พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 81 ลูกศิษย์ของนักแสดงนำหญิงแห่งปี
บทที่ 81ลูกศิษย์ของนำแสดงนำหญิงแห่งปี
“ผู้หญิงคนนี้ใครกันน่ะ? นี่คือทำเรื่องไม่ดีแต่ไม่อยากให้คนถากถาง?”
“ใคร ๆ ก็รู้ว่าหลัวปินคือนายน้อยของบริษัทการสื่อสารจินไห่ คาดว่าคงคิดที่จะยกระดับตัวเองล่ะสิ”
คำพูดแย่ ๆ พวกนี้ล้วนแต่เข้าไปในหูของคางเมิ่ง คางเมิ่งนั้นรู้สึกเพียงราวกับว่านั่งอยู่บนกองไฟ!
เธอคือผู้ที่ถูกกระทำแท้ ๆ แต่ทำไมคนพวกนั้นล้วนแต่ตำหนิเธอ?
“ฉันกลับไม่รู้สึกว่าศิษย์รักของฉันจำเป็นจะต้องอาศัยวิธีการเช่นนี้ในการยกระดับตัวเอง”
ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียง ๆ หนึ่งดังลอยมา
นี่เป็นน้ำเสียงเต็มไปด้วยระดับที่แยกแยะออก แค่ทุกคนได้ยินก็สามารถฟังออกได้
เห็นเพียงคนที่เดินมานั้นเหมือนกับดอกไวโอเล็ตที่แย้มบาน ชุดราตรีสีม่วงเข้มที่ส่งกลิ่นหอมหวน ประดับด้วยไข่มุกอย่างมีระดับ แม้ว่าในวันนี้จะอายุสี่สิบกว่าปีไปแล้ว แต่ก็ยังคงรักษาความงามและความมีเสน่ห์เอาไว้
แม้ว่าจะเป็นวันนี้ ก็ยากที่จะเชื้อเชิญนักแสดงระดับนานาชาติที่เป็นนักแสดงนำหญิงแห่งปี!
นี่ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือเสิ่นโจว!
เสิ่นโจวกวาดสายตาไปมองทุกคนอย่างเย็นชา ออร่าของนักแสดงนำหญิงแห่งปีนั้นยิ่งใหญ่เป็นพิเศษ
หลัวปินมองเห็นเสิ่นโจว ในใจก็“อึกอึก”เล็กน้อย!
คนที่เป็นหน้าเป็นตาที่สุดของบริษัทการสื่อสารจินไห่ก็คือนักแสดงนำหญิงระดับนานาชาติอย่างเสิ่นโจว!
เสิ่นโจวนั้นมุ่งไปในระดับนานาชาติตั้งนานแล้ว ภาพยนตร์โทรทัศน์จำนวนเท่าไหร่ที่ต้องการจะเชื้อเชิญเธอ แต่เธอกลับปฏิเสธทั้งหมด
แต่ละปีนั้นเธอทำกำไรให้บริษัทการสื่อสารจินไห่มากเท่าไหร่ ไม่สามารถประมาณการได้จริง ๆ !
แต่หากว่าเสิ่นโจวต้องการที่จะไป ก็สามารถจากบริษัทการสื่อสารจินไห่ไปได้ทุกที่ทุกเวลา
แม้แต่พ่อของหลัวปินก็ยังออกคำสั่งอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะผิดใจกับใครก็ดี แต่จะผิดใจกับเสิ่นโจวไม่ได้
“ถ้าหากว่าบ่อเงินบ่อทองอย่างเสิ่นโจว จากไปแล้ว ฉันจะลงมือกับแกเป็นคนแรก!”
ด้วยเหตุนี้หลัวปินที่เห็นเสิ่นโจวก็ล้วนแต่หันหัวเดินจากไป
ก่อนหน้านี้ที่หลัวปินเข้าหานางแบบสาว พอใจผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งจะเข้าวงการ เขาบีบบังคับ ใครจะรู้ว่าเด็กผู้หญิงนั้นกลับไม่ยอมทำตาม
หลัวปิน เกรี้ยวกราดเป็นอย่างมาก ตบหน้าเธอไปหนึ่งที
ขณะที่เขากำลังข่มเหงรังแก ใครจะไปรู้ว่าจะมีกลุ่มคนจำนวนมโหฬารมา กระทืบเขาจนเกือบตาย!
พ่อของเขารู้เรื่องนี้ ก็กดดันเขาที่แผลยังไม่ทันหายดีให้ไปคุกเข่ายกน้ำชาขอขมา
ที่แท้นางแบบสาวสวยคนนั้นก็คือหลานสาวของเสิ่นโจว
ต่อจากนั้นเป็นต้นมา หลัวปินก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามอีกเลย
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นลูกคนเดียวของบ้าน แต่ทว่าธุรกิจของตระกูลนั้นยังต้องพึ่งพาเสิ่นโจว!
