พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่342 ได้เปรียบแล้วยังจะทำไขสือ
อาเสือจำใจต้องตั้งรับเนี่ยเฟิง เพราะความเร็วของเนี่ยเฟิงรวดเร็วมากจริงๆ!
เนี่ยเฟิงยกเท้าข้างหนึ่งลอยขึ้นมา เตะไปที่คอของอาเสือทันที!
สำหรับมนุษย์แล้วพูดได้ว่า ลำคอคือจุดที่เปราะบางเป็นพิเศษ
ไม่เพียงแค่ลำคอ ยังมีข้อต่อกระดูกอีกอย่าง แม้จะปราดเปรียวอย่างมาก และใช้สอยได้อย่างคล่องแคล่วเป็นพิเศษ แต่เพราะโยกคลอนได้ ดังนั้นความเป็นไปได้ที่จะแตกหักจึงมีมากเช่นเดียวกัน
ลำคอเชื่อมต่อกับศีรษะ อาจถูกหักได้อย่างง่ายดาย อาเสือจำเป็นต้องยกมือขึ้นมาตั้งรับ!
แต่สิ่งที่ทำให้อาเสือตกตะลึงก็คือ เนี่ยเฟิงไม่เพียงแค่มีความเร็ว แต่ยังมีพลังโจมตีอันน่ากลัวอีกด้วย
อาเสือเป็นพวกมีพละกำลัง รูปร่างแข็งแรงกำยำ คนแบบเนี่ยเฟิง เขาแทบจะใช้มือข้างเดียวก็จัดการได้แล้ว! แต่เนี่ยเฟิงในตอนนี้ช่างทำให้คนตกตะลึงนัก!
เพราะอาเสือไร้หนทางรับมือโดยสิ้นเชิง!
มือซ้ายที่เขายกชื้นมากันไว้สั่นสะท้าน รู้สึกถึงความเจ็บปวดได้รางๆ!
ในความเป็นจริง เนี่ยเฟิงยังออมแรงไว้บางส่วน ไม่อย่างนั้นตอนนี้กระดูกมือของอาเสือคงหักไปแล้ว
เนี่ยเฟิงเห็นสองตาของอาเสือเผยแววประหลาดใจออกมา มุมปากเขาก็อดยกขึ้นเป็นรอยยิ้มอย่างห้ามไม่อยู่ “อาเสือ! ตอบโต้บ้างสิ! อย่าออมมือให้ผม!”
อาเสือภายในใจหนักหน่วงขึ้นมา ไอ้หมอนี่ มีกึ๋นอย่างแท้จริง!
“อย่าเก๋าให้มากนัก! ไอ้หนู!”
อาเสือพลันถอยหลังหนึ่งก้าว จากนั้นก็สะบัดแขนตัวเอง ตอนนี้เขาไม่กล้าประมาท
เดิมคิดว่าเนี่ยเฟิงเป็นเพียงเด็กน้อยคนหนึ่ง แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะรวดเร็วถึงขนาดนั้น แถมฝีมือยังเป็นเลิศอีกด้วย!
อาเสือเลียริมฝีปากที่แห้งผาก จากนั้นก็ทำการโต้กลับทันที!
เพียงแต่อาเสือพบว่า เนี่ยเฟิงรวดเร็วเกินไป เขาตามไม่ทันโดยสิ้นเชิง!
ตนเองราวกับเป็นสุนัขตัวหนึ่ง ถูกแหย่เล่นไปรอบๆ!
หลังเนี่ยเฟิงสิ้นเปลืองกำลังกับอาเสือไปพอสมควรแล้ว ก็เพิ่มการโจมตีโดยตรงไปอีกสองสามครั้ง อาเสือก็รู้โดยทันทีว่าตนไม่ใช่คู่มือ! วิชายุทธของเขาใช้ออกมาเท่าไหร่ก็ไม่มีประโยชน์!
เพราะเขาไร้หนทางแตะถูกเนี่ยเฟิงโดยสิ้นเชิง! ได้แต่ถูกเนี่ยเฟินทารุณอยู่ฝ่ายเดียว!
“ฉันยอมแพ้แล้ว!”
อาเสือพบว่าลมหายใจของตนเองเปลี่ยนเป็นกระชั้นขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่เนี่ยเฟิงยังสู้ได้อย่างสบายๆ อยู่ ก็รู้แล้วว่าตนเองไม่ใช่คู่มือของเนี่ยเฟิง
เดิมทีนี่ก็เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกันของพวกเขา ดังนั้นอาเสือจึงพอแล้ว
การแพ้ให้กับคนที่แข็งแกร่งกว่าตนเอง ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร
ที่น่าอายคือตนเองแพ้แล้วแต่ไม่ยอมรับ
เนี่ยเฟิงชอบคนอย่างเหลยจ้านและอาเสือมาก เพราะพวกเขาแพ้ก็บอกว่าตนเองแพ้อย่างตรงไปตรงมา นี่คือคุณสมบัติที่ไม่เลวอย่างหนึ่ง
“ประมือกับอาเสือช่างทำให้คนอกสั่นขวัญแขวนจริงๆ! ผมเหงื่อออกไปทั่วตัวแล้ว!”
