พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 77บัตรกำนัล
บทที่ 77บัตรกำนัล
พอคางเมิ่งดีใจได้สักพัก เธอก็รู้ตัวว่าการแสดงท่าทีแบบนี้ให้คนแปลกหน้าเห็นมันจะดูไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่ ว่าแล้วเธอก็รีบแสร้งทำเป็นไอ จากนั้นก็พูดด้วยความสงบเสงี่ยมว่า
“ขอบคุณคุณมากนะคะท่านประธานกรรมการ!”
จินไห่เวยเผยรอยยิ้มที่ใจดีออกมา “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยครับ เดิมทีมันก็เป็นเพราะทางเราดูแลได้ไม่ดีพออยู่แล้ว จึงทำให้พวกคุณต้องเดือดร้อนไปด้วย ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ และขอให้พวกคุณช่วยรับบัตรกำนัลใบนี้ไว้ด้วยนะครับ”
ระหว่างที่พูด จินไห่เวยก็ยื่นบัตรใบหนึ่งที่มีโลโก้สีทองของอาคารตี้กั๋วพิมพ์ไว้ ซึ่งมันก็คือบัตรวีไอพีศูนย์แปดตัว
“ต่อไปไม่ว่าพวกคุณอยากซื้ออะไรในก็ตาม ราคาทั้งหมดจะถูกหักจากในบัตรนี้ ถือซะว่าเป็นการชดเชยที่ทำให้พวกคุณต้องตกใจ!”
คางเมิ่งรีบโบกไม้โบกมือ “ไม่ได้หรอกค่ะ! จะให้เรารับบัตรกำนัลจากคุณได้ยังไงล่ะคะ?”
คางเมิ่งเองก็ยังรู้สึกผิดอยู่ เมื่อกี้พวกเธอเพิ่งก่อความวุ่นวายซะขนาดนั้นแท้ๆ จินไห่เวยไม่เพียงไม่ให้พวกเธอชดใช้อะไรเลย แต่กลับมอบบัตรกำนัลให้พวกเธออีก นี่มันไม่คุ้มไปหน่อยเหรอ?
“ถ้าพวกคุณไม่ยอมรับบัตรกำนัลใบนี้ไว้ละก็ผมคงต้องรู้สึกผิดมากแน่ๆ ถ้าเรื่องนี้ถูกแพร่งพรายออกไปชื่อเสียงของอาคารตี้กั๋วก็อาจดูแย่ไปด้วย”
พอเห็นสีหน้าที่รู้สึกผิดของจินไห่เวยแล้ว คางเมิ่งเองก็รู้สึกเห็นใจขึ้นมาทันที เธอคิดแล้วคิดอีก ถึงรับบัตรใบนี้ไปแต่ถ้าไม่มาซื้อของที่นี่ก็ไม่เป็นไรแล้วนี่จริงไหม? ว่าแล้วคางเมิ่งก็พยักหน้า “ก็ได้ค่ะ ฉันจะรับมันไว้ก็ได้!”
“ขอบคุณทั้งสองท่านที่เข้าใจครับ!”
คางเมิ่งยิ้มเบาๆ จากนั้นก็เหมือนจะนึกอะไรได้ เธอจึงถามขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า “เสี่ยวเฟิง เมื่อกี้โทรศัพท์ที่แกโทรไปนี่มันยังไงกันแน่? ทำไมท่านประธานกรรมการจินถึงมาที่นี่ได้? หรือว่าพวกแกรู้จักกันอย่างนั้นเหรอ?”
เนี่ยเฟิงส่ายหน้า “ผมจะไปมีปัญหาทำแบบนั้นได้ยังไงล่ะครับ? ผมก็แค่เล่นละครเท่านั้น ไม่นึกเลยว่าจะโชคดีขนาดนี้!”
“ความจริงวันนี้ผมมาลงมาตรวจดูหน้างานที่อาคารจินไห่นี่พอดี พอได้ยินว่าตรงนี้มีปัญหาผมเลยเดินเข้ามาดู ซึ่งคนอย่างผมก็มักจะตัดสินทุกอย่างด้วยเหตุผลต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นญาติพี่น้องก็ตาม”
คางเมิ่งยิ้มหวานออกมา “โชคดีจริงๆ ที่ท่านประธานกรรมการเป็นคนแบบนั้น ไม่อย่างนั้นเมื่อกี้เราสองคนคงเถียงสู้ไม่ไหวแน่ๆ ค่ะ!”
พี่เจ็ดครับ ผมว่าพี่ไปพักตรงนู้นก็ดีกว่า เดี๋ยวผมจะช่วยเก็บกวาดเสื้อผ้าตรงนี่ก่อน”
“ให้ฉันอยู่ช่วยอีกแรงดีมั้ย?”
