พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 73กิจการของสำนักมังกร
บทที่ 73กิจการของสำนักมังกร
หมิงอี๋หานวางสาย จากนั้นก็มองมาที่เนี่ยเฟิงอย่างช่วยไม่ได้
เนี่ยเฟิงเองก็ช่วยงานเธอมาทั้งวันแล้วจริงๆ
“น้องเจ็ดมาหาแก เธอรออยู่ข้างล่าง”
เนี่ยเฟิงกะพริบตาปริบๆ “พี่เจ็ดมาหาผมทำไมเหรอครับ?”
“เห็นบอกว่ากลัวแกจะเหนื่อยเกินไป เลยจะพาแกไปเที่ยว”
“งั้นผมไม่ไปครับ ผมจะอยู่ช่วยงานพี่สี่ที่นี่!”
เนี่ยเฟิงส่ายหน้าเป็นการใหญ่
“แกเหงื่อโชกไปทั้งตัวแล้ว ฉันรู้ดีว่าวันนี้แกคงเหนื่อยมากแล้วจริงๆ ยังไงวันนี้งานก็มีมาอย่างไม่จบสิ้นหรอก แกไปเถอะ”
เดิมทีหมิงอี๋หานก็เป็นห่วงเนี่ยเฟิงมากอยู่แล้ว เธอทนเห็นเนี่ยเฟิงต้องถูกเอาเปรียบหรือได้รับบาดเจ็บไม่ได้เลย
“แต่ถ้าผมไปแล้ว พี่สี่ต้องเหนื่อยมากแน่ๆ เลย”
หมิงอี๋หานโบกไม้โบกมือ “ฉันชินแล้ว อีกอย่าง ตอนบ่ายฉันยังต้องไปเจรจาเรื่องอื่นอีก เดี๋ยวมอบหมายให้หมอคนอื่นไปจัดการแทนก็ได้ ฉันไม่เหนื่อยหรอก”
“พี่แน่ใจนะครับ?”
“แน่ใจสิ”
เนี่ยเฟิงลังเล “ก็ได้ครับ! ถ้ามีเรื่องอะไรพี่ก็โทรหาผมได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมให้พี่เจ็ดมาส่ง! ถ้าอย่างนั้นผมไปก่อนนะครับ!”
เนี่ยเฟิงถอดชุดกาวน์ของตัวเองออกมาแขวนไว้ข้างๆ พอเดินไปถึงตรงประตูก็ถูกหมิงอี๋หานเรียกเอาไว้ก่อน
“มีอะไรเหรอครับ?” เนี่ยเฟิงหันมาถาม
หมิงอี๋หานส่ายหน้า “แกต้องเชื่อใจพี่สี่คนนี้นะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็มาปรึกษาพี่สี่ได้ เข้าใจมั้ย?”
“รับทราบครับ!”
เนี่ยเฟิงยิ้มร่า “ผมไปก่อนนะครับ”
หมิงอี๋หานใจเต้นเล็กน้อย พอเห็นเสี่ยวเฟิงที่เป็นห่วงตัวเองขนาดนี้ เสี่ยวเฟิงไม่เหมือนคนที่จะทำเรื่องอย่างนั้นได้ ถ้าเธอยังคิดที่จะไปสงสัยคนอย่างเสี่ยวเฟิงอีกละก็มันก็ดูจะใจดำไปหน่อยนะ
ตอนที่เนี่ยเฟิงเดินลงบันไดมา เขาก็แอบถอนหายใจไปทีหนึ่ง ตอนแรกเขาก็ตั้งใจจะเปิดเผยตัวตอนของตัวเองอยู่แล้ว มันไม่ใช่เรื่องที่ผิดซะหน่อย
เขาแค่ยังไม่รู้ว่าจะบอกยังไงก็เท่านั้น ถ้าบอกไปแล้วก็ไม่รู้ว่าพี่สี่จะตอบสนองยังไงเหมือนกัน
ไม่นึกเลยว่า เขายังไม่ทันได้พูดก็ต้องถูกคางเมิ่งโทรมาขัดจังหวะไว้ซะก่อน
พอเนี่ยเฟิงลงมา เขาก็เห็นมินิคันสีชมพูที่คางเมิ่งขับมา เธอยื่นหน้าออกมาจากในรถ “เสี่ยวเฟิง! ทางนี้!”
