พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 83 ฐานะอะไร?
บทที่ 83 ฐานะอะไร?
“กลัวว่าร้อยล้านแกยังเอาออกมาไม่ได้”
เนี่ยเฟิงมองฟางซื่อเหาอย่างเจตนาร้าย
ฟางซื่อเหาลนลาน “เนี่ยเฟิง! ตอนนี้แกยังปากแข็งอยู่อีก แกก็แค่คนที่รอดตายเท่านั้น! มีอะไรให้วางท่าใหญ่โต? คนที่แม้แต่บ้านของตัวเองก็ยังรักษาเอาไว้ไม่ได้ ไม่มีสิทธิที่จะพูด!”
“นั่นมันไม่ใช่หรอ?”
ในตอนนี้หลัวปินก็เดินเข้ามา แม้ว่าเขาจะไม่สามารถล่วงเกินคางเมิ่งได้ แต่ทว่าคนที่จัดการคนของตัวเองเมื่อกี้นั้น เขารู้สึกว่าเขาสามารถเหน็บแนมได้สักสองประโยค!
แม้ว่าตระกูลฟางกับตระกูลหลัวจะไม่ลงรอยกันมาตลอด แต่ตอนนี้พวกเขาเต็มใจร่วมมือกันต่อต้านศึกนอกเป็นอย่างยิ่ง
“คุณชายหลัว ก็คิดอย่างนี้เหมือนกันไหม? ไม่งั้นแกขอร้องฉัน ถ้าแกยอมขอร้องฉัน ฉันอาจจะช่วยพาแกไปหาประธานกรรมการของอาคารตี้กั๋ว ให้เขาอนุญาตให้แกไปดูอดีตบ้านแกบางครั้งบางคราว!”
สองคนคุณพูดฉันพูดต่อ หนึ่งร้องหนึ่งรับกดทับเนี่ยเฟิงอย่างไร้น้ำใจ
ขอเพียงแค่เนี่ยเฟิงขายขี้หน้า พวกเขาทั้งสองคนก็จะรู้สึกถึงความดีใจ
“พวกคุณช่างน่ารังเกียจจริง ๆ !”
คาดไม่ถึงว่าจะสาดเกลือใส่แผลของคนอื่น แต่หวังว่าพวกเขาทั้งสองคนจะสามารถมีศักยภาพร่วมกัน นี่มันเป็นไปไม่ได้โดยแท้!
“ไม่มีปัญญาก็ไม่ต้องมาขายหน้าถึงที่นี่”
ฟางซื่อเหาพูดไปพลาง ยื่นนิ้วมือไปพลาง จิ้มไปที่บ่าไหล่ของเนี่ยเฟิง
“เห็นแกไม่สบาย ในใจฉันก็มีความสุข!”
เนี่ยเฟิงมองนิ้วมือของฟางซื่อเหา “นิ้วมือของแกนี่คิดจะไปเอาไว้แล้ว?”
ฟางซื่อเหานึกขึ้นได้ถึงพละกำลังของเนี่ยเฟิง ใจก็ฝ่อลงทันที เขากระแอมไอหนึ่งที เก็บมือกลับมา พูดต่อไปว่า “แกก็สามารถหยิ่งยโสได้แค่ในตอนนี้”
“พวกคุณกำลังทำอะไร?”
ในตอนนั้นเอง จินไห่เวยก็ค่อย ๆ เดินเข้ามา
จินไห่เวยเป็นเจ้าของอาคารตี้กั๋ว สี่ตระกูลตัวพ่อก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรกับเขา เพียงแต่เขาคนนี้ไม่แย่งชิงช่วงชิงใด ๆ ในเมืองจินไห่
เป็นเพราะว่าคนอื่นต่างพูดว่าจินไห่เวยนอกจากกิจการในเมืองจินไห่แล้ว ก็ยังเพียบพร้อมไปด้วยกำลังของที่อื่น
ด้วยเหตุนี้สี่ตระกูลตัวพ่อเมื่อเห็นจินไห่เวยก็ยังยอมให้
“ที่แท้ก็คือนี่เองประธานกรรมการจิน ไม่มีอะไร แค่เพียงแต่รู้สึกว่าน่าขัน ไอ้เด็กนี่ต้องการเงินไม่มีเงินต้องการอำนาจไม่มีอำนาจ ไม่มีอะไรสักอย่าง ยังกล้าที่จะแย้งยื้อวิลล่าซิงเยว่กับท่าน”
ฟางซื่อเหามองเนี่ยเฟิง พูดอย่างเบิกบานใจเช่นนี้
“ก็คือเมื่อกี้นี้ที่ท่านประกาศหนึ่งพันล้านออกมา คาดว่าเขาคงตกใจกลัวจนขี้หดตดหาย”
หลัวปินก็คอยเสริมอยู่ด้านข้าง
ในตอนที่พวกเขาทั้งสองคนมองเนี่ยเฟิงที่ไม่รู้กำลังตัวเองอย่างมีความสุข ทันใดนั้นจินไห่เวยก็บอกว่า:
“ยังจะงงอะไรอยู่อีก? เอาสัญญากับบัตรมา”
ฟางซื่อเหากับหลัวปินทั้งสองคนงงงวยไปในทันที นี่มันเรื่องอะไรกัน?
