พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่409 ใช้ลูกไม้เล็กน้อย
“คุณอย่ามาใช้คำพูดเหล่านี้ล้อเลียนผมเลย ทุกคนกำลังทำบุญกันอยู่!”
แม้ว่าว่านไห่เทาจะพูดอย่างนั้น แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ไม่ลดลงเลย แถมยังสดใสเป็นพิเศษ เพราะว่านไห่เทารู้ว่า คราวนี้เขาจะมีอิทธิพลต่อผู้คนมากขึ้นอย่างแน่นอน
“ในเมื่อสินค้านี้ถูกขนถ่ายเรียบร้อยแล้ว ทำไมพวกเราไม่ไปช่วยกันขนเข้าไปล่ะ!”
พูดจบเนี่ยเฟิงก็ดึงแขนเสื้อขึ้น อันที่จริงคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในที่นี้ได้สวมชุดสูทและผูกเนกไท ดูเหมือนพวกเขาจะไม่สามารถทำงานได้เลย มีเพียงเนี่ยเฟิงเท่านั้นที่สวมชุดกีฬา ดังนั้นเขาจึงหอบผ้าห่มขึ้นมาไปยังหอพักคนพิการได้อย่างง่ายดาย
คนเหล่านี้มองหน้ากันเลิ่กลั่กอย่างช่วยไม่ได้ เนื่องจากมีคนนำแล้ว พวกเขาจึงต้องทำ โดยปกติแม้ว่าพวกเขาจะไปปลูกต้นไม้ ก็ต้องสวมใส่หลายต่อหลายชั้น คลุมรองเท้าของตัวเองด้วยผ้าพลาสติก ด้วยกลัวว่ารองเท้าหนังราคาแพงจะเปื้อนฝุ่น
เพียงแต่ว่าถ้าวันนี้ช่วยกันขนผ้าห่ม ก็จะทิ้งภาพอันล้ำค่าไว้มากมาย ในสถานการณ์อันเป็นที่สนใจของประชาชนนี้ พวกเขาทำเพื่อให้ได้รับความสนใจมากขึ้น
เนี่ยเฟิงขนย้ายได้หลายรอบ ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาดีกว่าคนทั่วไป ดังนั้นในเวลานี้เขาจึงไม่ได้หอบหายใจแม้แต่น้อย
พอเกือบเสร็จแล้ว เนี่ยเฟิงก็ออกแรงเพียงเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าผ้าห่มนวมในมือของเขาจะขาด
“โอ๊ย ขอโทษจริงๆ ครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ!”
เนี่ยเฟิงมองดูผ้าห่มนวมที่ขาดออกเป็นสองส่วนด้วยใบหน้าที่ไร้เดียงสา เหตุใดผู้ชายคนนี้ถึงมีพละกำลังมาก ฉีกผ้าห่มนวมขาดด้วยมือเปล่า?
ในเวลานี้สื่อมวลชนกำลังถ่ายอย่างตื่นเต้นดีใจ พอเห็นว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับเนี่ยเฟิง พวกเขาจึงยกกล้องในมือขึ้นเพื่อถ่ายรูปทันที ในเวลานี้พวกเขาพบว่าผ้าห่มนวมที่อยู่บนพื้นเป็นสีดำ
เนี่ยเฟิงมองผ้าห่มนวมที่กองอยู่บนพื้นอย่างงุนงง แล้วถามด้วยความสงสัย “แปลกจัง ทำไมผ้าห่มนวมผืนนี้ถึงเป็นเส้นใยไฟเบอร์?”
เมื่อผู้รับผิดชอบได้ยินเช่นนี้ก็ขนหัวลุกทันที เขารีบเข้าไปดูและพบว่าภายในผ้าห่มนวมเต็มไปด้วยเส้นใยไฟเบอร์!
“เส้นใยไฟเบอร์!”
เมื่อไม่กี่วันก่อนหน่วยเหนือเพิ่งออกข่าวเกี่ยวกับความอันตรายของเส้นใยไฟเบอร์ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีเส้นใยไฟเบอร์อยู่ในสิ่งของชุดนี้ที่บริจาคโดยว่านไห่เทา!
