พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 59 ดำรงตำแหน่งหัวหน้า
บทที่ 59 ดำรงตำแหน่งหัวหน้า
“พี่สี่ช่างกล้าหาญจริงๆ ภายใต้สถานการณ์แบบนั้นพี่ยังกล้าที่จะเอาโรงพยาบาลคังหมิงเป็นเดิมพัน พี่ไม่กลัวว่าผมจะลืมทักษะทางการแพทย์ไปแล้วเหรอ?”
เนี่ยเฟิงรัดเข็มขัดนิรภัยของเขาและมองไปที่หมิงอี๋หาน
หมิงอี๋หานยกยิ้มมุมปาก เธอยิ้มและพูดว่า “เสี่ยวเฟิง แกรู้หรือเปล่าว่าโรงพยาบาทนี้ค่อย ๆ เติบโตขึ้นทีละขั้นตอนได้ยังไง?”
เนี่ยเฟิงรู้สึกตกตะลึง “นั่นน่าจะเป็นคุณงามความดีของพี่สี่ ที่พี่สี่ทำให้โรงพยาบาลคังหมิงติดอันดับโรงพยาบาทที่ดีที่สุดในเมืองจินไห่”
หมิงอี๋หานมองไปที่เนี่ยเฟิงอย่างมีความนัย จากนั้นก็ส่ายหัว :
“ไม่ ไม่ใช่ ฉันทำเดิมพันกับโรงพยาบาลนี้”
เนี่ยเฟิง : ..…
เขาสงสัยว่าได้ยินผิดไปรึเปล่า
เนี่ยเฟิงรู้มาตลอดว่านิสัยของพี่สี่เป็นคนที่มืดมนมากๆ และมีความคิดอารมณ์ที่เงียบขรึม
แต่สิ่งเหล่านี้ในสายตาของเนี่ยเฟิงล้วนน่ารักไปหมด เขายังเป็นคนที่เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวลำลึกมาก ถ้าไม่มีเล่ห์เหลี่ยม เขาจะเป็นราชามังกรของสำนักมังกรได้อย่างไร?
“หลังจากที่พ่อบุญธรรมจากไป โรงพยาบาลคังหมิงก็ตกมาอยู่ที่ไหล่ของฉัน ให้พูดจริง ๆ ฉันรู้ว่าจะจัดการกับมันยังไง ต่อมาก็มีผู้ชายจากทั่วทุกสารทิศที่หวังอยากจะได้โรงพยาบาลของฉัน และตัวฉันด้วย”
ไม่ใช่ว่าหมิงอี๋หานหลงตัวเอง เธอดูมีความก้าวร้าวอยู่ในตัว ถ้าจะเปรียบเธอกับดอกไม้ งั้นก็ควรเปรียบเธอเป็นดอกฝิ่น
เธอสวยมาก มีความเย็นชาเล็กน้อยและแปลกแยกจากคนอื่น ๆ แต่แน่นอนว่าเธอปฏิบัติต่อเนี่ยเฟิงนั้น แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
“ตอนนั้นฉันคิดว่าฉันต้องทำอะไรสักอย่าง ต่อมาฉันก็พึ่งเส้นทางที่พนันด้วยเงินเดิมพันสูง และได้รับเป็นผลลัพธ์ในตอนนี้ พี่สี่บอกกับแกมากมายขนาดนี้ ไม่ได้ต้องการให้แกบ้าเห่ออะไร พี่สี่แค่หวังว่าแกอยู่กับพี่แล้วผ่อนคลาย เป็นตัวของตัวเอง แกมีพวกพี่ที่คอยสนับสนุนอยู่นะ”
“ครับ ผมเข้าใจแล้ว”
เนี่ยเฟิงยิ้มราวกับแสงอาทิตย์ที่เจิดจ้า จากนั้นเขาก็กดโทรศัพท์และส่งข้อความ
“หุ้นทั้งหมดของโรงพยาบาลคังหมิงโอนเข้าบัญชีแล้วรึยัง?”
