พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 67 นอกในตีประสาน
ทที่ 67 นอกในตีประสาน
ด้านนอกมีคนมาไม่น้อย อีกทั้งด้วยเพราะข่าวคราวทางฝั่งพวกเขามีมากเกินไป ดังนั้นจึงมีคนมากมายหยุดยืนมอง
และมีคนอีกไม่น้อยล้วงโทรศัพท์ออกมาถ่ายวิดีโอไว้แล้ว พวกเขาต่างพากันซุบซิบนินทา
“เมื่อเช้าเพิ่งจะมีข่าวอื้อฉาวของแพทยสมาคมหลุดออกมาว่าทุจริตรับสินบน ต่อมาก็มีข่าวว่าดร.หยางทำการทดลองมนุษย์ ทำผิดจรรยาบรรณ เวลานี้โรงพยาบาลคังหมิงก็ไม่อาจรอดพ้นหายนะไปได้!”
“ปกติมารักษาโรคที่โรงพยาบาลคังหมิงยังนับว่าไม่เลว แต่คิดไม่ถึงว่าเบื้องหลังของความหรูหราดูสง่านี้ ถึงกับซ่อนโศกนาฏกรรมเอาไว้มากมาย!”
“เฮ้ แบบนี้ทำเกินไปหน่อยหรือเปล่า รักษาคนจนมีสภาพแบบนี้ ยังไม่ยอมรับความผิดอีกเหรอ?”
เรียกได้ว่าชายสามคนสร้างเสือเลยทีเดียว คนคนเดียวพูดอาจไม่น่าเชื่อถือ แต่คนมากมายทำการรุมตีโรงพยาบาลคังหมิงเช่นนี้ หัวหน้าทีมจึงเงียบไปแล้ว
“หากพวกคุณรู้สึกว่าหลังรับการรักษาจากโรงพยาบาลคังหมิงแล้วตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นก็จงยื่นหลักฐานออกมา”
หมิงอี๋หานเองก็ไม่ใช่คนที่จะรังแกได้ง่ายเช่นกัน เธอจ้องเขม็งอย่างเย็นชา เธอที่เผชิญหน้ากับคำวิจารณ์มากมาย ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง
“ทำไมจะไม่มีหลักฐาน คุณดูสิ! นี่คือผลตรวจร่างกายที่ฉันไปทำที่โรงพยาบาลอื่น แบบนี้ก็เท่ากับพวกคุณบกพร่องในการรักษา!”
ชายคนนั้นที่นั่งอยู่บนรถเข็นหยิบหนังสือรายงานผลออกมาปึกหนึ่ง มองออกว่าเขากระตือรือร้นอย่างมาก
“คณบดีหมิง เรื่องใหญ่น้อยเหล่านี้ คนไข้มากมายต่างติเตียนโรงพยาบาลของคุณ ผมคิดว่าโรงพยาบาลของพวกคุณจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบ”
หมิงอี๋หานขมวดคิ้วแน่น หากเป็นยามปกติโรงพยาบาลของพวกเขาได้รับการตรวจสอบก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้พวกเขากำลังแลกเปลี่ยนความรู้กับทีมงานการแพทย์ของประเทศรัสเซีย หากข่าวนี้แพร่ไปถึงหูพวกเขา เช่นนั้นพวกเขาก็ต้องคิดว่าโรงพยาบาลคังหมิงเป็นโรงพยาบาลที่ขาดการอบรม
มิหนำซ้ำตอนนี้ยังเป็นเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ หากยอมให้มีการตรวจสอบ อย่างนั้นโครงการมากมายของพวกเขาก็คงไม่อาจดำเนินการต่อได้
“หากเพราะฟังความข้างเดียวจากคนไข้เหล่านี้ แล้วโรงพยาบาลเราต้องถูกตรวจสอบและปรับปรุง อย่างนั้นก็ถือว่าไม่ยุติธรรมกับโรงพยาบาลของเรา และความเสียหายที่เกิดขึ้นใครจะรับผิดชอบ?”
“วะ! มาถึงขั้นนี้แล้ว พวกคุณยังจะคิดถึงความเสียหายของโรงพยาบาลคุณอีกเหรอ!”
“นั่นสิ โรงพยาบาลคังหมิงทำแบบนี้ก็ไม่ใช่คนแล้ว!”
