พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่382 พวกเหลือขอ
“สิ่งที่ฉันพูดคือความจริง ตอนแรกพวกคุณมีท่าที่ดีและสุภาพมาก แต่คุณใช้สายตาของสุนัขมองเหยียดคนอื่นจนต่ำต้อยถึงที่สุด ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมคนอย่างคุณถึงเป็นผู้จัดการได้ ฉันรู้สึกอับอายแทนอ่าวหยกเขียวจริงๆ!”
หลินซูอินเคยมีรอยยิ้มจางๆ อยู่บนใบหน้าของเธอเสมอ แต่ตอนนี้รอยยิ้มนั้นหายไป เหลือเพียงใบหน้าที่บูดบึ้ง
“บัดซบ! คิดว่าผมจะตบผู้หญิงไม่ได้เหรอ?”
“ฉันแค่ปฏิบัติต่อคุณเหมือนอย่างที่คุณปฏิบัติต่อเรา ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงโกรธขนาดนี้”
คำพูดของหลินซูอินแทงใจดำของผู้จัดการอย่างจัง ผู้จัดการโกรธจนระงับไม่อยู่แล้ว เขายกมือขึ้นต้องการสั่งสอนบทเรียนให้กับยัยโง่ที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำนี่!
แต่ทว่ามือของเขายังไม่ทันฟาดลงมา เนี่ยเฟิงก็เตะมันออกไปแล้ว
ผู้จัดการไฉนเลยจะเป็นคู่ต่อกรกับเนี่ยเฟิงที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชนได้? จากนั้นเขาก็กระเด็นออกไปข้างๆ ราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่ กระแทกเข้ากับโซฟาจนล้มคว่ำ ความเจ็บปวดทำให้เขาต้องแยกเขี้ยว!
“ใครอนุญาตให้คุณแตะต้องพี่สามของผม”
เนี่ยเฟิงพูดออกมาอย่างเยือกเย็น
หลินซูอินก็ตกใจกับภาพนี้เช่นกัน เธอรีบเอื้อมมือไปคว้ามือของเนี่ยเฟิงไว้ “เสี่ยวเฟิง อย่าวู่วาม!”
“ผมแค่ชิงลงมือก่อนเท่านั้น ผมจะไม่ยอมให้เขาตบพี่”
เนี่ยเฟิงไม่ต้องออกแรงมากนัก ก็ทำให้ผู้จัดการลุกไม่ขึ้นแล้ว
ผู้จัดการตะเกียกตะกายอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกดปุ่มสัญญาณเตือนภัย “ช่วยด้วย! มีคนก่อความวุ่นวายที่นี่!”
ไม่กี่นาทีต่อมา คฤหาสน์ราชาก็ถูกรายล้อมไปด้วยหน่วยรักษาความปลอดภัย
เนี่ยเฟิงเห็นความเร็วของหน่วยรักษาความปลอดภัยนั้นเร็วมากจริงๆ “การรักษาความปลอดภัยที่นี่ไม่เลวเลยนะ”
“ฮึ่ม! ผมจะบอกคุณให้นะ! คุณลำบากแน่! หน่วยรักษาความปลอดภัยที่นี่ล้วนเป็นทหารปลดประจำการ!”
เนี่ยเฟิงเข้าใจกระจ่างแล้ว “แบบนี้ก็ดี ระบบความปลอดภัยสูงขึ้นมาก”
“เดี๋ยวจะตบให้ฟันหักหมดปากเลย!”
ผู้จัดการพูดคำนี้ออกมาด้วยความลำบาก เพราะเขาเจ็บปวดเกินกว่าจะลุกขึ้นยืน
หลินซูอินรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เธอจับนิ้วมืออันเรียวยาวของเนี่ยเฟิงแน่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เนี่ยเฟิงก็สังเกตเห็นว่าหลินซูอินหวาดกลัว
“พี่สามไม่ต้องกลัว เดี๋ยวผมจัดการเอง”
หลินซูอินถอยออกมาแล้วพูดว่า “พวกเขามีมากเกินไป เราต้องหาวิธีใหม่!”