คางเมิ่งก็งง ประธานกรรมการจินนั้นเธอเคยพบมาก่อนที่อาคารตี้กั๋ว ประธานกรรมการจินยังให้บัตรส่วนลดพวกเขาหนึ่งใบ
“คุณเนี่ย ที่คือสัญญาและสิทธิในการใช้วิลล่าซิงเยว่ ส่วนเรื่องโอนกรรมสิทธิ์นั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป วิลล่าซิงเยว่ก็จะเป็นของคุณคนเดียว”
จินไห่เวย ยื่นสัญญากับบัตรให้ไปอย่างเคารพนอบน้อม
“ประธานกรรมการจิน คุณไม่ใช่ว่าหลง ๆ ลืม ๆ แล้ว คาดไม่ถึงว่าจะเรียกเขาว่าคุณเนี่ย? ! เขาก็แค่คนที่เหลือรอดเท่านั้น!”
ฟางซื่อเหาไม่อยากจะเชื่อ จินไห่เวยคนนี้โดนคนทำคุณไสย์ใส่หรือไง?
ไม่เช่นนั้นเขาจะอ่อนน้อมต่อคนจนได้อย่างไร แถมยังจ่ายเงินพันล้านเพื่อซื้อที่ดินนี้ให้เนี่ยเฟิง? !
“หุบปาก! ใครพูดกับคุณกัน?”
จินไห่เวยมองฟางซื่อเหาอย่างเย็นชา
ฟางซื่อเหาไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่ง ทำไมจินไห่เวยจะต้องเคารพนอบน้อมเนี่ยเฟิงขนาดนั้น!
หลัวปินก็คล้ายกับโดนคนตบอย่างรุนแรง พริบตาก็รู้สึกเพียงละอายใจ
เขาใช้กำลังสุดความสามารถเหน็บแนมเนี่ยเฟิง แต่ตอนนี้เขานับเป็นอะไรได้แม้แต่เนี่ยเฟิงเขาก็ยังเทียบไม่ได้? !
เนี่ยเฟิงยื่นมือออกไปรับสัญญากับบัตร “ไม่เลว”
คางเมิ่งอ้าปากเล็ก ๆ ไม่เชื่อในภาพที่เห็น ในนี่มีอะไรตกหล่นหรือไม่? ทำไมถึงได้มายากลขนาดนี้?
ฟางซื่อเหาเสียหน้า กำหมัดแน่นในทันที พูดอย่างเคืองแค้นใจ “เนี่ยเฟิง! ถือว่าแกเก่ง! เรื่องนี้ไม่มีทางจบเช่นนี้แน่!”
“โอเคเลย”
เนี่ยเฟิงมองฟางซื่อเหา โบกสัญญาที่อยู่ในมือไปมา “ถ้าหากว่าแกต้องการ ฉันสามารถขายให้แกได้ในราคาหนึ่งพันล้าน แต่ฉันคิดว่าแกก็คงจะควักเงินนี้ออกมาไม่ได้?”
“แก!”
ฟางซื่อเหาที่ถูกทำให้โกรธจนพูดไม่ออก คน ๆนี้ถึงกลับกล้าพูดจาเช่นนี้กับตัวเอง!
“คนนี้ใครกัน? ทำไมแม้แต่ประธานกรรมการจินก็ยังอ่อนน้อมกับเขา”
“นั่นสิ เมื่อครู่นี้ที่ประมูลวิลล่าซิงเยว่ มาในราคาพันล้าน คาดไม่ถึงว่าโบกมือก็มอบให้เขาแล้ว!”
“นี่คือพันล้าน!”
