พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่257 หนี้ท่วมหัว
คนที่อยู่ด้านหลังฉากกั้นเป็นผู้หญิง เสียงของผู้หญิงคนนี้น่าฟังจริงๆ
“ดูเหมือนว่านายซ่าวจะมาถึงแล้ว วันนี้ที่เชิญคุณมาที่นี่เพราะมีเรื่องอยากหารือกับคุณ”
ซ่าวเจ๋ไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้เป็นใคร และไม่รู้ว่าบ้านส่วนตัวหลังนี้เป็นของใคร แต่รู้ว่าคนๆนี้ร่ำรวยแน่นอน
เดิมทีซ่าวเจ๋คิดว่าผู้ชายคนนั้นที่เชิญเขามาน่าจะเป็นเจ้าของบ้าน แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าผู้ชายที่ใส่แต่ของแบรนด์เนม ได้แค่ยืนอยู่ข้างฉากกั้น แค่คิดก็รู้ว่าชายคนนี้เป็นเพียงลูกน้องเท่านั้น
“คุณเป็นใครกันแน่?”
ซ่าวเจ๋ถูกพามาที่นี่ แน่นอนว่าเขาต้องถามให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายเป็นใครกันแน่ ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองคิดผิด ขึ้นรถคนอื่นอย่างผลีผลามแล้วมาถึงที่นี่ เขารู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย
“นายซ่าวไม่ต้องกังวล ที่ฉันเชิญคุณมา เพื่อต้องการบอกคุณเรื่องที่เกี่ยวกับเนี่ยเฟิงเท่านั้น”
“เนี่ยเฟิง?คุณกับเขาเป็นพวกเดียวกันใช่ไหม?”
จู่ๆซ่าวเจ๋เหมือนได้รับสัญญาณเตือน เมื่อเห็นเขาเดินถอยหลังหนึ่งก้าว ดูเหมือนเขาคิดจะจากไป อีกฝ่ายรีบส่ายหัวทันที
“ฉันกับเขาไม่ใช่พวกเดียวกัน ฉันกับคุณต่างหากที่เป็นพวกเดียวกัน ฉันเกลียดผู้ชายคนนี้มาก ฉันอยากให้เขาตาย”
สายตาของซ่าวเจ๋ส่อแววประกาย“คุณพูดเป็นเรื่องจริงใช่ไหม?”
“แน่นอนอยู่แล้ว เขาไม่ใช่คนที่คู่ควรมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีก คุณกับฉันมีศัตรูร่วมกันก็คือเนี่ยเฟิง?เนี่ยเฟิงทำให้คุณต้องวิ่งเปลือยกายในที่สาธารณะ และแย่งผู้หญิงที่คุณต้องการไปอีก คุณไม่โกรธจริงๆเหรอ?”
เป็นไปไม่ได้ที่ซ่าวเจ๋จะไม่โกรธ เขาต้องการให้เนี่ยเฟิงตายไปเลย!
“คุณคิดจะทำยังไง?”
“เนี่ยเฟิงเป็นคนมีความสามารถ มิฉะนั้นคงไม่สามารถยุบสหพันธ์สายการบินของคุณได้……”
“อะไรนะ?!”
ซ่าวเจ๋ตกใจมาก“เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนไหน?ทำไมฉันถึงไม่รู้!สหพันธ์สายการบินของฉันโดนยุบแล้วเหรอ?”
“สหพันธ์สายการบินของคุณโดนยุบไปเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว ทุกคนได้ยื่นหนังสือถอนตัวจากสหพันธ์แล้ว สหพันธ์สายการบินที่คุณสร้างมาอย่างยากลำบาก ตอนนี้มันกลายเป็นแบบนี้ และพวกคุณก็ไม่สามารถแบ่งเงินได้อีกในอนาคต ทำให้พวกคุณต้องสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลแน่นอน?”
“ทำเกินไปแล้ว!เนี่ยเฟิง!”
เมื่อสักครู่ซ่าวเจ๋ได้รับข้อความและสายโทรศัพท์เป็นจำนวนมาก แต่เขาก็ไม่รับสาย เพราะเขารู้สึกหงุดหงิดในใจมากๆ และเมื่อสักครู่ก็ยังโดนพ่อตบหน้าอีก
พ่อของเขาเคยพูดกับเขา เป็นเพราะเขาล่วงเกินผิดใจกับคนอื่น เกือบจะทำให้บริษัทของตระกูลล้มละลาย คิดว่าน่าจะเป็นฝีมือของเนี่ยเฟิงเหมือนกัน
“ผู้ชายที่ชื่อเนี่ยเฟิงเขาเป็นใครกันแน่!”
