พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 583 เชื่อมั่นตัวเอง
ครั้งนี้เนี่ยเฟิงไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย ถึงอย่างไรเขาก็ทำลงไปแล้ว งั้นเขาก็ทำเป็นไม่มีใครห้ามเขาได้ทั้งนั้นก็แล้วกัน ถ้าแอนโทนี่มาหาเรื่องตนเอง เขาก็จัดการแอนโทนี่ซะแค่นี้ก็พอแล้วไม่ใช่หรอ?
“ผมดูออกว่าคุณไม่ชอบที่แอนโทนี่ทำกับคุณแบบนี้ ตอนนี้มีผมเป็นโล่กำบังให้คุณ ไม่ดีหรอครับ?”
นี่ไม่ใช่เรื่องไม่ดี ลิซ่ารู้สึกดีใจมาก เพราะในที่สุดเธอก็สามารถหงายไพ่กับแอนโทนี่ได้เสียที ตลอดมาเพราะครอบครัวของพวกเขามีฐานะต่ำต้อยกว่าแอนโทนี่ ดังนั้นจึงถูกแอนโทนี่ควบคุมมาโดยตลอด ถึงพวกเขาจะเป็นพันธมิตรที่หนึ่ง แต่อิทธิพลในมือของแอนโทนี่กว้างใหญ่จริงๆ
มาวันนี้พอได้หงายไพ่กับเขา นั่นก็แสดงว่าครอบครัวของลิซ่ากับแอนโทนี่ก็จะเป็นปฏิปักษ์กัน
“อีกอย่างนะ แอนโทนี่เป็นแค่น้องชายของภรรยาหัวหน้าพันธมิตรที่สามเท่านั้น คุณคิดว่าหัวหน้าพันธมิตรจะประกาศศึกกับพันธมิตรที่หนึ่งเพื่อญาติเพียงคนเดียวงั้นหรอ?”
วันนี้เนี่ยเฟิงเคลื่อนไหวใหญ่มากจริงๆ แต่ไม่ได้จัดการแอนโทนี่ต่อหน้าผู้คนเยอะแยะมากมายขนาดนี้ ถือว่าไว้หน้าเขามากพอแล้ว
“นายพูดถูกนั่นแหละ แต่ถึงยังไงแอนโทนี่ก็เป็นน้องชายภรรยาของหัวหน้าพันธมิตรที่สาม นายทำร้ายเขา หัวหน้าพันธมิตรที่สามไม่มีทางปล่อยนายไปแน่……”
พอลิซ่าคิดมาถึงตรงนี้ก็ถึงกับถอนหายใจ หลายวันก่อนลิซ่าอยากจะหลุดพ้นจากแอนโทนี่ ดังนั้นจึงเอ่ยขอร้องกับเนี่ยเฟิงแบบนี้ แต่ตอนนี้ลิซ่าได้สติกลับมาแล้ว
การใช้ประโยชน์เนี่ยเฟิงเช่นนี้ ถ้าแอนโทนี่โกรธจัด จะต้องหาเรื่องเนี่ยเฟิงแน่ๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะไปหาลิซ่า เพราะลิซ่าพวกเขาถือว่าเป็นพันธมิตรที่หนึ่ง
หัวหน้าของพันธมิตรที่หนึ่งไม่ชอบใจพันธมิตรที่สองกับพันธมิตรที่สามมานานแล้ว ถ้าแอนโทนี่กล้าลงมือ ลิซ่าคิดว่าหัวหน้าพันธมิตรที่หนึ่งจะต้องอาศัยจังหวะนี้ประกาศสงครามกับพันธมิตรที่สามอย่างแน่นอน
เพราะพันธมิตรที่ทั้งสามอย่างพวกเขาได้เซ็นลงนามสนธิสัญญาสันติภาพ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเพียงสันติภาพแค่ผิวเผิน แต่พวกเขาก็ยังมีผู้คนจำนวนมากที่เสียชีวิตในสงครามในเขตชายแดน
