พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่326 จัดขึ้นตามปกติ
คางเมิ่งกัดฟันกรอด มันเป็นเช่นนี้จริงๆ ช่วงนี้ก็มีข่าวมากมายที่เธอต้องตอบทั้งๆ ที่ไม่อยากตอบ เธอต้องรักษาระดับชื่อเสียงเอาไว้ให้ดี
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่คางเมิ่งกำลังมีระดับชื่อเสียงที่ดี พาดหัวข่าวมากมายกำลังแสดงเรื่องราวจิปาถะของเธอ นำพาให้คางเมิ่งก้าวไปข้างหน้า และยังเป็นการวางรากฐานสำหรับภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ต่อไปด้วย
ทันทีที่ภาพยนตร์เข้าฉาย คางเมิ่งจะสามารถแสดงตัวต่อหน้าทุกคนได้อย่างสมบูรณ์แบบ กลายเป็นดาราและนักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
“แต่ฉันก็ยังเป็นห่วงคุณอยู่ เพราะตอนนี้คุณทำให้เฉาตื๋อเหรินขุ่นเคือง ฉันกลัวว่าเฉาตื๋อเหรินจะโผล่ออกมาสร้างปัญหาให้คุณ พอถึงตอนนั้นจะไม่แย่หรือ?”
คางเมิ่งไม่อยากจะสูญเสียเนี่ยเฟิงไปเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเอง “เอาเป็นว่า ยังไงคุณก็ต้องซ่อนตัวไว้ดีกว่า!”
เนี่ยเฟิงรู้ว่าคางเมิ่งเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของเขา เนี่ยเฟิงมองดูคางเมิ่งที่มีท่าทีจริงจัง พลางนึกอบอุ่นในใจ “ขอบคุณนะที่เป็นห่วงผม”
“คุณพูดอะไรน่ะ? ฉันก็ต้องเป็นห่วงคุณอยู่แล้ว คุณเป็นน้องชายของฉัน ถ้าฉันไม่เป็นห่วงคุณแล้วจะให้ฉันเป็นห่วงใครล่ะ?”
คางเมิ่งพูดพลางก้มหน้าลงอีกครั้ง “รีบไปเก็บของเถอะ! เดี๋ยวจะไม่ทันการ!”
คางเมิ่งพลันคิดว่า ออกจากที่นี่ไปก่อนดีกว่า แม้ว่าจะมีงานแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ แต่คางเมิ่งก็มัวไปสนใจมากไม่ได้แล้ว!
“แต่ว่าเสี่ยวเมิ่ง ถ้าคุณไม่ไปงานแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ คุณจะสร้างความรู้สึกแย่ๆ ให้กับบรรดาสื่อมวลชนของเมืองหนานหูนะ”
เจ๊ฟางที่อยู่ข้างๆ พูดเตือน
“แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องพวกนี้!”
คางเมิ่งร้อนใจจนทนไม่ไหว “ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ ฉันถอนตัวออกมาก็ได้! ฉันจะจัดการเรื่องค่าเสียหายในการผิดสัญญาเอง!”
เป็นคนดีจริงๆ คางเมิ่งถึงกับบอกว่าจะถอนตัว
เนี่ยเฟิงเห็นสีหน้ากังวลใจของคางเมิ่ง ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกว่ามันค่อนข้างน่าขัน “เอาล่ะ ไม่เป็นอะไรหรอก ผมไปรักษาขาของเขาให้หายก็ไม่เป็นไรแล้วนี่? แบบนี้ก็ถือว่าเลิกแล้วกันไป พูดก็พูดนะ เมืองหนานหูก็มีพวกเพื่อนเก่าของพ่อผมอยู่ พวกเขาสามารถช่วยเราไกล่เกลี่ยได้”
คางเมิ่งตะลึงงัน “จริงเหรอ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว! คุณไม่ต้องเป็นห่วง! พรุ่งนี้งานแถลงข่าวจะจัดขึ้นตามปกติ เราจะโปรโมทภาพยนตร์เรื่องใหม่ของคุณไง!”
คางเมิ่งเลียริมฝีปากอันแห้งผากแล้วถามอีกครั้งในตอนท้ายอย่างไม่วางใจ เนี่ยเฟิงรับประกัน “พวกเขาจะไม่มารบกวนคุณอย่างแน่นอน คุณไม่ต้องกังวล ผมกล้ารับประกัน!”
