พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 94 เกือบจะสิ้นหวัง
บทที่ 94 เกือบจะสิ้นหวัง
“พ่อ นี่มันไม่ปกติ มีคนเจตนามาทำเราแน่ๆ!”
หลัวปินดูเสร็จแล้วก็พูดกับพ่อของตัวเองอย่างเร่งร้อน
“ฉันรู้อยู่แล้วว่ามีคนมาทำเรา แต่ตกลงคนนี้เป็นใคร?ตอนนี้หุ้นของเราตกต่ำจนหยุดแล้วแกทราบไหม!”
เมื่อได้ยินเสียงตวาดที่รุนแรงจากฝั่งของพ่อ หลัวปินก็ไม่กล้าลีลา รีบผลักเมียน้อยข้างๆออก และสวมเสื้ออย่างรีบร้อน
หลัวปินมาถึงห้องทำงานของบริษัทสื่อสารจินไห่ ก็เห็นพ่อตัวเองนั่งสูบบุหรี่อยู่ตรงนั้นแล้ว ส่วนก้นบุหรี่ในที่เขี่ยบุหรี่มันก็เต็มตั้งนานแล้ว
หลัวปินเพิ่งถึงยังไม่ทันได้พูด ก็ถูกพ่อเขาตบหน้าแรงๆ
“ฉันบอกไปกี่ครั้งแล้ว แกทำอะไรอยู่ข้างนอกฉันล้วนไม่ยุ่ง แต่อย่างน้อยแกก็ต้องจัดการให้เรียบร้อย แกดูสิแกเหลือหลักฐานให้คนอื่นมาจับผิดได้ แล้วแม้กระทั่งตอนนี้เป็นใครมาทำเราอีก เรายังไม่รู้เลย!หุ้นตกต่ำจนหยุดนั้น แกไหมว่ามันหมายความว่าไง!”
พ่อของหลัวปินโกรธสุดๆ
“เรื่องนี้ฉันให้คนไปตรวจสอบแล้ว แต่ข่าวฉาวบนเน็ตแพร่ออกไปเร็วเกิน ตอนนี้ฉันคิดจะระงับมันลงไป ก็คงระงับไม่ได้…”
ตอนนี้หลัวปินก็ปวดหัวมาก ข่าวในด้านลบทั้งหมดก็เหมือนปืนหนึ่งกระบอก ล้วนเล็งมาหาเขา เหมือนจะแทงเขาจนเป็นรูถึงจะพอใจ
“คุณไม่ได้พูดเรื่องพวกนี้กับฉันฉันยังไม่ได้โกรธขนาดนั้น คุณเน้นขึ้นมาฉันก็โกรธสุดๆ!ช่างเถอะ ดูก่อนว่าฝั่งของตลาดหุ้นจะจัดการยังไงดี ตอนนี้เราขาดทุนไปหลายพันล้านเปล่าๆ ฉันปวดใจมากแล้ว!”
ระหว่างที่พูดพ่อของหลัวปินก็สูบบุหรี่เข้าไปอีก
“งั้นตอนนี้เราต้องทำยังไงดี?พวกเราจะต้องไปหาคนมาช่วยหรือ?”
หลัวปินก็เป็นครั้งแรกที่ได้พบเรื่องแบบนี้ ดังนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าทำยังไงดี
“แน่นอนต้องหาคนมาช่วยสิ ฉันได้จ้างคนจำนวนมากไปควบคุมตลาดหุ้น จะดูว่ายังสามารถฟื้นกลับมาได้หรือเปล่า ขอให้เงินทุนยังหมุนเวียนอยู่ งั้นเราก็ยังมีโอกาส”
พ่อของหลัวปินเพิ่งพูดเสร็จ ก็มีสายหนึ่งโทรเข้ามา พ่อลูกสองคนนี้ล้วนตื่นตัวขึ้นมา
พ่อของหลัวปินรีบรับสาย และเปิดลำโพง ถามอย่างรีบร้อนว่า:
“เรื่องเป็นยังไงบ้าง?ยังราบรื่นไหม?”