ภาพลักษณ์ภายนอกพวกเขายังคงทำได้ดี ไม่มีใครอยากจะท้าทาย ถ้าหากมีคนเริ่มท้าทายล่ะก็ งั้นอีกสองคนจะรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ทำลายพันธมิตร
“พวกเขาไม่ต่อกรกับฉันแต่จะต่อกรกับนาย อีกทั้งพวกเขาไม่มีทางมาเผชิญอย่างซึ่งๆหน้า แต่อาจจะแอบหาเรื่องนาย ฉันกังวลสิ่งนี้”
ลิซ่าถอนหายใจ ตอนนี้เธอเหมือนหมดที่อยู่ในหม้อร้อนยังไงอย่างนั้น
“กล้ายั่วยุเขาผมไม่กลัวการแก้แค้นหรอก ผมพึ่งให้โอกาสเขาไป ถ้าหากเขายังคงไม่รับความหวังดี ผมไม่ถือสาที่จะส่งเขาลงนรกหรอกนะ”
เนี่ยเฟิงยักไหล่ เสี่ยวเฮยไม่ได้พูดแทรกแม้แต่น้อย เขาชื่นชมนิสัยอย่างเนี่ยเฟิงมาก ตอนนี้ความรู้สึกที่เสี่ยวเฮยมีต่อเนี่ยเฟิงค่อยๆดีมากยิ่งขึ้น
ถึงจะพูดแบบนี้ แต่ลิซ่ายังคงรู้สึกผิด เนื่องจากเธอขอร้องให้เนี่ยเฟิงช่วย
ตอนนี้เนี่ยเฟิงได้ยั่วยุแอนโทนี่เทพแห่งการสังหารแล้ว เกรงว่าเขาจะเอาตัวไม่รอด……
หลังจากที่ลิซ่ากลับถึงบ้านใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว วันนี้เคลต์ไม่ได้ไปงานเลี้ยงด้วย แต่เคลต์รู้ข่าวอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่ารู้เรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงวันนี้ ในใจของเคลต์รู้สึกยินดีปรีดามาก
“ลูกสาวของพ่อไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดหรอก พ่อเชื่อว่าเนี่ยเฟิงจะสามารถต่อกรกับแอนโทนี่ได้”
ลิซ่าเงียบไม่พูดอะไร แน่นอนว่าลิซ่ารู้ว่าพ่อของตนเองหวังจะใช้เนี่ยเฟิงต่อกรกับแอนโทนี่ เพราะเขาไม่สามารถรับรองความปลอดภัยของลูกสาวได้ อีกทั้งเขาไม่สามารถทำให้พันธมิตรที่สี่เปิดเผยได้ อย่างน้อยก็ตอนนี้ไม่ได้
ลิซ่าไม่สามารถนำเรื่องของพันธมิตรที่สี่ของเนี่ยเฟิงได้ หลังจากที่ทดสอบเนี่ยเฟิงอย่างละเอียดแล้ว เธอถึงจะพิจารณาว่าจะดึงเนี่ยเฟิงเข้าพันธมิตรที่สี่หรือไม่
ลิซ่ากลับมาที่ห้องของตัวเอง ในตอนที่เธอแช่น้ำอยู่ในอ่างเธอคิดวิธีหนึ่งขึ้นมาได้ ในเมื่อเธอไม่สามารถลงมือได้ แอนโทนี่ก็ไม่มีทางแตะต้องตัวเองแน่
สุดท้ายคนที่ต้องเจ็บก็จะเป็นเนี่ยเฟิง แต่ลิซ่าไม่สามารถปล่อยให้เนี่ยเฟิงเป็นโล่กำลังให้กับตัวเองอย่างหน้าตาช้า เธอทำไม่ได้
คนอย่างลิซ่าเป็นคนที่มีจิตใจเมตตา หากลิซ่าทำแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นจะแตกต่างกับคนอื่นยังไง?
ลิซ่ากำหมัดแน่น ตัดสินใจจะไปสมาคมนักล่าเงินรางวัล ไปเชิญคนที่มีความสามารถรอบด้านมาคุ้มกันเนี่ยเฟิง!