คนที่มุงดูต่างคนต่างแย่งกันพูดสืบหาไม่ชัดเจนว่าเนี่ยเฟิงมีที่มาที่ไปอย่างไร และสายตาของทุกคนก็ตกลงที่บนตัวของเนี่ยเฟิง
ฟางซื่อเหากับหลัวปินอยู่ที่นี่ราวกับฉากประกอบจริง ๆ
พวกเขามีหน้าที่จะอยู่ต่อที่ไหน ฉวยโอกาสจากไปอย่างมืดมัวทันที
“คุณเนี่ย ฉันส่งพวกคุณกลับเถอะ!”
จินไห่เวยพูดอย่างเคารพนอบน้อมเช่นนี้
“พวกเรามีรถ”
เนี่ยเฟิงปฏิเสธจินไห่เวย จินไห่เวยเพียงรู้สึกว่าน่าเสียดาย เดิมคิดว่าตัวเองจะสามารถแสดงออกได้อีกสักหน่อย
“ไปกัน พี่เจ็ด อาหารที่นี่ไม่มีอะไรอร่อย ตอนนี้ท้องผมยังหิว พวกเรากลับไปกินก๋วยเตี๋ยวกันไหม?”
เนี่ยเฟิงตบคางเมิ่งที่สติหลุดเบา ๆ คางเมิ่งกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก กะพริบตาที่เหมือนกับดวงตาของกวางน้อย เดินกลับไปที่รถของตัวเองอย่างงุนงง
รอจนถึงตอนที่เตรียมจะขับรถ คางเมิ่งถึงจะเหมือนเพิ่งตื่นจากความฝัน “เดี๋ยวก่อน! เดี๋ยวก่อน! ประธานกรรมการจินทำไมถึงได้ยกที่ดินพันล้านให้นาย! พันล้าน! ให้นายฟรี ๆ ? ! จะทำเช่นนี้ได้อย่างไร!”
เนี่ยเฟิงกะพริบตา “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีเขาเห็นว่าผมค่อนข้างหล่อ เลยอยากจะรับผมเป็นลูกบุญธรรม?”
“เพ่ย! สำคัญตัวน้อย ๆ หน่อย ถึงแม้ว่าจะอยากรับนายเป็นลูกบุญธรรม ก็ไม่น่าจะแค่พบหน้าก็มอบให้นายพันล้านไหม?”
คางเมิ่งเพียงรู้สึกปวดหัวอย่างมาก “นายรีบดูที่เขียนบนสัญญานั่น ใช่ว่าต้องการมอบที่ดินผืนนั้นให้นาย? นายรีบดู!”
เนี่ยเฟิงเปิดสัญญาออก ตรวจดูหนึ่งรอบ “มอบที่ดินผืนนั้นให้ผมจริง ๆ ”
“แต่อย่างไรก็ไม่สมควร ฉันคิดไม่ตกจริง ๆ …….”
“ไอ ประธานกรรมการจินส่งข่าวมา”
เนี่ยเฟิงยกโทรศัพท์มือถือขึ้น คางเมิ่งรีบแย่งมา ตรวจดูหนึ่งรอบ จากนั้นก็คิดได้ในทันที
“ที่แท้ก็เป็นอย่างงี้นี่เอง! เสี่ยวเฟิง ที่แท้ประธานกรรมการจินรู้จักกับคุณปู่ของนาย ทั้งหมดนี่ก็เพื่อตอบแทนบุญคุณ ประธานกรรมการจินบอกว่า คุณปู่ของนายมีบุญคุณกับเขา ด้วยเหตุนี้จึงคิดที่จะช่วยเหลือนาย พระเจ้า เขาช่างเป็นคนดีจริง ๆ !”
คางเมิ่งเชื่อในข้อความนั้นทั้งหมด อันที่จริงแล้วก็ไม่ใช่ประธานกรรมการจินส่งมา เป็นเนี่ยเฟิงที่แต่งขึ้นมาด้วยตัวเองเมื่อกี้นี้
คางเมิ่งมีนิสัยเด็กผู้หญิงบริสุทธิ์มากเกินไปอย่างแท้จริง แม้ว่าจะบอกกับเธอเรื่องสำนักมังกร เธอก็ไม่รู้อะไรอย่างแน่นอน
บอกเรื่องนี้กับคางเมิ่งก่อน สู้ไม่บอกเธอดีกว่า
“มีเวลาว่างพวกเราต้องไปขอบคุณประธานกรรมการจินอย่างดี!”
คางเมิ่งขับรถออกไปอย่างดีใจ “เมื่อกี้นายก็เห็นแล้วไหม พวกเขาสองคนยังกับกินขี้อย่างนั้น สีหน้าเช่นนั้นทำให้ฉันมีความสุขจริง ๆ”