พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 88 เกือบตกลงมาตาย
บทที่ 88 เกือบตกลงมาตาย
เนี่ยเฟิงคล้องบัตรพนักงานเสร็จจึงพยักหน้า ค่อยๆเดินตามหลังคางเมิ่งเข้าไปในกองถ่ายพร้อมกัน
ที่จริงแล้วนี่เป็นแค่กองถ่ายเล็กๆ เขาเคยไปกองถ่ายมาก่อน ก่อนหน้ายังได้ซื้อบริษัทสื่อที่ใหญ่ที่สุดของประเทศมองโกเลียด้วย
ตอนนั้นการถ่ายทำภาพยนตร์ใช้พื้นที่กว้างมาก ดังนั้นละคร《ชิงผิงเลิก》กับของพวกเขา ถ้าเทียบกันนั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
เมื่อเข้าไปแล้ว คางเมิ่งไปแต่งหน้าก่อน แต่งหน้าเพื่อถ่ายทำกับแต่งหน้าทั่วไปนั้นไม่เหมือนกัน และเนี่ยเฟิงทำได้แค่รออยู่ใกล้ๆ
มีพนักงานจำนวนมากเดินไปมา
ฉากที่จะถ่ายทำในวันนี้คือฉากต่อสู้
บนรถตอนมากองถ่าย เนี่ยเฟิงได้ยินคางเมิ่งเล่าว่า วันนี้เธอจะต้องโหนสลิง
“พี่ตื่นเต้นมากเลย ไม่รู้ว่าพี่จะสามารถทำรอบเดียวผ่านมั้ย ถ้ารอบเดียวไม่ผ่าน ก็ต้องลองอีกสองสามรอบแล้วล่ะ!” คางเมิ่งเป็นครั้งแรกที่ถ่ายทำโดยใช้สลิง จะไม่ให้ตื่นเต้นเลยก็คงเป็นไปไม่ได้
เนี่ยเฟิงมองดูอุปกรณ์อย่างไกลๆ เขามองเห็นใครคนหนึ่งที่มีลักษณะคุ้นเคยเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะแต่งชุดมิดชิด แต่เนี่ยเฟิงแค่มองก็รู้แล้วว่าใคร
เพราะว่าลักษณะท่าทางของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อีกทั้งการเดินของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
เนี่ยเฟิงเห็นเธอคุยอะไรบางอย่างกับพนักงานอย่างระมัดระวัง แล้วก็รีบร้อนจากไป
เนี่ยเฟิงขมวดคิ้ว เพราะว่าเขาไม่มีโทรศัพท์มือถือ ตอนนี้เลยไม่สามารถแฮ็กกล้องวงจรปิดของที่นี่ได้
แต่ว่าผู้หญิงคนนี้ต้องรู้สีกไม่สบายใจเป็นแน่ ครั้งที่แล้วได้รับความอับอาย วันนี้ยังมาถึงกองถ่ายของพวกเขาได้ ทั้งยังกระซิบคุยกับพนักงานของที่นี่
คนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นซ่งสี่จื้อ
“มองอะไรน่ะ ทำไมถึงตั้งใจขนาดนั้น?” ตอนที่คางเมิ่งออกมาออกมาก็เห็นว่าเนี่ยเฟิงมองไปยังที่ไกล มองไปยังทะเลสาบที่พวกเขาจะต้องไปถ่ายฉากต่อสู้ในวันนี้
“นั่นเป็นทะเลสาบคู่รัก มองไปแล้วสวยมากเลยใช่มั้ยล่ะ? แต่ว่าทะเลสาบนี้ลึกมาก ก่อนหน้านี้พี่ได้ยินพนักงานบอกว่า แต่ก่อนเคยมีคนตกลงไปจมน้ำตายด้วยล่ะ น่ากลัวสุดๆเลย”
“พี่เจ็ดเรียนมานานขนาดนี้แล้วยังว่ายน้ำไม่เป็นอีกหรอ?”