“คุณน่าจะเคยได้ยิน ตระกูลเนี่ยของเมืองจินไห่”
ซ่าวเจ๋อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว“คุณกำลังพูดถึงตระกูลเนี่ยที่ตายหมดทั้งตระกูลใช่ไหม?พวกเขาทั้งหมดตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?ทั้งตระกูลอยู่บนเรือที่อับปาง และทรัพย์สินก็ถูกขูดรีดไปอย่างรวดเร็ว”
“ใช่ ไม่ผิด พวกเขาตายทั้งหมด แต่เหลือเขามีชีวิตรอดอยู่เพียงคนเดียว”
“เหลือเขาเพียงคนเดียว ยังกล้าออกมาวางอำนาจบาตรใหญ่แบบนี้ เขาไม่กลัวตัวเองไปล่วงเกินผิดใจกับศัตรูในอดีตหรือไง?”
ซ่าวเจ๋ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ด้านหลังฉากกั้นเป็นศัตรูในอดีตของตระกูลเนี่ย เธอคือคุณนายหลันของเมืองเยี่ยนตู
คุณนายหลันได้ข่าวว่าลูกน้องของตัวเองโดนเนี่ยเฟิงกำจัดไปอย่างรวดเร็ว เธอคิดจะฆ่าเนี่ยเฟิง แต่ตอนนี้เธอไม่อยากออกหน้า
ดังนั้นคุณนายหลันวางแผนจะยืมมือฆ่าคน เรื่องราวของซ่าวเจ๋ก็ได้เผยแพร่ออกมาพอดี เขากับเนี่ยเฟิงเกิดปมแค้นและบาดหมางกัน
บวกกับตระกูลของซ่าวเจ๋ก็บาดหมางกับเนี่ยเฟิง ตอนนี้ก็โดนเนี่ยเฟิงกำจัดอย่างรวดเร็ว……
“ฉันเลยอยากถามว่าคุณจะร่วมมือกับฉันไหม?”
ถึงแม้ในใจของซ่าวเจ๋จะเกลียดชังเนี่ยเฟิงมากๆ แต่เขาก็ไม่ใช่คนไร้สมอง จู่ๆมีคนบอกว่าต้องการร่วมมือกับตัวเอง แต่คนๆนี้ก็ไม่ได้แสดงตัวตนออกมาว่าเขาเป็นใคร ถ้าโดนหลอกเป็นหมากให้เขา ตัวเองก็คงโดนเขาควบคุมแน่ๆ?
“ฉันคิดว่าคุณไม่มีความจริงใจเลย เรื่องการร่วมมือกันเอาไว้คุยทีหลัง ยังไงซะผมก็มีวิธีจัดการกับผู้ชายคนนี้อยู่แล้ว!”
ตอนนี้ซ่าวเจ๋ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเบื้องหลังเนี่ยเฟิงมีอะไรกันแน่ ถ้าลงมืออย่างผลีผลามอาจจะทำให้ตัวเองเสียเปรียบ อีกฝ่ายก็น่าจะรู้ว่าการร่วมมือในครั้งนี้อาจจะไม่สำเร็จ ดังนั้นเขาจึงให้เลขาส่วนตัวยื่นนามบัตรใบหนึ่งให้ซ่าวเจ๋
“ถ้าคุณคิดดีแล้ว คุณสามารถโทรมาที่เบอร์นี้ได้”
หลังจากที่ซ่าวเจ๋ออกจากบ้านส่วนตัวหลังนี้แล้ว เขาเหลือบมองหมายเลขโทรศัพท์ที่อยู่ในมือ แล้วเขาก็เก็บนามบัตรเข้ากระเป๋า จากนั้นก็จากไป
ในขณะเดียวกัน เนี่ยเฟิงได้กวาดล้างสหพันธ์สายการบิน และเริ่มเข้าซื้อกิจการของสายการบินขนาดเล็กอื่นๆในนามของการบินพลเรือนจงเฟิง
สายการบินขนาดเล็กๆพวกนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสายการบินขนาดใหญ่ ไม่ช้าพวกเขาก็ยอมจำนน
ซ่าวเจ๋และคนอื่นๆต้องการก่อตั้งสหพันธ์สายการบินอีกครั้ง เพราะการก่อตั้งสหพันธ์สายการบินเป็นเหมือนร่มไม้ชายคาให้พวกเขาและบริษัทสายการบินอื่นๆ
เพียงแต่เนี่ยเฟิงไม่ได้คิดจะปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ ซ่าวเจ๋ตั้งใจให้สายการบินจินไห่ไล่โจวลี่ซือออกและยังกดขี่โจวลี่ซืออีก เรื่องนี้มันเลยจุดที่เนี่ยเฟิงจะรับได้
เนี่ยเฟิงไม่สามารถทนเห็นแฟนของตัวเองต้องลำบาก?