เนี่ยเฟิงขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับ แล้วถามไปว่า “พี่เจ็ดมานี่ได้ยังไงครับ? ช่วงนี้พี่ถ่ายหนังอยู่ไม่ใช่เหรอครับ?”
“ก็ใช่นะสิ ช่วงก่อนออกกองถี่มาก เลยไม่ว่างเข้ามาเลย แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกกองเท่าไหร่! แกก็รู้นี่ว่าฉันเป็นนางรอง!”
คางเมิ่งยิ้มจนตาหยี “เป็นไง? พี่เจ็ดมาช่วยแกให้หลุดพ้นจากวิกฤติแล้วใช่ไหม? ฉันรู้ดีว่าวันนี้ที่โรงพยาบาลของพี่สี่นั้นยุ่งมาก ฉันเลยตั้งใจบึ่งมาช่วยแกเลยนะจะบอกให้!”
เนี่ยเฟิงไปไม่ถูกเลย “มันไม่มีอะไรหรอกครับ ตอนแรกผมก็ตั้งใจไปช่วยพี่สี่ทำงานอยู่แล้ว”
คางเมิ่งสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “จะบอกว่าการที่ฉันถ่อมาช่วยแกถึงที่นี่มันเป็นความผิดของฉันอย่างนั้นใช่มั้ย? ถ้าอย่างนั้นแกก็ลงจากรถไป รีบกลับไปเลย ไม่พาแกไปเที่ยวแล้ว!”
“ครับๆๆ! ไม่นะ! ผมผิดไปแล้ว ขอบคุณพี่เจ็ดมากนะครับ พี่เจ็ดยอดเยี่ยมที่สุดเลย!”
คางเมิ่งทำเสียงฮึดฮัด “ทำไมเหงื่อแกถึงออกเยอะขนาดนั้นล่ะ? เดี๋ยวฉันต้องเหม็นแน่เลย ไปพาแกไปซื้อเสื้อผ้าก่อนดีกว่า!”
คางเมิ่งยิ้มออกมา จากนั้นก็เหยียบคันเร่งขับรถพาเนี่ยเฟิงมาถึงอาคารตี้กั๋ว
“วันนี้อยากได้อะไรก็ซื้อไปซื้อได้เลย!”
เนี่ยเฟิงขมวดคิ้ว “พี่? นี่พี่รวยแล้วเหรอครับ?”
คางเมิ่งพยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ “ก่อนหน้านี้ฉันเคยรับงานโฆษณามาชิ้นหนึ่งจำได้ไหม? ตอนนี้เงินก้อนนั้นหลังจากที่หักภาษีไปฉันก็ได้รับมันมาแล้ว! ในวงเงินแสนหนึ่งใช่ได้เต็มที่เลย!”
“พี่เจ็ดยอดเยี่ยมไปเลย!”
พอเนี่ยเฟิงพูดจบก็เดินเข้าอาคารตี้กั๋วไปพร้อมกับคางเมิ่ง
ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไป ก็ได้มีข้อความหนึ่งถูกส่งมาหาเขาทันที
เขาหยิบมือถือขึ้นมาดู เขาก็พบกับข้อความที่ว่า “ยินดีต้อนรับราชามังกรที่มาเยือนกิจการของสำนักมังกรในเมืองจินไห่___อาคารตี้กั๋ว”
ครั้งก่อนที่พวกเนี่ยเฟิงไปรักษาฟรีก็อยู่ที่ลานกว้าง ดังนั้นมือถือเลยไม่มีการแจ้งเตือน พอมาถึงที่ศูนย์การค้าก็มีการแจ้งเตือนทันที
อาคารตี้กั๋วเป็นกิจการของสำนักมังกรอย่างนั้นเหรอ? ดูแล้วก็ไม่เลวเหมือนกันนะ
“ที่นี่เป็นยังไงบ้าง?”
