พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่325 ให้คนอื่นตบ
น่าละอาย”
เนี่ยเฟิงส่ายหน้า “ถ้าคุณยอมตบปากตัวเองดีๆ และขอโทษตั้งแต่แรก ก็คงไม่วุ่นวายแบบนี้ แล้วตอนนี้ล่ะ? คุณยังคิดจะดื้ออีกไหม?”
เนี่ยเฟิงมองลงมาที่เฉาตื๋อเหรินซึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้น เฉาตื๋อเหรินเจ็บปวดจนทนไม่ไหวแล้ว ไม่มีใครในที่นั้นกล้าก้าวออกมา พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะบอกพ่อของเฉาตื๋อเหรินดีหรือไม่
เฉาตื๋อเหรินกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เขาเจ็บปวดเกินกว่าจะพูดออกมา
“ดูท่าทางคุณจะไม่คิดจะขอโทษนะ? แต่ปากของคุณที่รับปากไว้ ผมคงต้องขอดึงมันออกมา”
เนี่ยเฟิงพูดพลางหันไปหาเลขาของเขาที่หลบอยู่ในฝูงชนและพยายามจะหลบหนี “คุณมานี่ซิ”
เลขาเกร็งไปทั้งตัว เขารู้สึกราวกับว่าตนเองตกเป็นเป้าหมายของงู น่ากลัวที่สุด
เขาค่อยๆ หันกลับมาแล้วกลืนน้ำลายดังเอื๊อก “คุณเรียกผมเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ”
เลขากลัวว่าจะถูกเนี่ยเฟิงอัดเอา จึงเดินเข้าไปหาอย่างเชื่อฟัง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณ…คุณคิดจะทำอะไรน่ะ?”
“เจ้านายของพวกคุณไม่ยอมตบปากตัวเอง มันทำให้ผมรู้สึกว่ายากที่จะจัดการ คุณก็มาทำแทนเขาหน่อยแล้วกัน!”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เนี่ยเฟิงพูด เลขาก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว ให้ทุบหม้อข้าวตัวเองเนี่ยนะ? เขาไม่อยากทำงานแล้วเหรอ?
“ดูท่าทางคุณไม่อยากลงมือเลย? ช่างเป็นเจ้านายกับลูกน้องที่รักกันจริงๆ แต่น่าเสียดายที่เจ้านายของคุณดูหมิ่นและลวนลามแฟนสาวของผม ผมไม่มีทางปล่อยเขาไป ในเมื่อคุณซื่อสัตย์ต่อเขานัก งั้นเอาแบบนี้ไหม? คุณจะยอมรับโทษแทนเขาหรือไม่?”
เลขาคุกเข่าลงทันที “ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย! ผมลงมือไม่ได้จริงๆ! ผมทำแบบนี้ไม่ได้!”
“ถ้าอย่างนั้นคุณทั้งสองคนก็อย่าคิดจะออกจากประตูนี้ไปได้ในวันนี้!”
เนี่ยเฟิงยิ้มๆ รอยยิ้มนั้นราวกับวิญญาณร้ายจากขุมนรก ทำให้ผู้คนรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว!
ตอนนี้หัวเข่าของเฉาตื๋อเหรินหัก เลขารู้ว่าขาของเนี่ยเฟิงแข็งแรงแค่ไหน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาถูกเนี่ยเฟิงเตะ? จะยังทนไหวไหม?
เลขาตัวสั่นเทิ้มด้วยความกังวล เขาคิดอยู่นานก่อนจะยกมือขึ้นตบเฉาตื๋อเหริน!
เฉาตื๋อเหรินถูกตบด้วยฝ่ามือ เขามองเลขาผู้ซื่อสัตย์อย่างไม่อยากจะเชื่อ “คุณตบผมเหรอ?!”
“คุณชาย ผมไม่มีทางเลือก! ผมก็ถูกบังคับเหมือนกัน!”
อันที่จริงสิ่งที่เลขาพูดก็ถูก อย่างไรเสียผู้ชายที่มีพละกำลังอย่างเนี่ยเฟิงกำลังจับจ้องเลขาอย่างไม่ละสายตา
แล้วเลขาจะไม่กล้าทำได้อย่างไร?
