พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 71 โรงพยาบาลที่ดีที่สุด
บทที่ 71 โรงพยาบาลที่ดีที่สุด
หมิงอี๋หานยังปวดหัวกับเครื่องมือแพทย์ การรักษาและเรื่องอื่นๆ อยู่
เธอพยายามนึกอยู่ว่าช่วงนี้ตัวเองเคยไปมีปัญหากับใครไว้บ้าง ใครกันที่อยากให้โรงพยาบาลคังหมิงเกิดเรื่อง
“คณบดีคะ ช่วยมาดูนี่หน่อยค่ะ!”
จู่ๆ พยาบาลคนหนึ่งก็ได้เปิดประตูเข้ามา ด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างแตกตื่น
หมิงอี๋หานตกใจ “มีคนมาใส่ร้ายโรงพยาบาลของเราอีกแล้วเหรอ?”
พยาบาลรีบส่ายหน้า “มะ ไม่ใช่ค่ะ! ไม่ใช่! โอ้ย ฉันไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว คุณรีบออกไปดูเถอะค่ะ!”
ถึงหมิงอี๋หานจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แต่เธอก็ไม่มีเวลามาคิดอะไรมากมายแล้ว เธอจึงรีบตามออกไปทันที
ตอนที่มาถึงห้องโถง เธอก็เห็นบรรดาผู้ป่วยกับญาติๆที่ขอทำเรื่องย้ายโรงพยาบาลไปแล้วกำลังยืนก้มหน้าก้มตากันอยู่
หมิงอี๋หานขมวดคิ้วเบาๆ “นี่พวกคุณ……”
“คณบดีหมิงครับ! ต้องขอโทษด้วยนะครับ! ที่พวกเราเข้าใจคุณผิดไป!”
“คณบดีหมิงคะ! ฉันมันมีตาหามีแววไม่! ที่ถูกคนพวกนั้นหลอกเอาง่ายๆ! ฉันรู้ดีว่าคุณเป็นคณบดีที่ดีมากๆ! แต่ฉันก็ยังเฮ้อ! ฉันมันสมควรโดนจริงๆ!”
หมิงอี๋หานไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ “นี่มันเรื่องอะไรกันคะ? พวกคุณย้ายออกกันไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอคะ?”
“ไม่ย้ายแล้วค่ะ! คณบดีหมิงเป็นคนดีที่สุดแล้ว! พวกเราไม่ย้ายไปไหนทั้งนั้นค่ะ!”
“ใช่ครับ! คณบดีช่วยยกโทษให้เราด้วย! อย่าโกรธเราเลยนะครับ!”
หมิงอี๋หานก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ทั้งๆ ที่ตอนบ่ายคนพวกนี้ยังเอะอะโวยวายเพื่อขอย้ายโรงพยาบาลอยู่เลย แล้วทำไมจู่ๆ ท่าทีถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้……”
“คณบดีดูนี่ค่ะ!”
พยาบาลรีบหยิบคอมพิวเตอร์ออกมา หนิงอี๋หานก็ได้เห็นคนกลุ่มหนึ่งที่ถูกจับไป
คนพวกนี้ไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นกลุ่มคนที่เพิ่งมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมไปนี่
“พวกเขามาต้มตุ๋นด้วยเจตนาที่ไม่ดี ตอนนี้พวกเขาได้ยอมรับความผิดทั้งหมดแล้ว! ยังมีคนจากกรมอนามัยนั่นอีก เขาจงใจขันสกรูออกเพื่อใส่ร้ายโรงพยาบาลของเรา! เขาได้เข้ามอบตัวด้วยตนเองแล้ว! แถมยังคืนสกรูมาแล้วด้วย”
หนิงอี๋หานแค่รู้สึกว่ามันน่าทึ่ง เธอรู้ดีว่ามีคนอยากจะกลั่นแกล้งเธอ อยากทำลายโรงพยาบาลคังหมิง
แต่ไม่นึกเลยว่าเรื่องนี้จะคลี่คลายได้เร็วขนาดนี้
คนพวกนี้ถูกจ้างมาเพื่อทำแบบนี้แล้วทำไมพวกเขาถึงไปมอบตัวล่ะ?
“คณบดีจูเย่าเหวินของโรงพยาบาลเฟิร์สถูกจับแล้ว!”
คนไข้คนหนึ่งพูดขึ้น
“ใช่ๆ! ปกติเขาก็ดูเป็นคนสุภาพดีนะ แต่ไม่นึกเลยว่าเขาจะเป็นคนชั่วในคาบคนดีแบบนี้! เขาคงคิดว่าเป็นเพราะโรงพยาบาลคังหมิงดี แล้วแย่งทรัพยากรของเขาไปหมด จึงใช้วิธีสกปรกมาทำลายโรงพยาบาลคังหมิงแบบนี้!”