คางเมิ่งมีสีหน้างงงวยเธอนั้นไม่เคยพบเจอกับเสิ่นโจวมาก่อน
เธอเพียงแค่เคยเห็นในโทรทัศน์ บนจอโทรทัศน์ เธอไม่รู้จักกับเสิ่นโจวจริง ๆ เสิ่นโจวพูดได้อย่างไรว่าเธอเป็นลูกศิษย์?
“คุณชายหลัว นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
เสิ่นโจวเดินไปที่ข้างกายของคางเมิ่ง ถามอย่างไม่พอใจ
หลัวปินยิ้มแห้ง ๆ เขาจะอยู่ได้อย่างไรว่าเน็ตไอดอลเล็ก ๆ นั้นจะมีเบื้องหลังที่ใหญ่ขนาดนี้!
“ล้วนเข้าใจผิด เข้าใจผิด!”
หลัวปินกัดริมฝีปาก ไม่มีความสุขสุด ๆ
“เอาชื่อเสียงของลูกศิษย์ของฉันมาล้อเล่น?”เสิ่นโจวหัวเราะเย็นหนึ่งที “คุณบอกว่านี่คือเข้าใจผิดงั้นหรอ?”
แม่มึงเถอะ! เขาอาศัยอะไรกลัวกะอีแค่นักแสดง? !
หลัวปินหรี่ตา แม้ว่าภายในใจของเขาจะคิดเช่นนั้นแต่ทว่าเขาก็ไม่กล้าที่จะพูดอย่างนั้นออกไป!
“ผมใช้คำพูดไม่ถูกไปชั่วขณะ! คุณก็รู้ว่าผมคนนี้เป็นอย่างไร”
หลัวปินทำได้เพียงอดทนอดกลั้น รอให้หญิงแก่คนนี้ไม่ดังก่อน! เขาจะจัดการเธออย่างดี!
หลัวปินมองเนี่ยเฟิงอย่างโหดเหี้ยม เขายังรู้สึกว่าเจ็บจิ๊ด ๆ ในท้อง
แต่ตอนนี้เสิ่นโจวออกหน้าแล้ว ถ้าเขายังพูดอะไรอีก คงจะไม่มีประโยชน์อะไรแน่นอน
คางเมิ่งมองเสิ่นโจวอย่างซาบซึ้งเป็นพิเศษ คนที่ดูเรื่องสนุกต่างก็แยกย้ายกันไปแล้ว เสิ่นโจวถึงได้หมุนตัวกลับมา “ไม่ได้ถูกทำให้ตกใจใช่ไหม?”
คางเมิ่งส่ายหัว “ขอบคุณค่ะคุณเสิ่น ฉันไม่รู้ว่าควรตอบแทนคุณอย่างไรถึงจะดี! ถ้าหากว่าไม่ใช่คุณออกหน้ากู้หน้าให้ฉัน……ฉัน ชื่อเสียงของฉันคงจะถูกทำลายไปแล้ว!”
เสิ่นโจวโบกมือ “นี่ไม่ได้มีอะไร ก็แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น อีกอย่างหนึ่งฉันเห็นดวงตาคู่นั้นของเธอ คล้ายกันฉันตอนที่เข้าวงการใหม่ ๆ เต็มไปด้วยความหวัง”
ตอนที่คางเมิ่งยังเด็กก็โตมากับการดูเสิ่นโจวในโทรทัศน์ สามารถเห็นไอดอลของตัวเองในระยะใกล้ขนาดนี้ อย่าถามว่าคางเมิ่งดีใจมากเลย!
“นี่คือเบอร์โทรศัพท์ของฉัน”
พูดจบเสิ่นโจวก็เอาเบอร์โทรของตัวเองยื่นออกไป คางเมิ่งมองตาโต “ท่านนี่คือ……”
“ฉันไม่ได้บอกแล้วหรือ? คุณเป็นลูกศิษย์ของฉัน เป็นศิษย์นั้นไม่มีเบอร์ของอาจารย์เกรงว่าคงไม่สามารถอธิบายได้”
คางเมิ่งตกใจอยู่กับที่ เธอรับเอานามบัตรใบนั้นไว้อย่างงง ๆ
“น้ำชาคำนับอาจารย์มีเวลาค่อยชดเชยแล้วกัน วันนี้เธอใส่ชุดได้น่ารักมาก อย่าโดนคนเช่นนั้นทำลายอารมณ์”
เสิ่นโจวพูดจบก็หมุนตัวเดินจากไป
“เสี่ยวเฟิง เสี่ยวเฟิง นายหยิกฉันที!”
เนี่ยเฟิงยื่นมือไปดึงหน้าของคางเมิ่ง
“ไอหยา! เจ็บนิ นี่ไม่ใช่ความฝัน! พระเจ้า เสี่ยวเฟิงนายเห็นไหม? เมื่อกี้นี้นักแสดงระดับนานาชาติบอกว่าจะรับฉันเป็นศิษย์ ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะดี!”
“น่าจะเป็นเพราะเห็นว่าพี่เจ็ดสวยแถมยังร่าเริง ดังนั้นนักแสดงนำหญิงแห่งปีถึงคิดที่จะรับพี่เป็นศิษย์?”
