พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่247 พ่อแม่บุญของโจวลี่ซือ
“นี่มันจะเหมือนกันได้ยังไง?พี่ยังไม่ได้ลองก็ยอมแพ้แล้วหรอ?ต้องลองก่อนถึงจะรู้นะครับ!”
เนี่ยเฟิงไม่อยากเห็นโจวลี่ซือในสภาพแบบนี้ ถ้าหากโจวลี่ซือจะไปสมัครสายการบินพลเรือนจงเฟิง เขาสามารถให้คนเซ็นผ่านให้ได้เลย
กาแฟถูกส่งมาอย่างรวดเร็ว โจวลี่ซือคนกาแฟในแก้วอย่างเหม่อลอยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว“ฉันกำลังคิดว่าฉันมีคุณสมบัติไม่เพียงพอใช่ไหม ฉันรู้สึกมาตลอดว่าตัวเองยังถือได้ว่าเป็นคนฉลาดมาก แต่ไปสัมภาษณ์มาหลายบริษัทต่างไม่มีใครรับฉันเข้าทำงานเลย……ไม่งั้นฉันไปอบรมดีกว่า เพื่อลับคมหน่อยดีไหม?”
เนี่ยเฟิงรู้สึกว่าโจวลี่ซือไม่จำเป็นต้องลดระดับของตัวเอง แต่ไหนแต่ไรมาโจวลี่ซือเป็นเด็กผู้หญิงที่เยี่ยมยอดมากคนหนึ่ง เพียงแต่ไม่รู้ว่าตกลงเรื่องนี้มันมีการผิดพลาดตรงไหน
โจวลี่ซือที่คนกาแฟในแก้วไปด้วย คิ้วขมวดไปด้วย เพราะว่าเธอเอาแต่คิดเรื่องราว ฉะนั้นจึงไม่ได้สังเกต กาแฟกลับกระเด็นออกมาอย่างไม่ทันระวัง โจวลี่ซือที่ในวันนี้สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เธอร้องด้วยความตกใจ
“พี่ห้า พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม พี่ไม่โดนลวกใช่ไหม?”
เนี่ยเฟิงเป็นห่วงมาก เขารีบดงกระดาษทิชชูออกมาหลายแผ่น
โจวลี่ซือส่ายหัวไปมา“ฉันไม่เป็นอะไร เมื่อกี้ฉันแค่ไม่ได้ระวัง นายรอฉันตรงนี้เดี๋ยวนะ ฉันจะไปทำความสะอาดที่ห้องน้ำแป๊บหนึ่ง”
โจวลี่ซือเดินไปที่ห้องน้ำอย่างใจไม่อยู่กับร่องกับลอย และในเวลานี้นี่เองเนี่ยเฟิงได้ยินเสียง มีคนเดินออกมาด้วยท่าทางรื่นเริง คนคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น นั่นก็คือคนที่สัมภาษณ์งานโจวลี่ซือ
“เหล่าหวาง เด็กผู้หญิงคนเมื่อกี้หน้าตาสวยมากเลยใช่ไหม?ตอนนี้บริษัทสายการบินเรากำลังขาดแอร์หญิงไม่ใช่หรอ?”
“หน้าตาสวยจริงๆนั่นแหละ และก็ตรงกับคุณสมบัติที่บริษัทเราต้องการ แต่เราได้รับประกาศแล้วไม่ใช่หรอ?ขอเพียงแค่เด็กผู้หญิงคนนี้ไปสัมภาษณ์งาน อย่าให้เธอได้ผ่านเชียว คุณลืมการประชุมสหพันธ์สายการบินไปแล้วหรือ?”
เหล่าหวางโบกมือไปมา“อย่าเห็นแค่ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้จะสวยอย่างเดียวนะ เธอไม่ใช่แจกันประดับอะไร เธอเป็นถึงผู้ช่วยนักบิน จากคุณสมบัติความสามารถของเธออยากจะเป็นกัปตัน ก็ไม่มีปัญหาแน่!”
“โอ้โห เด็กผู้หญิงเป็นกัปตันพบเจอได้น้อยมากเลยนะ อีกทั้งมีความสามารถตั้งแต่อายุยังน้อยแบบนี้ ไม่เลวเลยจริงๆ แต่น่าเสียดายที่ไปผิดใจกับคนที่ไม่สมควรผิดใจด้วย!เห้อ ช่วยไม่ได้จริงๆ พวกเราเป็นแค่พนักงานจนๆ ตัดสินใจอะไรไม่ได้ !”