“ขอโทษครับคุณหลัว เงินก้อนที่คุณทำการกู้นั้นคงไม่สามารถโอนไปยังบัญชีของคุณ เนื่องจากทางเราตรวจสอบได้ว่าบัญชีของคุณกำลังมีการถอนหุ้นที่เป็นขนาดใหญ่”
นี่เป็นข้อมูลที่ส่งมาจากธนาคาร พ่อของหลัวปินนิ่งอึ้งไปสักครู่หนึ่ง ถอนหุ้นอะไรเนี่ย ฝั่งเขาไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดๆเลย
ยังไม่ทันรอให้พ่อของหลัวปินถามอย่างละเอียด โทรศัพท์ส่วนตัวของเขาก็มีคนโทรเข้ามาอีก
“หลัวอั้ยจุน มีเรื่องหนึ่งฉันรู้สึกว่าควรบอกกับคุณทราบ ฉันไม่ทราบว่าพ่อลูกพวกคุณไปมีเรื่องกับใคร แต่ว่าชีวิตที่ดีของพวกคุณสองคนคงต้องจบสิ้นแล้ว”
“พี่เจียง ฉันไม่ทราบจริงๆเลยว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น เพิ่งตื่นมาก็พบว่าหุ้นตกต่ำ เห็นได้ชัดว่ามีคนเจตนามาทำเรา!คุณต้องรู้ว่าคุณยังมีหุ้นในบริษัทของเราเลย เราเป็นคนฝั่งเดียวกัน คุณจะละทิ้งพวกเราไปไม่ได้นะ และเรื่องการถอนหุ้นออกนั้นคือยังไง?”
หลัวอั้ยจุนรีบถามอย่างใจร้อน
“ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ลงทุนบริษัทของคุณหลายเจ้านั้นล้วนถูกรับซื้อ ฝ่ายตรงข้ามมีมหาอำนาจ พวกคุณไม่ใช่คู่แข่งหรอก รีบไปกล่าวขอโทษเถอะ ไม่อย่างนั้นพวกคุณ……ช่างเถอะ ฉันก็พูดถึงที่นี่ละกัน พวกคุณคิดเอาเองเถอะ!”
“พี่เจียง พี่เจียง คุณอย่าวางสายสิ พี่เจียง!”
ไม่ว่าหลัวอั้ยจุนขอร้องคนนั้นยังไง ก็ยังคงวางสายอยู่ดี หลังจากวางสายแล้ว หลัวปินบอกกับหลัวอั้ยจุนด้วยความตื่นตระหนก:
“พ่อ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่หลายคนนั้นล้วนถอนหุ้นแล้ว ตอนนี้เราต้องทำยังไง!”
หลัวอั้ยจุนจับผมของตัวเองไว้ เขาก็อยากจะรู้ว่าต้องทำยังไงดี ทำไมอยู่ดีๆเรื่องก็กลายเป็นแบบนี้ล่ะ?อันที่จริงแล้วหลายวันนี้บริษัทยังบริหารได้ดีอยู่เลย
สาเหตุที่หลัวอั้ยจุนสามารถทำถึงขั้นนี้ นอกจากการกินกลืนทรัพย์สมบัติของตระกูลเนี่ยแล้ว ยังต้องพึ่งพาผู้ถือหุ้นรายใหญ่หลายคนนี้ เดิมทีผู้ถือหุ้นรายใหญ่หลายคนนี้ก็เป็นพี่น้องที่ดีกับเขาอยู่แล้ว ตอนนั้นที่พวกเขาลงทุนเข้ามาก็ได้พูดถึงเรื่องการแบ่งแยกกำไรกันอย่างดี และก็ไม่มีเรื่องใดๆเกิดขึ้นจนถึงวันนี้ แต่ทำไมจู่ๆพวกเขาก็จะถอนหุ้นล่ะ……
เวลานี้ถอนหุ้นออกเท่ากับว่าปล่อยให้เขาตายเลยหรือ?
“ไปตรวจให้ละเอียดว่าบริษัทของพวกเขานั้นถูกใครซื้อไป มีคนมาทำเราแน่ๆ คนนั้นต้องเป็นคนที่ซื้อบริษัทไปแน่นอน ฉันจะไปถามเขาให้ละเอียด!’