เนี่ยเฟิงยิ้ม
“ฉันดีใจมาก ฉันไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดี! คุณเสิ่นสามารถกู้หน้าให้ฉัน ฉันก็รู้สึกแปลกใจมากแล้ว คิดไม่ถึงว่าคุณเสิ่นกลับคิดที่จะรับฉันเป็นศิษย์! เสี่ยวเฟิง! ฉันรู้สึกว่าความไม่เป็นธรรมทั้งหมดที่ได้รับในวันนี้นั้นไม่นับเป็นอะไรได้!”
คางเมิ่งเมมเบอร์โทรศัพท์ไว้ในโทรศัพท์มือถือของตัวเองอย่างมีความสุข และในตอนนี้เอง เนี่ยเฟิงที่มองเสิ่นโจวจากไปก็ยกมือขึ้น
ในใจของเสิ่นโจวตื่นเต้น ถึงอย่างไรคนที่เธอช่วยกู้หน้าให้ก็ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นคนของราชามังกร
“แต่ทว่า แบบนี้จะไม่เป็นไรจริง ๆ ใช่ไหม? คุณเสิ่นเป็นคนของบริษัทการสื่อสารจินไห่ เมื่อกี้นี่คนที่เธอล่วงเกินไปนั้นคือนายน้อยของบริษัทการสื่อสารจินไห่หลัวปิน ฉันกังวลใจเล็กน้อยว่าหลังจากที่กลับไปแล้ว หลัวปินจะจงใจกลั่นแกล้งคุณเสิ่น”
เดิมทีคางเมิ่งนั้นก็เป็นหญิงสาวที่มีจิตใจดีงาม หลังจากที่ดีใจ เธอก็อดไม่ได้ที่จะกังวลใจขึ้นมา
“ฉันคิดว่าคงจะไม่ คุณเสิ่นมีชื่อเสียงมาก บริษัทการสื่อสารจินไห่นั้นทำอะไรเธอไม่ได้ พี่ก็วางใจเถอะ มีคุณเสิ่นช่วยเหลือ ต่อไปพี่จะต้องโชคดีแน่นอน”
คางเมิ่งยิ้มอย่างปัญญาอ่อน “หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น!”
ผ่านบทแทรกนี้ไปได้ไม่นานเวลาก็เดินมาถึงเวลาสองทุ่มครึ่ง
ทุกคนที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงตอนเย็นนั้นล้วนแต่เข้าประจำที่เรียบร้อยแล้ว เนี่ยเฟิงนั้นลงที่ข้าง ๆ คางเมิ่ง “ของที่ใช้ประมูลในคืนนี้มีมาก แต่ว่าของประมูลพวกนี้จะจะต้องมีราคาสูงอย่างแน่นอน”
“รู้ว่าของประมูลนั้นราคาแพง งั้นพวกแกยังจะมาทำอะไร?”
น้ำเสียงเยาะเย้ยเสียดสีดังเข้ามา คางเมิ่งกับเนี่ยเฟิงเงยหน้ามองไปยังที่มาของเสียง คิดไม่ถึงว่ากลับเห็นฟางซื่อเหา
ฟางซื่อเหามองต่ำดูเนี่ยเฟิง “ไอ้หนู ฉันสืบมาได้แล้วว่าแกเป็นใคร!”
เนี่ยเฟิงยักหัวคิ้ว “อ่อ? แกหาได้แล้วว่าฉันเป็นใคร?”
“ตอนแรกฉันก็คิดว่าใครถึงได้หยิ่งยโสเช่นนี้ แต่ว่าจากการตรวจสอบ ฉันก็รู้ว่าแกก็คือกากเดนของตระกูลเนี่ย! ใช่ไหม!”
“คนคนนี้สมองมีปัญหาใช่ไหม ตอนแรกที่พวกเราไปทำลายอาคารฟางเจิ้งให้ราบเรียบไป ก็สามารถบอกได้ทั้งหมดแล้ว เพิ่งจะมีปฏิกิริยากลับมาตอนนี้นี่มันก็จะช้าไปไหม?”
คางเมิ่งอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“อย่าคิดว่าคนของฝ่ายทหารช่วยแก แกก็จะเจ๋ง แกคิดว่านั่นคืออำนาจของแกจริง ๆ หรือ? ฉันจะบอกแกให้นะเรื่องเกี่ยวกับอาคารฟางเจิ้งนั้น พวกเราไม่จบแน่นอน!”
ฟางซื่อเหามองบน พูดอย่างไม่มีความสุขเป็นอย่างมาก
“เหอะ! ถ้าแกยังกล้ามาฟื้นฝอยหาตะเข็บ งั้นฉันก็จะให้พี่สองของฉันไปทำลายบริษัทของพวกแกให้ราบ!”
ในตอนนี้เองฟางซื่อเหาก็หัวเราะฮ่าฮ่าออกมาเสียงดัง “พี่สองของแกครั้งที่แล้วใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด ตอนนี้เจอปัญหาแล้ว!