ยังไงคางเมิ่งก็เป็นคนดังในโซเชี่ยล และยังมุ่งไปทางการแสดงอีกด้วย ดังนั้น เรื่องรสนิยมของคางเมิ่งก็พอเชื่อใจได้อยู่
“ดูแล้วก็ไม่เลวนะครับ” เนี่ยเฟิงพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นเราก็เขาไปกันเถอะครับ”
ว่าแล้วเนี่ยเฟิงกับคางเมิ่งก็ได้เดินตรงเข้าไป คางเมิ่งทำตัวอย่างกับกำลังเลือกชุดในตู้เสื้อผ้าของตัวเองเลย
“เสี่ยวเฟิง อย่าหาว่าพี่พูดเลยนะ ดูแกสิหน้าตาออกจะหล่อเหลา แต่ดูแกแต่งตัวสิ วันๆ ใส่แต่อะไรก็ไม่รู้ เหมือนอาแป๊ะเลย ถ้าพี่หกไม่ซื้อสองชุดนั้นให้ละก็ แกก็คงจะยังใส่ชุดกากๆ ที่ซื้อจากข้างทางอยู่สินะ!”
คางเมิ่งเลือกชุดไปบ่นไป
“มันช่วยไม่ได้นี่ครับ ก็ผมมันไม่ค่อยถนัดเรื่องเลือกเสื้อผ้าสักเท่าไหร่ พอมีพี่เจ็ดอยู่ด้วยแบบนี้ผมก็หายห่วง”
“มันแน่อยู่แล้ว! เดี๋ยวฉันจะแต่งตัวให้แกดูดีอย่างไร้ที่ติเลย! พูดตามตรงนะ หลังจากเข้าวงการไปฉันก็ได้พบเจอกับดาราชายมากมาย แต่ฉันรู้สึกว่าไม่มีดาราคนไหนเลยที่ดูดีไปกว่าแก ถ้าลองแกได้เข้าไปนะแกจะต้องได้เป็นพระเอกแน่นอน!” พูดจบคางเมิ่งก็หยิบเสื้อยืดตัวหนึ่งขึ้นมาทาบบนตัวเนี่ยเฟิง “ฉันว่าความสูงกับหุ่นของแก จะไปเป็นนายแบบก็ไม่ใช่ปัญหา!”
“จริงเหรอครับ?”
“ก็ใช่นะสิ แกเป็นใคร? แกเป็นถึงน้องชายของคางเมิ่งคนนี้เลยนะ! รอให้พี่เจ็ดแปลงโฉมจนแกดูดีมีออร่าก่อน รับรองได้เลยว่าสาวๆ จะต้องหันมาชอบแกมากแน่ๆ!”
เนี่ยเฟิงรับเสื้อผ้าจากคางเมิ่งมา “แล้วพี่เจ็ดล่ะครับชอบผมไหม?”
ใบหูของคางเมิ่งร้อนฉ่า เธอเปลี่ยนจากเขินเป็นโกรธในทันที “ได้สิ! พ่อหนุ่ม! เยาะเย้ยพี่สาวเป็นแล้วนี่! ฉันจะบอกอะไรให้นะ แกไม่ใช่สเปกของพี่สาวคนนี้เลยสักนิด! สเปกของพี่คนนี้ต้องเป็นโอปป้าสุดหล่อต่างหาก แกไม่ได้ใกล้เคียงเลยแม้แต่นิดเดียว!”
เนี่ยเฟิงถึงกับคอตก “จะบอกว่าผมยังแก่ไม่พอสินะครับ?”
