พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 63 ไม่มีทางให้อภัย
บทที่ 63 ไม่มีทางให้อภัย
เพราะว่าเรื่องนี้เลวร้ายอย่างมาก ประกอบกับมีของกลางเป็นหลักฐาน แค่ต้องไปตรวจสอบน้ำจับเลี้ยงที่อยู่ในถังอีกครั้งทุกอย่างก็จะชัดเจน
หมิงอี๋หานจะให้น้องชายตัวเองรอนานขนาดนั้นได้ยังไง? เธอจึงให้ทางแผนกรีบทำเวลา วิเคราะห์น้ำจับเลี้ยงในถังออกมาโดยเร็วที่สุด
ผลเป็นดังคาด ในน้ำจับเลี้ยงนี้มีผงยานาร์ซิสซัสผสมอยู่ในปริมาณมากจริงๆ และผงยาเหล่านี้เจือจางอยู่ในน้ำจับเลี้ยง
ต่อให้เป็นคนร่างกายแข็งแรง หากดื่มเข้าไปมากก็อาจถึงตายได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่ร่างกายอ่อนแอ
เมื่อเรื่องมาถึงตรงนี้ก็กระจ่างแล้ว หมิงอี๋หานจึงถอนหายใจได้อย่างโล่งอกเสียที หากเนี่ยเฟิงไม่ได้ฉลาดเฉลียวมีไหวพริบล่ะก็ เป็นไปได้มากว่าพวกเขาอาจจะต้องแบกรับหายนะนี้ไว้แล้ว
หลังรอจนพวกเขาบันทึกคำให้การเสร็จ หมิงอี๋หานก็เรียกญาติๆ ที่เตรียมจะจากไปไว้ รวมทั้งพวกคนแก่กับเด็กๆ ที่ถูกพิษเมื่อกี้ด้วย “ฉันเชื่อมั่นในฝีมือแพทย์ของหัวหน้าเนี่ยมาก แต่ร่างกายของทุกคนไม่เหมือนกัน
เพื่อให้ทุกคนสบายใจ ฉันจึงตัดสินใจจะให้ทุกคนไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลเราอีกครั้ง แน่นอนว่าการตรวจครั้งนี้ทางโรงพยาบาลจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด
สำหรับคดีวางยาพิษที่เลวร้ายในครั้งนี้ ฉันคิดว่าทางตำรวจจะมอบคำตอบที่พอใจให้กับพวกเรา”
คำพูดนี้ของหมิงอี๋หานทำให้ทุกคนต่างชะงักอยู่ตรงที่เดิม
“ต้องขอโทษคณบดีหมิงด้วย เห็นๆ อยู่ว่าทุกปีคุณทำการกุศลตั้งหลายครั้ง อีกทั้งยังคิดเพื่อชาวบ้านอย่างพวกเรา เมื่อกี้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น พวกเราถึงกับสงสัยในโรงพยาบาลคังหมิง!”
“คณบดีหมิง ต่อไปไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเราก็จะเชื่อมั่นในโรงพยาบาลแห่งนี้เท่านั้น!”
เมื่อกี้ตอนที่หมิงอี๋หานเข้าไปบันทึกคำให้การ ก็สั่งให้โรงพยาบาลขับรถบัสคันใหญ่มาที่นี่แล้ว เพื่อรับทุกคนไปส่งโรงพยาบาลคังหมิงค่อยทำการตรวจร่างกาย
“ต้องขอโทษเสี่ยวเฟิงด้วย ฉันไม่คิดเลยว่าจะมีคนเสียสติได้ถึงขั้นนี้ เกือบทำให้นายได้รับความไม่เป็นธรรมแล้ว ฉันไม่ควรให้คนคนเดียวมางานการกุศลเลย”
หลังหมิงอี๋หานขึ้นรถก็มองไปที่เนี่ยเฟิงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เนี่ยเฟิงส่ายหน้า
“ไม่เป็นไร กลับกันสำหรับผมแล้วมันคือการทดสอบอย่างหนึ่งเสียด้วยซ้ำ คุณว่าผมกล้าหาญมากเลยใช่ไหม?”
หมิงอี๋หานหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ “ช่างได้แบบอย่างมาจากคุณตาจริงๆ เพียงแต่เรื่องนี้แปลกเกินไป บางที……”
“จะต้องมีคนจงใจทำเรื่องนี้แน่ วันนี้ผมได้ยินทางปลายสายนั้นเขาพูด น่าจะเป็นคดีวางยาพิษของเย็นวันนี้นั่นแหละ”
เนี่ยเฟิงขมวดคิ้ว “ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปถามเขาดูดีไหม?”
“เจิ้งเหวินหยู่ถือทิฐิมาก เป็นไปได้มากว่าเขาไม่มีทางบอกพวกเราแน่ แต่หลังจากที่ตำรวจทำการสอบปากคำแล้ว คงจะมีเบาะแสอะไรบ้าง ยิ่งกว่านั้นวันนี้พวกเราเพิ่งจะล่วงเกินคนของแพทยสมาคมไป แล้วยังมาเกิดเรื่องเช่นนี้อีก ผมคิดว่าคนที่เล่นงานโรงพยาบาลเราเป็นไปได้มากว่าจะอยู่ในแพทยสมาคม”
หมิงอี๋หานขมวดคิ้ว “ไม่ว่าอย่างไร ลองสืบให้แน่ชัดก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ พวกเราไปดูที่โรงพยาบาลกันก่อน”
เนี่ยเฟิงหันกลับไปมองที่สถานีตำรวจ เขาหรี่ตาลง จากนั้นก็ส่งข้อความ “จับตาดูเจิ้งเหวินหยู่ไว้ให้ดี”
การตรวจร่างกายต่อจากนั้นผ่านไปอย่างราบรื่น เพราะการรักษาของเนี่ยเฟิงได้ผล ด้วยเหตุนี้คนไข้ที่ถูกพิษทั้งหมดจึงไม่มีอาการร้ายแรงใดๆ
นอกจากนี้ พวกเขายังได้รับบัตรตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลคังหมิงมอบให้อีกด้วย
ซึ่งแสดงว่าภายในระยะเวลาสามปีต่อจากนี้ พวกเขาแค่ใช้บัตรตรวจสุขภาพก็สามารถตรวจทุกอย่างตามรายการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
“แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องมากนักกับโรงพยาบาลคังหมิง แต่อย่างไรเจิ้งเหวินหยู่ก็เป็นคนของโรงพยาบาลคังหมิงเรา เขาร่วมมือกับคนนอกทำเรื่องเช่นนี้ออกมา ช่างทำให้คนเดือดดาลจริงๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร พวกเราก็หวังว่าพวกคุณจะมีสุขภาพที่แข็งแรง”
วิธีที่หมิงอี๋หานทำในครั้งนี้จึงได้ใจคนอีกนับไม่ถ้วน เดิมทีพวกเขาก็เชื่อมั่นในโรงพยาบาลคังหมิงมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้จึงยิ่งชมวิธีที่โรงพยาบาลคังหมิงทำไม่ขาดปาก
เรื่องนี้ทำให้โลกโซเชี่ยลวุ่นวายใหญ่โต แต่ก็พลิกกลับตาลปัตรอย่างรวดเร็ว
ไม่เพียงเช่นนี้ ยังมีหมอที่หล่อที่สุดโด่งดังขึ้นมาในโลกออนไลน์เช่นกัน แม้เจ้าตัวจะสวมผ้าปิดปาก แต่ทุกคนก็มองเห็นได้ถึงรูปร่างสูงรวมทั้งดวงตาที่สง่างามและเด็ดเดี่ยวคู่นั้นของเนี่ยเฟิง ไหนจะฝีมือการฝังเข็มขั้นเทพของเนี่ยเฟิงอีก เรียกได้ว่าทำให้ผู้คนในโลกออนไลน์ที่เห็นต่างตกตะลึงจนตาค้าง
ในสายตาคนส่วนใหญ่ แพทย์แผนจีนล้วนเป็นวิชาที่ล้าสมัยมาตลอด มีแต่คนหัวโบราณเท่านั้นถึงจะไปเรียน
แต่คิดไม่ถึงว่าจะยังมีหมอที่หล่อเท่เช่นนี้อยู่ด้วย ทั้งยังเป็นหมอที่ช่วยเหลือคนได้อย่างลื่นไหลคล่องแคล่ว
“พระเจ้า! เสี่ยวเฟิงของเราดังแล้ว!”
คางเมิ่งเสร็จจากถ่ายละครของวันนี้พอดี เวลานี้กำลังนั่งอยู่ในบ้านกินแตงกวากับมันฝรั่งทอด เมื่อกี้ไม่ทันระวังเลื่อนมาเจอไลฟ์สดช่องนี้เข้า พอยิ่งดูก็ยิ่งโกรธ เดิมทีคิดจะโทรไปถามพี่สี่สักหน่อย คิดไม่ถึงว่าเรื่องจะออกมาพลิกโผเช่นนี้!
“ไม่ได้การ ฉันต้องซื้อช่องค้นหายอดนิยมให้เสี่ยวเฟิงเราแล้ว!”