วันนี้ซ่าวเจ๋เสียเปรียบครั้งใหญ่ แน่นอนว่าเขาคงคิดการใหญ่และคงกลับมาเอาคืน เนี่ยเฟิงจะไม่ให้ซ่าวเจ๋มีโอกาสเช่นนั้น
ซ่าวเจ๋ไม่สามารถติดต่อคนอื่นๆได้เลย ทำให้เขาไม่สามารถจัดตั้งสหพันธ์สายการบินได้อีก เมื่อเขารีบกลับมาด้วยความอารมณ์หดหู่ถึงรู้ว่า เนื่องจากทรัพยากรของสายการบินถูกแย่งชิง ตอนนี้สายการบินของพวกเขาจึงประสบปัญหาอยู่
เดิมทีไม่คิดจะถอนหุ้น แต่เมื่อผู้ถือหุ้นทั้งหลายเห็นเหตุการณ์แบบนี้ก็รีบถอนหุ้นออกหมด เนื่องจากการสนับสนุนของสายการบินอื่นๆโดนแบ่งแยก ทำให้พวกเขามีทรัพยากรน้อยมากๆ
เวลาผ่านไปเพียงครึ่งวัน หุ้นของพวกเขาร่วงลงอย่างรวดเร็ว บวกกับสายการบินจินไห่ประกาศล้มละลาย ทำให้พวกเขาก็ประสบภาวะวิกฤต
ซ่าวฝูต๋าเห็นกับตาตัวเองว่าบริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้นกลายเป็นแบบนี้ เขาทำใจยอมรับมันไม่ได้ เขาถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลด้วยอาการเลือดออกในสมอง ตอนนี้ยังอยู่ในห้องไอซียู
ซ่าวเจ๋ได้รับการแจ้งเตือนและรีบมาแต่มันก็สายไปซะแล้ว ความวุ่นวายยุ่งเหยิงทั้งหมดก็กองอยู่ตรงหน้าของเขา
มีคนบอกว่ามันเป็นเรื่องดี เพราะตระกูลซ่าวเป็นหนึ่งในสิบตระกูลไอโซที่ชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา
นอกจากนี้ยังผูกขาดอุตสาหกรรมการบินของมณฑลซานเจียง ซ่าวฝูต๋าไม่ยอมให้บริษัทอื่นๆอยู่รอด
ซ่าวเจ๋ใช้อำนาจของตัวเองบังคับให้ผู้หญิงหลับนอนกับเขาไม่รู้ตั้งกี่คน ทุกครั้งที่บังคับขืนใจผู้หญิงพวกนั้นเขาก็ไม่เคยรับผิดชอบ ทำให้หลายคนไม่พอใจ แต่เขาเป็นคนมีหน้ามีตาทางสังคม สามารถใช้เงินเล็กน้อยแก้ปัญหาพวกนั้นได้
ตอนนี้บริษัทสายการบินของตระกูลซ่าวเจ๋ขาดสภาพคล่องและผู้ถือหุ้นถอนการลงทุน ทำให้ทรัพย์สินของพวกเขาหายไปหมดในชั่วพริบตา
เขาตรวจสอบทรัพย์สินของตัวเอง พรุ่งนี้เช้าตลาดหุ้นเปิด บริษัทของพวกเขาคงต้องประกาศล้มละลาย และเขาคงเป็นหนี้ท่วมหัวแน่ๆ!
ซ่าวเจ๋ทำได้เพียงภาวนาให้พ่อของตัวเองตื่นขึ้นมา!
อาจจะเป็นเพราะซ่าวฝูต๋าทำเรื่องเลวร้ายไว้เยอะ แม้แต่สวรรค์ก็ไม่ยอมปล่อยเขาไป