เนี่ยเฟิงหัวเราะอย่างเย็นชา “นี่คุณยังไม่ได้กินข้าวเหรอไง ทำไมมีแรงแค่นี้ ผมไม่ได้อยากดูแบบนี้! ตบเขาแรงๆ! มิฉะนั้นผมจะเตะคุณเป็นรายต่อไป!”
เลขาตกใจสะดุ้งโหยง ครั้งนี้เขาไม่กล้าออมแรงแล้ว เขาตบหน้าเฉาตื๋อเหรินอย่างแรง
เฉาตื๋อเหรินถูกตบจนเห็นประกายดาว คางเมิ่งเห็นภาพนี้เข้าก็ขวัญหนีดีฝ่อ เธอเดินไปข้างหน้าแล้วจับมือของเนี่ยเฟิงไว้ทันที “เสี่ยวเฟิง อย่าทำแบบนี้! เขาได้รับโทษตามสมควรแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ”
“วันนี้แฟนของผมต้องการให้ปล่อยพวกคุณไป ดังนั้นผมจะปล่อยคุณไปสักครั้ง เฉาตื๋อเหริน คุณอย่าคิดจะเอามือปิดฟ้า ควรจะรู้ไว้ว่ามีเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน”
เนี่ยเฟิงพูดจบก็พาคางเมิ่งออกไป
ในเวลานี้ ใบหน้าของเฉาตื๋อเหรินก็บวมเป็นหัวหมู
เลขาเห็นเนี่ยเฟิ่งออกไปแล้วก็ถอนหายใจโล่งอก เขาหยุดมืออย่างฉับพลัน ปากที่สะบัดเมื่อครู่ทำให้มือของเขาเจ็บ
“คุณชาย คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“อย่ามาทำเสแสร้งต่อหน้าผม! เขาให้คุณตบคุณก็ตบเหรอ?” เฉาตื๋อเหรินถูกตบจนเลือดออกที่มุมปาก เขาตบหน้าเลขาด้วยความโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“ผมก็ไม่มีทางเลือก คุณชาย เขาบังคับผม! เมื่อกี้เขาก็บอกว่าให้ผมตบคุณ…”
“เมื่อกี้เขาก็บอกไม่ใช่เหรอ? ว่าให้คุณรับโทษแทนผม! ทำไมคุณไม่เชื่อฟังบ้างล่ะ?”
ตอนนี้เฉาตื๋อเหรินรู้สึกเจ็บแปลบที่แก้มจนทนไม่ไหว “แล้วมัวอึ้งอะไรอยู่! รีบโทรเรียกรถพยาบาลพาผมไปส่งที่โรงพยาบาลที!”
กว่าเฉาตื๋อเหรินจะพูดคำเหล่านี้ออกมาได้ก็ใช้พลังทั้งหมดที่มีแล้ว
คนอื่นๆ ไม่กล้าดูต่อ เดิมทีมันควรจะเป็นการประมูลที่ยอดเยี่ยม คิดไม่ถึงว่ามันจะลงเอยแบบนี้ ทั้งคาดไม่ถึงและแปลกประหลาด
เนี่ยเฟิงคือใครกันแน่ ทำไมถึงได้ลำพองนัก หรือว่าเขาจะไม่รู้ว่าเฉาตื๋อเหรินคือใคร?
คนอื่นๆ ต่างออกไปด้วยความสับสน ในขณะที่เฉาตื๋อเหรินไปโรงพยาบาล
หมอให้การรักษาเฉาตื๋อเหริน อาการกระดูกหักของเฉาตื๋อเหรินนั้นรุนแรงมาก แม้ว่าเขาจะได้รับการผ่าตัด แต่หมอยังคงบอกกับเฉากวงหมิง ผู้เป็นพ่อของเฉาตื๋อเหรินว่า “คุณเฉาครับ อาการกระดูกขาหักของลูกชายของคุณไม่ดีเลย เราพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ว่า…”
“ผมไม่ต้องการได้ยินคำพูดเหล่านี้! พยายามอย่างเต็มที่แล้วหมายความว่ายังไง! พวกคุณพูดให้มันชัดเจนหน่อย!”
เฉากวงหมิงคว้าคอเสื้อของนายแพทย์อย่างโกรธเกรี้ยว “ไอ้พวกหมอไร้น้ำยา! ไม่มีความสามารถงั้นเหรอ! ห๊ะ! ไม่ว่าจะจ่ายแพงแค่ไหนก็ต้องรักษาขาของลูกชายผมให้หาย! มิฉะนั้นผมจะไม่ยกโทษให้พวกคุณเลย!”