เนี่ยเฟิงละสายตากลับมาแซวคางเมิ่ง เมื่อคางเมิ่งได้ยินก็รู้สึกโกรธ
“เรียนว่ายน้ำไม่ใช่เรื่องของวันสองวัน จะว่ายเป็นได้ง่ายขนาดนั้นได้ยังไง ไม่คุยกับนายแล้ว ตอนนี้พี่ต้องไปเข้าฉากกับพวกเขาต่อแล้ว นายก็ดูอยู่ข้างๆแล้วกัน เดี๋ยวพี่สาวจะขึ้นสลิงอย่างเท่ ๆ แล้ว นายต้องถ่ายรูปให้พี่ด้วยนะ!”
คางเมิ่งพูดขณะยัดโทรศัพท์มือถือให้เนี่ยเฟิง
เนี่ยเฟิงพยักหน้าตอบ “รับประกันงานเสร็จเรียบร้อยดีแน่นอน”
เมื่อคางเมิ่งถ่ายจบก็ขึ้นสลิงแล้ว เธอกังวลเป็นอย่างมากว่าตัวเองจะทำออกมาดีมั้ย อีกทั้งเนี่ยเฟิงยังถือโทรศัพท์หันมาทางคางเมิ่งเพื่อถ่ายภาพ
เนี่ยเฟิงด้านนึงถ่ายภาพ อีกด้านก็เปลี่ยนโหมด เขาติดตั้งโปรแกรมลงโทรศัพท์มือถือของคางเมิ่ง แล้วใช้โปรแกรมนี้แฮ็กเข้าระบบกล้องวงจรปิดของกองถ่าย
เขาเลือกกล้องตัวเมื่อกี้อย่างไว แต่ว่ากล้องวงจรปิดของที่นี่บันทึกไว้ได้แต่ภาพ บันทึกเสียงไม่ได้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไร
เมื่อกี้ระยะห่างก็ค่อนข้างไกลดังนั้นเนี่ยเฟิงจึงไม่เห็นหน้าอีกฝ่าย
แต่เพราะว่ามีกล้องวงจรปิด ทำให้ตอนนี้เนี่ยเฟิงมองเห็นหน้าพนักงานคนนั้นอย่างชัดเจน
เนี่ยเฟิงไม่เพียงขมวดคิ้ว เพราะพนักงานคนนั้นยังเป็นคนดูแลสลิงด้วย
เนี่ยเฟิงคิดออกแล้วว่าซ่งสี่จื้อกับพนักงานคนนี้กระซิบอะไรกัน ตอนนี้เขากำหมัดแน่น ภายในใจมีลางสังหรณ์ลุกขึ้นมา
แต่ว่าตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว เพราะพนักงานคนนั้นได้ดึงคางเมิ่งขึ้นไปแล้ว
คางเมิ่งเหมือนได้บินขึ้นไปบนท้องฟ้า ในใจตื่นเต้นไม่น้อย แต่ไม่นานเธอก็คุ้นชินแล้ว เธอบินไปบินมาอยู่กลางอากาศ เมื่อคุ้นชินแล้วก็รู้สึกแปลกใหม่และสนุกสนาน
อาจารย์สอนศิลปะการต่อสู้คอยยืนกำกับอยู่ด้านล่าง และเนี่ยเฟิงได้เดินเข้าไปหา ตาก็มองไปตามทิศทางของคางเมิ่ง
“บึ้ม!”
ได้ยินเพียงแค่เสียงดังน่ากลัวขึ้นมา ผู้ชมไม่เพียงประหลาดใจ แต่ไม่คาดคิดว่าอุปกรณ์ขาด!
คางเมิ่งที่อยู่บนสลิงด้านบนก็ตกลงมาด้วยความรวดเร็ว!
“รีบไปรับเธอ!”
คนในกองถ่ายต่างแตกตื่น ตะโกนร้องลั่นกันไปมา
แต่ว่าความเร็วในการตกลงมาของอีกฝ่ายช่างเร็วเกินไปแล้ว แถมใกล้ๆนี้ก็ไม่มีเบาะฟองน้ำด้วย ไม่ว่าพวกเขาจะเร็วแค่ไหนก็เข้าใกล้อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ดี!
ในเวลานี้ก็มีเงาดำหนึ่งพุ่งตัวออกไป!