“รายงานราชามังกร ทั้งหมดโอนเข้าบัญชีแล้วครับ”
เนี่ยเฟิงยิ้มจางๆ “ดีมาก พรุ่งนี้เช้าเราจะแถลงข่าวอื้อฉาวในมือ ถอดถอน ดร.หยาง และทำลายเครือข่ายกองทุนการกุศลของพวกเขา”
หมอต้มตุ๋นเหล่านี้ ไม่คู่ควรกับคำที่แม่ของเขาเอ่ย
“ต่อไปก็ตั้งมูลนิธิการกุศลในนามของเซี่ยชิงโยว ทุ่มทุนครั้งแรก 100 ล้าน”
หลังจากที่เนี่ยเฟิงแถลงข่าวเสร็จ พวกเขาก็กลับไปที่โรงพยาบาลคังหมิง
ครั้งก่อนเนี่ยเฟิงเคยมาที่นี่แล้ว แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะเสียสมาธิเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นพี่สี่
ดังนั้นเขาเลยไม่ได้มองดูโรงพยาบาลคังหมิงอย่างละเอียดรอบคอบ
แม้ว่าที่นี่จะเป็นโรงพยาบาลตะวันตกที่ทรงพลังมาก แต่ก็ยังคงรักษาแผนกแพทย์แผนจีนไว้
“ในเมื่อเสี่ยวเฟิงต้องการเรียนกับฉันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ งั้นฉันจะจัดเตรียมตำแหน่งให้เสี่ยวเฟิงแล้วกัน”
หลังจากกลับมาที่สำนักงาน หมิงอี๋หานพลิกดูบัญชีรายชื่อ หลังจากอ่านไปสักพักเธอก็งับนิ้วของเธอ
“โอเค ฉันแน่ใจแล้ว เสี่ยวเฟิงเป็นรองคณบดี แกคิดว่าไง?”
เนี่ยเฟิงพูดไม่ออก เขามองไปที่หมิงอี๋หานค่อนข้างจริงจังและพูดว่า :
“พี่สี่ ทหารพลร่มอย่างผมจะเป็นรองคณบดีเหรอครับ? แบบนี้คงไม่ได้แน่ ๆ? จะตกเป็นขี้ปากชาวบ้านเอานะครับ”
“ใครที่กล้าพูดเกี่ยวกับแก ฉันก็จะไล่เขาออก” ล้อเล่นน่า ก็นี่เป็นโรงพยาบาลของเธอ
เนี่ยเฟิงรู้ว่าพี่สาวหลายคนรักเขา และแน่นอนว่าแค่อยากให้เขาทำงานที่สบายๆ
พี่สาวคนอื่น ๆ ยังแกล้งให้เขาได้ทำงานบ้าง แต่ว่าหมิงอี๋หานคนนี้เธอให้ความรักกับเนี่ยเฟิงมาตั้งแต่เด็ก
และเธอยังลำเอียงอย่างโจ่งแจ้ง ไม่สำคัญว่าคนอื่นจะเป็นยังไง ขอแค่มันดีกับเสี่ยวเฟิงของเธอก็พอแล้ว
“ในเมื่อพี่พูดที่แพทยสมาคมว่าผมเป็นผู้ช่วย งั้นก็ให้ผมเป็นผู้ช่วยของพี่เลยสิ แบบนี้ผมก็จะได้เรียนรู้บางอย่างกับพี่”
เนี่ยเฟิงแนะนำ
หมิงอี๋หานขมวดคิ้วและคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ “ด้วยความสามารถของแกมาเป็นผู้ช่วยของฉันมันเป็นงานที่ง่ายเกินไป ฉันไม่ยอมหรอก หัวหน้าแผนกแพทย์แผนจีนล่ะเป็นไง? ขาดไปคนหนึ่งพอดี”
แต่เขาอยู่ที่นี่แค่สัปดาห์เดียว เป็นหัวหน้าแผนกการแพทย์แผนจีนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์? นี่มันไร้สาระเกินไปแล้วใช่ไหม?
“โอเค! ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ตกลงตามนี้แหละ!”
หมิงอี๋หานพยักหน้าทันทีและกล่าวว่า : “หัวหน้าเนี่ย ไข้หวัดใหญ่ได้แพร่ระบาดเมื่อไม่นานมานี้ แผนกแพทย์แผนจีนโรงพยาบาลคังหมิงของเราได้เตรียมการดำเนินกิจกรรมคลินิกการกุศลให้คำปรึกษาฟรีที่จัตุรัสและโรงพยาบาลอื่นๆ ในเย็นวันนี้ ในช่วงนี้เราต้องชงชาสมุนไพรป้องกันไข้หวัด งานยากๆ แบบนี้ฝากให้คุณจัดการแล้วกัน”
หมิงอี๋หานก้าวไปหาเนี่ยเฟิงและตบบ่าเขา “ทำได้ดีเดี๋ยวขึ้นเงินเดือนให้”
มีเงินเดือนให้เป็นสัปดาห์ด้วยเหรอ?
เนี่ยเฟิงมีข้อสงสัยว่าหมิงอี๋หานกำลังเปลี่ยนวิธีให้เงินกับเขา
“งั้นผมจะปรับตัวให้เข้ากับแผนกแพทย์แผนจีน”
เนี่ยเฟิงพูดจบก็เดินจากไป
หมิงอี๋หานมองไปที่ด้านหลังของเนี่ยเฟิง และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจ:
รูปร่าง อัตราไขมันในร่างกาย กล้ามเนื้อ ไม่เลว ออกกำลังกายได้ดีมาก
หลังจากที่เนี่ยเฟิงเดินจากไป หมิงอี๋หานถึงจะคิดว่าสุดสัปดาห์นี้จะจ่ายเงินเดือนให้เนี่ยเฟิงเท่าไร
น้องชายของเธอทำงานหนักมาก แน่นอนว่าต้องให้เงินมากขึ้นอีกหน่อย
อาจจะให้ห้าหรือหกแสนเนี่ยแหละ!
