พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 591 การแข่งขันคนทั้งสอง
“คุณถึงขนาดกล้าทำให้ผมอับอายขายหน้าเหรอ?!”
คอนสแตนตินบดฟันหลังบดแล้วบดอีกโมโหแทบตาย เขาโมโหจ้องมองเนี่ยเฟิงอยู่
“นี่สำหรับคุณมากล่าวก็คือทำให้อับอายขายหน้าเหรอ? คนทั่วโลกล้วนต้องรู้จักคุณคอนสแตนติน จึงนับได้ว่าเคารพต่อคุณเลยเชียวเหรอ? งั้นขอโทษจริงๆ ผมคนนี้ไม่ดีอย่างหนึ่ง คนที่ไม่สำคัญอะไรผมล้วนจำไม่ได้ตลอดกาล อย่างเช่นคุณ”
พานฉางอันอยู่ข้างๆกลืนน้ำลายอย่างลำบากหนึ่งที ก็มีเพียงแค่เนี่ยเฟิงจึงจะกล้าพูดคำพูดแบบนี้ออกมา ถ้าหากเป็นคนอื่นเห็นคอนสแตนติน พวกเขาย่อมจะหลบหนีอย่างแน่นอน ใครยังจะกล้ามาแส่หาเรื่องกับคอนสแตนตินถึงที่นี่ล่ะ ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเชียวเหรอ?
เป็นอย่างที่คิดไว้คอนสแตนตินถูกเนี่ยเฟิงยั่วให้โกรธจริงๆ
พนักงานขายก็หวาดกลัวมากเช่นกัน รีบให้พวกเขาเนี่ยเฟิงไสหัวออกไป แต่ครั้งนี้เนี่ยเฟิงไม่คิดที่จะไปเลย เนี่ยเฟิงชี้ไปยัง Porsche Panamera คันนั้น ชี้แล้วชี้อีก
“ไม่ใช่เขาถูกใจรถคันนั้นเหรอ? ขอโทษจริงๆ ผมก็จะเข้าแข่งประมูลเช่นกัน”
เดิมทีคอนสแตนตินไม่ให้คนเหล่านั้นแข่งขันกับตนเองแล้ว แต่นึกไม่ถึงถึงขนาดเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เห็นเนี่ยเฟิง คอนสแตนตินโมโหแทบตาย ไอ้คนนี้มีฝีมืออะไรมาแข่งขันกับตนเอง เขาดูแล้วก็ไม่เหมือนเป็นคนที่มีเงินคนหนึ่ง!
แต่คอนสแตนหมุนเปลี่ยนความคิดอีกว่า ถ้าหากไอ้คนนี้ไม่มีเงิน งั้นอีกสักครู่การประมูลเขาควักเงินออกมาไม่ได้ จะไม่ใช่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหัวเราะเยาะเอาเหรอ คอนสแตนตินนึกถึงจุดนี้ดีใจขึ้นมาทันที
“ตกลงว่าคุณอยากจะทำอะไรล่ะ? เจ้าเมืองน้อยล้วนบอกให้โยกย้ายคนที่จะมาแข่งประมูลกับเขาเหล่านั้นแล้ว คุณก็อย่าคอยประสมโรงอีกเลย พวกเราที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ ถ้าหากคุณอ่านสีหน้าคนอื่นออกหน่อย ก็รีบไสหัวออกไปเถอะ พวกเราจะไม่ขายรถให้คุณล่ะ คุณไปร้านอื่นเถอะ!”
พนักงานขายเพื่อที่จะขับไล่เนี่ยเฟิง ไม่ว่าคำพูดอะไรล้วนพูดออกมาได้ พานฉางอันโมโหอย่างมาก ในใจคิดอยู่ว่าพนักงานขายนี้ก็เป็นหนึ่งในสุนัขรับใช้เช่นกัน น่าเกลียดชังมากเกินไปแล้วจริงๆ
“ให้เขาอยู่ต่อเถอะ เขาอยากแข่งประมูลก็ให้เขาแข่งประมูลเถอะ ผมจะให้เขารู้ว่าอะไรเรียกว่ารู้ว่ายากเลยยอมแพ้!”
คอนสแตนตินก็คืออยากให้เนี่ยเฟิงอับอายขายหน้า และเนี่ยเฟิงก็รู้ถึงความคิดของคอนสแตนติน บนใบหน้าเขาปรากฏรอยยิ้มเหมือนไม่ได้ยิ้มออกมา
เขาจะทำให้คอนสแตนตินเสียใจภายหลังถึงการตัดสินใจที่ทำอยู่ในตอนนี้
พนักงานขายแอบเช็ดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผาก เขาเห็นว่าคอนสแตนตินกับเนี่ยเฟิงน่าจะสู้กันแล้ว ถึงแม้ไม่รู้ว่าเนี่ยเฟิงตกลงมีภูมิหลังอะไร แต่ไอ้คนก็โง่มากเกินไปหน่อยแล้ว
ถ้าหากเป็นคนอื่นเห็นคอนสแตนตินล้วนจะเดินอ้อมไปที่อื่น ไอ้คนนี้ถึงขนาดกลับจงใจจะพุ่งเข้ามาอย่างไม่รู้ที่ตาย นี่ไม่ใช่ไม่อยากมีชีวิตอยู่นั่นคืออะไรล่ะ?