คางเมิ่งนึกขึ้นได้ว่าพวกเธอนี่แหละที่เป็นคนทำให้เสื้อผ้าพวกนั้นยุ่งเหยิงเอง เธอจึงรู้สึกผิดขึ้นมา
“ไม่ได้หรอกครับ วันนี้พี่อุตส่าห์แต่งตัวสะสวยเพื่อพาผมมาซื้อเสื้อผ้าแท้ๆ ถ้าพี่มาช่วยเก็บกวาดละก็ เดี๋ยวพี่ก็เหงื่อออกจนเหม็นไปทั้งตัวหรอกครับ อีกอย่างผมมันแรงเยอะไม่เป็นไรหรอกครับ!”
คางเมิ่งลังเล แต่เนี่ยเฟิงก็ยังยืนยันว่าไม่ให้เธอช่วย สุดท้ายคางเมิ่งก็จำต้องชี้ไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันไปรอที่ร้านกาแฟตรงนั้นแล้วกันนะ”
พอคางเมิ่งจากไป จินไห่เวยก็พาเนี่ยเฟิงไปที่ห้องพักที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นจินไห่เวยก็คุกเข่าลงข้างหนึ่ง “คารวะราชามังกร! ข้าน้อยสมควรได้รับโทษที่มาช้า!”
เมื่อกี้บนหน้าของเนี่ยเฟิงยังมีรอยยิ้มอยู่เลย แต่ตอนนี้รอยยิ้มเหล่านั้นได้หายไปจนหมดแล้ว
“คุณสมควรได้รับโทษจริงๆ”
เนี่ยเฟิงมองจินไห่เวยด้วยความไม่พอใจ “ถึงกับให้ฉันต้องลงมือจัดการหน้าร้านด้วยตนเอง พนักงานที่นี่ช่างอวดเบ่งกันซะจริงนะ”
จินไห่เวยกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ความจริงแล้วเขาไม่ใช่ประธานกรรมการของอาคารจินไห่แห่งนี้ซะหน่อย เขาเป็นแค่ตัวแทนเท่านั้น เพราะประธานกรรมการตัวจริงก็คือเนี่ยเฟิงต่างหาก!
“ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง! ขอราชามังกรโปรดลงโทษด้วย!”
จินไห่เวยก้มหน้าก้มตา ดูแล้วต้อยต่ำเหลือเกิน
“ผมจำได้ว่าคุณทหารระดับอี๋”
จินไห่เวยรีบพยักหน้า พวกเขาถูกแบ่งเป็นเจี๋ยอี๋ปิ่นติงสี่ระดับ การจะเลื่อนขั้นแต่ละครั้งนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ถ้าจะให้พูดก็คือ แผนงานของแต่ระดับขั้นในสำนักมังกรนั้นค่อนข้างเข้มงวด ในที่สุดเขาก็ขึ้นมาอยู่ในระดับอี๋ได้สักทีแต่นี่เขาเพิ่งได้นั่งในตำแหน่งนี้ไม่นานเองนะ อย่าบอกนะว่าความพยายามทั้งหมดที่เขาทำมากำลังจะสูญเปล่า?
“เห็นแก่ที่เมื่อกี้คุณแก้ไขปัญหาได้โดยที่ไม่ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของผมให้คนอื่นรู้ ดังนั้นผมจะยังไม่ริบตำแหน่งระดับอี๋ของคุณแล้วกัน แต่ผมจะงดเงินปันผลปีนี้ของคุณแทนนะ”
พอจินไห่เวยได้ยินอย่างนั้นค่อยเบาใจลงไปบ้าง แต่การขาดเงินปันผลก้อนนี้ไปก็เท่ากับเขาขาดรายได้ไปไม่น้อยเลยนะ
“พอแล้ว ลุกขึ้นได้”
เนี่ยเฟิงโบกไม้โบกมือ “อีกเดี๋ยวจะมีคลิปๆ หนึ่งถูกปล่อยออกไป พอถึงตอนนั้นพวกคุณก็ปล่อยใบยกเลิกสัญญาออกมา ผมจะเหยียบสองคนนั้นให้จมดินไปเลย”
กล้ามารังแกพี่เจ็ดของเขา ช่างใจกล้าเหลือเกินนะ
“ขอราชามังกรโปรดวางใจ ข้าน้อยจะจัดการตามที่สั่งแน่นอนครับ!”
เนี่ยเฟิงพยักหน้าเบาๆ “อืม”
เนี่ยเฟิงพูดจบเขาก็เดินจากไปทันที ส่วนเรื่องเก็บกวาดมันก็เป็นแค่ข้ออ้างที่เขาพูดกับคางเมิ่งเท่านั้น
ตอนที่เนี่ยเฟิงไปหาคางเมิ่งนั้น คางเมิ่งกำลังกินกาแฟอยู่ทางโน้น พอเห็นเนี่ยเฟิงเดินมา คางเมิ่งก็รีบโบกมือเรียกเขาทันที
“ฉันสั่งเผื่อแกด้วยแก้วหนึ่ง กาแฟของที่นี่อร่อยมากเลย! แถมเมื่อกี้ฉันยังใช้บัตรกำนัลใบนั้นด้วย มันไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มจริงๆ ด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่ามันมีเงินอยู่ในนั้นเท่าไหร่ แต่ประธานกรรมการจินนี่ช่างใจกว้างจริงๆ เลย!”
