พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 594 ถนนคดเคี้ยวแห่งความตาย
พอคอนสแตนตินนึกถึงการประสบเจออยู่ที่ร้านในวันนี้ ก็รู้สึกโมโหอย่างมาก ไอ้คนนี้ถึงขนาดยังกล้าเอ่ยถึงเรื่องนี้ คอนสแตนติน ใช้สายตาที่โหดเหี้ยมจ้องมองเนี่ยเฟิงอยู่ วันนี้เขาจะให้เนี่ยเฟิงหายสาบสูญจากถนนคดเคี้ยวนี้!
“หยุดพูดไร้สาระได้แล้วในเมื่อคุณกล้ามาที่นี่ งั้นก็ควรที่จะรู้ว่าผมอยากจะทำอะไร!”
คอนสแตนตินรู้ว่ามีคนมากมายล้วนรู้จักตนเอง สำคัญที่สุดคือเรื่องที่คอนสแตนตินแข่งรถเป็นนี้ ฝังลึกลงไปในใจผู้คนแล้ว แต่ก่อนคอนสแตนตินเห็นหน้าใครที่ไม่พอใจก็จะเรียกร้องให้แข่งรถกัน มีคนมากมายล้วนพ่ายแพ้อยู่ในมือของคอนสแตนติน ที่นี่เดิมทีเป็นฮอลิเดย์วิลล่า แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของแก๊งแข่งรถไปแล้ว ทั้งถูกเรียกว่าเป็นถนนคดเคี้ยวแห่งความตายอีก
มีหุบเขาแห่งหนึ่งอยู่ด้านข้างของเขตวิลล่าเหล่านี้ และมีรถกับคนตายไม่น้อยอยู่ในหุบเขาแห่งนี้แล้ว
คนเหล่านี้ล้วนมาเข้าร่วมการแข่งขันอยู่ที่นี่ รถพุ่งออกไปตายอยู่ข้างล่าง
เพราะว่ามีคนตายมากเกินไปแล้วจริงๆ ดังนั้นนี่ก็ถูกเรียกว่าเป็นถนนคดเคี้ยวแห่งความตายอีก แต่คนมีเงินเหล่านี้ก็คือไม่กลัวตาย เสาะหาความตื่นเต้น อะไรล้วนทำออกมาได้ ถึงแม้พวกเขารู้ตนเองว่าเผชิญหน้ากับความตายก็มีเพียงแค่ผ้าที่โปร่งบางชั้นหนึ่งกั้นไว้เท่านั้น
พานฉางอันกลืนน้ำลายหนึ่งทีอย่างลำบาก เขาตื่นเต้นจ้องมองไปยังเนี่ยเฟิงที่อยู่ข้างกาย ในเวลานี้เนี่ยเฟิงไม่พูด แต่สีหน้าสงบเหลือเกิน ดูจากลักษณะท่าทีล้วนไม่เหมือนหวาดกลัวเลยสักนิด พานฉางอันนี่จึงสงบเงียบลงมา แต่พอนึกถึงว่าอีกสักครู่ก็จะแข่งรถแล้ว…
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นพวกเราก็ไม่ต้องพูดมากขนาดนั้นเลย เอาเลยล่ะ”
เนี่ยเฟิงชี้ไปยัง Lamborghini สีฟ้าคันนั้นของตนเอง ชี้แล้วชี้อีก นี่ไม่ว่ายังไงก็นับได้ว่าเป็นรถสปอร์ตคันหนึ่ง
คอนสแตนตินเห็น Lamborghini ของเนี่ยเฟิงอดไม่ไหวที่จะหัวเราะเสียงดังออกมา