อาจจะมีบางคนที่มั่นใจในตนเองขนาดนี้ล่ะ
เดิมทีนี่ก็ถึงเวลางานประมูลแล้ว แต่ยังไม่เห็นคนแม้แต่คนเดียวจริงๆ พนักงานขายโทรสอบถามเถ้าแก่สักหน่อยทันที หลังจากเถ้าแก่ได้ยินก็ไม่คิดที่จะล่วงเกินคอนสแตนตินเช่นกัน ก็ตามใจคอนสแตนตินไปทำเรื่องที่เขาอยากทำ
พนักงานขายได้รับคำพูดเหล่านี้จากเถ้าแก่ ออกไปดำเนินงานประมูลทันที พนักงานขายคิดอยู่ในใจว่าถึงแม้เนี่ยเฟิงอยากจะแข่งประมูลกับคอนสแตนติน นี่ก็เป็นการหาเรื่องลำบากใส่ตัวเช่นกัน เพราะไม่ว่าใครล้วนรู้ว่าบ้านคอนสแตนตินมีเงินมากๆ คอนสแตนตินมักจะใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยก็เพื่อที่จะซื้อรถคันหนึ่ง
ยังเป็นครั้งแรกที่พนักงานขายดำเนินงานประมูลที่มีเพียงแค่สองคนประมูล เห็นทั้งสองคนนี้นั่งอยู่ข้างล่างในมือถือป้ายหมายเลข พนักงานขายก็เลยรู้สึกมีความกดดันมากเล็กน้อย
แต่ในเวลานี้พนักงานขายกลับมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นเล็กน้อย เขากลับอยากจะเห็นลักษณะท่าทีที่ร้องไห้ไม่ออกของเนี่ยเฟิงในอีกสักครู่
ส่วนสุนัขรับใช้กับพานฉางอันทั้งสองคน คือหนึ่งซ้ายหนึ่งขวา ยืนอยู่ข้างกายเพื่อนฝูงของพวกเขา
พานฉางอันเลียริมฝีปากที่แห้งๆเลียแล้วเลียอีก ในใจมีความหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะเขาไม่รู้ว่าตกลงเนี่ยเฟิงมีเงินมากเท่าไหร่ เขามักจะรู้สึกว่าในมือเนี่ยเฟิงอาจจะไม่มีเงินมากขนาดนั้น ครั้งก่อนแม้ว่ามีการลงทุน แต่การลงทุนเหล่านี้ดูเหมือนล้วนปรับปรุงเมืองอิลลูชั่นใหม่อยู่
รถที่ดีคันหนึ่งถึงแม้ต้องมากกว่าร้อยล้าน แต่ทำการประมูลล่ะก็ เป็นไปได้มากเงินก้อนนี้อาจต้องยิ่งมากกว่า เขาเริ่มกังวลขึ้นมาเลย
แต่ตอนนี้พานฉางอันพูดเช่นนี้ไม่ได้ล่ะ ถ้าหากพานฉางอันพูดออกมาจะไม่ใช่ขายหน้าพวกเขาเหรอ?
พานฉางอันไอเสียงหนึ่ง จ้องมองเนี่ยเฟิงหนึ่งที เห็นลักษณะท่าทีของเนี่ยเฟิงสงบจิตสงบใจ พานฉางอันก็เลยโล่งอกไปที ในใจคิดอยู่ว่าเพียงแค่เนี่ยเฟิงมั่นใจในตนเองพอ งั้นพวกเขาก็ไม่หวาดกลัวแล้ว
หลังจากเริ่มแข่งประมูล คอนสแตนตินยกป้ายที่อยู่ในมือขึ้นมาทันทีพอเอ่ยปากก็เพิ่มเป็นพันล้านแล้ว
เมื่อกี้พานฉางอันยังค่อนข้างมั่นใจในตนเอง แต่พอได้ยินว่าราคาถึงขนาดเพิ่มเป็นพันล้านพันล้านเพิ่มขึ้นไป พานฉางอันก็มีความไม่มั่นใจเล็กน้อยแล้ว ทันใดนั้นเขาจับขากางเกงอย่างแน่นตื่นเต้นจ้องมองไปยังเนี่ยเฟิง และในเวลานี้เนี่ยเฟิงถึงขนาดยกป้ายหมายเลขที่อยู่ในมือขึ้นมา
“สองพันล้าน”
คอนสแตนตินยักคิ้วหนึ่งที ในใจคิดอยู่ว่าไอ้คนนี้ก็เป็นคนหนึ่งที่กล้าเสนอราคาเช่นกัน เดิมทีคอนสแตนตินก็เพื่อที่จะให้เนี่ยเฟิงเสนอราคาถึงสูงสุด ควักเงินออกมาไม่ได้แล้วขายหน้า ดังนั้นตอนที่คอนสแตนตินเพิ่มราคาโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
“ห้าพันล้าน!”