พวกเขาไม่ได้สังเกตถึงการมีตัวตนอยู่ของเนี่ยเฟิง พากันเดินหน้าระรื่นผ่านไป และเดินเข้าไปในห้องวีไอพี
เมื่อกี้เนี่ยเฟิงกำลังคิดเรื่องไม่ชอบมาพากลในนี้อยู่ ตอนนี้เป็นไปตามคาด
บริษัทสายการบินในทุกภูมิภาคจะมีสหพันธ์สายการบิน บริษัทสายการบินก่อตั้งขึ้นเพื่อสร้างสมดุลในการแข่งขันขอพวกเขา
แต่กับสายการบินพลเรือนจงเฟิงมันไม่เหมือนกัน เพราะว่ามันเป็นของสำนักมังกร แต่ไหนแต่ไรมาสำนักมังกรเป็นเป้าหมายที่ทุกคนอยากเลียแข้งเลียขาอยู่แล้ว ดังนั้นสายการบินพลเรือนจงเฟิงจะไม่เข้าร่วมกับสหพันธ์สายการบิน
เนี่ยเฟิงอยากจะเข้าไปถามชายหนุ่มสองคนนั้นว่าใครเป็นคนบงการเรื่องนี้?คิดไม่ถึงว่าในเวลานี้เองโจวลี่ซือจะเดินออกมาแล้ว
“เสี่ยวเฟิง ฉันไม่มีอารมณ์ดื่มกาแฟแล้ว เรากลับกันเถอะ?”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า หลังจากจ่ายเงินเสร็จก็เดินออกไป ทั้งสองพึ่งขึ้นรถมาได้ โจวลี่ซือก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง เธอได้ยินเสียงปลายสายลอดออกมา หลังจากนั้นก็ขมวดคิ้ว แล้วพูดต่อไปว่า“ก็ได้ ฉันจะไปตอนนี้แหละ”
หลังจากที่โจวลี่ซือวางสายลง เธอก็ถอนหายใจยืดยาว จากนั้นก็พูดกับคนขับรถไปว่า
“ขอโทษนะคะ ฉันจะไปที่ซิ่งฝูค่ะ”
คนขับรถหมุนพวงมาลัยเปลี่ยนเส้นทางมุ่งหน้าไปทางถนนซิ่งฝูทันที เนี่ยเฟิงเอ่ยถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย“เราไม่กลับบ้านกันหรอครับ?”
“เมื่อกี้มีสายจากพ่อแม่บุญธรรมของฉันโทรมา ตอนนี้น่าจะอยากให้ฉันกลับบ้าน เสี่ยวเฟิง นายอยากจะกลับไปก่อนไหม?”
“ไม่เป็นไรครับ พวกเขาดูพี่ห้าแทนผมนานขนาดนี้ผมควรต้องไปถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของพวกเขาบ้าง”
เนี่ยเฟิงไม่เคยรู้เลยว่าพ่อแม่บุญธรรมของโจวลี่ซือเป็นคนแบบไหนกันแน่?ถ้าหากเป็นเหมือนกับพ่อแม่บุญธรรมของเย่หรูเสว่ งั้นเนี่ยเฟิงก็คงจะไม่สนใจที่จะปล่อยให้พวกเขาทั้งครอบครัวหายไปจากเมืองจินไห่
หลังจากที่มาถึงถนนซิ่งฝู เนี่ยเฟิงก็ลงจากรถ และมองเห็นชุมชนเล็กๆที่ธรรมดาไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว พอเดินเข้าไปภายในชุมชน โจวลี่ซือก็เคาะประตูบ้านหลังหนึ่งด้วยความตื่นเต้น
บรรดาพี่สาวของเขาต่างถูกดูแลเลี้ยงดูด้วยครอบครัวที่ไม่เหมือนกัน แต่ไหนแต่ไรมาพวกเธอทุกคนมีนิสัยที่แตกต่างกันไป โจวลี่ซือที่ดูร่าเริงแจ่มใส ทำอะไรก็รวดเร็ว แต่ความจริงแล้วเธอเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียดของคนอื่นๆ
คนที่เปิดประตูคือผู้หญิงที่มีอายุหน่อย ผู้หญิงคนนี้ผมหงอกเกือบทั้งหัวแล้ว แต่หน้าตาแลดูจะดุๆหน่อย คนผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น นั่นก็คือเฝิงซิ่วเจียนแม่บุญธรรมของโจวลี่ซือ
เฝิงซิ่วเจียนที่เห็นโจวลี่ซือกลับมา จึงพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์“รับเข้ามาซะ ดูสิว่าเหมือนอะไร ย้ายไม่ออกไม่บอกไม่กล่าว แกรู้ไหมว่าข้างบ้านพูดพวกฉันยังไง?”