มีคนคอยแอบปกป้องเนี่ยเฟิง งั้นเนี่ยเฟิงก็จะไม่ต้องถูกแอนโทนี่ลอบทำลาย
วันนี้เนี่ยเฟิงกล่าวกับผู้คนในงานเลี้ยงว่าเขาเป็นว่าที่สามีของตนเอง ทุกคนต่างรู้กันหมด
ถ้าหากแอนโทนี่ลงมือซึ่งๆหน้า แอนโทนี่ก็จะเป็นคนที่ถูกคนเป็นหมื่นเป็นพันชี้หน้าด่า จะจะไม่มีคนกล้าพูดต่อหน้าแอนโทนี่ แต่ในใจของแอนโทนี่ต้องไม่มีความสุขเป็นแน่ เพราะว่าเนี่ยเฟิงเป็นคนที่เสแสร้งจอมปลอม
แต่คนอย่างแอนโทนี่ก็เป็นคนที่ใจแคบ แอนโทนี่ถือว่าลิซ่าเป็นทรัพย์สินของตัวเองมาโดยตลอด ตอนนี้ลิซ่าหนีไปกับผู้ชายคนอื่นแล้ว เขาต้องโกรธมากอยู่แล้ว แต่คนที่เขาต้องการจัดการไม่ใช่ลิซ่า แต่เป็นไอ้เด็กเหลือขอที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำก็โผล่เข้ามา
ลิซ่านึกถึงวิธีนี้จึงคิดว่าใช้ได้ผล ดังนั้นเธอจึงมอบหมายภารกิจตลอดทั้งคืน
เพราะเนี่ยเฟิงเป็นยอดฝีมือที่เก่งในทุกด้าน ดังนั้นข้อมูลทุกอย่างจะผ่านโทรศัพท์มือถือของเขาก่อน กลางดึกเนี่ยเฟิงอาบน้ำ พบว่าในมือถือของตัวเองข้อความจากสมาคม ปกติแล้วเนี่ยเฟิงไม่ค่อยเปิดดูเท่าไร เขาอ่านยังต้องเลือกคัดกรอง แต่วันนี้มีข้อความหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของเนี่ยเฟิง
หลังจากที่เนี่ยเฟิงเห็นข้อความก็แทบจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาไม่แม้แต่จะคิด ก็รู้ได้เลยว่าคนที่โพสต์ข้อความนี้คือใคร
เนี่ยเฟิงกรอกตาไปมา หลังจากนั้นเขาก็กดรับภารกิจ แต่ลิซ่าคิดไม่ถึงว่าภารกิจจะถูกยอดฝีมือที่เก่งทุกด้านรับไปแล้ว อีกทั้งยังรับอย่างรวดเร็ว ลิซ่ารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ในใจคิดว่าคราวนี้ไม่มีอะไรคลาดเคลื่อนสักที!
แต่เวลานี้เองอลิสที่กลับถึงบ้านกลับรู้สึกมึนงงเล็กน้อย พอนึกถึงลิซ่าบอกว่าตัวเองเป็นว่าที่สามีของเนี่ยเฟิง ลิซ่าก็รู้สึกราวกับมีดกรีดหัวใจ แต่ระหว่างทางโรเบิร์ตบอกกับอลิสว่า ที่เนี่ยเฟิงพูดแบบนั้น อาจจะเป็นเพราะแค่อยากจะปกป้องลิซ่าเท่านั้น เพื่อไม่ให้แอนโทนี่ทำร้าย
“เป็นไปตามคาดพ่อดูไม่ผิดเลย เนี่ยเฟิงเด็กคนนี้เป็นคนที่มีความรับผิดชอบมาก เขาดูไปแล้วเป็นคนที่ค่อนข้างเย็นชา แต่ความจริงแล้วเขาเป็นคนที่ใจดีมาก พ่อคิดว่าลูกชอบคนที่เยี่ยมยอดมากๆคนหนึ่ง คนเป็นพ่อแน่นอนว่าไม่มีทางขัดขวางลูกอยู่แล้ว ลูกไปไล่ตามคนที่ลูกชอบได้เลย”
อลิสที่ได้ยินพ่อพูดแบบนั้น ดวงตาของเธอก็เป็นประกายทันที เดิมทีอลิสยังคงลังเลเล็กน้อย แต่ตอนนี้เธอกลับเต็มไปด้วยความกล้าหาญ
“หนูรู้แล้วค่ะ พ่อคะ ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้กำลังใจหนูมาตลอด หนูจะไปไล่ตามคนที่หนูชอบค่ะ!”