คางเมิ่งได้ยิ้มออกมา ราวกับว่าเพิ่งเก็บของฟรีราคาถูกชิ้นใหญ่ได้อย่างนั้นแหละ ดูเธอจะดีใจมากเลย
“ผมเองก็รู้สึกว่าประธานกรรมการคนนี้เป็นคนดีใช้ได้เลย ถ้าไม่ได้เขาช่วยเราไว้ ผมก็ไม่รู้แล้วว่าเราควรทำยังไงต่อดีเมื่อกี้ผมใจร้อนไปจริงๆ”
เนี่ยเฟิงยกกาแฟขึ้นมาดื่ม
“ก็ใช่นะสิ แต่ว่านะ เมื่อกี้เสี่ยวเฟิงก็ดูแมนมากเลย! ใช้ได้! ต่อไปก็คงสามารถปกป้องภรรยาของตัวเองได้สบายอยู่แล้ว!”
“ในเมื่อผมดูแมนขนาดนั้น งั้นพี่เจ็ดจะหันมาสนใจผมได้รึยังครับ?”
เนี่ยเฟิงถามแบบกวนๆ
คางเมิ่งเบะปาก “แกอย่ามาล้อเรียนฉันนะ ที่วันนี้ตั้งใจพาแกมาเลือกซื้อเสื้อผ้าเนี่ย เป็นเพราะคืนนี้ฉันจะพาแกไปร่วมงานเต้นรำ พอถึงตอนนั้นแกก็จะได้รู้จักกับสาวสวยมากมาย แกลองดูแล้วกันว่าถูกใจคนไหนก็เลือกเอา! ฉันว่านะ ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาของน้องคงจีบสาวได้ไม่ยากหรอก!”
“งานเต้นรำเหรอครับ?”
คางเมิ่งพยักหน้า “ใช่แล้ว หลังงานเต้นรำจบลง ก็จะต่อด้วยงานประมูล ได้ยินว่าวิลล่าซิงเยว่จะเข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้ด้วยนะ!
เหมือนคางเมิ่งจะนึกอะไรได้ แล้วเธอก็พูดขึ้นด้วยความกังวลว่า “แกก็เองก็หยุดอาลัยวิลล่าซิงเยว่ได้แล้ว……ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว อีกอย่างตอนนี้ราคาของวิลล่าซิงเยว่ก็สูงมากด้วย”
“ไม่เป็นไรครับ ในเมื่อมันเป็นงานประมูล งั้นผมไปดูก็ได้ครับ!”
ความจริงเนี่ยเฟิงได้รับข้อความมาก่อนแล้ว เขารู้ว่าคืนนี้จะมีการจัดงานประมูลขึ้นงานหนึ่ง เนี่ยเหล่าสี่ได้เตรียมชุดที่จะไปร่วมงานกับบัตรเชิญให้เขาไว้แล้ว
แต่ถ้าคางเมิ่งบอกว่าจะพาเขาไปแบบนี้ เห็นทีเสื้อผ้ากับบัตรเชิญทางนั้นก็คงไม่จำเป็นแล้ว
“เดี๋ยวกินกาแฟเสร็จฉันค่อยไปหาชุดของคืนนี้ให้แก แล้วกลับไปนอน พอใกล้ถึงเวลาเริ่มงานฉันจะเตือนแกอีกที พอถึงตอนนั้นแกก็ห้ามทำให้ฉันขายหน้านะ!”
คางเมิ่งพูดไปก็ลูบกำปั้นไป
“ครับๆๆ ผมจะระวังเป็นพิเศษเลยครับ ผมจะเดินตามพี่ต้อยๆ โดยไม่สร้างปัญหาอะไรทั้งนั้นครับ พี่เจ็ดไม่ต้องเป็นห่วง!”
เนี่ยเฟิงให้คำมั่น
หลังจากทั้งสองเลือกชุดเสร็จก็กลับไปที่วิลล่า
ณ เวลานี้ ในโลกออนไลน์กำลังร้อนเป็นไฟแล้ว ซ่งสี่จื้อกับอานจ้ายเสี้ยนต่างก็ตะลึงไปตามๆ กัน!
“นี่ใครเป็นคนถ่ายกัน!”
ที่แท้ตอนนี้คลิปที่ทั้งสองเข้าออกโรงแรมด้วยกันกำลังปลิวว่อนไปตามเน็ตแล้ว!