลาย ฉันก็ไม่ใช่ทำอะไรได้ไม่นานก็ล้มเลิกแบบนั้นเช่นกัน ฉันจริงจังมากนะ!”
อลิซพูดอยู่กำกำปั้นอย่างแน่น พูดอย่างจริงจังมากๆกับเนี่ยเฟิง
“พี่เฟิง ถ้าหากคุณรับอลิซเป็นลูกศิษย์ล่ะก็ งั้นอลิซก็จะเป็นศิษย์น้องน้อยของผมแล้วใช่หรือไม่ล่ะ? พี่เฟิง คุณวางใจเถอะ ศิษย์น้องน้อยมีตรงไหนไม่เข้าใจผมจะนำพาเธอเองล่ะ!”
พอพานฉางอันนึกถึงว่าตนเองไม่ได้ทำการต่อสู้อยู่ตัวคนเดียว ทันใดนั้นก็มีชีวิตชีวาขึ้นมา เพียงเห็นพานฉางอันตบหน้าอกของตนเองตบแล้วตบอีก ตอบกลับอย่างจริงจังมากๆ
เนี่ยเฟิงอดไม่ไหวที่จะยิ้มแล้วยิ้มอีก ในใจคิดอยู่ว่าความมั่นใจในตนเองของพานฉางอันก็ไม่รู้มาจากที่ไหน ถึงขนาดรู้สึกว่าตนเองมีสิทธินำพาคน
แต่เนี่ยเฟิงยังคงส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก “สภาพร่างกายของคุณไม่เหมาะในการต่อสู้เลย ดังนั้นยังคงควรกินๆ ควรดื่มๆ อย่าคิดสิ่งเหล่านี้เลย”
หลังจากเนี่ยเฟิงพูดจบหมุนตัวก็ออกไปเลย อลิซคล้อยตามทุกอย่างไล่ตามขึ้นไป ใบหน้าเล็กๆที่ประณีตนั้นของอลิซขมวดกลายเป็นก้อน
“ฉันจะไม่เหมาะในการต่อสู้ยังไงล่ะ วันหลังฉันจะพยายามให้ดีๆ ฉันจะฝึกฝนให้กลายเป็นคิงคองบาร์บี้แบบนั้น! ฉันจะมีกล้ามเนื้อเต็มตัว ใครล้วนสู้ฉันไม่ได้!”
ย่างก้าวของเนี่ยเฟิงดั่งลม โดยทั่วไปเดินเร็วเล็กน้อย อลิซเกือบจะไล่ตามไม่ทัน ถ้าหากไม่ใช่อลิซวิ่งเหยาะๆไปข้างหน้าอาจจะถูกเนี่ยเฟิงละทิ้งไปแล้ว
พานฉางอันอยู่ข้างๆได้ยินอลิซพูดอย่างนี้? พินิจพิเคราะห์อลิซขึ้นมาทันที
ในใจคิดอยู่ว่าถ้าหากอลิซฝึกฝนจนกลายเป็นลักษณะเหมือนดั่งคิงคองบาร์บี้แบบนั้นเกรงว่าน่าตื่นตะลึงมากล่ะ?
“คุณอลิซ ถ้าหากพี่เฟิงไม่ยอมสอนคุณ ผมสอนคุณได้ล่ะ ถ้าไม่คุณกราบไหว้ผมเป็นอาจารย์ วันหลังผมมารับผิดชอบจัดวางการฝึกอบรมให้คุณ คุณว่ายังไงล่ะ?”
ได้รับลูกศิษย์สาวสวยคนหนึ่งยังสามารถได้รับค่าตอบแทนที่ไม่ธรรมดาก้อนหนึ่งคิดแล้วล้วนรู้สึกดีใจ แต่นึกไม่ถึงเนี่ยเฟิงกลับใช้สายตาที่มีความหมายลึกซึ้งจ้องมองพานฉางอันอยู่ พานฉางอันไอ้คนนี้เส้นประสาทใหญ่จริงๆ ถึงขนาดกล้ารับลูกศิษย์อยู่ต่อหน้าเนี่ยเฟิง ก็ไม่ชั่งดูตนเองว่ามีกี่ชั่งกี่กรัม
“แม้แต่ตัวคุณเองล้วนฝึกไม่ถึงไหน ยังคิดที่จะรับลูกศิษย์เหรอ?”
เสียงของเนี่ยเฟิงเอ้อระเหยส่งเข้ามา พานฉางอันเก้ๆกังๆจับเส้นผมของตนเองจับแล้วจับอีกทันที
“พี่เฟิง ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนี้ ผมแค่รู้สึกว่าในเมื่อมีคนอยากฝึก งั้นพวกเราเป็นอีกล่ะก็สามารถสอนได้ล่ะ! พูดได้อีกว่า ใครจะเป็นวัสดุที่เหมาะในการฝึกกังฟูโดยกำเนิดอีกล่ะ?”