เฉากวงหมิงพูดจบก็คลายมือออก แล้วเดินมาที่ข้างเตียงของเฉาตื๋อเหริน “ลูกรัก ไหนบอกพ่อที ว่าใครที่มาทำร้ายลูก! พ่อจะต้องให้มันชดใช้ด้วยเลือดในสิ่งที่มันทำ!”
เฉาตื๋อเหรินกัดฟันแล้วตอบว่า “ผู้ชายชื่อเนี่ยเฟิง! ผมให้คนไปสืบแล้ว! อีกไม่นานผมก็จะได้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขา! พ่อครับ! เรื่องนี้ปล่อยให้ผมจัดการเอง! เขาไม่ควรมายั่วยุผม!”
เฉาตื๋อเหรินยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เขาต้องการหักขาของเนี่ยเฟิง!
“พ่อเข้าใจแล้ว ลูกรักไม่ต้องกังวล พ่อจะหาหมอที่เก่งที่สุดมารักษาขาของลูก”
อย่างไรเสียลูกชายของเขานั้นฝึกศิลปะการต่อสู้ ถ้าขาพิการ ต่อไปก็จะไม่สามารถฝึกศิลปะการต่อสู้ได้อีกในอนาคตใช่ไหม?
“ผมจะทำให้เขาต้องชดใช้ด้วยเลือด!”
ดวงตาของเฉาตื๋อเหรินโหดเหี้ยมอำมหิต ราวกับว่าผนังตรงหน้าคือเนี่ยเฟิง
ในเวลานี้เนี่ยเฟิงและคางเมิ่งได้กลับมาถึงโรงแรมแล้ว
ทันทีที่กลับมาถึงโรงแรม คางเมิ่งก็เก็บของทันที “พวกเราต้องรีบหนี! คุณรีบกลับไปเก็บข้าวของซะ! เร็วเข้า!”
เนี่ยเฟิงไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “คุณเป็นอะไรไป หรือคุณกลัวว่าอีกฝ่ายจะกลับมาแก้แค้นพวกเราเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ! ผู้ชายคนนั้นไม่ควรไปล้อเล่นด้วย! ฉันได้ยินมาว่าครอบครัวของเขาทำทั้งเรื่องถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย! ฟังดูน่ากลัวใช่ไหมล่ะ! พวกเราอย่าไปแหย่คนที่ไม่ควรแหย่ดีกว่า! ตอนนี้ยังไม่สายเกินไป แต่ถ้าพวกเขาตามมาถึงบ้านแล้ว เราจะพบกับความหายนะแน่นอน?”
ตอนนี้คางเมิ่งไม่มีเวลามาคิดมาก เธอแค่ต้องการให้แน่ใจว่าเนี่ยเฟิงและเธอจะปลอดภัย
“ไม่เป็นไร พวกเขาสู้ผมไม่ได้หรอก” เนี่ยเฟิงตบหน้าอกตัวเองอย่างมั่นใจ
“คุณนี่นะ! เขาสู้คุณไม่ได้ แต่ถ้าเขาเรียกพวกฝีมือดีมากเป็นโขยงล่ะ? คุณจะทำยังไง?”
คางเมิ่งรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก
“มาหนึ่งคนก็สู้หนึ่งคน มาสองคนก็สู้เป็นคู่ คุณไม่ต้องเป็นห่วง คนพวกนั้นไม่ใช่คู่ต่อกรของผม หรือต่อให้เราจะหนีไป เจ้าหมอนี่ก็จะตามมาจนเจออยู่ดี กำจัดพวกเขาเสียก่อน”
คางเมิ่งคิดว่าเนี่ยเฟิงทำอะไรใช้แต่อารมณ์ “ไม่ได้! มันอันตรายเกินไป! ฉันจะติดต่อพี่สาวคนอื่น ให้คุณไปซ่อนตัวอยู่กับพวกเธอก่อน!”
“แล้วคุณล่ะ? คุณเป็นบุคคลสาธารณะ ช่วงนี้หน้าที่การงานของคุณกำลังเจริญรุ่งเรือง คุณต้องซ่อนตัวเองด้วยหรือเปล่า?