พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 596 ปิดระบบ
แต่ใครล้วนนึกไม่ถึง รถที่พวกเขาปรับปรุงใหม่คันนี้ ครั้งนี้ถึงขนาดถูก Lamborghini ที่ไม่เคยปรับปรุงใหม่มาก่อน สะบัดทิ้งไว้ข้างหลังอย่างไกลๆ สะบัดทิ้งไว้มากกว่าหนึ่งคันรถ นี่จะไม่ได้พูดล้อเล่นนะ ถ้าหากทางโค้งถัดไป คอนสแตนตินยังแซงขึ้นไปไม่ได้ล่ะก็ งั้นการแข่งขันฉากนี้ก็จะแตกต่างกันไกลมากแล้ว
คนเหล่านี้ที่จ้องมองอยู่ก็ตื่นเต้นมากๆเช่นกัน ไม่รู้ว่าทางโค้งถัดไปคอนสแตนตินจะสามารถแซงขึ้นไปได้หรือไม่ และตอนที่คอนสแตนตินจับพวงมาลัยไว้เหงื่อก็ไหลเช่นกัน ในตอนนี้เขาไม่ได้ทำหน้าทะเล้นแล้ว ถ้าหากเขาพ่ายแพ้เนี่ยเฟิงจริงๆ งั้นเขาก็ต้องเอารถทั้งหมดที่ตนเองเก็บสะสมไว้มอบให้กับเนี่ยเฟิง ยังต้องคุกเข่าขอร้องให้ยกโทษให้อยู่ต่อหน้าคนมากมายขนาดนั้นอีก นี่จะขายหน้ามากเกินไปแล้วจริงๆ เขาทำไม่ได้!
คอนสแตนตินไล่ตามอยู่ข้างหลังพวกเขาอย่างแน่น และในเวลานี้พานฉางอันรู้สึกว่าวิญญาณของตนเองล้วนจะลอยออกมาแล้ว รู้สึกว่าในท้องเขาปั่นป่วนอย่างรุนแรง อยากจะอ้วก แต่อ้วกไม่ออกอีก เขามีความหวาดกลัวเล็กน้อยจ้องมองไปยังเนี่ยเฟิงที่อยู่ข้างกาย
สิ่งที่ทำให้คนยังไงก็คาดไม่ถึงคือ ในเวลานี้บนใบหน้าของเนี่ยเฟิงกลับแฝงไว้ด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข พานฉางอันเห็นรอยยิ้มนี้ก็เหมือนเช่นดั่งเห็นผี ดูจากลักษณะท่าทีเนี่ยเฟิงยังคงเสพสุขกับการแข่งขันฉากนี้มากๆ
พานฉางอันกลืนน้ำลายหนึ่งทีอย่างลำบาก ตั้งแต่ต้นจนจบพานฉางอันล้วนจับที่นั่งรถไว้อย่างแน่น ก็กลัวว่าตนเองจะพุ่งออกไป
เนี่ยเฟิงสังเกตเห็นสายตาของพานฉางอัน เขาจ้องมองพานฉางอันหนึ่งที ยิ้มอยู่ถามว่า “เป็นยังไงแล้วล่ะ? ความเร็วนี้เร็วไม่พอใช่หรือไม่? อีกสักครู่ผ่านทางโค้งแห่งนั้นผมจะเพิ่มความเร็วมากขึ้น แต่ว่าความเร็วของรถคันนี้เร็วที่สุดก็เพียงแค่นั้นล่ะ”
ถึงขีดสุดแล้ว ถ้าจะเร็วอีกก็เร็วไปไม่ถึงไหนแล้วเช่นกัน แต่เพราะว่าเมื่อกี้อาศัยทางโค้งเพิ่มความเร็วแซงรถ ดังนั้นเขาจึงสะบัดสายฟ้าสีแดงที่อยู่ข้างหลังทิ้งมากกว่าหนึ่งคันรถ ตอนนี้สายฟ้าสีแดงไล่ตามขึ้นมาแล้ว ดึงระยะห่างใกล้กับพวกเขามากขึ้น เนี่ยเฟิงอยากจะชนะก็จำเป็นต้องทำการใหญ่อยู่ในทางโค้งแต่ละทางโค้งเนี่ยเฟิงล้วนต้องเพิ่มความเร็ว
“โอ้แม่เจ้า! พี่เฟิง คุณยังคงรีบมองไปข้างหน้าขับรถให้ดีๆเถอะ! อย่ามองมาฝั่งผมนี้ ในใจผมนี่กลัวมากล่ะ!”
พานฉางอันตื่นตกใจหนึ่งที ให้เนี่ยเฟิงรีบมองไปยังข้างหน้า ต้องรู้ว่าสภาพการจราจรที่นี่สลับซับซ้อน ถ้าไม่ทันได้ระวังก็อาจจะเกิดเรื่อง แต่นึกไม่ถึงเนี่ยเฟิงถึงขนาดเหมือนเช่นดั่งขับรถในยามปกติ ยังจะแบ่งความสนใจมาพูดคุยกับเขาอีก นี่จริงๆเลย!
