พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่343 ผมคือหมอเทวดา
“ประธานสมาคมของสมาคมการต่อสู้เขตตะวันออกเฉียงใต้คนนั้นเป็นคนนิสัยคดโกง เพราะเดิมทีพวกเราก็เป็นสมาคมการต่อสู้ที่มีชื่อมาช้านานอยู่แล้ว ก็เลยยืนหยัดอยู่ได้โดยไม่ล้ม”
พอเหลยจ้านพูดมาถึงตรงนี้ ก็อดทนไม่ไหวถอนหายใจออกมาคำรบหนึ่ง “ช่างเถอะ พวกเราอย่าไปพูดเรื่องที่ไม่สบายใจเหล่านี้เลยดีกว่า จริงสิ! พี่เฟิง ผมพาพี่ไปเดินดูรอบๆ ดีกว่า!”
เหลยเทียนมองเจ้าลูกโง่ของตัวเอง ก็พลันรู้สึกหัวใจอยากจะกำเริบขึ้นมา
หรือว่าเจ้าลูกโง่คนนี้มองไม่ออกว่าตนเองคิดจะดึงคนมีความสามารถอย่างเนี่ยเฟิงมาเป็นพวกใช่ไหม? หากเนี่ยเฟิงเข้าสมาคม ก็จะกลายเป็นสมาชิกคนหนึ่งของสมาคมการต่อสู้ของพวกเขา นั่นไม่เท่ากับช่วยพวกเขาได้มากโขหรอกหรือ?
อันที่จริงเนี่ยเฟิงเองก็เข้าใจความคิดของเหลยเทียนเช่นกัน แต่ตอนนี้เขาไม่มีความคิดอยากจะเข้าร่วมกับพวกเขาจริงๆ เหลยจ้านเองก็ไม่ใช่คนเจ้าแผนการเช่นนั้นเหมือนกัน ดังนั้นครั้งนี้จึงแค่พาเนี่ยเฟิงมาเที่ยวชมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“ไอ้หยา พวกพ่อผมน่ารำคาญเกินไปใช่หรือเปล่า? ผมฟังเขาพร่ำบ่นทุกวันผมก็หงุดหงิดจะแย่แล้ว”
เหลยจ้านส่ายศีรษะ ดูท่าทางราวกับปวดหัวอย่างมาก
“ไม่เป็นไร ฉันรู้สึกว่ามันดีมาก”
“มีอะไรดีกัน? ในหัวผมมีแต่เสียงหึ่งๆ เต็มไปหมด พี่เฟิง พี่ไม่ต้องไปสนใจหรอกว่าพ่อผมพูดอะไร อยู่ที่นี่ พี่แค่เที่ยวกินให้เต็มที่ก็พอแล้ว! ผมขอมอบอำนาจให้พี่!”
เหลยจ้านพูดจบ ก็ตบที่อกของตัวเอง
ที่นี่ใหญ่โตมากจริงๆ เดินเล่นอยู่พักหนึ่ง ทุกคนจึงรู้สึกหมดแรงอยู่บ้าง
“ตรงนั้นมีศาลาอยู่หลังหนึ่ง พวกเราไปนั่งตรงนั้นกันดีไหม?”
ฝูยานหรงพูดพร้อมกับชี้ไปที่ศาลาตรงหน้า
“ดีเลย ทุกคนมาด้วยกันเถอะ!”
พวกเขายังอยู่ในวัยหนุ่มสาว เรี่ยวแรงมีเต็มเปี่ยม แม้เดินเที่ยวมาพักหนึ่งแล้วถึงจะเหนื่อยอยู่บ้างจริงๆ แต่ก็ยังสบายดี
ตอนที่พวกเขาเดินเข้ามาใกล้ศาลา ถึงพบว่าที่นั่นถึงกับมีคนคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้ว และเขากำลังเล่นหมากรุกอยู่
“พวกพี่อย่าเสียงดัง พวกเราไปที่อื่นกันเถอะ!”
พอเหลยจ้านเห็นคนที่กำลังนั่งเล่นหมากรุกอยู่ในนั้น ก็ชะงักไปทันที จากนั้นก็ลดเสียงลงพูดกับพวกของตัวเอง
“ทำไมถึงต้องไปที่อื่นล่ะ? ที่นี่นั่งไม่ได้เหรอ?”
ฝูยานหรงกับคนอื่นๆ ต่างพากันสงสัย
“ไอ้หยา ไม่ได้น่ะสิ! นั่นคืออาจารย์อาผมเอง จิตใจเขาไม่สู้ดีนักมาตลอด พ่อผมบอกว่าถ้าผมเห็นอาจารย์อาก็ให้เดินหนีทันที อย่าเข้าไปหา” เหลยจ้านพูดเสียงเบา
“มองไม่ออกเลย อาจารย์อาของนายดูแก่มากเลยนะ!”