“ไม่ต้องห่วง คนพวกนี้ผมจัดการเองได้”
เนี่ยเฟิงพูดจบก็ดึงหลินซูอินไปข้างหลังแล้วพูดว่า “พี่สาม ไปหาที่หลบก่อน ผมเกรงว่าเดี๋ยวพี่จะโดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บตอนผมต่อสู้กับพวกเขา”
หลินซูอินพยักหน้า “ขอโทษนะ พี่สามน่าจะเรียนศิลปะการต่อสู้ด้วย…”
“ไม่ใช่ความผิดของพี่นี่นา? ร่างกายของพี่สามไม่เหมาะที่จะฝึกศิลปะการต่อสู้ ผมสามารถปกป้องพี่ได้ก็พอแล้ว! พี่สามไม่ต้องกังวล! เชื่อมั่นในตัวผมเถอะ!”
เนี่ยเฟิงตบหน้าอกตัวเอง
แม้ว่าหลินซูอินจะเป็นกังวลมาก แต่ก็ยังหาที่หลบซ่อน
เพราะหากเธออยู่ที่นี่รังแต่จะเป็นตัวถ่วงของเขา
หลังจากที่หลินซูอินออกไปแล้ว เนี่ยเฟิงก็กำหมัดแน่น “ผมไม่รู้หรอกว่าพวกคุณมีกี่คน แต่ไม่เป็นไร เข้ามาพร้อมกันได้เลย”
ผู้จัดการได้ยินเนี่ยเฟิงพูดเช่นนี้ก็รู้สึกขบขัน แต่คนคนนี้เก่งเรื่องสร้างปัญหา เขายังขอให้เสี่ยเลี้ยงของตัวเองออกไปก่อน แน่นอนว่าคนเช่นนี้สามารถเกลี้ยกล่อมให้เศรษฐินีตายใจได้
แต่อีกสักพักจะไม่เป็นเช่นนี้แล้ว! เขาต้องตบหน้าเนี่ยเฟิงให้บวมเป่งด้วยมือของเขาเอง!
“หนุ่มน้อย คุณอย่าพูดจาให้มันเย่อหยิ่งนัก”
คนที่นำหน้าอยู่คือหัวหน้ารปภ. ทีมเล็กๆ ของพวกเขามีทั้งหมดสิบคน
ดูเหมือนว่าเขาจะมีรูปร่างที่ดีและกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ดูท่าทางจะได้รับการฝึกฝนตลอดเวลา ทุกการเคลื่อนไหวของเขามีมาตรฐานมาก บางทีเขาอาจจะเพิ่งปลดประจำการจากกองทัพมาเมื่อไม่นานมานี้ หรือบางทีเขาอาจจะปลดประจำการแล้วแต่ยังทำการฝึกฝนมาโดยตลอด
กลุ่มคนที่ติดตามเขาก็เป็นชายหนุ่มที่เก่งกาจเช่นกัน
เนี่ยเฟิงแสยะยิ้ม “เข้ามาได้เต็มที่ ไม่ต้องลังเลเลย ถ้าตายผมรับผิดชอบเอง”
คำพูดอันลำพองของเนี่ยเฟิงทำให้เลือดของกลุ่มทหารปลดประจำการระอุขึ้น พวกเขาเห็นเนี่ยเฟิงผอมมาก แต่ดันกล้าพูดอย่างลำพองเช่นนี้ กำลังรนหาที่ตายอยู่สินะ?
“นายแน่มาก! เดี๋ยวฉันจะทำให้นายเห็นเอง!”
รองหัวหน้ารปภ.ที่อยู่ข้างหลังหัวหน้ารปภ.พูดจบ ก็เปิดฉากโจมตีทันที!
การเคลื่อนไหวของเขาเร็วมาก ราวกับฉลามล่าเหยื่อ เขากระโจนเข้าใส่ แต่การเคลื่อนไหวของเนี่ยเฟิงเร็วกว่าเขาอีก!
เขาคว้าอากาศ!
รองหัวหน้ารปภ.รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ!
“ถ้าคุณเสียสมาธิในสนามรบ คุณอาจตายได้”
คำพูดของเนี่ยเฟิงระเบิดขึ้นข้างหูเขา ก่อนที่เขาจะทันได้โต้ตอบ ก็รู้สึกเจ็บปวดและชาที่น่อง เขาคุกเข่าลงกับพื้นทันที! ลุกขึ้นมาไม่ไหวอีก!
“เร็วมาก!”
