พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่256 ตบหน้า
“เสี่ยวเฟิง……คุณทำได้ยังไง?ทำไมจู่ๆเขาต้องคุกเข่าขอโทษด้วย?เมื่อสักครู่สายการบินจินไห่เกิดเรื่องอะไรขึ้น?ทำไมบริษัทอื่นๆต้องจากไปด้วย?”
โจวลี่ซือมีคำถามในใจมากมายที่อยากจะถามเนี่ยเฟิง ก่อนที่เนี่ยเฟิงจะตอบ จู่ๆผู้สัมภาษณ์ของการบินพลเรือนจงเฟิงก็เดินเข้ามาทันที
ผู้สัมภาษณ์ยิ้มและพูดว่า:“สวัสดี เมื่อสักครู่ผมเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด”
เมื่อโจวลี่ซือเห็นว่าเป็นผู้สัมภาษณ์ของการบินพลเรือนจงเฟิง เธอรู้สึกประหม่า เพราะนี่คือบริษัทชั้นนำจริงๆ
และสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ก็น่าอับอายมาก หรือว่าการบินพลเรือนจงเฟิงเข้ามาเพื่อตักเตือนตัวเอง?
สีหน้าของโจวลี่ซือขาวซีดทันที และเธอก็ก้มศีรษะลงอย่างไม่สบายใจ
“ผมคิดว่าคุณกล้าหาญมากๆ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะดูประวัติส่วนตัวแบบย่อของคุณได้ไหม?”
“อ้า?”
โจวลี่ซือสงสัยว่าตัวเองฟังผิดหรือเปล่า เธอรีบเงยหน้าขึ้นมา พูดอย่างไม่น่าเชื่อว่า:“คุณพูดว่าจะดูประวัติส่วนตัวแบบย่อของฉันใช่ไหม?”
“ใช่”ผู้สัมภาษณ์พยักหน้า
“พี่ รออะไรอยู่?รีบตามเขาไปสิ!”
เนี่ยเฟิงที่อยู่ข้างๆรีบผลักโจวลี่ซือเบาๆ โจวลี่ซือหายใจลึกๆหนึ่งครั้ง เดินตามไปอย่างประหม่า แล้วส่งประวัติส่วนตัวแบบย่อของตัวเองให้เขา
ผู้สัมภาษณ์ดูประวัติส่วนตัวแบบย่อของโจวลี่ซืออย่างละเอียด จากนั้นพยักหน้า
“กัปตันที่เป็นผู้หญิงมีน้อยมาก อายุน้อยขนาดนี้ยิ่งหายาก”
“ฉันสามารถเริ่มต้นทำงานในตำแหน่งที่ต่ำที่สุด!ไม่ว่าจะให้ทำอะไรฉันก็ยินดี!”
โจวลี่ซือกลัวว่าจะเสียโอกาสครั้งนี้ไป เธอรีบพูดทันที
“คุณเป็นคนมีความสามารถ ถ้าให้คุณเริ่มต้นทำงานในตำแหน่งที่ต่ำที่สุดก็จะเป็นการปิดกั้นความสามารถของคุณ?ถ้าคุณโอเค วันจันทร์หน้าเชิญมารายงานตัวที่สำนักงานใหญ่การบินพลเรือนจงเฟิง พวกเราจะฝึกอบรมให้คุณ และให้คุณเริ่มงานในตำแหน่งรองกัปตัน แต่อาจจะมีแรงกดดันสูง……”
“ฉันสามารถทนต่อแรงกดดันได้ดี!”โจวลี่ซือรีบตอบทันที จากนั้นเธอรู้สึกว่าตัวเองตื่นเต้นจนเกินไป โจวลี่ซือรีบสงบสติอารมณ์“โอเค!ฉันไปแน่นอน!”
“ดีมาก เดียวเธอช่วยเพิ่มตัวเองเข้ามาในกลุ่มงานหน่อย วันจันทร์หน้าเราจะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อให้คุณเข้าทำงานได้เลย”
โจวลี่ซือรีบระงับความตื่นเต้นในใจ จับมือกับผู้สัมภาษณ์เพื่อเป็นการบอกลา เธอรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเดินอยู่บนก้อนเมฆ เธอเดินโยกๆเยกๆตามเนี่ยเฟิงออกไป
“เสี่ยวเฟิง!คุณเห็นหรือยัง!โอ้แม่เจ้า!ฉันสมัครงานได้แล้ว!”
