พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 98 หนูข้ามถนน
บทที่ 98 หนูข้ามถนน
หลัวอั้ยจุนพาลูกชายและคนในครอบครัวโอนเงินเสร็จก็คิดจะหนี แต่ยังไม่ถึงสนามบิน พวกเขาก็ถูกกลุ่มคนจับได้
“ติดเงินของพวกเขาแล้วคิดจะหนี แกนี่คิดอย่างดีเลยเนอะ!”
“ฉันไม่ได้ติดเงิน เงินของพวกแกไปขอคืนกับประธานของบริษัทการสื่อสารจินไห่ ตอนนี้บริษัทการสื่อสารจินไห่ไม่ใช่ของฉันแล้ว!’
“แต่คนที่ติดเงินพวกเรายังเป็นแกอยู่ดี แกดูรายงานคำชี้แจงนี้สิ!”
ตอนนี้พวกเขาทั้งครอบครัวถูกมัดอยู่ในโรงงานเก่าสักที่หนึ่ง ร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ
หลัวอั้ยจุนมองไปที่รายงานคำชี้แจงที่คนเขายื่นมาให้ ทันใดนั้นก็ตวาดว่า:
“เนี่ยเฟิง แกกล้ามาหลอกฉันด้วย!”
เขาไม่ควรไปเชื่อว่าไอ้เจ้านี่จะใจดี!
“อย่าพูดเพ้อเจ้อ คืนเงิน!ถ้าไม่คืนเงินแกจะสวยแน่!”
หลัวอั้ยจุนสั่นขึ้นมา แต่ว่าตอนนี้ในมือของเขาไม่มีแม้กระทั่งบาทเดียว……
นอกจาก10ล้านนั้น เพราะแต่เช้าธนาคารก็บล็อกบัญชีธนาคารของเขาทุกบัญชี ตอนนี้เขาไม่สามารถเอาเงินออกมาได้แม้แต่บาทเดียว
แต่ว่าศัตรูพวกนี้ไม่ได้คุยง่ายขนาดนั้น เมื่อเทียบกับเครือญาติที่ไปคุกคามซ่งสี่จื้อในก่อนหน้านี้ คนกลุ่มนี้ก็ยิ่งบ้าคลั่งไปใหญ่ เพราะยังไงก็เอาเงินของพวกเขาไป
พวกเขาไม่ปล่อยหลัวอั้ยจุนไปง่ายๆ หลัวอั้ยจุนไม่ยอมพูดทรัพย์สินที่ตัวเองมีอยู่จริง ก็ถูกพวกเขาทรมานจนน่าสมเพช ในที่สุดถึงพูด10ล้านนั้นออกมา รวมไปถึงเครื่องประดับและของมีคุณค่าของคนในครอบครัวก็ล้วนให้พวกเจ้าหนี้
“พวกแกมีแค่นี้ เอาออกมาให้คนขอทานหรือ?พวกเราเจ้าหนี้มากขนาดนี้ เรื่องแค่นี้พอแบ่งที่ไหนล่ะ!บริษัทการสื่อสารจินไห่ของแกทำมานานขนาดนี้แล้ว ต้องมีทรัพย์สมบัติมากมายแน่นอน!อย่านึกว่าจะปิดบังพวกเราได้ รีบเอาเงินออกมาสิ!”
หลัวอั้ยจุนมีความทุกข์แต่พูดไม่ออก เขาไม่มีเงินแล้วจริงๆ ทรัพย์สมบัติทั้งหมดล้วนถูกบล็อก
“ฉันไม่มีเงินแล้วจริงๆ ถ้าฉันมีเงินก็จะให้พวกคุณแน่นอนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ฉันไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว ขอร้องพวกคุณปล่อยพวกเราเถอะ?”
