พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่344 เหลวไหลสิ้นดี
หลังจากที่อาจารย์อาท่านนั้นได้ยิน ก็ยิ้มออกมาอย่างทนไม่ไหว “ความต้องการนี้ของนายช่างพิเศษมากจริงๆ”
“แม้ผมจะไม่ขาดผู้ติดตาม แต่การมียอดฝีมือด้านมวยไทยเป็นผู้ติดตามผม ผมรู้สึกว่าผมได้หน้าอย่างมาก”
เนี่ยเฟิงแย้มยิ้ม ความจริงแล้วเนี่ยเฟิงก็รู้เช่นกันว่าคนอย่างเขาเป็นคนมีความทะนงในตัวเอง
หากเนี่ยเฟิงช่วยเขา เขาก็ต้องมาตอบแทนบุญคุณ เนี่ยเฟิงไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้ แต่ก็ไร้หนทางปฏิเสธเช่นกัน
เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดความยุ่งยากโดยไม่จำเป็น ดังนั้นเนี่ยเฟิงถึงบอกอาจารย์อาว่าตนเองคิดจะให้เขาทำอะไรเสียแต่เนิ่นๆ
“ตกลง ฉันรับปากนายได้ เพียงแต่หมอเทวดาตัวเล็กๆ อย่างนายต้องรักษาฉันให้หายก่อนถึงจะได้”
เนี่ยเฟิงมองขาของอาจารย์อา “งั้นผมจะเริ่มแล้วนะ”
“ช้าก่อน!”
ในเวลานี้เอง ผู้อาวุโสท่านหนึ่งก็เดินทอดน่องเข้ามาอย่างช้าๆ
เนี่ยเฟิงมองผู้อาวุโสท่านนั้นที่เดินกะโผลกกะเผลกเข้ามา จึงอดประหลาดใจขึ้นมาเล็กน้อยอย่างห้ามไม่ได้
“ท่านหัว คุณมาได้ยังไง?”
อาจารย์อารู้สึกสงสัยอยู่บ้าง
“เหลยเป้า! แกบ้าไปแล้วเหรอ? แกไม่ต้องการชีวิตแล้วใช่ไหม? พวกหมอเทวดาก็เคยบอกแล้วว่าขาคู่นี้ของแกเพราะเคยผ่านการรักษามาหลายครั้งเกินไป จึงทำให้เอ็นและกระดูกบอบช้ำ หากแกยังดันทุรังและโง่เขลาอีก ช้าเร็วกระแสพิษก็จะแล่นเข้าสู่หัวใจจนตาย!”
ท่านหัวคือประธานสมาคมที่ดำรงตำแหน่งสูงสุดของสมาคมการต่อสู้
อันที่จริงตอนนี้ไม่ควรจะเป็นเหลยเทียนที่เป็นประธานสมาคม
เพราะสติปัญญาของเหลยเทียนยังมีไม่มากพอ หากต้องเป็น ก็ควรจะเป็นเหลยเป้าที่จะเป็น
เพียงแต่เพราะเหลยเป้าประลองการต่อสู้กับคนคนนั้น จึงปกป้องชื่อเสียงของสมาคมการต่อสู้เอาไว้ได้ และเพราะต่อสู้เสมอกับคนคนนั้น ตนเองจึงกลายเป็นคนพิการไปเช่นกัน
ท่านหัวตามหาหมอเทวดามาแล้วไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง แต่พวกเขาต่างก็ไร้หนทางที่จะรักษาเหลยเป้าได้
“ผมรู้แน่นอนอยู่แล้ว”
เหลยเป้าพยักหน้า “เพียงแต่ผมเองก็เข้าใจว่า หากผมมีชีวิตอยู่แบบนี้ต่อไปก็ไม่ใช่เจตนาเดิมของผมเช่นกัน ผมโหยหาฟ้าดินที่กว้างใหญ่ไพศาลขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นท่านหัว คุณให้ผมไปเถอะ!”
“เหลวไหลสิ้นดี! นี่ก็แค่คนเสียสติคนหนึ่ง! แกจะเชื่อคำพูดของคนเสียสติเหรอ! แกไม่คิดบ้างว่าหากเขามีความสามารถขนาดนั้น จะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ท่านหัวไม่เชื่อเนี่ยเฟิงเลยสักนิดว่าจะสามารถรักษาขาของเหลยเป้าให้หายได้”
เหลยเป้ามีบุญคุณต่อสมาคมการต่อสู้ของพวกเขา เขาจะมองดูผู้มีพระคุณของตนเองจากไปต่อหน้าตนเองทั้งแบบนี้ได้อย่างไร?
ท่านหัวเองก็ชอบเหลยเป้ามากที่สุดเช่นกัน เมื่อก่อนเหลยเป้าเหมือนกับเป็นหน้าตาของสมาคมการต่อสู้ พอผู้อื่นได้ยินคำว่าเหลยเป้าสองคำนี้ ก็ไม่มีใครมาก่อเรื่องอีก
“ตาแก่ คุณพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนัก ผมไม่มีความสามารถยังไง? ความสามารถนี้ของผมยิ่งใหญ่มากนะ!”
เนี่ยเฟิงไม่เกรงใจ และไม่มีการถ่อมตัวเลยสักนิด แน่นอนว่าการถ่อมตัวของเนี่ยเฟิงล้วนเป็นการมองคน
“หยุด! นายอย่ามาโม้ดีกว่า! ความสามารถยิ่งใหญ่พวกนั้น ล้วนเป็นของคนวัยชราเหมือนกับฉัน ไม่มีสติปัญญาเลยสักนิด จะเป็นหมอเทวดาไอ้อย่างไร? นายไม่ดูตัวเองบ้างว่าขนยังขึ้นไม่ครบด้วยซ้ำ!”
“ครบแล้วแน่นอน!”
เนี่ยเฟิงตบอก “ในเมื่อผมพูดเช่นนี้กับเขา ผมย่อมต้องมีความมั่นใจแน่นอน ผมมั่นใจในสิ่งที่ผมทำ คุณไม่ให้ผมลองดูล่ะ?”
ท่านหัวไม่อยากให้เหลยเป้าเอาตัวไปเสี่ยงอันตราย “ไม่ว่านายจะคุยโม้เป็นคุ้งเป็นแคว เรื่องนี้ก็ไม่อาจทำได้! เหลยเป้า แกตั้งสติหน่อย! แกยังมีชีวิตอยู่ ก็ต้องมองไปข้างหน้า! แกรู้ไหม!”
เมื่อกี้เหลยเป้าร้อนใจไปจริงๆ ถูกเนี่ยเฟิงมองออกว่าบาดแผลที่ตนเองได้รับคืออะไร เขาป่วยจึงร้อนใจอยากจะหาหมอ ทำให้เขาไม่ได้คิดถึงจุดนั้น
แต่เหลยเป้าก็รู้สึกเช่นกันว่านี่อาจจะเป็นโอกาสเดียว หากเนี่ยเฟิงรักษาเขาได้จริงๆ ล่ะ?
หลังเหลยเป้าต่อสู้ดิ้นรนอยู่สักพัก จู่ๆ ดวงตาก็พลันเบิกกว้างขึ้น “ฉันจะลองดู! เจ้าหนู ฉันเชื่อนาย นายช่วยฉันเถอะ!”
“เหลวไหล! แกอย่าขยับ! มาจากตรงไหนก็กลับไปตรงนั้น!”
“ท่านหัว พวกคุณกำลังทำอะไรกัน?”
เหลยจ้านเห็นเนี่ยเฟิงไม่ได้ตามมา ก็หันหลังกลับไปตามหาเขา คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกัน และนี่ก็เป็นสิ่งที่เหลยจ้านคิดไม่ถึงด้วย
“นี่เป็นคนที่แกพามาใช่ไหม? รีบให้เขาไสหัวไปไกลๆ ยิ่งไกลยิ่งดี! อย่ามาอยู่ขายหน้าที่นี่!”
ท่านหัวโบกมืออย่างรำคาญใจ
เนี่ยเฟิงเลิกคิ้ว “ท่านหัว คำพูดนี้ของคุณใจร้ายเกินไปอยู่บ้าง อะไรที่เรียกว่าขายหน้ากัน? หากผมสามารถรักษาโรคของเหลยเป้าให้หายได้จริงๆ คุณจะทำยังไง?”
ท่านหัวทำราวกับได้ยินเรื่องขำขันใหญ่หลวงอะไรสักอย่าง “ฉันล่ะอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วงจริงๆ! นาย? ช่วยคน? นี่มันล้อเล่นอะไรเนี่ย!”
“ผิดแล้วท่านหัว พี่เฟิงเก่งมากนะ! การนวดของเขามหัศจรรย์มาก! ผมรู้สึกว่าสามารถให้อาจารย์ลองดูได้!”
เหลยจ้านได้ยินพวกเขาสนทนากัน ก็พอจะคาดเดาเรื่องราวได้เจ็ดถึงแปดส่วนแล้ว จึงเข้าใจว่าหมายความว่าอะไร
ตอนนี้เหลยจ้านก็คือแฟนคลับของเนี่ยเฟิง เห็นเนี่ยเฟิงก็รู้สึกว่าเนี่ยเฟิงเป็นคนที่ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้
“เด็กที่อยู่แต่ในบ้านอย่างแกจะไปเข้าใจอะไร? แกรู้ได้ยังไงว่าหมอนี่คิดจะทำอะไร? หุบปากให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
ท่านหัวโกรธเป็นอย่างมาก เพราะท่านหัวรู้ว่าหากรักษาไม่เหมาะสม เหลยเป้าอาจตายได้
“ผมตัดสินใจแล้ว ท่านหัว ผมรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ให้ผมนั่งเฉยๆ อยู่ที่นี่ทุกวันไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ การที่ผมได้กลับมายืนขึ้นใหม่อีกครั้งคือสิ่งที่ผมต้องการอย่างแท้จริง”
เหลยเป้ากัดกรามกรอด “ยังมีอะไรที่เลวร้ายไปกว่าตอนนี้อีกเหรอ? ผมรู้สึกว่าผมสามารถเชื่อเขาอย่างหมดใจได้!”
“แก! แกทำให้ฉันโกรธจะตายอยู่แล้ว!”
ท่านหัวโกรธไม่เบา เขาตบหน้าอกตัวเองอย่างแรง โมโหเป็นอย่างมาก ประการแรกเป็นเพราะเหลยเป้าไม่เชื่อฟังเขา ประการที่สองเป็นเพราะเหลยเป้าถึงกับคิดจะสละตนเอง!
“ที่เรียกว่าตายทั้งเป็น ผมรู้สึกว่าความกล้าเช่นนี้ช่างหาได้ยากเหลือเกิน”
เนี่ยเฟิงดีดนิ้วทีหนึ่ง “คุณแน่ใจแล้วนะ? ในเมื่อแน่ใจแล้ว งั้นพวกเราก็มาเริ่มกันเถอะ”
เนี่ยเฟิงพูดจบ ก็หยิบซองชุดฝังเข็มออกมาจากกระเป๋าตัวเอง
“นี่คืออะไร?”
ฝูยานหรงเขยิบเข้ามาถามอย่างประหลาดใจอยู่บ้าง
“นี่คือของสำหรับ ‘กินข้าว’ ของฉัน”
เนี่ยเฟิงคลี่ซองชุดฝังเข็มออก เมื่อเห็นเข็มเงินแวววาวนั่นแล้วก็ทำให้คนรู้สึกกลัวขึ้นมา
เหลยจ้านกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก “เจ้านี่ดูน่ากลัวจัง!”
“นายไม่ได้ป่วย ไม่จำเป็นต้องฝังเข็ม ดังนั้นสิ่งนี้ไม่ได้น่ากลัวสำหรับนาย”
เนี่ยเฟิงพูดจบ ก็เดินขึ้นหน้าไป ฉีกขากางเกงของเหลยเป้าออก เนื้อผ้านั่นสำหรับเนี่ยเฟิงแล้ว เบาบางเป็นอย่างยิ่ง
“ไม่ต้องไปที่อื่นกันหรือ?” ฝูยานหรงถาม
“ไม่ต้อง ที่นี่ก็ดีมากแล้ว เธอดูสิ ทิวทัศน์งดงาม แถมยังได้ชมวิวสวยคนงามอีก ช่างดีเหลือเกิน!”
พอฝูยานหรงได้ยินคำว่า “คนงาม” ก็รู้ว่าตนเองถูกแซวเล่น เธอจึงถลึงตาใส่เนี่ยเฟิงแวบหนึ่งอย่างโกรธเคือง
เนี่ยเฟิงไม่ถือสาสักนิด “ตอนนี้ผมจะฝังเข็มให้คุณ ขาของคุณใช้การไม่ได้มานานแล้ว เส้นชีพจรเหล่านั้นก็เหมือนกับบ้านเก่าแก่ บอบช้ำพลังทลายมานานแล้ว ดังนั้นคิดจะทำให้เส้นชีพจรปลอดโปร่ง จึงจำเป็นต้องทนรับความเจ็บปวดเกินกว่าที่คนธรรมดาจะรับไหว หากคุณทนไม่ไหวก็ร้องออกมาได้”
“ความเจ็บนี้ฉันยังคงทนรับได้”
เหลยเป้าพยักหน้าอย่างหนักแน่นเป็นพิเศษ
เนี่ยเฟิงยิ้มชั่วร้าย “เมื่อก่อนเคยมีคนพูดแบบนี้กับผม แต่หลังจากนั้นเขาก็แผดร้องเสียงดังมากออกมา ผมเลยจำเป็นต้องอุดหูเอาไว้”
เหลยเป้าเผลอยิ้มออกมาทันที เนี่ยเฟิงกำลังแหย่เขา
ท่านหัวเห็นฉากนี้ ก็รู้สึกว่าเหลวไหลขึ้นมา