อลิสกอดไปที่พ่อของตัวเอง หลังจากนั้นก็กลับเข้าห้องไป แล้วหลับอย่างสบายตลอดคืน
เช้าวันรุ่นขึ้น ลิซ่ามาถึงโรงเรียนผู้ดีเมืองจันทร์ จัดการภารกิจเสร็จ เธอก็เอาภารกิจกับข้อมูลรวมถึงค่าตอบแทนทั้งหมด โอนให้กับยอดฝีมือรอบด้าน ถึงจะไม่รู้ว่ายอดฝีมือรอบด้านเป็นใครมาจากไหน แต่ลิซ่ารู้สึกว่าคนที่สามารถได้รับฉายาว่าเป็นยอดฝีมือรอบด้านต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
และตอนนี้มือถือที่อยู่ในมือของเนี่ยเฟิงก็ดังแจ้งเตือนขึ้น
เนี่ยเฟิงมองดูครู่หนึ่ง พบว่าเป็นข้อความที่ลิซ่าส่งมารวมถึงค่าตอบแทนที่ถูกโอนมา เพราะลิซ่าสั่งให้คนปกป้องเนี่ยเฟิง ภารกิจนี้ต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆ
และค่าใช้จ่ายของยอดฝีมือรอบด้านแน่นอนว่าไม่เหมือนกับนักล่าคนอื่นๆ ค่าใช้จ่ายที่ยอดฝีมือคิดจะคิดเป็นรายวัน ในทุกวันจะต้องโอนค่าตอบแทนเข้าไปในสมาคมนักล่ารางวัล แล้วสมาคมนักล่ารางวัลก็จะหักออกมาส่วนหนึ่งมอบให้กับยอดฝีมือรอบด้าน
แน่นอนว่า ยอดฝีมือรอบด้านอย่างเนี่ยเฟิงสามารถรับค่าตอบแทนทั้งหมดได้
เขาไม่จำเป็นต้องแบ่งกับแพลตฟอร์ม เพราะแพลตฟอร์มต้องอาศัยการดำรงอยู่ของเขา
เพียงแต่เงินแค่นี้สำหรับเนี่ยเฟิงแล้วมันไม่เข้าตาแม้แต่น้อย เงินเล็กๆน้อยๆนี้เป็นส่วนที่เหลือของการเล่นเมื่อหลายปีก่อน
แต่เนี่ยเฟิงยังคงรับภารกิจนี้
เนี่ยเฟิงไม่ได้รู้สึกว่านักล่ารางวัลคนไหนมีวิทยายุทธสูงไปกว่าเขา ที่จะสามารถปกป้องเขาได้ สู้เขารับภารกิจนี้เองเสียดีกว่า ปกป้องตัวเอง แต่เนี่ยเฟิงไม่ได้บอกกับลิซ่าถึงตัวตนของตัวเอง
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เนี่ยเฟิงปิดบังลิซ่า เพียงแต่นี่ยังไม่ถึงเวลา เนี่ยเฟิงจะไม่คิดที่จะบอกเธอ
ตอนนี้คนที่รู้ตัวตนของตัวเอง นอกจากโรเบิร์ตแล้วก็คืออลิส ทั้งสองคนนี้จะไม่บอกตัวตนของเนี่ยเฟิงกับคนอื่น เนี่ยเฟิงรู้ข้อนี้ดี
วันนี้เนี่ยเฟิงกลับไปที่ค่ายมวยเฉิงเฟิง เฝ้าสังเกตการณ์มาตลอดเช้า ความคืบหน้าของนักเรียนพวกนี้ ไม่พูดคงไม่ได้ว่าพอมีความช่วยเหลือจากเนี่ยเฟิง ตอนนี้พวกเขาก็ก้าวกระโดด เวลาเพียงแค่วันเดียว คนพวกนี้ก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองก็เฉียบคมมากขึ้น
นี่เป็นเพียงแค่การปูพื้นฐานให้นักเรียนพวกนี้เท่านั้น อยากจะฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อาจยังต้องใช้เวลาอีก แต่หลังจากการปูพื้นฐานหนึ่งอาทิตย์คนพวกนี้ก็จะสามารถใช้ประโยชน์ได้ เนี่ยเฟิงยังต้องการให้พวกรักษากฎระเบียบ
ตอนเย็นเนี่ยเฟิงตรงไปที่เมืองกู่ปา ครั้งนี้เขายังพาพานฉางอันไปด้วย พานฉางอันรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก พอคิดถึงว่าตัวเองจะได้เข้าร่วมลงทุนของเมืองอิลลูชั่นนั้น เขาก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
พานฉางอันที่อยู่บนรถโดยสารจับไปที่กางเกงของตัวเองแน่น แล้วมองไปที่เนี่ยเฟิง
“พี่เฟิงไม่รู้ทำไม จู่ๆผมก็รู้สึกตื่นเต้น!”