“ชิ! โอปป้าน่ะรู้จักมั้ย? พี่ชายสุดหล่อที่มีความภูมิฐาน เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างแกก็หลอกได้แค่สาวน้อยเท่านั้นแหละ”
คางเมิ่งโบกไม้โบกมือ “พอแล้วๆ รีบไปลองชุดเร็ว”
เนี่ยเฟิงรับเสื้อยืดมาแล้วเดินเข้าไปในห้องลองชุด
พอเขาออกจากห้องมาก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันทันที
“ปล่อยนะ! ฉันบอกแล้วไงว่าฉันเห็นเสื้อตัวนี้ได้ก่อน!”
คางเมิ่งจ้องเขม็งไปยังหญิงสาวที่แต่งตัวสะสวยที่ยืนอยู่ตรงหน้า หญิงสาวคนนี้ไม่ใช่คนอื่น ซึ่งเธอก็คือซ่งสี่จื้อนั่นเอง
คางเมิ่งไม่นึกเลยว่าเมืองจินไห่ที่กว้างใหญ่ขนาดนี้จะมาเจอเธอที่นี่ได้
ซ่งสี่จื้อขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ ข้างๆ เธอยังมีหนุ่มหล่อคนหนึ่งยืนอยู่ด้วย พอมองไปก็รู้สึกเลยว่าหล่อ แต่พอจ้องดีๆ แล้วก็จะรู้ว่าเขาผ่านการศัลยกรรมกับแต่งหน้ามาแล้ว
“คนที่ต้องปล่อยมันคือเธอต่างหาก เสื้อตัวนี้ฉันซื้อไปแล้ว!”
พูดจบซ่งสี่จื้อก็หยิบบัตรออกมา
“คุณลูกค้าคะ เสื้อตัวนี้เหลือแค่ชิ้นเดียวแล้วนะคะ ให้ฉันลองไปถามสาขาอื่นดูไหมคะว่ามีของอีกไหม? จะได้ส่งมาที่นี่”
“ฉันไม่เอาตัวอื่น ฉันจะเอาตัวนี้เท่านั้น! คุณไม่เห็นรึไงว่าฉันเป็นคนเห็นเสื้อตัวนี้ก่อน? ฉันก็จะเอาตัวนี้!”
พูดจบคางเมิ่งก็หยิบบัตรออกมาเหมือนกัน
“คางเมิ่ง ฉันว่าเธอแค่อยากหาเรื่องฉันเท่านั้นใช่มั้ย?”
ซ่งสี่จื้อยังไม่ได้ลืมความแค้นครั้งก่อน!
“คนที่คิดจะหาเรื่องมันเธอต่างหาก เธอลืมไปแล้วเหรอว่าคราวก่อนเธอทำอะไรเอาไว้? ที่สำคัญเธอยังไม่ได้เลียรองเท้าขอโทษเลยนะ!”
คางเมิ่งทำเสียงฮึดฮัด ตอนแรกก็คิดว่าปล่อยให้เธอมีที่ลงในครั้งก่อนจะทำให้เธอรู้สึกสำนึกได้บ้าง แต่ไม่นึกเลยว่ายิ่งอยู่เธอจะยิ่งได้ใจแบบนี้!
“หึ! อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ! ว่าคราวก่อนพวกแกก็แอบซ่อนลูกไม้เอาไว้! ทำไม? ตั้งใจมาซื้อเสื้อผ้าให้แมงดาที่เกาะแกอยู่รึไง?”
ซ่งสี่จื้อแค่รู้สึกอับอายอย่างถึงที่สุด ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ตอนนั้นเธอก็คุกเข่าลงไปเอง
“ผมว่าคนที่ยืนอยู่ข้างคุณดูเหมือนแมงดามากกว่าอีกนะ”
เนี่ยเฟิงเดินออกมายืนอยู่ข้างๆ คางเมิ่ง