อาเสือ:……
เหลยเทียน:……
คนอื่นๆ :……
เจ้าหมอนี่พูดโกหกหน้าตายชัดๆ เขาไม่มีเหงื่อออกเลยสักหยด ยิ้มอยู่ตลอดจนจบการต่อสู้ แถมยังบอกว่าประมือกับอาเสือแล้วขวัญหนีดีฝ่อ นี่มันมากไปแล้วนะ!
“ไอ้หนู นายอย่าได้เปรียบแล้วทำเป็นไขสือสิ!”
เหลยเทียนเดินขึ้นหน้ามา ตบๆ ไปที่แผ่นหลังของเนี่ยเฟิง เนี่ยเฟิงทนไม่ไหวหัวเราะออกมา “ผมเปล่า ผมรู้สึกว่าอาเสือเก่งมากจริงๆ!”
“เสือ แขนนายได้รับบาดเจ็บสินะ? นายไปหาหมอของเราจัดการรักษาก่อนเถอะ!”
เหลยเทียนมองอาเสือแวบหนึ่ง บอกให้อาเสือไปรักษาแขนของตนเองก่อน เขาอยากจะพูดคุยกับอัจฉริยะผู้นี้ให้มากๆ สักหน่อย
“ไม่ต้อง! อาเสือ! พี่เฟิงของเราไม่เพียงมีวิชายุทธที่ยอดเยี่ยม เขายังมีฝีมือทางการแพทย์ที่สูงล้ำอีกด้วย ให้เขาลองนวดให้คุณดูสิ! รับรองไม่ผิดหวัง!”
เหลยจ้านรีบขวางอาเสือไว้ทันที
“หืม? เนี่ยเฟิง นายเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เหลยเทียนมองเนี่ยเฟิงแวบหนึ่งอย่างกังขา
“พอรู้อยู่บ้าง ไม่ได้เชี่ยวชาญครับ”
ดีเหลือเกิน เนี่ยเฟิงถึงกับถ่อมตัวอีกแล้ว!
“คุณก็อย่าถ่อมตัวนักเลย รอยช้ำบนตัวพวกเขาคุณแค่นวดก็หายไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอ? คุณก็ช่วยรักษาให้อาเสือหน่อยเถอะ!”
ฝูยานหรงลอบหลุบตามองพื้น หลังจากที่เธอสนิทสนมกับเนี่ยเฟิง ก็พบว่าคนอย่างเนี่ยเฟิงเป็นพวกหมูกินเสือได้อย่างสบายๆ!
“ได้สิไอ้หนู! ในเมื่อเป็นบาดแผลที่ตัวนายทำออกมาเอง งั้นนายก็มารักษาเองแล้วกัน! เสือ! นายมีความกล้าให้เขาตรวจดูหน่อยไหม?”
เหลยเทียนถามเสือ เสือยิ้มพร้อมกับพยักหน้า “จะไม่มีได้ยังไง มาเถอะ! ต่อให้มันหักฉันก็จะไม่โทษนาย!”
เนี่ยเฟิงส่ายหน้า “ผมไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้นสักหน่อย แม้แขนข้างนี้ของคุณจะเจ็บ บวมแดงเขียวช้ำ แต่ในความเป็นจริงไม่ได้บาดเจ็บไปถึงกระดูก แค่ต้องทำแบบนี้……”
“อ๊าก!”
ต่อให้เป็นชายฉกรรจ์อย่างเสือ ก็อดทนไม่ไหวต้องส่งเสียงร้องโหยหวนอันน่าหวาดกลัวออกมา!
“ไปเลย! ไอ้เด็กโสโครก นี่แกจงใจเอาคืนนี่หว่า! เจ็บจะตายอยู่แล้ว!”
อาเสือร้องโหยหวนพร้อมกับชักมือกลับมา เจ็บจนหน้าตาเหยเก
“ตอนแรกเจ็บมากจริงอยู่ แต่อีกเดี๋ยวก็จะไม่เจ็บแล้ว ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง?” เนี่ยเฟิงถาม
หลังความเจ็บของอาเสือผ่านไปสักพัก จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าแขนของตนเองไม่เจ็บเท่าไหร่แล้ว เขาประหลาดใจขึ้นมา “ไอ้หยา! ใช้ได้นี่ไอ้หนู!”