เมื่อหัวหน้ารปภ.เห็นภาพนี้ ก็รู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนที่ควรจะเข้าไปยั่วยุอย่างแน่นอน! เมื่อครู่เขาน่าจะคาดเดาได้แล้ว! เพราะเขาเตะผู้จัดการออกไปได้ไกลหลายเมตรในครั้งเดียว!
“เข้าไปพร้อมกัน!”
เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้ แต่ละคนก็เงอะงะ!
ทันทีที่หัวหน้ารปภ.ออกคำสั่ง พวกเขาทุกคนก็พุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว!
อย่างไรก็ตาม พวกเขาล้วนไม่สมควรเป็นคู่ต่อสู้ของเนี่ยเฟิง! ความเร็วของเนี่ยเฟิงเร็วกว่าพวกเขามาก!
เนี่ยเฟิงจัดการคนกลุ่มนี้ได้อย่างสบายมือ
ในเวลาไม่ถึงห้านาที พวกเขานอนแผ่หลาบนพื้นระเกะระกะ
คนคนนี้เป็นใครกันแน่? ทำไมเขาถึงมีพลังต่อสู้ที่น่ากลัวขนาดนี้! มันทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญแขวนจริงๆ!
“นานๆ ทีจะได้ยืดเส้นยืดสายแบบนี้ สบายจัง” เนี่ยเฟิงพูดพลางบีบกระดูกตัวเอง
เนี่ยเฟิงเดินเข้าไปหาหัวหน้ารปภ. “คุณเองก็ถือว่าไม่เลวนะ รับผมได้ 2 กระบวนท่าถึงล้มลง ไม่อายใคร”
หัวหน้ารปภ.รู้ดีว่าตัวเองกับเนี่ยเฟิงมีช่องว่างระหว่างความแข็งแกร่งอย่างมาก แม้ว่าเขาจะรู้สึกไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองน่าขายหน้า
คนแข็งแกร่งเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็ต้านทานไม่อยู่ มันเป็นเรื่องปกติ
เมื่อผู้จัดการเห็นภาพนี้ก็รู้สึกหวาดกลัว เจ้าหมอนี่เป็นใครกันแน่?!
เนี่ยเฟิงเดินไปหาผู้จัดการอย่างช้าๆ มองผู้จัดการแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เมื่อกี้คุณบอกใช่ไหมว่าผมซื้อคฤหาสน์ราชาไม่ไหว?”
ผู้จัดการกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก “คุณ! คุณต้องการอะไร?”
“เฮ้อ ผมน่ะเป็นคนมีอารยะ แน่นอนว่าคนมีอารยะก็ต้องทำอะไรอย่างมีอารยะ”
เนี่ยเฟิงยักไหล่แล้วยกมือขึ้น “มอบเงินสดหนึ่งพันล้านให้แก่คฤหาสน์ราชาอ่าวหยกเขียว ทั้งหมดต้องเป็นธนบัตรหนึ่งหยวน”
ผู้จัดการและทุกคนในที่นี้รู้สึกประหลาดใจ เขากำลังทำอะไรอยู่?
“คุณคิดจะทำอะไรกันแน่!”
“ทำอะไรน่ะเหรอ?”
เนี่ยเฟิงพูดพลางกะพริบตา “ก็ต้องซื้อบ้านน่ะสิ!”
ในเวลานี้ หลินซูอินไม่ได้ยินเสียงจากภายนอก เธอง้างรอยแตกอย่างระมัดระวัง เห็นคนนอนระเกะระกะอยู่ข้างนอก เธอมองหาเนี่ยเฟิงอย่างเป็นกังวล
“เสี่ยวเฟิง เสี่ยวเฟิง นายไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เนี่ยเฟิงได้ยินเสียงพี่สาม ก็หันกลับมา “พี่สาม ผมไม่เป็นอะไร! พี่รีบออกมาเร็ว!”
หลินซูอินได้ยินว่าเนี่ยเฟิงไม่เป็นอะไรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว งั้นพวกเรากลับกันก่อนดีไหม?”
ทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่รู้ว่าจะถูกทวงถามความรับผิดชอบหรือเปล่า ดูเหมือนว่าจะซื้อบ้านที่นี่ไม่ได้แล้ว
พูดก็พูดเถอะ ตั้งหนึ่งพันล้าน
“ตอนนี้ยังกลับไปไม่ได้ เพราะเรายังต้องซื้อบ้านอีก!”
เนี่ยเฟิงยิ้มอย่างสดใส