“ถูกต้อง! แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ทางตำรวจแจ้งว่าเขากับคร.หยางร่วมมือกันทดลองกับมนุษย์เพื่อคิดค้นยาพิษตัวใหม่ด้วย!”
“มีหนักกว่านั้นอีก ว่ากันว่าอวัยวะภายในกับกระจกตาของเยื่อในครั้งนี้ได้ถูกพวกเขาเอาไปขายจนหมดแล้ว นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว!”
ต่างคนต่างพากันแสดงความเห็นออกมา
หมิงอี๋หานสูดหายใจเข้า แล้วจิ้มข่าวฉบับหนึ่งขึ้นมาอ่าน ตอนนี้มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะมาก ทำเอาหมิงอี๋หานอ่านแล้วตาลายกันเลย
ไม่เพียงเท่านั้น ในนั้นยังเต็มไปด้วยคลิปที่กล่าวถึงจรรยาบรรณความเป็นหมอของคณบดีคนสวยแห่งโรงพยาบาลคังหมิงกับความทุ่มเทที่เธอมีให้กับคนไข้และเรื่องดีๆ อย่างอื่นอีกมากมาย
มันจึงถูกยกไปเปรียบเทียบกับจูเย่าเหวินได้ดีเลยทีเดียว!
“คณบดีหมิง! ช่วยให้โอกาสเราอีกสักครั้งนะคะ! ตอนนี้ปัญหาทางการแพทย์มันมีเยอะจนทำให้ผู้คนพากันหวาดกลัวไปหมดแล้วค่ะ เราเองก็ไม่รู้แล้วว่าควรเชื่อใครดี! แต่เราเชื่อค่ะ เชื่อว่าคุณต้องไม่ใช่คนไม่ดี!”
“ใช่ๆ คณบดีหมิงครับ! คุณช่วยพวกเราหน่อยนะครับ! ผมขอร้องล่ะ!”
หมิงอี๋หานส่ายหน้า “ฉันไม่ได้ช่วยพวกคุณ แต่ตราบใดฉันยังใส่ชุดกาวน์นี้อยู่ฉันก็พร้อมที่จะทุ่มเทอย่างเต็มที่ และสิ่งที่ฉันต้องการก็คือให้โลกใบนี้ปราศจากโรคภัยทั้งปวง”
พูดจบหมิงอี๋หานก็หันหลัง “วันนี้ต้องลำบากทุกคนให้ช่วยจัดการเรื่องการแอดมิทของผู้ป่วยแล้ว โดยดำเนินการอย่างละเอียดทุกขั้นตอน รบกวนด้วยนะคะ”
ทุกๆคน ต่างกระตือรือร้นกันมาก
ส่วนบรรดาผู้ป่วยทั้งหลายที่รู้ว่าหมิงอี๋หานไม่ถือสาเรื่องที่ผ่านมา พวกเขาก็พากันส่งเสียงโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจ
“นี่มันหมายความว่ายังไง!”
ฟางหลงเทียนที่กำลังปวดหัวกับเรื่องของหลิวปั๋วทงอยู่ ไม่นึกไม่ฝันว่าความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรกแบบนี้
เขารับสายที่โทรมาจากน้องสาว
ฟางซูเจินพูดทั้งน้ำตาว่า “พี่คะ! ฉันจะกล้าเอาเรื่องแบบนี้มาหลอกพี่ได้ยังไง! เย่าเหวินถูกจับไปแล้ว! ฉันร้อนใจจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว! ทำยังไงดีคะพี่!”
ฟางหลงเทียนเองก็ร้อนใจไม่ต่างกัน เขากัดริมฝีปากแน่น “แกหยุดร้องก่อน! เดี๋ยวฉันขอไปดูก่อน!”
นี่แค่กี่วันเอง! ทำไมจูเย่าเหวินถึงถูกจับแล้วล่ะ?
ฟางหลงเทียนรีบเปิดโซเชี่ยลขึ้นมาดูว่าเรื่องมันหนักหนาถึงขั้นไหนแล้ว เขาอยากรู้ว่ายังพอมีทางที่จะกู้สถานการณ์กลับมาได้หรือเปล่า?