โจวลี่ซือกอดเนี่ยเฟิงไว้แน่ และเธอรู้สึกมีความสุขมากๆ
เนี่ยเฟิงยิ้มและตบหลังของโจวลี่ซือเบาๆ“ดีแล้ว ฉันเห็นแล้ว!ฉันเคยพูดแล้วให้เธอลองไปสมัครดู แต่เธอก็ไม่กล้าไปสักที”
“ฉันโชคดีมากๆ!คุณไม่รู้หรอกว่าสายการบินพลเรือนจงเฟิงเข้มงวดมากแค่ไหน ฉันไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย!ครั้งนี้ที่สมัครเข้าไปได้ ฉันก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน!ฉันโชคดีจริงๆ!”
โจวลี่ซือมีความสุขเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ แม้แต่ตอนเดินก็กระโดดโลดเต้นไปมา
“วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เวลาของเธอกระชั้นชิดมาก พรุ่งนี้ต้องไปเมืองหลวงตั้งแต่เช้า”
โจวลี่ซือพยักหน้า“ใช่แล้ว!แต่ไม่เป็นไร!ฉันชินแล้ว!ฉันจะซื้อตั๋วเครื่องบินทันทีที่ฉันกลับถึงบ้าน!การบินพลเรือนจงเฟิง ฉันมาแล้ว!มันยอดเยี่ยมมาก!”
ใบหน้าของโจวลี่ซือเต็มไปด้วยความสุข เธอลืมถามเนี่ยเฟิงว่าเมื่อสักครู่เขาทำแบบนั้นได้ยังไง ทำไมซ่าวเจ๋ยอมคุกเข่าขอโทษ เขาทำอะไรลงไป……
ตลอดการเดินทางโจวลี่ซือได้โทรหาเพื่อนของเขาหลายครั้ง“นี่!ฉันเองโจวลี่ซือ!เธอต้องคิดไม่ถึงแน่ๆว่าฉันจะไปที่ไหน!ฉันสมัครเข้าการบินพลเรือนจงเฟิงได้แล้ว!”
เนี่ยเฟิงเห็นใบหน้าที่เศร้าหมองหลายวันนี้ของโจวลี่ซือหายไป เขาก็มีความสุขเหมือนกัน
มีคนมีความสุขก็ต้องมีคนเป็นทุกข์
ซ่าวเจ๋รู้สึกอัปยศอดสู เขารับไม่ได้อยู่แล้ว?เขารีบกลับบ้านตัวเองทันที
“คุณพ่อ!เกิดเรื่องอะไรขึ้น!ทำไมต้องให้ฉันคุกเข่าขอโทษ!คุณพ่อรู้ไหมว่าผมอับอายขายขี้หน้าแค่ไหน!”
ซ่าวเจ๋พึ่งเดินเข้ามาก็พูดอย่างโกรธจัดกับพ่อของเขาทันที
แต่คำพูดของเขายังไม่ทันได้พูดจบก็โดนพ่อของเขาตบหน้าอย่างแรง เขาโดนตบจนมึนงง ไม่รู้เพราะอะไร
“ไอ้ลูกทรพี แกไปล่วงเกินผิดใจกับใครที่ไหนไว้?เพราะแกคนเดียวเกือบจะทำลายธุรกิจของตระกูลทั้งหมด!”
ซ่าวเจ๋จับใบหน้าที่บวมของตัวเอง พูดด้วยความงุนงงว่า“ฉันไม่ได้ล่วงเกินผิดใจกับใครเลย!พวกคนที่ร่ำรวยและมีอำนาจพวกนั้นฉันก็มักจะดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี ไม่เคยพูดจาล่วงเกินเลย!”
ซ่าวฝูต๋าจ้องไปที่ซ่าวเจ๋ด้วยสายตาเคร่งขรึม“แกยังจะพูดว่าไม่ได้ล่วงเกินผิดใจกับใครอีกเหรอ?ถ้าแกไม่ได้ล่วงเกินผิดใจกับเขา ทำไมผู้ถือหุ้นจำนวนมากต้องถอนการลงทุน!”
ดวงตาของซ่าวเจ๋เบิกกว้างและนึกถึงสิ่งที่เนี่ยเฟิงพูดในตอนนั้น เขาคิดในใจว่าเป็นฝีมือของเนี่ยเฟิงจริงๆเหรอ และเนี่ยเฟิงมีความสามารถขนาดนี้ได้ยังไง?
“เรื่องที่เกิดขึ้นฉันไม่รู้จริงๆ?แล้วใครเป็นคนยุยงให้ผู้ถือหุ้นถอนการลงทุนกันแน่?”