“คุณก็ขับรถขยะเช่นนี้มาแข่งรถกับผม คุณให้ความสำคัญแก่ตนเองมากเกินไปแล้วมั้ง คุณรู้หรือไม่รถแบบนี้อยู่ที่พวกเรานี้นับไม่ได้ว่าเป็นรถสปอร์ตเลยสักนิด”
รถอย่างนี้ก็เพียงแค่รูปลักษณะภายนอกค่อนข้างดูดีเท่านั้น ตามความจริงล้วนไม่มีประโยชน์เลยสักนิด และรถที่พวกเขาคอนสแตนตินใช้ข้างในข้างนอกล้วนแต่งใหม่มาแล้ว ก็เพื่อที่จะยิ่งปรับตัวเข้ากับถนนคดเคี้ยวที่นี่ให้มากขึ้น
พวกเขาคอนสแตนตินมีเงินมากมาย จะปรับปรุงรถใหม่คันหนึ่งไม่นับว่าเป็นเรื่องยากเลย
“คุณควรรู้สึกมีเกียรติ เพราะว่าวันนี้อย่างน้อยผมยังขับรถสปอร์ตคันหนึ่งเข้ามาแข่งขันกับพวกคุณ ยามปกติคนที่จะท้าสู้กับผมเหล่านั้น ไม่ได้มีเกียรติและโชคดีอย่างนี้นะ”
สิ่งที่เนี่ยเฟิงพูดเป็นเรื่องจริง เนี่ยเฟิงปฏิบัติภารกิจอยู่ต่างประเทศตลอดทั้งปีมักจะต้องเร็วกว่านรก ใช้รถเป็นเหมือนเครื่องบิน แข่งรถอยู่บนถนน แข่งรถอยู่ในสนามรบ นี่ช่างเป็นคำพูดที่ซ้ำซากน่าเบื่อแล้วจริงๆนะ
แต่ว่าสถานะของเนี่ยเฟิงไม่มีคนรู้จัก ดังนั้นคอนสแตนตินไม่รู้จักเขาก็เป็นเรื่องปกติมาก แต่ก่อนเนี่ยเฟิงยังเคยถูกเชื้อเชิญไปเข้าร่วมการแข่งขันของราชาแห่งการแข่งรถครั้งหนึ่ง แต่น่าเสียดายคนที่ได้รับเกียรติให้เป็นราชาของราชาแห่งการแข่งรถนั้น ไม่ใช่คู่แข่งของตนเองเลยสักนิด แต่เนี่ยเฟิงไม่ค่อยชอบขับรถเลย สิ่งที่เขายิ่งชอบคือเครื่องบินรบ
“ฮ่าฮ่า นั่นช่างน่าขำมากเกินไปแล้วจริงๆ ถึงขนาดกล้าขี้โม้อยู่ต่อหน้าพวกเรา งั้นอีกสักครู่กลับอยากให้คุณเห็นว่าอะไรจึงจะเป็นการแข่งรถที่แท้จริง”
รถของคอนสแตนตินก็คือ Supercar สีแดงคันนั้น Supercar คันนี้ผ่านการปรับปรุงใหม่มาแล้ว รถคันนี้ก็มีชื่อที่ดังมากๆอย่างหนึ่งเรียกว่าสายฟ้าสีแดง
แต่ก่อนไม่ได้มีลักษณะแบบนี้จริงๆ หลังจากผ่านการปรับปรุงใหม่หนึ่งรอบจากพวกเขาคอนสแตนติน สายฟ้าสีแดงคันนี้เห็นได้ชัดก็กลายเป็นยิ่งเหมาะสมกับการแข่งขันมากขึ้นเช่นกัน
คอนสแตนตินใช้สายฟ้าสีแดงชนะคนมามากมาย อีกทั้งในสายฟ้าสีแดงยังติดตั้งระบบอัจฉริยะอยู่ ก็พูดได้ว่าไม่ว่ายังไงล้วนเป็นไปไม่ได้ที่จะตกอยู่ใต้ภูเขา