เนี่ยเฟิงมองคนที่นั่งเล่นหมากรุกอยู่ตรงนั้น เขานั่งอยู่ในท่านั้นมานานมากแล้ว อาจเพราะกำลังติดพันว่าจะวางหมากลงตรงไหนดี
“ใช่แล้ว คุณอาของผมดูแก่มากเป็นพิเศษ อาจารย์อาท่านนี้เป็นคนมีความสามารถโดดเด่น เป็นอัจฉริยะ เพียงแต่น่าเสียดาย……ศึกใหญ่คราวนั้น ทำให้อาจารย์อาคนนี้ของผมไร้หนทางจะยืนขึ้นมาได้อีก ที่จริงแล้วคนที่เก่งที่สุดในสมาคมเราก็น่าจะเป็นอาจารย์อาคนนี้นี่แหละ”
เหลยจ้านดึงสายตากลับ พลางตอบเสียงเบา
ในเวลานี้เอง จู่ๆ ชายที่นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วพูดยิ้มๆ ว่า “มา เดินหมากเป็นเพื่อนฉันหน่อย”
“หา? อย่าเชียว! อาจารย์อาให้ใครเดินหมากก็จะกักตัวคนคนนั้นไว้ไม่ยอมปล่อย พวกเรารีบไปกันดีกว่า!”
เหลยจ้านร้องเสียงหลงออกมา อาศัยพากลุ่มเพื่อนหนีไปให้พ้น
เพื่อนตัวน้อยคนอื่นๆ ก็เคยเห็นความสามารถของอาจารย์อาท่านนี้มาแล้วเช่นกัน ดังนั้นจึงถูกทำให้ตกใจไม่น้อย
ตามหลักแล้วเด็กเหล่านี้นั่งไม่ลง ดังนั้นถึงคิดจะหนี
สุดท้ายจึงเหลือแค่เนี่ยเฟิงเพียงคนเดียว เนี่ยเฟิงมองไปที่ชายคนนั้น จากนั้นก็เดินเข้าไปหา
“ไอ้หยา คนแปลกหน้า นายเป็นเพื่อนของเสี่ยวจ้านเหรอ?”
“นับว่าใช่ก็ได้”
เนี่ยเฟิงนั่งลงตรงหน้าเขา มองตาหมากที่อยู่บนโต๊ะ “ตาใครเดิน?”
“ตานายแล้ว”
อาจารย์อาท่านนี้เกินความคาดหมายอยู่บ้าง คิดไม่ถึงว่าเนี่ยเฟิงจะไม่ได้หนีเหมือนกับคนอื่นๆ
เนี่ยเฟิงหยิบหมากตัวหนึ่งขึ้นมา จากนั้นก็วางลงไป
หลังอาจารย์อาเห็น ก็ตกตะลึงขึ้นมา “ยังเดินไปตรงนี้ได้ด้วย ฉันคิดไม่ถึงเลยจริงๆ นายเดินหมากเป็นเหรอ?”
“พอได้บ้าง”
คราวนี้เนี่ยเฟิงพูดถ่อมตัวอย่างแท้จริง เขายิ่งกว่าเดินหมากเป็นด้วยซ้ำ เขายังเป็นแชมป์หมากรุกจีนระดับประเทศอีกด้วย
“งั้นวันนี้คงจะเป็นวันที่ฉันมีความสุขมาก”
อาจารย์อาพูดจบ ก็เดินต่อ เพียงแต่เนี่ยเฟิงเป็นคนชอบเอาชนะ เขาเดินไม่กี่ตา ก็ถูกเนี่ยเฟิงฆ่าทุกตัวไม่มีเหลือ
“โธ่ ฉันแก่แล้ว! เทียบกับเด็กๆ อย่างพวกนายไม่ได้เลย!”
หลังอาจารย์อาเห็นตนเองแพ้ ก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้
“คุณไม่ใช่เทียบไม่ได้ คุณแค่มีใจแต่เรี่ยวแรงไม่พอ ความคิดของคุณไม่ได้อยู่ตรงนี้”
เนี่ยเฟิงส่ายศีรษะ อาจารย์อาเลิกคิ้ว “เด็กอย่างนายชักจะน่าสนใจแล้วสิ”
เนี่ยเฟิงแย้มยิ้ม ฉวยโอกาสกุมข้อมือข้างหนึ่งของอาจารย์อาไว้ อาจารย์อาในใจตระหนกวาบ จะชักมือกลับมาโดยสัญชาตญาณ แต่กลับไม่ใช่คู่มือของเนี่ยเฟิง!
เนี่ยเฟิงกำไว้แน่น ทำให้อาจารย์อาไร้หนทางขยับได้โดยสิ้นเชิง!
“เลือดลมติดขัด เส้นชีพจรไม่มั่นคง ภายในเคยได้รับบาดเจ็บสาหัสสินะ”
อาจารย์อานิ่งไป “นายเป็นหมอ?”
