พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 9 บ้านเกิดถูกเกลี่ยราบ
บทที่ 9 บ้านเกิดถูกเกลี่ยราบ
ตึกระฟ้านั้นชื่อว่าอาคารสำนักงานใหญ่ฟางซื่อกรุ๊ป เนี่ยเฟิงหน้านิ่วคิ้วขมวด นี่มันเรื่องอะไรกัน บ้านเกิดกลายเป็นตึกระฟ้าได้อย่างไร ?
“คุณชาย ? ใช่คุณชายหรือเปล่าครับ ? !”
ในเวลานี้เอง อยู่ ๆ ก็มีเสียงทุ้มต่ำดังเข้ามา เนี่ยเฟิงมองตามไปยังที่มาของเสียง ก็ได้เห็นขอทานเฒ่าผู้มีผมเผ้ารุงรังหลังค่อมมองมาที่เขาเดินกระโผกกระเผลกออกมา
เนี่ยเฟิงอึ้งเงียบ ๆในใจ: “คุณเป็นใคร ? ทำไมจึงเรียกผมว่าคุณชาย ?”
“คุณชาย ! ใช่คุณชายจริงด้วย !”
เสียงขอทานเฒ่าเคล้าน้ำตา “สวรรค์คุ้มครองจริง ๆ นึกไม่ถึงว่าผมเนี่ยเหล่าสี่ที่ใกล้ลงหลุมแล้วยังจะได้พบคนตระกูลเนี่ยอีกครั้ง !”
เนี่ยเฟิงขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วเล่า อยู่ ๆ ก็นึกถึงพ่อบ้านผู้มีความภักดีคนนั้นขึ้นมาได้
สมัยเด็กเขาเคยเห็นพ่อบ้านคนนี้ เป็นคุณลุงที่แบกรับหน้าที่ทุกอย่างได้ดี
ตอนนี้กลับตกต่ำอยู่ในสภาพเช่นนี้ !
“ลุงสี่ รีบลุกขึ้นก่อน”
เนี่ยเฟิงพยุงเนี่ยเหล่าสี่ลุกขึ้น เนี่ยเหล่าสี่ร้องไห้เช็ดน้ำตาบนใบหน้า
เดิมทีใบหน้าเขาก็มอมแมมอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งมอมแมมเข้าไปใหญ่
“ทำไมลุงถึงมีสภาพเช่นนี้ ? นี่มันเรื่องอะไรกัน ?”
เนี่ยเฟิงมองดูร่างกายที่เหยียดตรงในวันเก่า ๆ เนี่ยเหล่าสี่ที่มักสวมชุดเดินเขากลายเป็นขอทาน รู้สึกว่าน่าแปลกมาก
“คุณชาย คุณคงไม่รู้เรื่องราวสินะ ! ผู้เฒ่าอย่างผมเฝ้าบ้านหลังนี้มาโดยตลอด หลังจากตระกูลเกิดการเปลี่ยนแปลง ผมก็ท้อแท้ใจ เนื่องจากไม่ได้รับศพของนายท่านกับนายหญิงเลยผมจึงทำสุสานฝังเสื้อผ้าของนายท่านทั้งสองเอาไว้หลังบ้าน สร้างแผ่นป้ายวิญญาณขึ้นมากราบไหว้ทุกวัน เพื่อให้เขาตายตาหลับในปรโลก”
เนี่ยเฟิงซาบซึ้งจนขอบตาเปียกชุ่ม หลังจากที่ตระกูลของพวกเขาพบกับการเปลี่ยนแปลง ก็ตกต่ำลง นึกไม่ถึงว่ายังมีพ่อบ้านที่จงรักภักดีเช่นนี้
“ผมคิดว่า ต้องมีสักวัน คุณชายน้อยต้องกลับมาสืบทอดกิจการแน่ ฉะนั้นผมจึงคอยเฝ้ารอ แต่กลับได้รับข่าวร้ายแทน”
เนี่ยเหล่าสี่โมโหจนใช้ไม้เท้าในมือเคาะไปที่พื้น เขาโมโหจนไม่สามารถเอ่ยคำพูดออกมาได้
“ลุงสี่ นั่งก่อน ค่อย ๆ พูด”
เนี่ยเฟิงพาเนี่ยเหล่าสี่เดินมาที่ม้านั่งตัวยาวด้านข้างอาคาร
เนี่ยเหล่าสี่จึงหายใจโล่งขึ้น “พวกโจรชั่ว พวกเขา พวกเขาบุกเข้ามา หาว่าพวกเราเป็นบ้านตะปู (บ้านที่ไม่ยอมเวนคืนที่ดินให้รัฐ) บอกว่าจะให้สามหมื่นหยวนเป็นค่าซื้อที่ดินของพวกเรา ผมยอมได้ที่ไหนกัน ? นี่เป็นรากฐานจองตระกูลเนี่ยเรา ! แล้วยิ่งในห้องโถงบูชาวิญญาณนายท่านกับนายหญิงทั้งสองเอาไว้ ผมยืนกรานไม่ยอมแน่”
เนี่ยเหล่าสี่พูดมาถึงตรงนี้ ก็ร้องไห้ไม่เป็นสำเนียงแล้ว
“แต่พวกเขาก็ซ้อมผมจนออกมา พวกเขามีพวกมากกว่า ตีขาผมหัก ไล่ผมออกมา ยิ่งกว่านั้นเกลี่ยบ้านจนเรียบต่อหน้าผม ทำให้ทุกอย่างราบเป็นหน้ากอง !”