เนี่ยเฟิงเดินตามป้ายบอกทางและมาที่แผนกแพทย์แผนจีน ที่นี่ไม่ค่อยแตกต่างจากแผนกแพทย์ตะวันตกมากนัก มีหลายคนที่ต้องสอบถามอาการ
เนี่ยเฟิงพบสำนักงานของหัวหน้าแผนกแพทย์แผนจีน และเขายังไม่ทันได้เข้าไป ก็ได้ยินใครบางคนพูดอยู่ข้างใน
“ไม่ต้องห่วง! ฉันดำเนินงานได้ไม่มีปัญหา! โอเครู้แล้ว ถึงตอนนั้นอย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้ล่ะ!”
เนี่ยเฟิงเหล่ตาดู แล้วเปิดประตู “เฮ้? มีคนอยู่เหรอ? ”
คนที่เพิ่งคุยโทรศัพท์อยู่ข้างในเสร็จ ทำให้เนี่ยเฟิงตกใจ
“นายเข้ามาทำไมไม่เคาะประตู! ไม่เข้าใจกฎระเบียบเลยรึไง!”
เนี่ยเฟิงเห็นตราการทำงานบนเสื้อคลุมสีขาวของอีกฝ่าย ที่แท้ผู้ชายคนนี้ชื่อเจิ้งเหวินหยู่ เป็นผู้อำนวยการแผนกแพทย์แผนจีน
เจิ้งเหวินหยู่จ้องไปที่เนี่ยเฟิงอย่างไม่พอใจ “นายเป็นใคร? แล้วมาทำอะไรที่นี่?”
“อ้า ผมลืมแนะนำตัว ผมชื่อเนี่ยเฟิง เป็นหัวหน้าแผนกแพทย์แผนจีนคนใหม่”
เจิ้งเหวินหยู่เบิกตากว้างทันที เขามองไปที่เนี่ยเฟิงอย่างไม่เชื่อสายตา : “นายล้อเล่นอะไรกัน!”
เนี่ยเฟิงมองไปที่เส้นผมที่ร่วงหล่นจากศีรษะเมดิเตอร์เรเนียนของเจิ้งเหวินหยู่ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เขากระแอมและพูดอย่างเคร่งขรึม:
“ไม่ได้ล้อเล้นนะครับ ผมเป็นหัวหน้าแผนกคนใหม่จริงๆ ถ้าคุณไม่เชื่อผม คุณก็ไปถามคณบดีได้เลย”
เจิ้งเหวินหยู่โกรธและหงุดหงิดมาก “คณบดีเป็นบ้าไปแล้วเหรอ? ให้คนที่หัวรั้นมาเป็นหัวหน้าแผนกแพทย์แผนจีน?”
“นี่คุณกำลังตั้งคำถามเกี่ยวกับการจัดการของคณบดีเหรอครับ? ผู้อำนวยการเจิ้ง?”
เนี่ยเฟิงเดินกร่างเข้ามา และมองไปที่เจิ้งเหวินหยู่อย่างเหนือกว่า
เจิ้งเหวินหยู่กัดฟันกรามของเขา เขาคิดว่าอาจจะเข้าใจผิดได้ แต่เขาไม่คาดคิดว่าจะถูกทำให้ดูแย่โดยทหารพลร่ม!
“ไอ้สารเลวอย่างนาย จะมีความสามารถอะไร? อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ว่านายเล่นพรรคเล่นพวก! แล้วพวกฉันจะคอยดู!”
เจิ้งเหวินหยู่พูดจบ เขาก็วิ่งหนีไปอย่างหัวเสีย
“ตรวจสอบบันทึกการโทรล่าสุดของเจิ้งเหวินหยู่จากโรงพยาบาลคังหมิง และผู้คนที่เขาติดต่อบ่อยๆ ฉันต้องการดูข้อมูลใน 15 นาที”
หลังจากที่เนี่ยเฟิงพูดจบ เขาก็หยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาเพื่อตรวจสอบและจัดการแผนก ซึ่งเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเขา
อีกด้านหนึ่ง ในสำนักงานของโรงพยาบาล จูเย่าเหวินกวาดทุกอย่างบนโต๊ะออกไปอย่างกระหืดกระหอบ “ผู้หญิงสารเลว! ฉันอยากให้เธอตายไปซะยังดีกว่า!”