เนี่ยเฟิงให้คำมั่นสัญญาอย่างหนักแน่น แม้ว่าคางเมิ่งจะยังกังวลอยู่ในใจ แต่เธอก็เลือกที่จะเชื่อเนี่ยเฟิง
“เอาล่ะ! ฉันเชื่อใจคุณ! ว่าแต่สร้อยคอชิ้นนี้คงเป็นของปลอมสินะ?”
คางเมิ่งพูดพลางถอดออกมา “ต้องบอกว่า ทำได้ประณีตจริงๆ!”
คางเมิ่งไม่คิดว่าเนี่ยเฟิงจะมีความสามารถพอที่จะขอให้หัวหน้าผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์มอบสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ให้แก่เขาได้จริงๆ ดังนั้นคางเมิ่งจึงสงสัยว่า Victoria’s Tears ชุดนี้น่าจะเป็นของปลอม
“ใช่แล้ว ทั้งหมดก็เพื่อทำให้เฉาตื๋อเหรินขายหน้า ดังนั้นผมจึงสมรู้ร่วมคิดกับหัวหน้าผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ หัวหน้าผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์เคยเป็นเพื่อนของพ่อผม ผมรู้จักเขาตั้งแต่ยังเล็กๆ!”
คางเมิ่งพูดอย่างยิ้มแย้ม “เป็นอย่างนี้จริงด้วย! คุณนี่ฉลาดปราดเปรื่องจริงๆ!”
“สร้อยคอเส้นนี้ฝีมือไม่เลว ทำจากเพชรโมอิส แม้ว่าจะเป็นเพชรเทียม แต่ก็สามารถฟื้นฟู Victoria’s Tears ได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ คุณว่าเราเอาสร้อยเส้นนี้มอบให้พี่ใหญ่เป็นไง?”
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง คางเมิ่งก็ตอบว่า “แม้ว่ามันจะทำจากเพชรโมอิส แต่เพชรโมอิสก็ไม่ใช่ของราคาถูก บวกกับงานฝีมือเช่นนี้ ฉันคิดว่าการมอบมันให้พี่ใหญ่เป็นของที่ระลึกนั้นไม่มีปัญหาอะไร สิ่งที่พี่ใหญ่หลีกเลี่ยงที่สุดคือการที่เรามอบสิ่งของที่มีมูลค่าสูงให้กับเธอ”
“งั้นก็ตัดสินใจตามนี้! ผมจะให้คนมาห่อเครื่องประดับชุดนี้ วันนี้คุณต้องพักผ่อนมากๆ นะ รู้ไหม?”
เนี่ยเฟิงพูดพลางช่วยถอด Victoria’s Tears ออก ในความเป็นจริงตรงไหนหรือที่เป็นของเลียนแบบ? มันคือ Victoria’s Tears ของแท้
แต่ถ้าเนี่ยเฟิงพูดออกไป คางเมิ่งจะต้องซักไซ้จนรู้แจ้งแจ่มชัดอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นมันคงจะลำบากสำหรับเขาที่จะอธิบาย
หลังจากเนี่ยเฟิงออกไปแล้ว เจ๊ฟางก็ถามขึ้นว่า “ราชามังกร ต้องจัดกำลังคนไหม?”
“อืม ไปจัดการได้เลย ถ้าสื่อมวลชนเป็นคนของเรา เฉาตื๋อเหรินจะไม่ยอมจบเรื่องลงด้วยดีอย่างแน่นอน ผมอยากจะเห็นว่าตระกูลเฉา หนึ่งในตระกูลเศรษฐีสิบอันดับแรกนั้นจะร้ายกาจสักแค่ไหน”
เนี่ยเฟิงยิ้มเย็นชาพลางส่ง Victoria’s Tears ที่ประมาณค่ามิได้ให้กับเจ๊ฟาง “ให้คนเอาไปห่อ”
คืนนั้นคางเมิ่งนอนหลับฝันดี พอตื่นขึ้นมา สไตลิสต์และคนอื่นๆ ก็รออยู่ข้างนอกแล้ว
นี่เป็นงานแถลงข่าวเปิดตัวคางเมิ่งโดยเฉพาะ เธอมักจะค่อนข้างประหม่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเลนส์กล้องน้อยใหญ่และคำถามมากมาย
เพียงแต่คางเมิ่งคิดไม่ถึงว่าสื่อมวลชนเหล่านั้นได้รับการคัดเลือกจากเนี่ยเฟิงด้วยตัวเอง คำถามที่ถามล้วนเป็นผลดีต่อคางเมิ่ง นอกจากนี้ยังมีที่นั่งอีกหลายที่หันหน้าเข้าหา เพื่อให้แน่ใจว่าคางเมิ่งจะสมบูรณ์แบบที่สุดเวลาที่อยู่ในเลนส์กล้อง
เมื่อเฉาตื๋อเหรินรู้ว่าคางเมิ่งกำลังจะจัดงานแถลงข่าว ก็อดยิ้มเยาะไม่ได้ “คนพวกนี้นึกว่าผมจะยอมถูกรังแกได้ง่ายๆ งั้นเหรอ? รีบโทรหาคุณอาของผมเดี๋ยวนี้! ผมต้องการให้พวกเขารู้ว่าผมร้ายกาจแค่ไหน!”