เนี่ยเฟิงกัดฟันกรามแน่น ดวงตาพร่ามัวไปหมด ตอนนี้เขาโมโหมาก คนพวกนี้กล้าทำเรื่องเช่นนี้เชียวหรือ ?
“คุณชาย จริง ๆ ผมนึกว่าชาตินี้ผมจะอยู่รอคุณชายกลับมาไม่ได้แล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าสวรรค์มีตา ! สวรรค์มีตา !”
เนี่ยเหล่าสี่ซาบซึ้งใจนัก เวลานี้เนี่ยเฟิงกลับมาแล้ว เนี่ยเหล่าสี่ก็มีความเชื่อมั่นมากขึ้น คนตระกูลเนี่ยล้วนเป็นคนดี ต้องกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งแน่ !
“ผมกลับมาแล้ว ผมต้องสืบให้รู้ว่าใครกันแน่ที่ฆ่าพ่อแม่ผม แล้วก็พวกพี่ขี่อยู่บนหัวเรา ผมจะไม่ปล่อยไว้เด็ดขาด !”
เนี่ยเฟิงหรี่ตาลง อัดอั้นอารมณ์เอาไว้
“คุณชาย ตอนนี้คุณชายปักหลักอยู่ที่ไหน ? ผมจะจัดหาที่พักให้คุณชายเดี๋ยวนี้ !” แม้ว่าเนี่ยเหล่าสี่ปกป้องตัวเองก็ลำบากอยู่แล้ว แต่เขาจะให้คุณชายของเขาต้องลำบากไม่ได้ !
“ผมมีที่อยู่แล้ว คุณลุงไม่ต้องห่วง ว่าแต่คุณลุง เมื่อกี๊ผมเห็นคุณลุงเดินกระโผกกระเผลก คุณลุงไม่เคยไปหาหมอเลยใช่ไหม ?”
สีหน้าเนี่ยเหล่าสี่สลัวลง ที่จริงภายหลังเขาก็ไปโรงพยาบาล แต่ได้พลาดช่วงเวลาการรักษาที่ดีที่สุดไปแล้ว
เดิมทีเขายังคิดจะลุกขึ้นสู้ด้วย แต่ไม่มีทาง เขาสู้คนพวกนั้นไม่ได้จริง ๆ
ขณะที่เจ้านายกับบ่าวทั้งสองคนกำลังทักทายกัน อยู่ก็มีเสียงแหบเหมือนเป็ดตัวผู้ดังเข้ามา
“เฮ้ ! เป็นขอทานมาจากไหน ! ใครอนุญาตให้แกนั่งม้านั่งของอาคารเรา ! รีบไสหัวไปเดี๋ยวนี้ !”
ชายผู้หนึ่งสวมใส่ชุดรักษาความปลอดภัย เป็นผู้รักษาความปลอดภัยที่รูปร่างสุดบรรยายใบหน้าเต็มไปด้วยปากคาบไม้จิ้มฟันเดินออกมา
เขาเพิ่งทานมื้อเช้า กำลังออกตระเวน ปรากฏมองเห็นขอทานตัวเหม็นอยู่ไกล ๆ นั่งอยู่บนม้านั่ง
“ทำไม ม้านั่งที่อาคารพวกคุณสร้างไว้ตรงนี้ไม่ได้ให้คนนั่งเหรอ ?”
เนี่ยเฟิงกดไฟความโกรธในใจเอาไว้ ยิ้มอย่างเยือกเย็นถามไอ้หน้ากระ
“ใช่ให้คนนั่ง ! แต่ไม่ได้ให้ขอทานนั่ง ! ขอทานเป็นคนที่ไหนกัน ? คุณนี่ตลกชมัด !” ไอ้หน้ากระไล่เนี่ยเหล่าสี่อย่างกับไล่แมลงวัน
“ไป ๆๆ ! อย่ามาเกะกะขวางตาตรงนี้ ! อาคารฟางเจิ้งของเรายังไม่เปิดเป็นทางการเลย พวกคุณอย่ามาทำให้สกปรก ทำเสียฮวงจุ้ยของพวกเรา !”