พานฉางอันรู้สึกว่าตนเองขนหัวลุกเล็กน้อยแล้ว บิดาเขาทำงานนานขนาดนั้น แม้แต่พันล้านเขาล้วนไม่เคยเห็นมาก่อน และหนึ่งร้อยล้านที่เนี่ยเฟิงให้เขาจะเป็นเงินมหาศาลที่พานฉางอันได้รับแล้ว
พนักงานขายเริ่มมีความดีใจเล็กน้อย งานประมูลนี้ถ้าหากดำเนินการต่อไป งั้นเขาย่อมได้รับเงินไม่น้อยแน่นอน
“หกพันล้าน”
ขอบเขตที่เพิ่มราคาของเนี่ยเฟิงล้วนเป็นพันล้านพันล้านเพิ่มขึ้นไป
แต่คอนสแตนตินไม่ใช่ การเสนอราคาของคอนสแตนตินครั้งถัดไปเป็นหมื่นล้านโดยตรง ตอนที่ได้ยินหมื่นล้าน พานฉางอันตื่นเต้นจนฝ่ามือล้วนเหงื่อไหลออกมาแล้ว ไอ้คนเหล่านี้ ไม่รู้เหรอว่าเสนอราคานี้เกินกว่าราคารถคันนี้อย่างมากแล้วเชียวเหรอ?
“หนึ่งหมื่นหนึ่งพันล้าน”
เนี่ยเฟิงยกป้ายหมายเลขที่อยู่ในมือยกแล้วยกอีก เขาพูดอย่างมั่นใจในตนเองเต็มเปี่ยม ระหว่างนั้น เขายังกระหยิ่มยิ้มย่องเหลือบตามองคอนสแตนตินหนึ่งที
คอนสแตนตินเห็นเนี่ยเฟิงมั่นใจในตนเองเต็มเปี่ยม ไม่ปล่อยไก่เลยสักนิด ในใจคิดอยู่ว่า นี่อาจจะไม่ใช่เส้นตายของเนี่ยเฟิง เขาจะลองทดสอบหยั่งเชิงจนถึงจุดที่เนี่ยเฟิงร้อนใจ เพียงแค่เนี่ยเฟิงลังเลตื่นตระหนกเล็กน้อย บนใบหน้าก็จะมีปฏิกิริยาออกมา!
“สองหมื่นล้าน!”
คอนสแตนตินเชิดคางแล้วเชิดคางอีก ยั่วยุจ้องมองไปยังเนี่ยเฟิง เนี่ยเฟิงยิ้มตาหยีเพิ่มอีกพันล้าน คนทั้งหลายล้วนกลั้นหายใจไว้ จ้องมองไปยังพวกเขาทั้งสอง ในแหล่งขายรถทั้งหมดมีเพียงเสียงเสนอราคาของพวกเขาทั้งสอง เนี่ยเฟิงล้วนมั่นใจในตนเองมากๆมาโดยตลอด ไม่มีลักษณะท่าทีที่หวาดกลัวเลยสักนิด
คอนสแตนตินมีความมึนงงเล็กน้อยแล้ว และเวลานี้การเสนอราคาถึงห้าหมื่นล้านแล้ว
คอนสแตนตินได้ยินเนี่ยเฟิงเพิ่มราคาอย่างมั่นใจในตนเองเต็มเปี่ยมอีก เขาอดไม่ได้ที่จะกำกำปั้นอย่างแน่น ในใจเขาคิดอยู่ว่าความมั่นใจในตนเองของเนี่ยเฟิงตกลงมาจากไหนกันแน่ เขามองผิดพลาดเลยเชียวเหรอ? ไอ้คนนี้แท้ที่จริงเป็นคนที่มีเงินเหรอ?
ใช่แล้วคนมีเงินในปัจจุบันนี้ชอบแต่งตัวประหยัดมัธยัสถ์เรียบง่ายจริงๆ บางทีดูแล้วก็เหมือนเป็นประชาชนธรรมดา คนที่ยิ่งแต่งตัวเช่นนี้ยิ่งจะมีเงิน
แต่คอนสแตนตินก็ไม่เชื่อ คนคนหนึ่งมีเงินมากขนาดไหนจะใช้หลายหมื่นล้านมาซื้อรถคันหนึ่งเหรอ?
ถึงแม้ว่าอยู่ในเมืองจันทร์ทองคำที่ล้วนมีมหาเศรษฐีทั่วพื้นที่ ก็ไม่มีคนอาจหาญพุ่งสูงขึ้นสู่ท้องฟ้าขนาดนั้นเช่นกัน
“แสนล้าน!”
คอนสแตนตินกัดฟันแล้วกัดฟันอีก เสนอราคาเช่นนี้ออกมาทันที และในเวลานี้พนักงานขายสุขใจจนใกล้จะสลบไสลไปแล้ว