แต่เจ้าหนี้พวกนี้ล้วนไม่เชื่อคำพูดของหลัวอั้ยจุน รู้สึกแต่ว่าพวกเขายังปิดบังอะไรอยู่ ดังนั้นเลยต่อยตีจนพวกเขากรีดร้องอย่างน่าสมเพชอีก
คนที่เจ้าหนี้จ้างมานั้นต่อยแบบไม่รู้หนักรู้เบา และอีกอย่าง เดิมพวกเขาก็เป็นคนที่มีชีวิตอยู่ดีกินดี ไม่เคยถูกกระทำเช่นนี้มาก่อน
และหลินปินเนื่องจากต่อต้านยังถูกพวกเขาตีจนมือหัก
และเมื่อวิดีโอที่พวกเขาถูกทรมานมาถึงมือเนี่ยเฟิง หลังจากเนี่ยเฟิงดูแล้ว อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“ตอนนั้นกินกลืนธุรกิจของตระกูลเนี่ย กระทำอย่างโหดร้ายต่อนักแสดง และนักร้องที่ตระกูลเนี่ยฝึกอบรมมา งั้นวันนี้พวกเขาก็ควรที่จะคืนมาเป็นสองเท่า”
เนี่ยเฟิงหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วก็ปิดวิดีโอทันที
เวลานี้ นอกประตูมีเสียงเคาะประตูส่งเข้ามา เนี่ยเฟิงเงยหน้าขึ้น ก็เห็นเสิ่นโจวเดินเข้ามา
“ถวายบังคมราชามังกร!”
“พี่เสิ่น ฉันพูดไปหลายครั้งแล้ว คุณไม่ต้องเคารพต่อฉันขนาดนี้ พวกเราสองคนรู้จักกันตั้งแต่เด็กแล้ว”
เนี่ยเฟินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
เสิ่นโจวพยักหน้าแล้วพูดต่อด้วยรอยยิ้ม”ยินดีที่คุณชายได้รับบริษัทการสื่อสารจินไห่คืนมาค่ะ!”
“บริษัทการสื่อสารจินไห่อยู่บนมือของพวกเขา ไม่ได้เจริญอย่างที่คิด แถมยังไปสู่ทางที่ผิดมนุษยธรรม คนใหม่ที่อบรมออกมานั้น แย่ลงมาเรื่อยๆ ในเมื่อที่ฉันขึ้นบริหาร งั้นระบบของบริษัทการสื่อสารจินไห่ก็ต้องเปลี่ยนแล้ว”
“มีคุณชายอยู่พวกเราก็สบายใจแล้ว ขอให้คุณชายอยู่ที่นี่ พวกเราทุกคนก็จะปฏิบัติตามคำสั่งของคุณชาย ติดตามรอยเท้าของคุณชายค่ะ”
เสิ่นโจวจงรักภักดีต่อเนี่ยเฟิงและสำนักมังกร
“ตอนนี้บริษัทการสื่อสารจินไห่กลับมาในมือของพวกเรา แต่ว่าช่วงนี้ฉันมีเรื่องต้องยุ่ง ดังนั้นจึงไม่มีเวลามีบริหาร ดังนั้นฉันคิดจะให้คุณมาเป็นประธานของบริษัทการสื่อสารจินไห่”
เสิ่นโจวตกใจมาก เธอส่ายหน้าด้วยความตื่นตลึง”คุณชายคะ ฉันจะเป็นประธานของบริษัทการสื่อสารจินไห่ได้ยังไงล่ะ คุณสมบัติของฉันยังไม่เพียงพอค่ะ”
“พี่เสิ่นล้อเล่นแล้ว ถ้าหากพี่เสิ่นบอกว่าตัวเองมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ งั้นคนที่สามารถเป็นประธานของบริษัทการสื่อสารจินไห่ได้คงมีแค่ไม่กี่คนหรอก”
เนี่ยเฟิงส่ายหน้า”แม้ว่าสำนักมังกรมีคนเก่งมากมาย แต่ฉันเชื่อพี่เสิ่นมากกว่า นี่เป็นการจัดการของเรา และก็ถือว่าเป็นคำสั่งของฉันด้วย ดังนั้นพี่เสิ่นอย่าปฏิเสธเลย”
ได้รับเกียรติอย่างยิ่งเช่นนี้ เสิ่นโจวรีบคุกเข่าลงมาด้วยความกังวล”คุณชายไม่ต้องห่วงค่ะ ในเมื่อที่คุณมอบงานที่สำคัญเช่นนี้ให้ฉัน งั้นทีหลังฉันจะพยายามพัฒนาบริษัทการสื่อสารจินไห่ให้เจริญรุ่งเรือน!”
เนี่ยเฟิงพยักหน้าอย่างปลื้มใจ มีคนอย่างเสิ่นโจวเป็นผู้ช่วยเป็นเรื่องที่ดีทีเดียว
“ตระกูลหลัวไม่มีบริษัทการสื่อสารจินไห่ก็ไม่มีที่พึ่งพาแล้ว และตอนนี้พวกเขาก็ติดหนี้มหาศาล หนียังหนีไม่ทันเลย คุณไปจัดการคนพวกนี้ใหม่ คนที่ธรรมดา ล้วนไล่ออก เราไม่ต้องการนักแสดงแบบนั้น”
เนี่ยเฟิงเหล่ตาลง
“เสี่ยวเฟิง?เป็นคุณหรือเปล่า?”