คำพูดเหล่านี้ที่พานฉางอันพูดมีหลักการเล็กน้อยจริงๆ เนี่ยเฟิงก็รู้สึกเช่นนี้ด้วย เพียงแต่มีคนบางคนไม่เหมาะจริงๆ เพราะว่าพรสวรรค์คุณสมบัติกับรากฐานของคนบางคนไม่ถือว่าเป็นวัสดุที่ดีในการฝึกกังฟู ถึงแม้ว่าใช้เวลาสิบกว่าปีล้วนอาจไม่สู้คนที่มีรากฐานดีฝึกไม่กี่ปีเหล่านั้น
พูดได้อีกว่าจะนำพาอลิซฝึกกังฟู นั่นก็พูดได้ว่าเนี่ยเฟิงจะต้องสร้างข้อผูกมัดกับอลิซ ถึงเวลานั้นเนี่ยเฟิงจะรวบอลิซเป็นคนของตนเอง คิดว่าน่าจะค่อนข้างยุ่งยาก เนี่ยเฟิงมาถึงที่นี่ เพียงแค่อยากจะหาเบาะแสของคนกลุ่มนั้นได้……
แต่ว่าเห็นอลิซตาปริบๆจ้องมองตาของตนเองอยู่ ผลสุดท้ายเนี่ยเฟิงยังคงมีความรู้สึกใจอ่อนเล็กน้อย
“คุณจะต้องคิดให้ดีๆนะ การฝึกกังฟูไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายขนาดนั้น จะต้องทนทุกข์ทรมานนะ”
อลิซรู้ว่าเนี่ยเฟิงยอมแล้ว เพียงเห็นอลิซพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกอย่างรีบเร่งมาก แสดงให้เห็นว่าตนเองรู้
“ฉันทนทุกข์ทรมานได้ คุณวางใจเถอะ ฉันจะไม่ทำให้คุณขายหน้าอย่างเด็ดขาด!”
อลิซพูดอยู่ตบหน้าอกของตนเองอย่างดุเดือดตบแล้วตบอีก แต่เป็นเพราะว่าเธอใช้แรงมากเกินไป ดังนั้นตบจนตนเองเจ็บแทบตาย
ถ้าหากไม่รับปากอลิซ อลิซอาจจะพัวพันเขาอยู่ตลอดเวลา เนี่ยเฟิงคิดแล้วคิดอีก ไม่งั้นเพิ่มปริมาณการออกกำลังกายให้มากขึ้น ตั้งแต่แรกก็ทำให้อลิซลิ้มรสถึงความทรมานในการฝึกกังฟูอย่างนี้อลิซก็จะรู้ว่ายากเลยยอมแพ้
เนี่ยเฟิงรู้สึกว่าวิธีนี้ไม่เลว เขาจ้องมองอลิซอย่างมีความหมายลึกซึ้งหนึ่งที และอลิซล้วนไม่รู้สึกตัว ยังรู้สึกว่าตนเองกราบไหว้เนี่ยเฟิงเป็นอาจารย์แล้ววันหลังก็สามารถกลายเป็นคนที่เก่งมากคนหนึ่งได้แล้ว
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นคืนนี้ผมก็ไปหาพวกคุณทั้งสองคนออกมาทำการฝึกอบรมด้วยกัน”
“อ่า แต่วันนี้พวกเราเพิ่งวิ่งมาราธอนไป เหนื่อยแทบตายแล้ว พี่เฟิง คุณจะไม่ให้เราพักสักวันเลยเชียวเหรอ?”
ตอนนี้พานฉางอันยังเป็นเจ้าอ้วนคนหนึ่ง ทนความทุกข์ในชีวิตประจำวันยังไม่ได้ ถ้าหากไม่ใช่เพื่อที่จะได้แข็งแกร่งขึ้น พานฉางอันย่อมจะไม่ไปทำการฝึกอบรมอย่างแน่นอน เนี่ยเฟิงไม่ได้พูดง่ายขนาดนั้น เพียงเห็นเนี่ยเฟิงจ้องมองพานฉางอันอย่างเบาๆหนึ่งที ทันใดนั้นพานฉางอันเก้ๆกังๆยิ้มแล้วยิ้มอีก
“ผมรู้แล้ว ผมรู้แล้ว เมื่อกี้ผมเพียงแค่ล้อเล่นเท่านั้น พี่เฟิง คุณวางใจเถอะ ผมย่อมจะทำการฝึกฝนให้ดีๆอย่างแน่นอน ทำการฝึกฝนตามเวลา คุณว่าต้องทำการฝึกฝนนานเท่าไหร่ ผมก็ทำการฝึกฝนนานเท่านั้น จะไม่มีคำตัดพ้อใดๆอย่างเด็ดขาด!”
พานฉางอันเคยทนทุกข์ในช่วงการฝึกฝนมาก่อนแล้ว อลิซยังไม่มี ในใจอลิซคิดอยู่ว่าจะกลับไปจัดเตรียมชุดกีฬาหลายชุดมาใส่ อย่างนี้จึงจะสามารถไล่ตามการฝึกอบรมทัน
ยิ่งกว่านั้นเนี่ยเฟิงยังทำการฝึกอบรมให้กับเธอตัวต่อตัว เวลาที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันก็ยิ่งยาวแล้ว
เธอย่อมต้องทำการแต่งตัวๆอยู่แล้ว