กลุ่มนักข่าวก็ตกใจเช่นกัน แต่พวกเขายังคงถ่ายรูปทั้งหมดนี้ไว้อย่างซื่อตรง แม้ว่าพวกเขาจะได้รับเงินจากว่านไห่เทา แต่เรื่องนี้จะกลายเป็นเบี้ยต่อรองสำหรับการเลื่อนตำแหน่งและขึ้นค่าแรงในอนาคตของพวกเขา
ว่านไห่เทากำหมัดแน่น เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็รู้ว่าต้องมีปัญหาเกิดขึ้นกับตนเองอย่างแน่นอน แต่ว่านไห่เทาได้คิดหาทางรับมือไว้แล้ว เขากระโดดออกมาแล้วพูดอย่างโกรธเคือง “เลขาหวัง ผมบอกให้คุณไปทำอะไร? ของพวกนี้หมายความว่ายังไง? จะให้คนพิการใช้ผ้าไฟเบอร์ได้ยังไง!”
เลขาหวังและว่านไห่เทาสมรู้ร่วมคิดกันมาไม่ใช่แค่วันสองวัน พวกเขาสองคนพัฒนาจนรู้ใจกัน เมื่อเลขาหวังได้ยินเช่นนี้ก็ปาดเหงื่อที่หน้าผากทันที แล้วรีบส่ายหัว “ผมหาพ่อค้าที่ไว้ใจได้แล้วนะครับ!”
“ในเมื่อเป็นพ่อค้าที่ไว้ใจได้ ทำไมถึงมีผ้าไฟเบอร์ได้?”
ว่านไห่เทาตบต้นขาอย่างโกรธสุดขีด ราวกับว่าเขาไม่รู้เรื่องจริงๆ
“ต้องเป็นพ่อค้าใจดำที่รับเงินเราไปแล้ว แต่ไร้จรรยาบรรณ ผมจะติดต่อหาพ่อค้าทันทีเพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้น!”
“ไม่จำเป็นต้องถามแล้ว และไม่ต้องเสแสร้งด้วย ทุกอย่างมันเป็นความคิดของคุณเองใช่ไหม?”
ในเวลานี้คนขับรถบรรทุกที่ขับรถมาที่นี่ขว้างถุงมือลงบนพื้นอย่างแรง แล้วจ้องว่านไห่เทาอย่างโกรธเคือง
แน่นอน เนี่ยเฟิงเป็นคนจัดการเรื่องพวกนี้ทั้งหมด เนี่ยเฟิงรู้อยู่แล้วว่าว่านไห่เทาได้สั่งซื้อผ้าไฟเบอร์ล็อตนี้ในราคาต่ำ
ว่านไห่เทาทำแบบนี้ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งแล้ว เขาไม่ได้กังวลว่าสิ่งที่เขาทำจะถูกเปิดเผย เพราะเขาได้เตรียมทางถอยเอาไว้แล้ว
ในบรรดากลุ่มคนที่ทำงานกับว่านไห่เทา มีหลายคนที่ค่อนข้างซื่อสัตย์ เป็นเพราะว่านไห่เทาผู้นี้ชอบวาดวิมานให้คนอื่น ไม่ต่างกับฉินเทียนกัง
เพียงแต่ว่าฉินเทียนกังนั้นถือดีเกินไป เขาคิดว่าไม่มีใครกล้าอกตัญญูต่อเขา เขาเป็นเทพเจ้าแห่งเมืองหยางเฉิง ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวเลย และสิ่งที่เขาทำก็ไม่รอบคอบเหมือนกับว่านไห่เทา
แต่ตราบใดที่ทำเรื่องไม่ดี มันก็ย่อมทิ้งร่องรอยเบาะแสเอาไว้อย่างแน่นอน มันเป็นเรื่องง่ายหากเนี่ยเฟิงต้องการปลุกระดมคนรอบข้างเขา ขอเพียงเงินถึงก็เพียงพอแล้ว อย่างไรสิ่งที่ว่านไห่เทาทำนั้นก็เป็นความจริง
คำพูดที่ออกมาอย่างกะทันหันของคนขับรถบรรทุกทำให้ว่านไห่เทาต้องขมวดคิ้ว “เหล่าหลี่ คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?”