มีคนมากมายไม่รู้ว่าในสายฟ้าสีแดงยังมีระบบอย่างนี้ ดังนั้นพ่ายแพ้ให้กับพวกเขาคอนสแตนตินก็คิดไม่ออกเช่นกัน
คอนสแตนตินไม่ได้เป็นผู้ใจบุญอะไรนะ เขาล้วนถือว่าการฆ่าคนเป็นความสุขมาโดยตลอด เพียงแค่สิ่งที่เขาชอบดูคือลักษณะท่าทีนั้นที่ดิ้นรนจนตายอยู่ใต้ถนนคดเคี้ยวแห่งนี้ของคนเหล่านั้น นั่นคือเรื่องที่ทำให้คอนสแตนตินรู้สึกสะใจที่สุด และเส้นทางแห่งการแข่งรถของคอนสแตนติน ทั้งถูกตัวเขาเองเรียกเล่นๆว่าช่วงเวลาแห่งการล่าฆ่าอีก
วันนี้คอนสแตนตินอยู่ในแหล่งขายรถถูกเนี่ยเฟิงวางแผนทำร้ายเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกลืนความแค้นนี้ลง ดังนั้นก่อนที่เขาจะไปทิ้งคำพูดนี้ไว้กับเนี่ยเฟิง เพียงแค่เนี่ยเฟิงติดกับดักแล้ว งั้นคืนนี้เขาตายแน่ไม่ต้องสงสัย!
พอนึกถึงเนี่ยเฟิงจะตายอยู่ที่นี่ คอนสแตนตินก็รู้สึกว่าอารมณ์มีความสุข สายตาที่เขาจ้องมองไปยังเนี่ยเฟิงก็ได้เพิ่มความส่อเสียดมากขึ้นหลายส่วน เป็นไปได้ยังไงที่เนี่ยเฟิงจะไม่รู้ความคิดเล็กๆน้อยๆนั้นของคอนสแตนติน เนี่ยเฟิงเก็บสายตากลับตบ Lamborghini ที่ตนเองเพิ่งซื้อมาใหม่ตบแล้วตบอีก
“จะแข่งกันยังไงล่ะ?”
“การแข่งรถย่อมแข่งความเร็วอยู่แล้ว พวกเราอยู่ท้ายสุดของถนนคดเคี้ยว นั่นก็คือว่าจุดสิ้นสุดตั้งอยู่ที่ยอดเขา ใครถึงที่นั่นก่อนคนนั้นก็ชนะ”
คอนสแตนตินเชิดคางแล้วเชิดคางอีก บอกกฎเกณฑ์ของการแข่งขันออกมาตรงๆไม่อ้อมค้อม
“ผมย่อมรู้ว่าการแข่งรถก็คือแข่งความเร็วอยู่แล้ว แต่ถ้าหากว่าผมชนะแล้ว คุณจะเอายังไงล่ะ?” มือของเนี่ยเฟิงไม่สนใจไยดีลูบตัวรถ Lamborghini สีฟ้าคันนั้นอยู่ ต้องบอกว่ารูปทรงเพรียวลมของรถคันนี้ค่อนข้างไม่เลวจริงๆ ถึงแม้ว่าจอดอยู่ด้วยกันกับรถสปอร์ตที่ทำการปรับปรุงใหม่ทั้งหลายของพวกเขาคอนสแตนติน มีความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเล็กน้อย
แต่เนี่ยเฟิงต่อสิ่งนี้ไม่ใส่ใจเลย เพราะว่าอยู่ในใจของเนี่ยเฟิง ถึงแม้ว่าสิ่งที่เขาขับคือ Wuling Hong Guang ก็จะทิ้งพวกเขาไว้ข้างหลังเช่นกัน สมรรถนะของรถสำคัญมากจริงๆแต่เทคนิคยิ่งสำคัญกว่า
“พ่ายแพ้เหรอ? ผมจะพ่ายแพ้เหรอ?”