“ไม่ใช่”
เนี่ยเฟิงส่ายหน้า “ผมคือหมอเทวดา”
อาจารย์อาหัวเราะเสียงดังขึ้นมาอย่างทนไม่ไหว “ฉันเพิ่งจะเคยเห็นคนขี้โม้แบบนี้เป็นครั้งแรก นายจะเป็นหมอเทวดาได้ยังไงกัน?”
“เพราะว่าผมเป็นหมอเทวดาจริงๆ น่ะสิ นี่ไม่ใช่เป็นการกล่าวอ้าง นี่คือเรื่องจริง”
เนี่ยเฟิงเดินไปที่ข้างกายอาจารย์อา “ขาสองข้างของคุณใช้การไม่ได้แล้ว ภายในร่างกายก็ยุ่งเหยิงจนกลายเป็นกลุ่มก้อนก้อนหนึ่ง เป็นเพราะหลังจากมี่สองขาพิการยังคิดจะฝึกยุทธต่อ ดังนั้นคุณถึงต้องการจะยืนขึ้นมาโดยไม่สนใจสิ่งใดใช่ไหม?”
สีหน้าอาจารย์อาพลันแปรเปลี่ยนไป “นายรู้อะไรมา?”
“คุณถูกหมัดพิษเจ็ดฟุตที่เป็นพิษร้ายแรงมาก แต่ละหมัดกระแทกโดนจุดเส้นลมปราณของคุณ ควบคุมการไหลของเส้นชีพจรคุณไว้ ทำให้ร่างกายของคุณผิดเพี้ยน สำหรับคนที่ฝึกยุทธคนหนึ่ง เมื่อส่วนล่างใช้การไม่ได้แล้ว ก็ไม่ต่างอะไรกับคนพิการ”
เดิมทีอาจารย์อาคิดว่าเนี่ยเฟิงเป็นเพียงหนุ่มน้อยทั่วไปที่ไม่มีอะไรแปลกประหลาดคนหนึ่ง แต่สิ่งที่เนี่ยเฟิงพูดในตอนนี้ กลับทำให้อาจารย์อาตกตะลึงเป็นพิเศษ! เขารู้มากขนาดนั้นได้อย่างไร?
“แม้ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำร้ายคุณ แต่ผมกลับรู้ดีว่าจะรักษาขาสองข้างของคุณให้หายได้อย่างไร ให้ลมปราณภายในร่างคุณเดินได้อย่างสะดวก คนที่ฝึกยุทธก็คือฝึกลมหายใจ หากตนเองสูญเสียกระบวน ฝึกฝนไปตามอำเภอใจ กลับจะทำให้อาการของโรคร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ”
เวลานี้อาจารย์อาจิตใจไม่สงบเสียแล้ว ร่างกายนี้บาดเจ็บมานานสิบปีแล้ว หรือว่าเขาจะยังมีความหวัง?
“นายรู้สึกว่าฉันยังมีทางช่วย?”
“หากเป็นคนอื่น คงจะไร้หนทางรักษาคุณได้ แต่หากเป็นผม ไม่มีปัญหา”
อาจารย์อาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น หลายปีมานี้เขาหาหมอเทวดาไปตั้งเท่าไหร่ แต่หมอพวกนั้นก็บอกเหมือนกันหมดว่า: รักษาไม่ได้แล้ว
เพราะเส้นชีพจรของเขาขาดไปแล้ว ทำให้สับสนยุ่งเหยิงไปหมด ประกอบกับพลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการรักษาไป ตอนนี้จึงไร้หนทางกลับมาดีเหมือนเดิมได้โดยสิ้นเชิง
อาจารย์อารู้สึกกลัดกลุ้มอยู่ทุกวัน ในใจยากจะรับได้ ทั้งชีวิตเขาอุทิศตัวให้กับสนามแข่งมาตลอด แต่ตอนนี้เขากลับไร้หนทางที่จะกลับลงสู่สนามใหม่อีกครั้ง เขาจึงพลาดไปหลายสิ่งหลายอย่าง
“โปรดช่วยฉันด้วย!”
“ได้!”
เนี่ยเฟิงตรงไปตรงมาอย่างยิ่ง “แต่ทำไมผมต้องช่วยคุณด้วยล่ะ?”
คำพูดนี้ของเนี่ยเฟิงทำให้อาจารย์อาแทบจะสำลักขึ้นมาทันที “นายต้องการอะไร ขอเพียงฉันสามารถให้ได้ ฉันก็จะให้นาย!”
“จริงเหรอ?”
เนี่ยเฟิงกะพริบตาอยู่ชั่วครู่ มองอาจารย์อา
“แน่นอนอยู่แล้ว!”
“งั้นก็ได้ หากผมรักษาคุณหายแล้ว คุณก็มาเป็นน้องเล็กผมแล้วกัน
เขาไม่รับเหลยจ้าน แต่อาจารย์อาคนนี้ดูเก่งกาจมาก เขาชอบคนเก่ง