พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 69 ไร้ทางต่อต้าน
บทที่ 69 ไร้ทางต่อต้าน
ฝ่ามือจูเย่าเหวินมีเหงื่อซึมออกมาเล็กน้อย เจ้าหมอนี่รู้ได้ยังไง เห็นๆ อยู่ว่าเรื่องทุกอย่างทำอย่างไม่มีช่องโหว่ มิหนำซ้ำเขายังประสานกับด้านในด้านนอก มีคนคอยช่วยเขาล้อมไว้……
“แกอย่าได้เอาความผิดเหล่านี้ป้ายมาที่ตัวฉันอย่างไร้เหตุผล ตอนนี้แกกำลังบันทึกเสียงอยู่ใช่ไหม? ฉันไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด!”
จูเย่าเหวินรู้สึกว่าเนี่ยเฟิงกำลังขุดหลุมล่อตัวเองอยู่
“ฉันไม่ต้องการให้แกยอมรับ เพราะฉันรู้ว่าเรื่องเหล่านี้คือความจริง”
เนี่ยเฟิงพูดจบก็ดีดนิ้วทีหนึ่ง “พาคนเข้ามา”
ชายชุดดำสองคน ลากตัวคนที่ตกใจจนฉี่ราดคนหนึ่งเข้ามา
คนผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น เป็นผู้ช่วยของจูเย่าเหวิน และเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับจูเย่าเหวินช่วยกันกระทำชั่วนั่นเอง
พริบตาที่จูเย่าเหวินมองเห็นผู้ช่วย หางตาเขาก็กระตุกทันที
“คณบดี! คณบดีช่วยผมด้วย! ทุกอย่างที่ผมทำก็เพื่อคุณ! คุณอย่าทิ้งผมไปโดยไม่สนใจเลยนะ!”
สองขาของผู้ช่วยคนนั้นถูกตีจนหัก ตอนนี้ทำได้เพียงลากร่างกายพิการคลานเข้าไปหา
ขากางเกงเขาที่ลากอยู่บนกระเบื้องสีขาวเกิดเป็นรอยเลือดขึ้นมาสองทาง!
จูเย่าเหวินอกสั่นขวัญแขวน “แกถึงกับกล้าลงมือตีคน! ป่าเถื่อนสิ้นดี!”
“ก็เหมือนกันนั่นแหละ แกเองก็ใช้คนของแกแอบถอดนอตบนเครื่องมือของโรงพยาบาลคังหมิงแล้วป้ายสีให้พี่สี่ของฉันไม่ใช่หรือ?”
เนี่ยเฟิงพิงพนักเก้าอี้ มองจูเย่าเหวินอย่างเดือดดาล กล่าวต่ออีกว่า
“แกยังปลอมแปลงเอกสารของโรงพยาบาล หาคนไข้มาหลายๆ คนเพื่อใส่ร้ายว่าโรงพยาบาลคังหมิงบกพร่องในการรักษาโรค รอหลังจากเรื่องใกล้จะซาแล้ว ก็ค่อยแย่งโครงการที่โรงพยาบาลคังหมิงทำอยู่มา เป็นยังไง? ฉันพูดไม่ผิดใช่ไหม?”
“เหลวไหล! เรื่องพวกนี้ไม่มีหลักฐานสักหน่อย!”
จูเย่าเหวินแค่นเสียงออกมา มองฝ่ายตรงข้ามอย่างโกรธจัด
“งั้นหรือ? น่าเสียดาย แกหาคนมาผิดไป พวกนั้นไม่ได้ปากแข็งเหมือนแก แค่ขู่หน่อยก็พูดออกมาหมดเปลือกแล้ว”
เนี่ยเฟิงเชิดคาง “ลุงสี่ เปิดโปรเจคเตอร์”
เนี่ยเหล่าสี่เดินเข้ามาเปิดโปรเจคเตอร์
ภาพวิดีโอภาพหนึ่งปรากฏออกมาทันที
เมื่อกี้คนเหล่านั้นที่ร้องไห้เสียงดังอยู่ในโรงพยาบาลคังหมิงกำลังคุกเข่าร้องไห้สารภาพผิดอยู่ในห้องห้องหนึ่งอย่างเป็นระเบียบ
“ฉันขอโทษ มีคนให้เงินก้อนโตกับเรา บอกให้เราจงใจทำลายชื่อเสียงโรงพยาบาลคังหมิง!”
“ฉันเลอะเลือนไปแล้วจริงๆ ถึงได้ทำเรื่องเช่นนี้ออกมา ฉันสำนึกผิดแล้ว!”