คอนสแตนตินเหมือนเช่นดั่งได้ยินเรื่องขำขันอะไรเลย เขาอดไม่ไหวที่จะหัวเราะ ฮ่าฮ่า เสียงดังออกมา รู้สึกว่าเนี่ยเฟิงช่างน่าขำมากเกินไปแล้วจริงๆ
“ตกลงเป็นใครให้ความกล้าหาญคุณกันแน่ รู้สึกว่าตนเองสามารถชนะผมได้ล่ะ? ใช้รถขยะคันนี้ของคุณเหรอ?”
คอนสแตนตินก็เพราะว่ามีความมั่นใจเต็มร้อย ดังนั้นจึงจะกำเริบเสิบสาน หัวเราะเยาะเนี่ยเฟิงอยู่ ในเมื่อเนี่ยเฟิงมาแล้ว งั้นย่อมจะเข้าร่วมการแข่งขันแน่นอน ถ้าหากเขาไม่เข้าร่วมการแข่งขัน งั้นเขาก็รอถูกซ้อมเถอะ
เนี่ยเฟิงได้ยินการหัวเราะเยาะที่คอนสแตนตินมีต่อตนเอง เขาก็ไม่โมโหเช่นกันเขาตบรถของตนเองตบแล้วตบอีก บนใบหน้าค่อยๆเปล่งรอยยิ้มที่เบิกบานออกมาหนึ่งที
“พูดกับคุณตามตรงเถอะ ถึงแม้ว่าผมใช้เท้าขับล้วนสามารถชนะคุณได้”
พอเนี่ยเฟิงพูดคำนี้ออกมายั่วให้คอนสแตนตินโกรธแล้วจริงๆ คอนสแตนตินขบเขี้ยวเคี้ยวฟันจ้องมองไปยังเนี่ยเฟิง จากนั้นพูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าหากว่าผมชนะคุณแล้ว งั้นคุณก็เป็นทาสของผม!”
คอนสแตนตินไม่รู้สึกว่าเนี่ยเฟิงจะสามารถชนะตนเองได้
“ถ้าหากผมชนะคุณ ผมก็ไม่ต้องการคุณเป็นทาสของผม ผมต้องการเพียงคุณเอารถทั้งหมดที่เก็บสะสมไว้มอบให้ผมหมดเลย ยังมีอีกคุกเข่าคำนับขอร้องให้ยกโทษให้อยู่ต่อหน้าคนทั้งหลาย”
เพราะเนี่ยเฟิงรู้สึกว่าไอ้คนอย่างคอนสแตนตินแบบนี้มาเป็นทาสย่อมล้วนไม่รู้อะไรแน่นอน ถึงเวลานั้นทำงานไม่ได้ยังทำให้ตนเองไม่มีความสุขอีก
ถ้าหากคอนสแตนตินรู้ว่าเนี่ยเฟิงคิดอย่างนี้ คาดว่าล้วนจะโมโหจนระเบิดแน่
หลังจากคนทั้งสองกำหนดเดิมพันเสร็จ มีคนส่งสัญญาระหว่างความเป็นกับความตายเข้ามาทันที เนี่ยเฟิง ฉึกๆ เซนต์ชื่อตนเองอยู่บนสัญญาระหว่างความเป็นกับความตาย และคอนสแตนตินก็ไม่ยอมแสดงให้เห็นว่าตนด้อยกว่าเช่นกัน
เพราะคอนสแตนตินไม่รู้สึกว่าตนเองจะพ่ายแพ้เลย คอนสแตนตินรู้สึกว่าคนที่พ่ายแพ้ย่อมเป็นเนี่ยเฟิงแน่นอน
หลังจากทั้งสองคนเซนต์สัญญาระหว่างความเป็นกับความตายเสร็จ เนี่ยเฟิงเก็บใบสัญญาใบนี้เข้าไปในกระเป๋าของตนเองจากนั้นเชิดคางแล้วเชิดคางอีก
“งั้นพวกเราก็เริ่มกันเลยเถอะ”