เห็นแค่อีกฝ่ายกระโดดออกไป กอดรับคางเมิ่งและทั้งสองตกลงไปในทะเลสาบคู่รักด้วยกัน
คางเมิ่งว่ายน้ำไม่เป็น เมื่อตกลงไปในน้ำจึงรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก พยายามลอยตัวอย่างสุดความสามารถ
“พี่เจ็ดไม่ต้องกลัว ผมอยู่ข้างๆพี่จะไม่ให้พี่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ต้องกลัว ผมอยู่ด้วย ใจเย็น ๆ ”
เมื่อได้ยินเสียงของเนี่ยเฟิง คางเมิ่งจึงค่อย ๆ สงบลง
คางเมิ่งกอดคอเนี่ยเฟิงแน่น หอบจนตัวสั่น “พี่เป็นอะไรไป? พี่ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”
“พี่ไม่เป็นอะไร แค่อุปกรณ์มีปัญหาทำให้พี่ตกลงมา โชคดีที่ผมรับพี่ไว้ได้ พี่ไม่บาดเจ็บตรงไหนนะ?”
เนี่ยเฟิงกังวลว่าคางเมิ่งจะกลัว ดึงนั้นแม้แต่การพูดจึงดูนุ่มนวล
คางเมิ่งส่ายศีรษะแล้วลูบน้ำออกจากใบหน้า เวลานี้คนอื่นในกองต่างค่อย ๆ ล้อมเข้ามา
ผู้กำกับและคนอื่นๆต่างตกใจเป็นอย่างมาก ตกลงมาจากที่สูงขนาดนั้น คงหวังจะเอาชีวิตเป็นแน่!
เนี่ยเฟิงอุ้มคางเมิ่งขึ้นฝั่ง ถึงตอนนี้คางเมิ่งยังคงตัวสั่นอยู่
เมื่อมองเห็นสายตาของคนเหล่านี้ เนี่ยเฟิงจึงพูดออกไปว่า “เธอไม่เป็นอะไร แต่ว่าตอนนี้เปียกไปหมดทั้งตัว ให้เธอได้ไปเปลี่ยนชุดก่อนเถอะ”
ผู้กำกับพยักหน้า ในสายตาเต็มไปด้วยความกังวล
เนี่ยเฟิงพาคางเมิ่งที่ยังไม่หายตะลึงกลับมายังห้องแต่งตัว
ตอนนี้คางเมิ่งถึงรู้ว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่
เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว คางเมิ่งแค่คิดถึงตอนที่ตัวเองโหนอยู่บนที่สูงก็ขนลุกขึ้นแล้ว
“เสี่ยวเฟิง พี่ที่เพิ่งตกลงมาจากที่สูงระดับนั้น สามารถทำให้เสียชีวิตได้มั้ย?”
“คนปกติถ้าตกลงมาไม่เสียชีวิตก็พิการ โชคดีที่ผมรับพี่ไว้ได้ทัน อีกทั้งยังตกลงไปในทะเลสาบ ทำให้พวกเราสองคนไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร”
อีกทั้งจากมุมนั้นคางเมิ่งไม่มีทางตกลงไปในทะเลสาบ ต้องกระแทกพื้นดินอย่างแน่นอน
“โหนสลิงน่ากลัวเกินไปแล้ว วันหลังพี่ไม่กล้าโหนแล้ว” คางเมิ่งร้องไห้ออกมาอย่างคุมไม่อยู่ มองดูช่างน่าสงสารจริง ๆ
ผู้กำกับมาเคาะประตู เนี่ยเฟิงเปิดประตูมอง ผู้กำกับถามด้วยความกังวลว่า
“เสี่ยวเมิ่งเธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง ไปโรงพยาบาลดีมั้ย?”
“ผู้กำกับ ฉันไม่เป็นอะไร แค่รู้สึกว่าต่อไปฉันคงไม่กล้าโหนสลิงอีกแล้วล่ะ…”
กำกับรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย “แต่ว่าต่อไปยังมีบางฉากที่ต้องโหนสลิงนะ”
“ผู้กำกับ ผมว่าโหนสลิงไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวคือคนควบคุมสลิง”
เมื่อเนี่ยเฟิงกล่าวไปแบบนั้น ผู้กำกับจึงเกิดความสงสัย ขึ้น “ทำไมนายถึงพูดแบบนี้”
“ผมเพิ่งเห็นพนักงานคนนั้นกับคนนอกคนหนึ่งกระซิบคุยกัน ไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรกัน แต่ผมมั่นใจว่าคนนอกคนนั้นคือซ่งสี่จื้อคนดังแน่นอน