“ต่อไปพวกเราไม่กล้าแล้ว ไม่กล้าแล้วจริงๆ! เงินเหล่านี้ฉันไม่เอาแล้ว ฉันจะไปมอบตัว!”
จูเย่าเหวินมุมปากกระตุก คนเหล่านี้ทำไมจู่ๆ ถึงเปลี่ยนฝั่งเสียแล้ว?”
“แกให้ผู้ช่วยของแกไปติดสินบนพวกเขา มอบเงินให้ก้อนหนึ่ง แล้วให้พวกเขาไปทำเรื่อง เจตนาทำให้ชื่อเสียงของโรงพยาบาลคังหมิงมัวหมอง……”
“แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน! แกมีหลักฐานอะไรถึงพิสูจน์ว่าฉันเป็นคนให้ผู้ช่วยไปทำ? อาจจะเป็นคำพูดเหลวไหลของแกฝ่ายเดียวก็ได้!”
จูเย่าเหวินยิ้มเย็น “ตอนนี้แกยังรังแกมาถึงฉันแล้ว? เนี่ยเฟิง แกก็แค่กากเดนของตระกูลเนี่ยเท่านั้น! แกคิดจริงๆ หรือว่าความสามารถแค่นี้ของแกจะมาต่อกรกับฉันได้?!”
จูเย่าเหวินหรี่ตา ในแววตาเจืออันตรายอยู่เต็มเปี่ยม
“ต่อกรได้หรือไม่ ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแก”
เนี่ยเฟิงล้วงบัตรใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋า ถือเล่นไว้ในมือ พริบตาที่เห็นบัตรใบนี้ จูเย่าเหวินก็ตกตะลึง!
“แกมีมันได้ยังไง!”
“ตกใจมากเลยใช่ไหม?” เนี่ยเฟิงแสยะปากยิ้ม บัตรแม่เหล็กใบนี้ใช้กับที่ไหนกันนะ? ฉันแปลกใจจัง”
“เนี่ยเฟิง!”
พลันจูเย่าเหวินก็โกรธจนระงับอารมณ์ไม่อยู่!
“แกรนหาที่เองนะ!”
เห็นเพียงจูเย่าเหวินกดสัญญาณเตือนภัย “แกอย่านึกว่าสี่ตระกูลตัวพ่อรังแกได้ง่ายขนาดนั้น! ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่!”
สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นไปทั่วตึก
เนี่ยเฟิงมองจูเย่าเหวินคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม จูเย่าเหวินมองเขาด้วยสีหน้าดุร้าย
แต่ผ่านไปหนึ่งนาทีหนึ่งวินาที คนของเขาก็ยังมาไม่ถึง
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
“เห็นท่าทางประหลาดใจของแก สู้ให้ฉันตอบแทนแกก็แล้วกัน”
เนี่ยเฟิงชี้ไปที่จอมอนิเตอร์ “แกดูสิ”
จูเย่าเหวินหันไปที่จอมอนิเตอร์ ในจอเขาเห็นภาพกล้องวงจรปิดของแต่ละชั้น บนทางเดิน ในระเบียง ในห้องทำงานล้วนเป็นคนที่โดนตีจนตัวงอไปหมด พวกเขาไม่เหลือแรงจะรับมือแล้ว!
เหล่าลูกศิษย์สำนักมังกรที่สวมชุดบัตเลอร์สีดำด้านหลังเป็นลายมังกรกลุ่มหนึ่งพากันทยอยส่งสัญญาณมือ เป็นสัญญาณว่าควบคุมไว้ได้หมดแล้ว
จูเย่าเหวินกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก มองเนี่ยเฟิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“แก แกทำได้ยังไงกัน!”
เนี่ยเฟิงยิ้งแฉ่ง “เพราะฉันคือนายน้อยตระกูลเนี่ย ราชามังกรแห่งสำนักมังกร”
พริบตาเดียวจูเย่าเหวินราวกับถูกสายฟ้าฟาด! คล้ายกับถูกตีแสกหน้า เขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด!
“รา ราชามังกรแห่งสำนักมังกร?! เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! แกจะเป็นราชามังกรของสำนักมังกรได้ยังไง!”
สำนักมังกร ในตำนานเล่าว่าเป็นสำนักที่น่าสะพรึงกลัว องค์กรนี้แค่ได้ยินชื่อคนก็พากันขวัญหนีดีฝ่อ! เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็นราชามังกรแห่งสำนักมังกร!