ซ่าวฝูต๋าดูดบุหรี่“ฉันก็เคยถามแล้ว แต่ผู้ถือหุ้นทุกคนส่ายหัว!พูดว่าพวกเราล่วงเกินผิดใจกับคนที่มีอำนาจ ตอนนี้ถึงแม้พวกเขาจะไม่ถอนการลงทุน แต่ก็ยากที่จะรับประกันว่าครั้งหน้าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก!ถ้าพวกเขาทั้งหมดถอนการลงทุน ฉันจะหักขาแก!วันๆไม่ทำอะไร ออกไปหาแต่ผู้หญิง ตอนนี้ยังหาเรื่องยุ่งยากเข้ามาในบ้านอีก เมื่อไรแกจะรู้จักโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบซะที!”
ซ่าวเจ๋รู้สึกน้อยใจมากๆ เมื่อสักครู่เขาคุกเข่าขอโทษต่อหน้าทุกคน เขารู้สึกอับอายขายขี้หน้าสุดๆ ตอนนี้กลับมาที่บ้านยังโดนพ่อด่าจนไม่เหลือชิ้นดี
“คุณอย่าพูดว่า ลูกไม่รักดีเป็นความผิดของพ่อ คุณไม่เคยได้ยินจริงๆเหรอ?ที่ฉันเป็นอย่างทุกวันนี้!คุณก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ! อย่าเอาความผิดทุกอย่างมาลงที่ฉัน!”
ซ่าวฝูต๋าโมโหซ่าวเจ๋มากๆ“ลูกสารเลวแกกล้าพูดอย่างนี้กับพ่อตัวเองเหรอ ดูสิว่าฉันจะตีแกให้ตายหรือเปล่า!”
ซ่าวเจ๋ไม่ยอมอยู่นิ่งเฉยๆ เขารีบวิ่งหนีออกไป แต่เมื่อสักครู่ที่โดนพ่อตบที่ใบหน้า เขายังรู้สึกแสบร้อนและเจ็บปวด!
ซ่าวเจ๋ยิ่งคิดเรื่องนี้ก็ยิ่งประหลาดใจ เนี่ยเฟิงใช้วิธีอะไรทำให้คนเหล่านั้นถอนการลงทุน?
เมื่อเขานึกถึงตัวเองโดนเนี่ยเฟิงทำให้อับอายขายขี้หน้ามาหลายรอบ เขาแทบอยากจะฆ่าเนี่ยเฟิงให้ตายไปเลย
ในขณะที่ซ่าวเจ๋กำลังเดินออกจากบ้าน ได้มีรถหรูคันหนึ่งหยุดจอดที่ด้านหน้าของซ่าวเจ๋ ซ่าวเจ๋มองดูคนที่อยู่ในรถหรูด้วยความงุนงง
คนๆนั้นเป็นผู้ชาย พวกเขาจอดรถขวางทางของซ่าวเจ๋ไว้
“รู้มั้ยว่าสุนัขที่ดีจะไม่ยืนขวางทางคนอื่น?ตอนนี้พวกแกรีบหลบไป มิฉะนั้นฉันจะทำให้พวกคุณเข้าใจความร้ายกาจของฉัน!”
“นายซ่าว คุณไม่อยากแก้แค้นจริงๆเหรอ?”
จู่ๆผู้ชายคนนั้นก็เอ่ยปากพูด ซ่าวเจ๋ขมวดคิ้ว รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน“คุณรู้อะไรบางอย่างใช่ไหม?”
“ผู้ชายที่ชื่อว่าเนี่ยเฟิงเป็นคนหยิ่งยโสมากใช่ไหม คุณไม่อยากแก้แค้นจริงๆเหรอ?คุณอับอายขายขี้หน้าต่อหน้าทุกคน คุณไม่รู้สึกถึงความอัปยศอดสูเหรอ?”
เป็นไปไม่ได้ที่ซ่าวเจ๋จะไม่คิดเรื่องแก้แค้น เขาคิดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะต้องให้เนี่ยเฟิงชดใช้หนี้ทั้งหมดด้วยเลือด
“ถ้าคุณต้องการแก้แค้นก็ขึ้นรถ พวกเราจะเตรียมวิธีการแก้แค้นที่สมบูรณ์แบบให้คุณ!”
ซ่าวเจ๋ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกอัปยศ ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธมากขึ้น เขาเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง“ไปกันเถอะ!”
ซ่าวเจ๋ถูกพาไปบ้านส่วนตัวหลังหนึ่ง หลังจากที่เข้าไป ซ่าวเจ๋ก็ต้องตกตะลึงกับการตกแต่งของบ้านหลังนี้ เพราะของที่ใช้ในการตกแต่งล้วนแล้วแต่เป็นของมีค่า ดูเหมือนเจ้าของบ้านหลังนี้จะเป็นคนที่ร่ำรวยมากๆ
เขาเดินตามชายคนนั้นไปยังห้องนั่งเล่น โดยมีฉากกั้นบังอยู่ เขาเลยมองไม่เห็นว่าใครอยู่ด้านหลังฉากกั้น