“หรือว่าชีวิตคนในสายตาพวกคุณมันไร้ค่าถึงเพียงนี้เชียวหรือ? พวกคุณถึงยังคิดถึงความเสียหายของโรงพยาบาลอยู่อีก?!”
“ฉันคิดมาตลอดว่าโรงพยาบาลคังหมิงไม่เลวเลย แต่ตอนนี้เห็นทีโรงพยาบาลคังหมิงกับโรงพยาบาลอื่นก็คงไม่มีอะไรต่างกัน ถึงขั้นเห็นแก่ได้กว่าโรงพยาบาลเหล่านั้นเสียอีก! พวกคุณทำเกินไปแล้วจริงๆ เพื่อตัวเองถึงกับไม่สนใจชีวิตคน!”
“สืบจนถึงที่สุดก็ต้องสืบ ไม่แน่พวกเขาอาจจะยังมีเรื่องโสมมอะไรซ่อนไว้อยู่อีก!”
เนี่ยเฟิงหรี่ตา มองกลุ่มคนที่โกรธแค้นโดยไม่ทราบสาเหตุเหล่านี้ คนสองสามคนนั้นที่มาก่อเรื่องมองเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มอยู่ในมุมลับตาคน
เห็นได้ชัดว่าหมิงอี๋หานกำลังตกอยู่ท่ามกลางความลำบากใจ
“พวกคุณไม่ยอมรับการตรวจสอบ เพราะในใจมีเรื่องแอบแฝงใช่ไหม?”
“จริงด้วย หากพวกคุณบริสุทธิ์ใจ ก็ไม่เห็นต้องกังวล!”
“จะว่าไปเมื่อกี้ตอนกำลังตรวจร่างกาย ฉันพบว่าเครื่องมือสองแห่งมีปัญหานิดหน่อย……ทำไมพวกเราไม่ไปดูกันหน่อยล่ะ?”
เวลานี้เอง หนึ่งในสมาชิกของทีมหน่วยย่อยก็เอ่ยปากขึ้นมาแล้ว
“เป็นไปไม่ได้ พวกเราทำการตรวจเช็คทุกเดือน เครื่องมือไม่มีปัญหาแน่นอน เครื่องมือทางการแพทย์ของเราทำการบำรุงรักษาทุกเดือน”
ความถี่ในการบำรุงรักษานี้มากกว่าโรงพยาบาลอื่นด้วยซ้ำ เพราะหมิงอี๋หานรู้ว่าชีวิตคนเป็นสิ่งสำคัญ
เธอไม่ใช่ไม่ยอมรับการตรวจสอบ เพียงแต่ถ้าเธอรับการตรวจสอบ ก็จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสสร้างหลักฐานได้
หลักฐานที่โรงพยาบาลอื่นออกให้ก็อาจจะเป็นของปลอมเช่นกัน
เพราะมีความกังวลเช่นนี้ ดังนั้นเธอจึงจำเป็นต้องงัดหลักฐานมาพิสูจน์เรื่องทั้งหมด ค่อยให้พวกเขาทำการสืบค้น ไม่อย่างนั้นก็จะไม่ยุติธรรมต่อเขาและโรงพยาบาล ยิ่งกว่านั้นเวลานี้เรื่องนี้อาจจะถูกเผยแพร่ไปในโลกออนไลน์แล้ว
หากเป็นเช่นนี้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโรงพยาบาลคังหมิงคงจะมีไม่น้อยเลย
หากโรงพยาบาลพวกเขาเกิดความผิดพลาดจริง อย่างนั้นพวกเขาก็จะทำการชดใช้อย่างเต็มความสามารถ แต่เรื่องราวทั้งหมดไม่ชอบมาพากลเกินไป ต่อให้ไม่ใช่คนฉลาดก็ยังสังเกตเห็นได้
“พวกเราไปตรวจดูเครื่องมือกันก่อนเถอะ”
หัวหน้าทีมขมวดคิ้ว จากนั้นก็หันหน้าไปพูดกับสมาชิกของตัวเองว่า “ทำไมคุณไม่บอกฉันตั้งแต่แรกล่ะ?”