“นี่ไม่มีอะไรล่ะ ความเร็วของรถคันนี้เร็วไม่พอ รถที่ผมขับได้เร็วที่สุด…”
เนี่ยเฟิงคิดแล้วคิดอีก อดไม่ไหวที่จะหัวเราะเสียงดังออกมา พูดขึ้นมาแล้วแต่ก่อนรถที่เขาเคยขับได้เร็วที่สุดถึงขนาดเป็นรถไฟแม็กเลฟ
ในตอนต้นเขาปฏิบัติภารกิจ เพราะว่ามีคนจับตัวตระกูลผู้ดีในรถไฟแม็กเลฟโบกี้หนึ่งไว้ ส่วนหน้าที่ของเขาจะต้องปกป้องความปลอดภัยของตระกูลผู้ดี มีคนจ้างนักฆ่ามาฆ่าพวกเขาอยู่บนรถไฟแม็กเลฟ ดังนั้นเนี่ยเฟิงก็เลยโจมตีฆ่านักฆ่าคนนั้นไปเลย แต่ตอนที่โจมตีฆ่านักฆ่าคนนั้นเพื่อที่จะทำให้ตายด้วยกันกับพวกเขา เขาฆ่าคนขับรถไฟหลายคนนั้นไว้ล่วงหน้าไปหมดแล้ว
โชคดีเนี่ยเฟิงเคยขับรถอย่างนี้มาก่อน
แต่ถ้าตอนนี้เล่าเรื่องนี้กับพานฉางอัน พานฉางอันย่อมจะยิ่งเพิ่มความตื่นเต้นแน่นอน หัวใจดวงหนึ่งของพานฉางอันล้วนจะโผล่ออกมาแล้ว อยู่ในสภาพแวดล้อมนี้ เนี่ยเฟิงกระทั่งสามารถได้ยินเสียงหัวใจเต้น ตุ๊บๆๆนั้นของพานฉางอัน ล้วนดังกว่าเสียงลมที่อยู่ข้างนอก
ในเวลานี้คอนสแตนตินไม่รู้เลยว่าพวกเขาเนี่ยเฟิงอยู่ในรถถึงขนาดยังมีอารมณ์คุยเล่นอยู่ ในเวลานี้คอนสแตนตินแค่อยากจะชนะพวกเขา ดังนั้นรถของคอนสแตนตินขับยิ่งเร็วมากขึ้น รถของคอนสแตนตินยังไม่ถึงขีดสุด แต่เนื่องเพราะว่าผ่านทางโค้งจำเป็นต้องระมัดระวัง
เพราะเนื่องด้วยระบบอัจฉริยะ แต่ละครั้งที่คอนสแตนตินผ่านทางโค้ง ระบบอัจฉริยะล้วนจะคำนวณมุม อยู่ตอนที่ปลอดภัยที่สุดลดความเร็ว คอนสแตนตินไม่สามารถเพิ่มความเร็วแซงรถ ครั้งนี้คอนสแตนตินปิดระบบอัจฉริยะเสียเลย คุมเครื่องด้วยตนเองโดยตรง อย่างนี้เขาก็จะสามารถแสดงความเร็วสูงสุดออกมาได้
และในเวลานี้ครูหลายคนนั้นที่อยู่ตีนเขา เห็นได้ชัดว่าได้ยินเสียงที่คอนสแตนตินปิดระบบอัจฉริยะ พวกเขากล่าวเตือนคอนสแตนตินทันทีว่า “เจ้าเมืองน้อยคุณทำอย่างนี้จะอันตรายมากนะ คุณรีบเปิดระบบอัจฉริยะ!”
“ผมจะไม่สนอันตรายหรือไม่อันตรายล่ะ วันนี้ผมชนะเขาไม่ได้ นั่นก็คือตราบาปทั้งชีวิตของผม ผมจะต้องให้เขาชดใช้!”
คอนสแตนตินไม่เคยลิ้มรสความพ่ายแพ้มาก่อน ปัจจุบันนี้พวกเขาให้คอนสแตนตินยอมแพ้ เป็นไปได้ยังไงที่คอนสแตนตินจะทำเช่นนี้ หลังจากเขาปิดระบบอัจฉริยะ สาวผมสีบลอนด์ที่อยู่บนที่นั่งข้างคนขับก็มีความตื่นเต้นเล็กน้อยแล้วเช่นกัน รู้ว่าคอนสแตนตินเอาจริงๆ แต่เธอล้วนยืนอยู่จุดเดียวกันกับคอนสแตนตินแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะลงรถกลางทาง สาวผมสีบลอนด์ได้แต่ค่อยๆจับที่จับไว้ให้ดี
อยู่ทางโค้งถัดไป เท้าคอนสแตนตินเหยียบคันเร่งผ่านไปเลย ความเร็วนั้นเร็วมาก ดูจากลักษณะท่าทีเขาไม่คิดจะลดความเร็วแล้ว และเนี่ยเฟิงที่อยู่ข้างหน้าก็ได้สังเกตถึงแนวโน้มของคอนสแตนติน เขาจ้องมองรถของคอนสแตนตินผ่านกระจกมองหลังนั้นหนึ่งที
เขาทั้งจ้องมองอยู่ ทั้งเหยียบคันเร่งถึงที่สุด ในเวลานี้พานฉางอันรู้สึกถึงแรงหนีศูนย์กลางอีกครั้ง รถทั้งคันล้วนเหมือนเช่นดั่งพุ่งออกไปแล้ว ดริฟต์ไปยังข้างซ้ายอย่างดุเดือด!