“แก ! แกมันพูดจาไม่เกรงใจกันเลย เห็น ๆ อยู่ว่าพวกแกบังคับซื้อขายที่ดินเพื่อสร้างอาคารนี้ขึ้นมาชัด ๆ ยังมีหน้ามาชี้มือชี้ไม้กับพวกเราอีก”
เนี่ยเหล่าสี่จะกลั้นความคับใจนี้ไว้ได้อย่างไร ? ดูถูกเขาไม่เป็นไร แต่หมอนี่จะดูถูกคุณชายของตระกูลพวกเขาไม่ได้ !
“อ้อ ! ฉันรู้แล้วว่าแกเป็นใคร แกก็คือตาแก่ที่ร้องไห้ขอร้องทีมโยธาไม่ให้เข้ามาก่อสร้างล่ะสิ ! แล้วยังขุดหาป้ายวิญาณใต้ดิน น่าขำจริง ๆ แกยังเฝ้าที่นี่อยู่เหรอ ? ฉันจะบอกให้นะ ป้ายวิญญาณผุ ๆ สองแผ่นนั้นไม่รู้ว่าทิ้งลงในถังขยะใบไหนไปตั้งนานแล้ว ถ้าไงแกก็ไปคุ้ยถังขยะดูสิ”
ไอ้หน้ากระหัวเราะฮ่า ๆ ขึ้นมา ดูออกว่าเขาเย้ยหยันเนี่ยเหล่าสี่อย่างมีความสุข
“นายว่าอะไร ?”
เนี่ยเฟิงขวางหน้าเนี่ยเหล่าสี่ ดวงตาเต็มไปด้วยไอสังหาร
ไอ้หน้ากระหน้านิ่วคิ้วขมวด เดินถอยหลังไปหนึ่งก้าว “เจาหนุ่มเป็นอะไรของนาย ? ฉันไม่ได้พูดผิดสักหน่อย เดิมก็เป็นแผ่นไม้ผุ ๆ สองแผ่น !”
เสียงของไอ้หน้ากระยังไม่ทันขาดคำ ก็รู้สึกว่าอวัยวะภายในท้องเบียดตัวกัน รู้สึกปวดไม่หาย เขาเหมือนลอยออกไปเหมือนเส้นพาราโบล่า แล้วชนเข้ากับป้อมรักษาความปลอดภัยที่อยู่ข้าง ๆ !
“ว๊าว !”
ท้องของไอ้หน้ากระกระอักกระอ่วน เขาบ้วนสิ่งที่ทานเข้าไปเมื่อครู่ออกมาพร้อมกับน้ำเลือด !
เนี่ยเหล่าสี่ตะลึงไปชั่วครู่ การใช้ขาของคุณชายนี้ร้ายกาจจริง ๆ! พลังระเบิด ! ทีเดียวจบ !
“ไอ้หน้ากระ ! เกิดอะไรขึ้น”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในป้อมตกใจกัน รีบเดินออกมา เห็นไอ้หน้ากระกระอักเลือด ตกใจขึ้นมา “เฮ้ ! พวกคุณเป็นอะไร ! ทำไมถึงชกต่อยคน ? !”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรูปร่างอ้วนชักกระบองไฟฟ้าออกมา พร้อมกับเรียกวิทยุ: “เรียกศูนย์ ! ที่นี่พื้นที่ A มีคนทะเลาะวิวาท ! ช่วยมาสนับสนุนด้วย”
สักพัก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่า 20 นายก็มาถึง เห็นชัด ๆ ว่าผู้ที่สวมปลอกแขนสีแดงก็คือหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย
“เกิดอะไรขึ้น ?”
เฮยเป้าผู้เป็นหัวหน้าทีมมองไอ้กระที่สลบอยู่บนพื้น สอบถามด้วยความไม่พอใจ
“หัวหน้า หมอนั่นเป็นคนต่อยไอ้หน้ากระ”
เจ้าอ้วนรีบชี้ไปที่เนี่ยเฟิง
เฮยเป้ากำกำปั้นทุกไปที่ตัวของเจ้าอ้วน เจ้าร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
“อะไรวะ ! คนแค่คนเดียว แกยังจะเรียกศูนย์อีก รบกวนป๋าจะทานข้าว”
เจ้าอ้วนตัวหดไปชั่วครู่ “หัวหน้า เขา… เขาเตะไอ้หน้ากระลอยละลิ่วด้วยขาเดียว ดูท่าทางร้ายกาจมาก” นี่เป็นสาเหตุที่เจ้าอ้วนเรียกศูนย์