เหล่าหลี่โกรธจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง “ผมหมายความว่ายังไงน่ะเหรอ? อย่าบอกนะว่าคุณไม่เข้าใจ? ผมไม่ทำแล้ว ผมไม่อยากทำอะไรที่ผิดศีลธรรมให้คุณอีกแล้ว!”
บรรดาสื่อมวลชนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงรีบถ่ายวิดีโอพวกเขาทันที
“ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร”
ว่านไห่เทาไม่คิดว่าเจ้าหมอนี่จะมาพูดอะไรแบบนี้ในช่วงนาทีสำคัญเช่นนี้
“ว่านไห่เทา พวกคุณสองพ่อลูกทำเรื่องแย่ๆ มาหมดแล้ว พอผมนึกถึงเรื่องผิดศีลธรรมที่ทุ่มเททำให้พวกคุณ ผมก็รู้สึกผิดอยู่ในใจ ตอนนั้นคุณสัญญาว่าจะรักษาลูกสาวของผมให้หาย แต่หลังจากหลายปีผ่านไป คุณก็ยังไม่ทำตามสัญญา!”
เหล่าหลี่กำหมัดแน่นจนเล็บจมลงไปในเนื้อ ถ้าไม่ใช่เพราะว่า เขาได้เห็นรายงานการรักษา เขาจึงได้รู้ว่ายาที่ว่านไห่เทาให้มานั้นไม่ใช่ของนำเข้า ตอนนี้ลูกสาวของเขาตกอยู่ในอันตราย และเขาอาจถูกปิดตาอยู่ในความมืดตลอดไป!
“คุณจะมาระบายความโกรธใส่ผมแบบนี้ไม่ได้หรอก ลูกสาวของคุณป่วยเป็นเรื่องโชคร้าย ผมรู้ แต่ผมกำลังพยายามช่วยเหลือคุณอย่างดีที่สุด”
ว่านไห่เทารู้ว่าเหล่าหลี่มีแนวโน้มที่จะถูกยุยงให้กบฏจากใครบางคน เป็นไปได้มากว่าคนคนนั้นคือเนี่ยเฟิง ถ้าไม่อย่างนั้นเนี่ยเฟิงจะบังเอิญฉีกผ้าไฟเบอร์ขาดได้อย่างไร?
ตอนนี้ว่านไห่เทารู้สึกกังวลเล็กน้อย แต่เขาก็รู้ว่าไม่สามารถตื่นตระหนกได้ เขาต้องหาวิธีตบตาเพื่อผ่านมันไปให้ได้ มิฉะนั้นทุกอย่างที่เขามีอยู่อาจจะถูกทำลายลงในทันที
“คุณไม่ต้องพูดแบบนี้แล้ว ผมพิมพ์รายงานการรักษาออกมาแล้ว ผมรู้ว่าหมอในโรงพยาบาลมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับคุณ ดังนั้นพวกเขาจะทำตามทุกอย่างที่คุณพูด คุณรังแกผมเพราะผมไม่รู้หนังสือและไม่มีการศึกษา ดังนั้นจึงปิดตาผมไปเรื่อยๆ อาการของลูกสาวผมแย่ลงเรื่อยๆ เพื่อที่จะรักษาลูกสาวของผม ผมจึงอุทิศชีวิตทำงานให้หนักขึ้น สำหรับคุณแล้วเห็นผมเป็นอะไร?”
เหล่าหลี่คำรามอย่างโกรธเคือง เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาปูดโปนออกมา หน้าแดงก่ำ ดูท่าทางโกรธมาก
เหล่าหลี่โยนรายงานการรักษาในมือของเขาออกมา ในเวลานี้ผู้รับผิดชอบก็รู้สึกแปลกๆ เช่นกัน เขารีบเข้าไปเก็บรายงานการรักษาขึ้นมาตรวจสอบดู เขาเคยศึกษาวิชาแพทย์มาก่อน และอุทิศตัวช่วยเหลือคนพิการมาโดยตลอด
เมื่อเขาเห็นรายงานการรักษา ก็อดตกใจไม่ได้ เขามองไปที่ว่านไห่เทาอย่างสงสัย เนื่องจากรายงานการรักษาระบุว่าเด็กหญิงคนนั้นไม่ได้รับการรักษาตามปกติ
ดวงตาของว่านไห่เทาเป็นประกายระยิบระยับอย่างเห็นได้ชัด