โจวลี่ซือพยักหน้าแล้วเดินเข้าไป หลังจากนั้นก็กวักมือเรียกเนี่ยเฟิงเดินเข้ามาที่บ้านพักอาศัยหลังนี้
บ้านพักอาศัยหลังนี้ดูๆไปแล้วไม่ใหญ่เลย ในบ้านมีเพียงสามห้องเท่านั้น
เนี่ยเฟิงกำลังคิด ว่าปกติโจวลี่ซือพักอยู่ที่นี่ พ่อแม่บุญธรรมของเธอทั้งสองน่าจะนอนด้วยกัน และน้องชายกับน้องสะใภ้ก็นอนห้องเดียวกัน ยังมีอีกห้องหนึ่ง น่าจะเป็นของโจวลี่ซือแล้ว
เฝิงซิ่วเจียนที่เห็นว่าด้านหลังยังมีคนอีกคน เธอจึงใช้สายตาประเมินเนี่ยเฟิงหัวจรดเท้าอย่างอารมณ์เสีย ราวกับว่ากำลังจดจำเนี่ยเฟิงไว้ในสมองของตัวเอง
“แกอย่าพาใครไม่รู้เข้ามาบ้านได้ไหมห้ะ!”
คำพูดของเฝิงซิ่วเจียน ทำให้โจวลี่ซือไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก พูดถึงเธอยังไงก็ได้ แต่จะพูดกับเนี่ยเฟิงแบบนี้ไม่ได้
“นี่ไม่ใช่คนไม่มีหัวนอนปลายเท้านะ เขาคือเนี่ยเฟิง เป็นหลานชายของคุณตาในตอนนั้น และก็เป็นน้องชายของหนูด้วย”
เฝิงซิ่วเจียนทำเสียงหึด้วยความเย็นชา“น้องชายของแกนั่งอยู่ในบ้านไม่ใช่รึไง?แกยังมีน้องชายอีกกี่คนห้ะ?”
เนี่ยเฟิงที่เห็นท่าทีของเฝิงซิ่วเจียนดูจะบีบคั้นเล็กน้อย ในใจกำลังคิดว่าโจวลี่ซือเองคงใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้ไม่ดีนัก
โจวลี่ซือค่อยๆถอนหายใจออกมา ในเวลานี้เองชายที่นั่งวีลแชร์เข็นรถออกมา ชายคนนี้ดูอายุค่อนข้างมากแล้ว นั่นก็คือพ่อบุญธรรมของโจวลี่ซือนั่นเอง
“เสี่ยวซือลูก หนูกลับมาแล้วหรอ?”
เมื่อเทียบกับเฝิงซิ่วเจียนที่ท่าทีบีบคั้นคนอื่นแล้ว พ่อบุญธรรมของโจวลี่ซือดูจะพูดจาง่ายกว่า ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
แต่ไหนแต่ไรมาเนี่ยเฟิงมีทักษะด้านการแพทย์อยู่แล้ว เขามองดูขาทั้งสองข้างของพ่อบุญธรรมของโจวลี่ซือไม่เหมือนกับคนเป็นอัมพาตมันดูแข็งแรงมาก คนที่นั่งวีลแชร์มานานหลายปี แล้วเหตุใดเขาถึงต้องนั่งวีลแชร์ล่ะ?
เนี่ยเฟิงรู้สึกเพียงแค่สงสัยเล็กน้อย
“พ่อคะ หนูกลับมาแล้วค่ะ”
“อั้ยหยา แม่ของแกปกติก็พูดจาไม่น่าฟังอยู่แล้ว แกอย่าไปเชื่อคำพูดพวกนั้นของแม่แกเลยนะ แกจะมีงานทำหรือไม่มีก็ไม่เป็นไรหรอกนะ ประตูบ้านของครอบครัวนี้พร้อมต้อนรับแกเสมอ!”
พ่อบุญธรรมของโจวลี่ซือมีชื่อว่าโจวเหวินซู โจวเหวินซูเป็นคนที่เหมือนกับชื่อของเขามาก ดูไปแล้วเหมือนคนที่ประพฤติตัวและพูดจาดี
“ที่ฉันพูดแบบนี้เพราะหวังดีกับเธอนะ!ก่อนหน้านี้ฉันเคยพูดอะไรกับเธอนะ ว่าให้เธอเป็นแอร์หญิงของเธอให้ดี อย่างน้อยก็สามารถหาเงินได้บ้าง แต่เธอจะไปเป็นกัปตันเครื่องบินอะไรนั่น!มีเด็กผู้หญิงบ้านไหนกันไปเป็นกัปตันเครื่องบิน?ดูสิไปผิดใจกับคนอื่นเข้าให้แล้วใช่ไหมล่ะ?ตอนนี้ยังเสียงานไปอีก!”