เฉาตื๋อเหรินพูดจบก็พยายามจะลุกออกจากเตียง เลขารีบเดินเข้าไปหา “คุณชาย คุณจะลงจากเตียงไม่ได้นะครับ คุณหมอกำชับว่า ตอนนี้คุณกระดูกหัก ห้ามขยับเขยื้อน!”
“ไม่ได้! ผมอยากเห็นเนี่ยเฟิงกับคางเมิ่งสองคนนี้ร้องไห้ขี้มูกโป่ง ผมอยากให้พวกเขาคุกเข่าร้องไห้ต่อหน้าผม! เข้าใจแล้วใช่ไหม! เอารถเข็นมาให้ผมเดี๋ยวนี้!”
เฉาตื๋อเหรินไม่ยอมเลิกราง่ายๆปล่อย บวกกับการที่มีคุณอาอยู่ด้วย แล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาได้อย่างไร?
เมื่อวานเลขาได้ถูกเฉาตื๋อเหรินซ้อมจนหน้าตาฟกช้ำดำเขียว ตอนนี้ดวงตาก็ยังบวมอยู่ แต่เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่งเฉาตื๋อเหริน เฉาตื๋อเหรินเป็นคนโหดเหี้ยม ถ้าเขาไป ก็เท่ากับเอาชีวิตไปทิ้งน่ะสิ?
เลขาจำต้องหารถเข็นมา แล้วพาเฉาตื๋อเหรินออกไป
ในเวลานี้คางเมิ่งได้อยู่ที่งานแถลงข่าวแล้ว เธอรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่ในห้องจัดงานต้องไม่มีคนนอกอยู่ ดังนั้นเนี่ยเฟิงจึงต้องรออยู่ข้างนอก
ในความเป็นจริง ผู้คนในห้องจัดงานล้วนมีแต่คนของเนี่ยเฟิงทั้งนั้น ที่เขาห้ามไม่ให้มีคนนอกอยู่ หมายความว่าให้รอการมาถึงของเฉาตื๋อเหรินอยู่ข้างนอก
แน่นอนว่า เฉาตื๋อเหรินอดทนรอไม่ได้อีกต่อไป เขารวบรวมกลุ่มคนมากันมืดฟ้ามัวดิน ตอนนี้ประตูของสถานที่จัดงานถูกปิดกั้นไว้แล้ว
แต่สถานที่จัดงานกั้นเสียงดีมาก ดังนั้นข้างในจะไม่ได้ยินเหตุการณ์ข้างนอก
บอดี้การ์ดหลายคนเห็นดังนั้นจึงเรียกรวมพลทันที “พวกคุณเป็นใคร? ต้องการอะไร?”
“พวกเราเป็นใครน่ะหรือ? ฮึ! ไปถามเนี่ยเฟิงกับคางเมิ่งหมาสองตัวนั้นดูสิ ที่ทำให้คุณชายของพวกเราต้องออกมา!”
เลขาถนัดนัดเรื่องอวดอ้างบารมี ตอนนี้มีนักเทควันโดมือหนึ่งมากมายอยู่ข้างหลังเขา เขาไม่เห็นต้องกลัวอะไร!
“ได้ยินว่าพวกคุณกำลังตามหาผมเหรอ?”
เนี่ยเฟิงเดินออกมาจากประตูใหญ่ เขาสวมชุดไปรเวท เขามองดูคร่าวๆ และพบว่ามีคนหลายร้อยคนอยู่ที่นี่
“เนี่ยเฟิง! พวกคุณกล้าดียังไง! ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมง ยังต้องการจัดงานแถลงข่าวในเวลานี้ด้วยนะ!”
เฉาตื๋อเหรินกัดฟันกรอด อยากจะเอาสองตายิงออกไปแทงเนี่ยเฟิงให้ตาย
“มีอะไรไม่กล้า? หรือว่ายังกลัวคนขี้ขลาดอย่างคุณหรือไง?”