เวลานี้นอกประตูมีเสียงส่งมา หลังจากที่เนี่ยเฟิงได้ยินเสียงที่คุ้นเคยแล้ว จึงลุกขึ้นมาจากโซฟา และเดินมาถึงนอกประตู ได้เห็นคางเมิ่ง
“พี่เจ็ด ทำไมคุณถึงมาล่ะ?”
“วันนี้มีธุระมาทำที่บริษัทการสื่อสารจินไห่ คาดไม่ถึงว่าจะได้ยินเสียงคุณจากที่ไกลเลย แม้ไม่ได้ยินว่าพวกคุณคุยอะไรอยู่ แต่ฉันแน่ใจว่าคนนั้นเป็นคน อย่างที่คิด คุณอยู่ข้างในจริงด้วย!”
คางเมิ่งตื่นเต้นเล็กน้อย รีบดึงเนี่ยเฟิงไปข้างๆ กระซิบถามเนี่ยเฟิง:
“ไอ้หลัวปินให้คุณมาใช่ไหม?คุณอย่าสนใจเขาเลย เขาจะรังแกคุณแน่นอน พอดีว่าตอนนี้ไม่มีคนอื่นอยู่ คุณรีบไปเถอะ!”
คางเมิ่งมองดูรอบๆอย่างระมัดระวัง และเสริมอีกสองคำ”เช้าวันนี้ฉันเห็นตลาดหุ้นของบริษัทการสื่อสารจินไห่ ตกต่ำจนหยุดแล้ว พวกเขาคงต้องยุ่งมาก ไม่มีเวลามาสนใจเราหรอก”
“พวกเราไม่ต้องไป”
เนี่ยเฟิงส่ายหน้า”ตอนนี้บริษัทการสื่อสารจินไห่ไม่ใช่เป็นของตระกูลกลัวแล้ว เป็นของพี่เสิ่น”
คางเมิ่งมึนงงมาก”พี่เสิ่น?คุณหมายความว่าราชินีแห่งภาพยนตร์เสิ่นโจวหรือ?’
“ใช่แล้ว ก็คืออาจารย์ของคุณเสิ่นโจว”
คางเมิ่งตกใจจนใช้มือปิดปากเอาไว้ มองไปทางเนี่ยเฟิงอย่างเหลือเชื่อ”นี่มันจริงหรือปลอม?แต่ว่าถ้าอาจารย์ซื้อบริษัทการสื่อสารจินไห่ลงมาเดี๋ยวนี้ นั่นหมายความว่าอาจารย์ต้องจ่ายหนี้ของบริษัทการสื่อสารจินไห่ด้วยใช่ไหม พอเวลาที่เจ้าหนี้เขาหามาที่นี่ เธอจะต้องจ่ายเงินมากมายเลยนะ!”
“นี่คุณไม่ต้องห่วง หนี้ของบริษัทการสื่อสารจินไห่ยังคงเป็นของตระกูลหลัว”
เวลานี้เสิ่นโจวเดินออกมา มองไปที่คางเมิ่งด้วยรอยยิ้ม คางเมิ่งจับปากเอาไว้ คาดไม่ถึงว่าเสิ่นโจวก็อยู่ที่นี่ด้วย
“อาจารย์!คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่?คุณซื้อบริษัทการสื่อสารจินไห่ลงมาได้ยังไง?เก่งมากเลย คนของตระกูลหลัวจะยอมละทิ้งบริษัทการสื่อสารจินไห่แล้วจากไปโดยการติดหนี้มหาศาลแบบนี้ได้ยังไงล่ะ?”
“นี่คุณก็ไม่เข้าใจแล้วสิ พวกเขาทำเรื่องเลวร้ายมามากมาย อยากจะหนีอย่างเดียว ดังนั้นเลยคำนึงถึงสิ่งพวกนี้ไม่ได้”
เสิ่นโจวยิ้มและตบไหล่ของคางเมิ่ง”ทีหลังคุณก็อยู่ในบริษัทการสื่อสารจินไห่อย่างสบายใจเถอะ ถ้ามีคนกล้ารังแกคุณ คุณก็บอกชื่อของฉันออกมา”