เนี่ยเฟิงยืนขึ้น เดินมาหาจูเย่าเหวิน “พาตัวเขาไป”
ศิษย์สำนักมังกรสองคนพยักหน้าเล็กน้อย เวลานี้จูเย่าเหวินตกใจจนวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว เขาดิ้นรนขัดขืนคิดจะหนี เพียงแต่ตอนนี้ตึกใหญ่ทั้งอาคารล้วนถูกกวาดล้างหมดแล้ว เขาเป็นเพียงเนื้อที่อยู่บนเขียง ปล่อยให้คนต้มยำทำแกง!
จูเย่าเหวินขัดขืนแรงเกินไป จึงถูกศิษย์ของสำนักมังกรตีจนสลบ จากนั้นก็ลากถูลู่ถูกังไปที่ลิฟต์
เนี่ยเหล่าสี่ไม่แน่ใจนักว่าเนี่ยเฟิงจะพาจูเย่าเหวินไปที่ไหน แต่เนี่ยเฟิงจะต้องมีแผนของตัวเองแล้ว
หลังลงลิฟต์มาถึงชั้นสาม คณะของพวกเขาก็มาถึงห้องดับจิตของที่นี่
อุณหภูมิในนี้ต่ำมาก อีกทั้งยังมีร่างคนตายอยู่จำนวนไม่น้อย
ต่อให้เนี่ยเหล่าสี่จะเคยเห็นคลื่นยักษ์ลมแรงมาก่อน ก็ยังยากจะเลี่ยงไม่ให้ถูกที่แห่งนี้โจมตีเอาได้
พวกเขามาถึงส่วนลึกสุดของห้องดับจิต เนี่ยเฟิงหยิบบัตรที่อยู่ในมือออกมา ในนี้ถึงกับมีช่องทางลับอยู่ด้วย หลังเสียบบัตรประตูก็เปิดออก
เมื่อเทียบกับความมืดสลัวที่ด้านนอก ด้านในดูเหมือนจะมีแสงไฟสว่างไสว
หลังเดินเข้าไป กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อก็ลอยมาปะทะใบหน้า
เนี่ยเฟิงและคนอื่นๆ เดินขึ้นหน้ากันต่อ เมื่อเปิดประตูบานหนึ่งอีกครั้ง เวลานี้ ห้องทดลองขนาดใหญ่ก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขา
พนักงานที่อยู่ในห้องทดลองถูกคุมตัวเอาไว้หมดแล้ว ตอนนี้พวกเขาถูกขังอยู่ในห้องห้องหนึ่งอย่างตัวสั่นงันงก ไร้ทางหนีโดยสิ้นเชิง
“จับเขามัดไว้บนเตียงผ่าตัด”
เนี่ยเฟิงพูดจบ ก็ล้วงยาเม็ดขวดเล็กออกมาจากกระเป๋า เขาเอายาเม็ดยัดเข้าไปในปากจูเย่าเหวิน
ตอนที่จูเย่าเหวินสะลึมสะลือฟื้นขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองถูกมัดไว้บนเตียงผ่าตัดเสียแล้ว!
“ไอ้เด็กโสโครก! ปล่อยฉันนะ!”
“จูเย่าเหวิน แกทำเรื่องชั่วไว้ตั้งมากมาย หรือแกไม่กลัวคนที่ถูกแกควักอวัยวะไปขายกลายเป็นผีจะกลับมาหาแก?”
เนี่ยเฟิงลดสายตาลงมองจูเย่าเหวิน
จูเย่าเหวินยิ้มเย็น “ฉันไม่ได้ทำ! แกอย่ามาใส่ร้ายฉัน!”
“มาจนถึงห้องทดลองของแกแล้ว หรือแกยังจะปฏิเสธอีก? ต้องให้ฉันไปถามพนักงานพวกนั้นของแกไหม?”
“ถามไปก็เปล่าประโยชน์ ฉันไม่มีทางยอมรับหรอก!”
จูเย่าเหวินร้องตะโกนอย่างเดือดดาล “ปล่อยฉัน! แกทำแบบนี้เป็นการกักขังหน่วงเหนี่ยว!”
“ฉันกักขังแกในที่ของแกใช่หรือเปล่า?”
เนี่ยเฟิงแสยะยิ้ม “จะว่าไป สถานที่นี้ของแกช่างไม่เลวจริงๆ ฉันทำอะไรอยู่ในนี้บ้าง ก็คงจะไม่มีใครรู้ จริงไหม?”