“นวดอีกหน่อย รอยช้ำของคุณก็จะหายไป”
เนี่ยเฟิงดึงแขนอาเสือมาอีกครั้ง หนนี้ความรู้สึกเจ็บน้อยลงมาก เพราะมีแค่หนแรกที่จะรู้สึกเจ็บมาก ประกอบกับเนี่ยเฟิงลงมือโดยทันที จึงไม่ต้องพูดอะไรอีก
“มหัศจรรย์ ศิษย์พี่ดูสิ! รอยช้ำที่แขนผมหายไปแล้ว! ยอดเยี่ยมมาก เจ้าหมอนี่ร้ายกาจมาก ฉันชักจะชอบนายขึ้นเรื่อยๆ แล้วสิ!”
อาเสือหัวเราะเสียงดังฮ่าๆ “เป็นยังไง? สนใจจะเข้าร่วมสมาคมการต่อสู้ของเราไหม?”
“ผมไม่ใช่คนเมืองหนานหู ผมเป็นคนเมืองจินไห่ ดังนั้นผมจึงคิดว่าไม่เอาดีกว่า”
เนี่ยเฟิงส่ายศีรษะ หากพวกเขารู้ฐานะตนเอง อาจจะไม่พูดคำนี้ออกมา
“ไม่เป็นไร! มณฑลซานเจียงคือครอบครัวเดียวกัน! นายกลัวอะไร?”
เหลยเทียนไม่คิดจะปล่อยต้นกล้าพันธุ์ดีเช่นนี้ไป เขาเดินขึ้นหน้าพร้อมกับตบไหล่ของเนี่ยเฟิง “มาเข้ากับเราเถอะ!”
“พ่อ ทำแบบนี้ดูจะใจแคบไปหน่อยนะ! ดูสิ อาเสือสู้พี่เฟิงไม่ได้ แล้วพี่เฟิงจะเข้าสมาคมการต่อสู้ไปทำไม? พวกพ่อไม่อาจเสนออะไรดีๆ ให้พี่เฟิงได้อีกแล้ว!”
อะไรที่เรียกว่ากับดักมืออาชีพ? ก็นี่อย่างไรล่ะที่เรียกว่ากับดักมืออาชีพ!
เหลยเทียนถลึงตาใส่ลูกชายตัวเองแวบหนึ่งอย่างดุร้าย “ไอ้ลูกคนนี้พูดซี้ซั้วอะไร? พวกผู้ใหญ่เขาพูดกัน มีที่ให้แกแทรกตรงไหน? แกหุบปากให้ฉันเดี๋ยวนี้เลย! เข้าใจไหม?”
เหลยจ้านมองเหลยเทียนอย่างน่าสงสารเหลือแสน รู้สึกว่าตนเองไม่ได้พูดอะไรผิดไปจริงๆ นะ
“ประธานเหลย หากผมต้องการเข้าร่วมภายหน้าผมจะเข้าร่วมแน่ เพียงแต่ตอนนี้ผมยังไม่อยาก”
“นายดูแคลนสมาคมการต่อสู้ของเราใช่ไหม?”
เหลยเทียนถอนหายใจ “คงใช่จริงๆ แม้เราจะเป็นสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองหนานหู แต่เราก็อยู่ในระดับรั้งท้ายเช่นกัน ชิ!”
“พ่อ จะพูดเช่นนี้ไม่ได้! ควรเรียกว่าสายลมสายน้ำไหลวนไปมา ไม่เห็นจะมีสมาคมไหนเก่งกว่าพวกเรา! พ่ออย่าถอดใจสิ!”
เหลยจ้านเด็กคนนี้จะตาแหลมสักนิดก็ไม่มี
“หรือว่าที่เมืองหนานหูยังมีสมาคมการต่อสู้อีกหลายแห่ง?” สมาคมในแต่ละที่ไม่ใช่ที่เดียวกันหรอกหรือ? ที่เมืองหนานหูแห่งนี้ถึงกับมีหลายแห่งเชียวหรือ?
“ที่เมืองหนานหูเรามีสมาคมการต่อสู้อยู่สองแห่ง แห่งหนึ่งก็คือ แห่งหนึ่งก็คือสมาคมการต่อสู้เขตตะวันตกเฉียงใต้ของพวกเรา อีกแห่งคือสมาคมการต่อสู้เขตตะวันออกเฉียงใต้ พวกเราทั้งสองแห่งไม่ถูกกันน่ะ”
เหลยเทียนอธิบายให้ฟังอยู่ด้านข้าง “เมื่อก่อนยังมีเขตเหนือเขตใต้อีกสองแห่ง แต่ถูกเขตตะวันออกเฉียงใต้ยึดมารวมกันไปแล้ว ตอนนี้จึงเหลือแค่สองแห่ง”