เพราะพานฉางอันได้เข้าไปเป็นผู้ร่วมลงทุนแล้ว พานฉางอันยังเอาแผนธุรกิจไปพูดเรื่องนี้กับพ่อของตัวเอง พ่อเขาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่พานฉางอันบอกแล้ว แม้แต่เจ้าเมืองของเมืองทองยังลงทุนด้วย พ่อของพานฉางอันไม่พูดพร่ำทำเพลงเอาทรัพย์สินทั้งหมดในบ้านให้พานฉางอันทั้งหมด
พ่อของพายฉางอันมาถึงที่นี่นานแล้ว แต่เขาเป็นเพียงแค่เจ้าหน้าที่เล็กๆคนหนึ่งเท่านั้น ในมือไม่มีเงินมากมายขนาดนั้นที่จะไปทำอะไรได้ และค่อนข้างน่าอึดอัดใจที่ ที่ไม่ได้รับรายได้จากทางอื่น
เป็นเพียงแค่คนที่เข้าใกล้เศรษฐีชนชั้นล่างเท่านั้น ดีกว่าคนจนเล็กน้อย เท่านั้นเอง
ที่พ่อของพานฉางอันใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อส่งให้พานฉางอันเข้าเรียนโรงเรียนผู้ดีเมืองจันทร์ ก็เพื่อให้พานฉางอันได้รู้จักกับคนที่เป็นประโยชน์ต่อครอบครัวของพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้นมีประวัติการศึกษาเช่นนี้ อนาคตข้างหน้าหารออกมาหางานทำก็จะง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง พานฉางอันถึงได้ใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนอย่างสุดกำลัง ถึงจะถูกรังแกอย่างไรพานฉางอันก็ไม่กล้าพูดอะไร กังวลแต่ว่าความพยายามที่ทุ่มเทไปจะเสียเปล่า
แต่คิดไม่ถึงว่า พานฉางอันสามารถพบกับบุคคลเช่นนี้อย่างเนี่ยเฟิงได้ ตอนนี้พานฉางอันไม่กล้าแต่จะคิด ว่าเนี่ยเฟิงจะพาเขามาเจอกับความรุ่นโรจน์ เขาไม่เพียงแต่เข้าร่วมสมาคม ยังได้ร่วมลงทุนในการพัฒนาเมืองอิลลูชั่นของเนี่ยเฟิง หลังจากนี้ไปมีรายได้เป็นกอบเป็นกำก็จะไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป
ตอนนี้พานฉางอันกำลังฝันอยู่ เขาไม่รู้ว่าเมืองอิลลูชั่นนี้ถูกสร้างไปถึงไหนแล้ว หลังจากที่รถขับออกมานาน ก็จอดที่หน้าประตูของเมืองกู่ปา
ในตอนที่พานฉางอันกับเนี่ยเฟิงทั้งสองเดินลงจากรถ มองเห็นประตูเมืองกำลังทำการตกแต่ง คนงานจำนวนมากกำลังทำงานอยู่ที่นั่น และด้านล่างมีผู้รับเหมาสองสามรายกำลังดูแบบแปลนด้วยกัน
ไม่ใช่ว่าพานฉางอันไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นแก้ไขหรือการขยายตัวหรือการสร้างใหม่และอื่นๆ แต่พานฉางอันยังคงพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก เขาตกตะลึงกับ คนจำนวนมากมายรุมกันทำงานชิ้นเล็กๆ
ถึงว่าล่ะทำไมเนี่ยเฟิงถึงบอกพวกเขาว่า จะได้รับกำไรไม่เกินครึ่งเดือน ด้วยความเร็วในการตีขึ้นรูปที่รวดเร็ว ใครก็ตามที่ได้เห็นก็ต้องชูนิ้วโป้งให้แล้วบอกว่าเป็นมืออาชีพ?
อีกทั้งทีมวิศวกรพวกนี้ยังมีจำนวนมากเกินไป การทำงานของพวกเขาจึงมีประสิทธิภาพรวดเร็วอยู่แล้ว โดยปกติเป็นเรื่องที่ทีมวิศวกรต้องใช้เวลาสองเดือนในการทำงาน ตอนนี้ทีมวิศวกรที่มีจำนวนคนสิบคนไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานขนาดนั้น?
“เจ้าเมืองครับ คุณมาแล้ว!”
คนที่พูดก็คืออะเดค่า อะเดค่ากลายเป็นผู้ดูแล บนตัวของอะเดค่าสวมเสื้อผ้ากันฝุ่น บนศีรษะสวมหมวกนิรภัย แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ไม่สามารถปิดบังความสวยของอะเดค่าได้
ทันทีที่พานฉางอันเห็นอะเดค่าก็ถึงกับเบิกตากว้าง แต่ดวงตาของอะเดค่ากลับอยู่บนตัวของเนี่ยเฟิงทั้งหมด เนี่ยเฟิงพยักหน้า แล้วหัวเราะพลางถามขึ้นมาว่า
“ความรวดเร็วของงานพวกเขาเป็นยังไงบ้างครับ?ร่นระยะเวลาได้ไหมครับ?”