หลัวอั้ยจุนกำหมัดไว้อย่างแน่น แม้กระทั่งบุหรี่ในมือก็แปลงร่างไปแล้ว
หลัวปินกล้าลีลาที่ไหนล่ะ รีบวิ่งออกไป ไปหาคนตรวจสอบเรื่องนี้ สองพ่อลูกรู้สึกว่าทุกวินาทีในตอนนี้ล้วนเป็นการทรมาน เพราะว่าบริษัทของพวกเขาเกือบจะล้มละลาย
พวกเขาใช้เวลาสิบกว่าปีก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมา แต่ตอนนี้กลับพังทลายในแป๊บเดียว
“พ่อ ตรวจสอบไม่ได้เลย คนอื่นก็ไม่กล้าบอกว่าเป็นใคร แค่บอกว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่มหาอำนาจ พวกเขาไม่กล้าบอกเราต้องทำไงดีล่ะ!”
หลัวปินใช้เวลาไปมาก แต่ยังคงค้นหาไม่ได้ว่าตกลงใครมาทำเขา
“งั้นก็รีบคิดวิธีหาเงินทุนมาหมุนเวียนสิ!พวกเขาถอนหุ้นออก เราไม่มีเงินก็หมุนเวียนไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ บริษัทของเรามีแต่ต้องล้มละลาย!”
หลัวอั้ยจุนมองไปที่ลูกชายตัวเองอย่างผิดหวัง ทำไมเขามีลูกแบบนี้ล่ะ?ช่วยไม่ได้สักอย่าง แถมยังหาเรื่องมาใส่อีก!
หลัวปินรู้สภาพตอนนี้ของบริษัทบ้านตัวเอง ดังนั้นจึงรีบไปหาเพื่อนเมื่อก่อนของตัวเอง แต่เพื่อนพวกนี้ของเขา เมื่อรู้ว่าบริษัทสื่อสารจินไห่ใกล้จะล้มละลาย ไม่มีคนใดที่กล้าช่วยเหลือเลย
“คุณชายหลัว ไม่ใช่ว่าฉันไม่ช่วยคุณ แค่เป็นเพราะว่าสภาพบริษัทของพวกคุณในตอนนี้ ถ้าฉันลงทุนเข้าไปมันก็เท่ากับว่าเสียไปเปล่าๆไม่ใช่หรือ?”
“ฉันไม่ได้ให้พวกคุณต้องลงทุน แค่บอกว่าขอให้พวกคุณยืมเงินฉันหน่อยนึง พอถึงเวลาฉันจะคืนให้เป็น2เท่าเลย!”
หลัวปินรีบแก้ตัว
“คุณชายหลัว ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่เชื่อคุณ เป็นเพราะว่าสถานการณ์บริษัทของพวกคุณในตอนนี้มันซับซ้อนจริงๆ พวกเรารับความเสี่ยงไม่ได้ เพราะถ้าบริษัทของพวกคุณล้มละลายแล้ว พวกคุณสองพ่อลูกจะมีเงินที่ไหนมาจ่ายล่ะ คุณไปหาคนอื่นเถอะ ฉันช่วยคุณไม่ได้!”
โทรไปหาหลายคนติดต่อกัน คนพวกนั้นล้วนปฏิเสธ ไม่มีใครยอมยืมเงิน คนที่ไม่โง่คงมองออกว่า บริษัทสื่อสารจินไห่ถูกคนเล่นงาน ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถขาดทุนไปหลายร้อยล้านในระยะเวลาสั้นๆแค่นี้
ฝ่ายตรงข้ามเก่งกว่าพวกเขาแน่ๆ ถ้าหากพวกเขาช่วยเหลือบริษัทสื่อสารจินไห่ ไม่แน่อาจถูกเล่นงานก็เป็นไปได้
พวกเขาไม่จำเป็นต้องเสียสละทรัพย์สินของตัวเองเพื่อเพื่อนกินแบบนี้
สองพ่อลูกค้นหามาแบบนี้ ไม่มีสักคนเลยที่ยอมช่วยเหลือพวกเขา พวกเขาสองคนเกาหัวอยู่ไม่รู้ว่าทำยังไงดี
ก็คือในเวลานี้ หลัวอั้ยจุนได้รับจดหมายการลงทุนซองหนึ่ง”ในมือฉันมีเงินทุน5,000ล้านว่างอยู่ ถ้าหากว่าพวกคุณต้องการ ฉันสามารถลงทุนได้”