แต่หลังจากที่หลิวปั๋วทงสิ้นอำนาจไป ต่อให้เขาอยากจะช่วยจูเย่าเหวินออกมามากขนาดไหนก็ตาม เกรงว่ามันคงจะเกินความสามารถของเขาไปแล้ว
หรือจะให้พูดก็คือ ตอนที่ไปดึงตัวหลิวปั๋วทงมาเป็นพวก เขาก็ต้องลงทุนทั้งเงินทั้งเวลาไปไม่ใช่น้อยเลย แต่ถ้าอยากรักษาพันธมิตรของเขาไว้ให้ได้ดังเดิมละก็ ดูท่ามันคงจะยากเหมือนเข็นครกขึ้นภูเขาเลย
ด้วยสถานการณ์ที่ไม่มั่นคงแบบนี้ ไม่มีทางที่เขาจะทำอะไรได้อีก
หลังจากที่ตระกูลเว่ยล่มสลายไป เมืองจินไห่ต่างก็สะเทือนไปตามๆ กัน
ตอนแรกที่ตัวเองไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลยเขาเองก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน ว่าทำไมเว่ยฉางจ้านถึงตายได้ประหลาดแบบนี้
ต่อให้เขาอยากสืบหาความจริงยังไงแต่เรื่องนี้มันก็ค่อนข้างคลุมเครือ สุดท้ายก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรอยู่ดี
เขาเคยสงสัยในตัวเนี่ยเฟิง จึงส่งคนไปสืบดู แต่เขาก็เป็นแค่เด็กกำพร้าที่บริสุทธิ์คนหนึ่งเท่านั้น แถมยังไม่มีใครให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังด้วย
เป็นไปได้ว่าเรื่องของหลิวปั๋วทงจะถูกเขากับเย่หรูเสว่จัดฉากขึ้นมาก็ได้ แล้วเว่ยฉางจ้านล่ะ? เว่ยฉางจ้านก็ถูกเขาจัดการเหมือนกันอย่างนั้นเหรอ?
ฟางหลงเทียนไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ว่าผู้ชายธรรมดาๆ อย่างเขาจะมีความสามารถขนาดนี้
ตอนแรกฟางหลงเทียนกะว่าจะรอให้คลื่นลูกนี้สงบลงก่อนค่อยไปรวมพลังกับน้องสาว เพื่อไปกดขี่ตระกูลหลัว……
ถึงตอนนั้น ในเมืองจินไห่แห่งนี้ก็จะเหลือผู้ทรงอิทธิพลแค่เจ้าเดียวเท่านั้น นั่นก็คือพวกเขา!
แต่เวลานั่นยังไม่ทันได้มาถึง น้องเขยของเขาก็ต้องมาเกิดเรื่องซะก่อน!
ฟางหลงเทียนดูคลิปที่ปลิวว่อนอยู่ในเน็ต ต่อให้อยากกู้สถานการณ์สักเท่าไหร่ก็คงสายเกินไปแล้ว
“แม่งเอ๊ย!”
ฟางหลงเทียนรีบโทรหาลูกน้องของตัวเองด้วยความร้อนรน “รีบจัดการหลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลไปซะ! ต่อให้มีคนมาสืบหายังไงก็ต้องระวังให้ถึงที่สุด อย่าให้พวกมันเจอพิรุธอะไรเด็ดขาด!”
เขาเองก็เข้าร่วมกับธุรกิจใต้ดินนี้เหมือนกัน เขาแค่อยากป้องกันไว้ก่อน เพราะธุรกิจนี้มันก็ไม่ได้ขาวสะอาดสักเท่าไหร่!
ฟางหลงเทียนกำหมัดแน่น การที่จะช่วยจูเย่าเหวินออกมาด้วยกำลังของเขาแค่คนเดียวนั้นมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย
ฟางหลงเทียนเลียไปที่ริมฝีปากอันแห้งกรัง จากนั้นก็โทรหาฟางซูเจิน
“แกรีบถือโอกาสนี้หนีไปก่อนดีกว่า เอาเงินไปให้มากที่สุด ตอนนี้ที่พึ่งในกรมของเราก็ไม่มีแล้ว ด้วยสภาพในตอนนี้ ฉันเองก็หมดหนทางที่จะช่วยเขาออกมาเหมือนกัน!
“พี่คะ! พี่จะยืนดูเย่าเหวินถูกจับไปเฉยๆ แบบนี้เนี่ยนะ?”
ฟางซูเจินเริ่มแตกตื่น “ถ้าไม่มีเขา แล้วชีวิตที่สุขสบายของฉันในวันข้างหน้าจะเป็นยังไงคะ?!”
“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วแกยังจะคิดเรื่องนี้อยู่อีก ถ้าแกไม่อยากติดร่างแหไปกับเขาก็รีบหนีไปซะ ถ้าจะให้แกไปทำเรื่องหย่าตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว แม่งเอ๊ย! มีเงินถึงจะมีอำนาจ! เข้าใจไหม!”
ถึงฟางซูเจินไจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับจูเย่าเหวินก็จริง ที่ผ่านมาทั้งคู่ก็ต่างคนต่างอยู่ แต่พอจูเย่าเหวินต้องมาจบสิ้นแบบนี้ฟางซูเจินเองก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเหมือนกัน