พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่355 มาหาถึงที่แล้ว
“ไม่รู้ว่ามีที่มายังไง อีกฝ่ายแข็งแกร่งมาก สามารถเอาชนะพวกเรามากกว่า 100 คนได้อย่างง่ายดาย!”
พอเสี้ยงหรื่อเซิงพูดถึงตรงนี้ เขารู้สึกอับอายอย่างมาก
“ท่านอาจารย์ เขาบอกว่า ต้องการให้ท่านออกหน้า อีกอย่างคนที่ทำร้ายอะไหลก็คือเขา!”
นัยน์ตาสีดำของชายชราค่อยๆ สงบลง “นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับเรื่องที่น่าสนุกเช่นนี้ เธอพักผ่อนให้สบาย พรุ่งนี้ฉันจะช่วยกู้หน้าให้เธอเอง”
เมื่อได้ยินคำพูดของชายชรา เสี้ยงหรื่อเซิงก็ดีใจมาก อย่างไรก็ตาม เสี้ยงหนานลูกชายของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส หมอบอกว่ามือและเท้าของเขาหัก ไม่สามารถต่อให้กลับมาเหมือนเดิมได้
พอเสี้ยงหรื่อเซิงได้ยินดังนั้น ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น เขาอยากจะฆ่าเนี่ยเฟิงในตอนนี้เหลือเกิน เพื่อระบายความโกรธให้ลูกชายของเขา
พวกเขาไม่รู้ว่าอันที่จริง เนี่ยเฟิงได้ให้เกียรติพวกเขาแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงฆ่าเขาไปแล้ว จะปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?
ในเวลานี้กลิ่นหอมของไวน์และเนื้อสัตว์แผ่ซ่านไปทั่วสนามฝึกกลางแจ้งของสมาคมการต่อสู้เขตตะวันตกเฉียงใต้
พวกเขากำลังฉลองชัยชนะของการต่อสู้ และกำลังย่างเนื้อจริงๆ
“กินให้เยอะหน่อย! พี่เฟิง ผมจะย่างเนื้อให้พี่ให้!”
เนี่ยเฟิงนั่งอยู่ข้างๆ เขาไม่จำเป็นต้องลงมือเองเลย เหลยจ้านคอยรับใช้อยู่ข้างๆ
“ระวังหน่อยนะ หัวคุณยังบาดเจ็บอยู่”
ฝูยานหรงรับช่วงต่อจากเหลยจ้าน ช่วยม้วนเนื้อให้เนี่ยเฟิงด้วยตัวเอง
เหลยจ้านบุ้ยปาก “ทำไมคุณถึงเอาใจใส่จัง คุณชอบพี่เฟิงหรือเปล่า?”
พอเหลยจ้านพูดเช่นนี้ มือของฝูยานหรงก็สั่นสะท้านเล็กน้อยด้วยความตกใจ “คุณพูดจาเหลวไหลอะไรน่ะ? ถ้าคุณยังพูดจาซี้ซั้วอีก ฉันจะตีคุณ!”
“ดูสิ! พูดถูกใช่ไหมล่ะ? คุณเลยโกรธเพราะอาย! ฮ่าฮ่า!”
“เหลยจ้าน! อย่าคิดว่าคุณบาดเจ็บแล้วฉันจะไม่กล้าตีเธอนะ!”
ฝูยานหรงทั้งอายทั้งหงุดหงิด เอามือตีเขาอย่างแรง
โชคดีที่ตรงตำแหน่งที่ตีไม่ได้รับบาดเจ็บ
“เอาล่ะ อย่าตีเขาเลย วันนี้เขาถูกตีหัวมา ผมกลัวว่าถ้าคุณตีเขาอีก เขาอาจจะเลือดออกในสมองได้นะ”
เนี่ยเฟิงพูดอย่างเป็นห่วง
ฝูยานหรงจึงวางมือ “ฉันอยากจะขอบคุณที่คุณช่วยฉันในวันนี้ ดังนั้นฉันถึงย่างเนื้อให้คุณ! คุณอย่าคิดมาก!”
ฝูยานหรงพ่นลมหายใจแรงอย่างเย็นชา แล้วย่างเนื้อต่อไปอย่างเย่อหยิ่ง
“ว่าแต่ว่า ทำไมวันนี้เสี้ยงหนานถึงทำกับคุณแบบนี้? ตอนนั้นผมกลับมาช้าเลยไม่ได้ยิน”
“มันเป็นเพราะว่าพี่เฟิงกลับมาช้าเกินไป ผมถึงได้รับบาดเจ็บ ฮือๆๆ! เจ็บจะตายอยู่แล้ว! เสี้ยงหนานคนที่เคยตามจีบฝูยานหรง แต่ฝูยานหรงปฏิเสธ ผลก็คือ เจ้าหมอนี่ดึงดันไม่เลิกรา! โชคดีที่พี่เฟิงกลับมาทันเวลา ยับยั้งเสี้ยงหนานไว้ได้! ฮ่าฮ่า!”
ใบหน้าของเหลยจ้านมีการแสดงออกเล็กน้อย ดูท่าทางตลกดี
“เป็นแบบนี้นี่เอง ถ้าผมไม่กลับมา คงจะถูกไอ้เวรนั่นเอาเปรียบแล้วใช่ไหม?”
ฝูยานหรงไม่อาจปฏิเสธได้ มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นคุณก็ต้องขอบคุณผมให้ดีๆ ด้วย”
แววความขี้เล่นในดวงตาของเนี่ยเฟิง ทำให้ฝูยานหรงรู้สึกประหม่าในทันใด “คุณจะทำอะไรน่ะ?”
“ก็ต้องการให้คุณตอบแทนผมไง! ตอนนี้ผมเป็นผู้มีพระคุณของคุณแล้ว คุณจะไม่แสดงออกหน่อยเหรอ?”
เนี่ยเฟิงกะพริบตาปริบๆ มองด้วยความเจ้าชู้ ถ้าเขาอยู่ที่โรงเรียน ต้องมีแฟนคลับตาบอดคอยติดตามเขาเป็นจำนวนมาก
“ฮึ ฉันยังนึกว่าคุณจะเป็นคนดี ไม่คิดว่าคุณจะขอรางวัลจริงๆ ไหนคุณว่ามาซิ! คุณต้องการรางวัลอะไร?”
ฝูยานหรงโยนเนื้อย่างออกไปด้านข้างด้วยความไม่พอใจ แล้วกลอกตาใส่
“ขอผมคิดดูก่อนนะ เอาแบบนี้แล้วกัน! คุณป้อนเนื้อย่างให้ผมด้วยได้ไหม? วันนี้ผมเหนื่อยเกินกว่าจะยกมือขึ้นแล้ว”
“คุณ! คุณได้คืบจะเอาศอก เมื่อกี้คุณยังใช้ตะเกียบคีบอยู่เลย แต่ตอนนี้มาบอกว่ายกไม่ขึ้น คุณจงใจใช่ไหม?”
เนี่ยเฟิงมองฝูยานหรงด้วยท่าทางไร้เดียงสา พลางยักไหล่ “ผมจะไปจงใจได้ยังไง? ผมยกมือไม่ขึ้นจริงๆ โอ๊ย ดูสิ มันเจ็บ!”
“ฝูยานหรง คุณอย่ารังแกพี่เฟิงของพวกเราแบบนี้สิ ยังไงพี่เฟิงของพวกเราเขาก็เคยช่วยคุณนะ”
เหลยจ้านที่ยืนอยู่ข้างๆ หยิบผักกาดหอมเอามาห่อเนื้อย่าง “พี่เฟิง! ถ้าเธอไม่ป้อนคุณ เดี๋ยวผมจัดให้! อ้ำ!”
เนี่ยเฟิงนึกสงสัยว่าทำไมเจ้าหมอนี่จะมากระตือรือร้นอะไร เขาต้องการให้ผู้หญิงป้อน ไม่ใช่ผู้ชาย
“ผมไม่เอา เนื้อที่คุณห่อไม่อร่อยเลย ผมไม่กิน”
เหลยจ้าน…
ทำไมเนื้อของเขาถึงไม่อร่อยล่ะ?
“เฮ้อ ลำบากจัง สงสัยคืนนี้ผมจะไม่ได้กินข้าวเย็นเสียแล้ว ถ้างั้นผมกลับไปนอนต่อดีกว่า พรุ่งนี้คงไม่มีเรี่ยวแรงที่จะจัดการกับอาจารย์ของเสี้ยงหรื่อเซิงแน่เลย สมาคมการต่อสู้ของเรากำลังจะล่มสลายแล้ว”
ฝูยานหรงเห็นเนี่ยเฟิงทอดถอนใจก็รู้สึกผิดอย่างอธิบายไม่ถูก “คุณ ช่างมันเถอะ! เดี๋ยวฉันป้อนคุณก็ได้!”
ฝูยานหรงหยิบผักกาดหอมห่อเนื้อขึ้นมาอย่างหงุดหงิด แล้วยัดเข้าไปในปากของเนี่ยเฟิง
“อร่อยจัง! คราวนี้ใส่พริกไทยอีกหน่อย ถูกต้อง”
ภายใต้การชี้นำของเนี่ยเฟิง ฝูยานหรงเป็นเหมือนสาวใช้ที่ยุ่งอยู่กับการห่อเนื้อ คีบเนื้อ และป้อนอาหารให้เนี่ยเฟิงอยู่ข้างๆ
“ลูกพี่เนี่ยเป็นอะไรไป?”
เมื่อเหลยเทียนกลับมาเห็นภาพนี้ เขาก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที
“พี่เฟิงบอกว่าวันนี้เขาออกกำลังกายมากเกินไป ยกมือขึ้นไม่ไหว ต้องการให้ฝูยานหรงป้อนอาหารเขา”
เหลยจ้านกินอาหารคำใหญ่อย่างมีความสุข
เหตุใดเหลยเทียนถึงมองไม่ออกว่าเนี่ยเฟิงจงใจ
แต่ช่างมันเถอะ เห็นพวกเขาหยอกล้อกันก็น่าสนุกดี
พอกินอิ่มพวกเขาก็นั่งพูดคุยกันเพื่อย่อยอาหาร ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น!
“เกิดอะไรขึ้น? ใครน่ะ?”
เมื่อเหลยเทียนได้ยินเสียงกรีดร้อง เขาก็เดินไปตามทิศทางของเสียงทันที เห็นลูกศิษย์คนหนึ่งถูกเตะกระเด็นเข้ามา ขาทั้งสองของเขาเป็นรอยฟกช้ำสีเขียวม่วง เห็นได้ชัดว่าโดนหมัดพิษเจ็ดฟุต!
เนี่ยเฟิงเลิกคิ้ว จิบโค้กหนึ่งคำ “เราไปดูกันว่าใครมาที่นี่”
ชายชราผมขาวไว้เคราเดินเข้ามาที่หน้าบันไดประตูใหญ่
แม้ว่าชายชราจะมีผมหงอกขาว แต่ใบหน้าของเขายังเด็ก ไม่มีใครรู้ว่าเขาอายุเท่าไหร่กันแน่
“เขานั่นเอง!”
เหลยเป้าจำชายคนนี้ได้! เพราะท่วงท่าที่เขาเดิน!
ตอนนั้นคนที่ทำร้ายเหลยเป้าก็คือชายลึกลับที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้!
อันที่จริง เนี่ยเฟิงเดาได้คร่าวๆ แล้ว เขามองพิจารณาชายชรา ก่อนจะเห็นรอยแผลเป็นรุนแรงที่หลังมือของชายชรา มุมปากของเขาโค้งขึ้นเล็กน้อย ใช่เขาจริงๆ
“คุณเป็นใคร?”
เหลยเทียนพยุงลูกศิษย์ที่บาดเจ็บ แล้วตวาดใส่
“เหลยเทียน คุณเป็นคนทำร้ายลูกศิษย์ของผมใช่ไหม?”
ชายชราเอ่ยขึ้น “ผมชื่อหยุนวู่ซานเหริน ลูกศิษย์ของผมคืออะไหลและเสี้ยงหรื่อเซิง”
“ต้องขอโทษจริงๆ คนที่ทำร้ายพวกเขาคือผมเอง ไอ้แก่”
เนี่ยเฟิงกัดฟันเดินเข้าไปหาเหลยเทียน “คุณดูเหมือนอายุหกเจ็ดสิบปีแล้วใช่ไหม? คุณมีระดับฝีมือการต่อสู้ที่สูงและลึกซึ้งมาก แต่กลับรังแกเด็กหนุ่มอายุยี่สิบปีเมื่อสิบปีที่แล้ว น่าละอายใจยิ่งนัก”
แทนที่หยุนวู่ซานเหรินจะโกรธ เขากลับหัวเราะแล้วพูดว่า “คุณไม่รู้หรือว่ากฎของโลกนี้คือผู้ที่อ่อนแอย่อมเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแรงกว่า? เขาไร้ประโยชน์ สมควรได้รับบาดเจ็บ”
“ใช่ ลูกศิษย์ของคุณก็ไร้ประโยชน์เช่นกัน ดังนั้นเขาก็สมควรได้รับมัน” เนี่ยเฟิงโต้กลับ