พานฉางอันระงับอารมณ์ไว้มากแล้ว เขารู้สึกว่าวินาทีถัดมาตนเองล้วนจะเปล่งเสียงกรีดร้องออกมาแล้ว แต่เนี่ยเฟิงไม่คิดที่จะลดความเร็วรถลงเลย รถของเขามีเพียงแค่ล้อหน้ายังจับพื้นไว้ ล้อข้างหลังล้วนลอยขึ้นมาแล้ว
เนี่ยเฟิงเขาใช้ความรวดเร็วนั้นผ่านทางโค้งกระทั่งไม่ได้ให้โอกาสแก่คอนสแตนตินสักนิดเดียว และในเวลานี้หน้ารถของคอนสแตนตินใกล้จะชนไปยังที่นั่งข้างคนขับแล้ว!
ในชั่วพริบตาเดียวนั้น พานฉางอันรู้สึกเพียงแค่หัวใจดวงหนึ่งล้วนลอยถึงลูกกระเดือก เห็นได้ชัดว่าผ่านกระจกรถของที่นั่งข้างคนขับเขาเห็นกระจกหน้ารถของสายฟ้าสีแดงของคอนสแตนตินที่ไล่ตามอย่างแน่นไม่ยอมปล่อยคันนั้น
เขาสามารถมองเห็นสีหน้าหวาดกลัวที่อยู่บนใบหน้าสาวผมสีบลอนด์ ทั้งยังสามารถมองเห็นสายตาที่โหดร้ายนั้นของคอนสแตนติน!
ชนแล้ว! ชนแล้ว! จะชนแล้ว!
ในชั่วพริบตาเดียวนั้นพานฉางอันกระทั่งคิดพินัยกรรมเรียบร้อยแล้ว…
ในสมองของเขาระเกะระกะอยู่ เขาย่อมไม่สมัครใจที่จะตายแบบนี้ ถึงยังไงเขาเพิ่งเข้าร่วมหุ้นเมืองอิลลูชั่น ชีวิตของเขาเพิ่งเริ่มต้น เขาล้วนยังเรียนไม่จบ ยังไม่ได้ทำสิ่งที่ภูมิใจให้กับบิดาเขา ก็จะตายแบบนี้แล้ว นี่ก็ไม่มีเหตุผลมากเกินไปที่จะอธิบายได้แล้วล่ะ?
ก็อยู่ตอนที่พานฉางอันคิดเหลวไหล เนี่ยเฟิงเข้าเกียร์โดยตรงเพิ่มความเร็วอีกครั้ง รถก็เหมือนเช่นดั่งลูกกระสุนปืนใหญ่ทะลุผ่านทางโค้งอย่างง่ายดาย สะบัดทิ้งพวกเขาไว้ข้างหลัง!
คอนสแตนตินเบิกตาโพลงทั้งคู่ เขานึกไม่ถึงเนี่ยเฟิงถึงขนาดยังสามารถเพิ่มความเร็วได้อีก ความเร็วของรถคันนี้ไม่ใช่ถึงจุดสิ้นสุดแล้วเหรอ?
ในเวลานี้รถของคอนสแตนตินก็ลอยขึ้นมาแล้วเช่นกัน สาวผมสีบลอนด์ได้รับความตกใจไม่เบา ถ้าหากไม่ใช่หน้ารถมีสองคน รถคันนี้อาจจะพลิกคว่ำไปแล้ว ถึงยังไงก็เนื่องเพราะหลังจากผ่านการปรับปรุงใหม่สายฟ้าสีแดงจะเบากว่ารถสปอร์ตคันอื่นหน่อย
นี่เป็นทางโค้งที่ห้าถึงครึ่งทางขึ้นภูเขาแล้ว ถ้าหากตกลงไปจากที่นี่ งั้นก็พูดได้ว่ามีเพียงแค่รถพังคนตายเช่นนั้นแล้ว
“โอ้แม่เจ้า!”
พานฉางอันสั่นระริกๆฟันตีกันพูดคำนี้ออกมา เขาแค่มองก็ไม่กล้ามองไปยังเนี่ยเฟิง เพราะว่าหัวใจทั้งดวงของเขาในตอนนี้ล้วนไม่สามารถสงบลงได้ ความเร็วนั้นก็มากเกินไปหน่อยแล้วมั้ง?
นี่ที่ไหนจะเป็นการแข่งรถล่ะ นี่แทบจะเป็นเดินหนึ่งรอบจากยมโลกมาจริงๆเลย!