เพราะเนี่ยเฟิงได้ตรวจสอบแล้ว อาคารที่นี่มีความโดดเด่นมาก ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไร แค่เพียงต้องตกแต่งภายในและปรับปรุงบรรยากาศทำให้ทั้งเมืองดูใหม่เอี่ยมก็เพียงพอแล้ว อีกทั้งเมืองกู่ปาไม่ได้ใหญ่มาก ประชากรมีไม่ถึงห้าพันคน
บ้านเรือนที่นี่ตั้งอยู่หนาแน่น แต่พื้นที่ค่อนข้างกว้าง ไม่ได้แคบ การแผ่ขยายของที่นี่น่าสนใจมาก น่าจะมีสิ่งก่อสร้างโบราณหลายหลังเมื่อ100ปีที่แล้ว และยังไม่ถูกทำลายจากสงคราม
บางทีอาจจะเป็นเพราะอายุของมัน ถึงแม้จะไม่ถูกทำลาย แต่บ้านเรือนของที่นี่ดูๆไปแล้วค่อนข้างเก่า ดังนั้นในตอนที่เนี่ยเฟิงกำลังปรับปรุงยังเพิ่มความคิดไปอีกเล็กน้อย ทำให้ที่นี่สอดคล้องกับธีมมากยิ่งขึ้น
“ความเร็วมากพอแล้วครับ ทีมวิศวกรทีมนี้ทำให้ผมรู้สึกเซอร์ไพรส์จริงๆ ผมก็คิดว่ามีแค่วิศวกรไม่กี่คน คิดไม่ถึงว่าผ่านไปไม่นานจะมีคนเยอะขนาดนี้ ตอนนี้พวกเขาทำงานทุกวันอย่างรวดเร็ว!”
เพราะมีคนจำนวนมากงานก็เลยมีน้อย พองานมีน้อยความเร็วจึงสามารถตามทัน
ถึงแม้พานฉางอันจะไม่ใช่นักธุรกิจ แต่เขาก็รู้ว่าอะไรคือต้นทุน เนี่ยเฟิงเรียกทีมวิศวกรมาเยอะขนาดนี้ ต้องใช้เงินไปไม่น้อยอย่างแน่นอน
ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไปเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเงินก้อนใหญ่ขนาดนั้น นอกจากเนี่ยเฟิง
“พี่เฟิง?นี่ใครหรอครับ?ทำไมถึงสวยขนาดนี้?”
พานฉางอันยังไล่ถามอย่างไม่ตายใจ
ตอนนีอะเดค่าพบว่าข้างกายของเนี่ยเฟิงยังมีอีกคนหนึ่ง อะเดค่าจังกล่าวทักทายด้วยความเหินห่างกับพานฉางอันอย่างมีมารยาท
พานฉางอันถอนหายใจทันที เป็นไปตามคาดระหว่างคนเราไม่เหมือนกันจริงๆ เมื่อครู่เห็นได้ชัดว่าพานฉางอันเห็น สายตาที่อะเดค่ามองเนี่ยเฟิง นัยน์ตาคู่นั้นราวกับมีดวงดาวพราวระยับ แต่วินาทีที่อะเดค่ามองเห็นตนเองนั้น ดวงดาวพวกนั้นก็หายวับไปกับตาอย่างไร้ร่องรอย
พานฉางอันถอนหายใจอย่างยอมรับชะตากรรม ดูท่าอะเดค่าจะเป็นผู้หญิงที่พ่ายแพ้ให้กับความหล่อเหลาของเนี่ยเฟิง แต่พานฉางอันรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย ข้างกายของเนี่ยเฟิงมีแต่ผู้หญิงสวยๆทั้งนั้น ผู้หญิงพวกนี้หน้าตาสวยมากจริงๆ
“นี่เป็นผู้หญิงที่ฉันรู้จักตอนมาถึงที่นี่ ชื่ออะเดค่า อะเดค่าผมขอแนะนำนะครับ นี่คือลูกศิษย์ที่ผมรับครับชื่อพานฉางอัน”
ทั้งสองพยักหน้าให้กันและกัน ถือว่าได้ทำความรู้จักกันแล้ว