คางเมิ่งโบกมือใหญ่ด้วยความลิงโลด กดเข้าไปที่เงินกองหนึ่ง ทั้งยังจ้างคนมาตัดต่อสองครั้ง เป็นดังคาด ได้ขึ้นเทรนด์การค้นหายอดนิยมแล้ว
ตอนที่หมิงอี๋หานส่งเนี่ยเฟิงกลับถึงบ้าน ทั้งสองก็มองเห็นคางเมิ่งยิ้มอย่างโง่งม พวกเขาสองคนมองสบตากันอย่างไม่รู้ที่มาที่ไปอยู่บ้าง
“พี่เจ็ดนี่พี่……ป่วยตรงไหนหรือเปล่า?”
“น้องเจ็ด เป็นอะไรไป? ทำไมถึงมายิ้มโง่งมอยู่ที่นี่?”
หมิงอี๋หานเดินเข้าไปผลักคางเมิ่งทีหนึ่ง เวลานี้คางเมิ่งเหมือนจะได้สติขึ้นมา เธอแสยะปากยิ้มทันที “ดูสิ! เสี่ยวเฟิงของเราดังแล้ว! เสี่ยวเฟิงจ๊ะ ควรฉวยโอกาสนี้รีบเข้าบริษัทของเราดีไหม! พี่จะดันนายเป็นดาราเอง!”
“ตอนนี้เสี่ยวเฟิงกำลังฝึกงานที่โรงพยาบาลเรา เธออย่าทำให้เขาไขว้เขวสิ”
หมิงอี๋หานหยิกแก้มคางเมิ่งไปหนึ่งที คางเมิ่งเจ็บจนร้องออกมาทันที
เธอกุมแก้มของตัวเองอย่างน่าสงสาร “พี่สี่หยิกฉันอีกแล้ว! จริงสิ เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่? พวกพี่ไม่เป็นไรนะ? ใครกันที่เลวขนาดนั้น ต้องการทำเรื่องเช่นนี้ออกมา?”
“ฉันจะไปสืบดูหน่อย เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงเสี่ยวเฟิง ฉันจะไม่ยอมปล่อยคนคนนั้นไปแน่!”
หมิงอี๋หานหรี่ตา “เสี่ยวเฟิง วันนี้ลำบากนายแล้ว กลับไปพักผ่อนเถอะ! หากพรุ่งนี้ไม่อยากไปทำงานก็ไม่ต้องไป มาขอลางานกับฉันก็พอแล้ว”
“ว้าว! พี่สี่ พี่ดีกับเสี่ยวเฟิงมากไปหรือเปล่า? ฉันไปทำงานที่โรงพยาบาลพี่บ้างได้ไหม ถึงเวลาพี่ก็จ่ายเงินเดือนให้ฉัน ส่วนฉันก็อยู่ที่บ้านไม่ไปทำงาน!”
คางเมิ่งดวงตาส่องประกายทันที มองหมิงอี๋หานอย่างรอคอย
หมิงอี๋หานมองคางเมิ่งปราดหนึ่งคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “เธอคิดว่าไงล่ะ?”
“เชอะ! ลำเอียง!”
คางเมิ่งทำปากยื่น มองหมิงอี๋หานเดอนจากไป
“เสี่ยวเฟิง นายดูสิมีสาวๆ มากมายบอกว่าอยากป่วย จะได้ไปให้นายรักษาด้วยล่ะ! มองไม่ออกเลยนะเนี่ยว่านายก็ใช้หน้าตาทำมาหากินได้!”
คางเมิ่งใช้ศอกถองเข้าที่เนี่ยเฟิงอย่างเย้ยหยัน เนี่ยเฟิงยิ้มกล่าวว่า “ของมันแน่อยู่แล้ว!”
แม้หมิงอี๋หานจะรู้สึกว่าเรื่องนี้มีคนพยายามทำให้เกิดขึ้น แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าเป็นใครกันแน่ เพราะไม่ว่าอย่างไรเธอก็สร้างศัตรูไว้มาก
แต่เนี่ยเฟิงมีตัวเลือกอยู่ในใจแล้ว และคนคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น ก็คือจูเย่าเหวินคณบดีของโรงพยาบาลเฟิร์ส
วันนี้จูเย่าเหวินกำลังเสียหน้าอยู่ที่แพทยสมาคม เดิมทีก็หวาดกลัวโรงพยาบาลคังหมิงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขาจึงโมโหและเจ็บใจ
นอกจากนี้ก็คือโทรศัพท์สายนั้น เนี่ยเฟิงให้คนสืบโทรศัพท์สายนั้นเจอแล้ว และบังเอิญว่าเป็นสายที่โทรหาผู้ช่วยของจูเย่าเหวิน
ส่วนเนื้อหาที่สนทนากันในสายนั้นค่อนข้างน้อย ด้วยเหตุนี้เนี่ยเฟิงจึงไม่แน่ใจว่าฝ่ายตรงข้ามคิดจะทำอะไร