“เมื่อกี้ผมเองก็ไม่แน่ใจนัก อีกทั้งการตรวจสอบก็ค่อนข้างรีบ ดังนั้นผมเลยไม่ได้พูด แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะมีปัญหาอยู่บ้างจริงๆ ครับ”
เนี่ยเฟิงมองสมาชิกทีมหน่วยย่อย ผู้ชายคนนั้นลูบลำคอของตนเอง
หมิงอี๋หานกุมขมับ จากนั้นก็เดินตามคนกลุ่มใหญ่เข้าไปโรงพยาบาล ทำการตรวจสอบอีกครั้ง
ตอนที่เนี่ยเฟิงเดินตามหลังเข้าไปได้หยิบโทรศัพท์ออกมา “ภาพบางส่วนที่แพร่ออกไปเมื่อกี้ ฉันต้องการควบคุมข่าวของพวกเขาภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด”
เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ด้วยเหตุนี้จะต้องมีคนแอบบงการอยู่เบื้องหลัง
พวกเขากลับเข้ามาในโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบ แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเครื่องมือจะมีปัญหาจริงๆ
“เครื่องมืออันนี้ของพวกคุณหลวมแล้ว แถมนอตก็หายไปด้วย แม้จะเป็นเพียงนอตตัวเล็กๆ แต่การชำรุดของเครื่องมืออาจทำให้รักษาคนไข้ได้ไม่ดีพอ”
หัวหน้าทีมก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่าจะมีความผิดพลาดขั้นพื้นฐานเช่นนี้ “คณบดีหมิง ต้องขออภัยด้วยจริงๆ พวกเราจะทำการตรวจสอบเชิงลึกแก่โรงพยาบาลคังหมิง ด้วยเหตุนี้ตั้งแต่วันนี้ไป ทุกอย่างที่พวกคุณทำจะอยู่ในสายตาของพวกเรา”
ข่าวนี้ประกาศผ่านคนที่อยู่ด้านนอกเหล่านั้น คนที่อยู่ในแผนกผู้ป่วยในก็หวาดกลัวขึ้นมาทันที ไหนจะคนไข้ทั้งหมดที่กำลังตรวจโรคอีก
“ขนาดเครื่องมือผ่าตัดยังเกิดปัญหาได้ โรงพยาบาลของพวกคุณยังมีอะไรจะเถียงอีก ขาของฉันก็เป็นเพราะเครื่องมือของพวกคุณเกิดปัญหา เลยมีสภาพเป็นอย่างนี้ไงล่ะ”
“จริงด้วย โรงพยาบาลของพวกคุณบกพร่องในการรักษาโรค ไม่กระตือรือร้นรับมือก็ช่างเถอะ ยังคิดจะปัดหายนะมาให้พวกเรา พวกคุณนี่ทำเกินไปจริงๆ!”
“น่ากลัวเกินไปแล้ว พวกเราออกจากโรงพยาบาลกันเถอะ!”
“อย่ามารักษาที่นี่เลย ฉันกลัวว่าถึงเวลาฉันจะตายคาเตียงผ่าตัด!”
“คืนเงิน! ย้ายโรงพยาบาล!”
สีหน้าหมิงอี๋หานเคร่งขรึมอย่างยิ่ง คืนเงินให้เขาไม่มีปัญหา แต่คนไข้เหล่านี้เพิ่งจะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของเธอ ได้ไม่นานเท่าไหร่นัก หากตอนนี้ออกจากโรงพยาบาลกะทันหัน เป็นไปได้มากว่าจะเกิดการบาดเจ็บได้
ความรู้สึกของฝูงชนถูกปลุกปั่นได้ง่ายมาก มิหนำซ้ำตอนนี้ “ของกลาง” หลายอย่างนั้นก็วางอยู่ตรงหน้าพวกเขา แน่นอนว่าพวกเขาย่อมรู้สึกหวั่นกลัวและไม่สบายใจ
“พวกคุณไม่ให้พวกเราออกจากโรงพยาบาล ก็เพื่อต้องการเอาชีวิตของเราใช่ไหม!”
“โรงพยาบาลคังหมิงไร้คุณธรรมถึงเพียงนี้เชียวเหรอ?!”
หมิงอี๋หานกัดฟันกรอด “ตอนนี้มีคนไข้บางส่วนยังอยู่ในการรักษา หากไปโรงพยาบาลอื่นแล้ว ฉันกลัวว่าความคืบหน้าในการรักษาจะไม่เป็นไปตาม……”
“นี่ล้วนเป็นคำพูดเหลวไหลของคุณ คุณก็แค่อยากจะรั้งเราไว้ คุณไม่อยากให้โรงพยาบาลเสียหาย!”