พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่410 ผิดก้าวเดียวแค้นใจไปชั่วชีวิต
“ตอนแรกผมรู้สึกขอบคุณคุณมาก แต่ถ้าหากผมพาลูกสาวไปโรงพยาบาลอื่นด้วยเงินของผมเอง ลูกสาวของผมก็คงไม่ย่ำแย่เหมือนในตอนนี้ ทุกอย่างเป็นความผิดของคุณ เพราะคุณต้องการเก็บผมไว้!”
เหล่าหลี่กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ชีวิตนี้เขาไม่เหลืออะไรให้น่าชื่นชมอีกแล้ว ภรรยาก็ตายไปแล้ว ลูกสาวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวคือสิ่งค้ำจุนจิตวิญญาณทั้งหมดของเขา แต่ตอนนี้อาการของลูกสาวเขาแย่ลงเรื่อยๆ ว่านไห่เทาส่งคนมาเยี่ยมเธอทุกวัน อันที่จริงเพื่อลดปริมาณยาลง เพื่อให้เหล่าหลี่จงรักภักดีต่อตัวเอง
ว่านไห่เทาไม่คิดว่าเหล่าหลี่จะได้รับหนังสือรายงานการรักษา เขาทำได้อย่างไร?
“ครอบครัวของพวกเขาไม่ได้มีดีอะไร คนแซ่ว่านขอให้ผมไปโรงงานผ้าไฟเบอร์! ตอนนั้นผมรู้สึกผิดมาก ผมยอมรับว่าเห็นแก่ตัวมาก ผมแค่อยากให้ลูกสาวหายดี แต่ผมไม่คิดว่าเขาจะคิดร้ายกับผมด้วย ดังนั้นตอนนี้ผมไม่จำเป็นต้องช่วยเขาปิดบังอีกแล้ว! เขาส่งผมไปซื้อผ้าไฟเบอร์พวกนี้เอง!”
“เหล่าหลี่ คุณอย่าพูดจามั่วซั่วเพียงเพราะผมไม่ได้ช่วยลูกสาวของคุณ!”
“ถ้าพวกคุณไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูด แต่บันทึกการสนทนาและบันทึกเสียงเหล่านี้สามารถพิสูจน์ได้ เลขาหวังเป็นคนส่งมาให้ผม เลขาหวังยังบอกด้วยว่า ว่านไห่เทาเป็นคนบอกให้เขาทำ!”
เหล่าหลี่พูดพลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วเปิดเสียงเหล่านี้
เลขาหวังตกใจมาก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเหล่าหลี่จะทรยศ แต่คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้จะตกอยู่ในกำมือของเขา
“เลขาหวังเป็นคนทำ มันไม่เกี่ยวอะไรกับผม ผมไม่มีทางยอมรับมันอย่างแน่นอน!”
ว่านไห่เทาไม่คาดคิดว่าเรื่องนี้จะดำเนินมาถึงจุดนี้ เขารีบถอยออกไปหลายก้าว
เพียงแต่สิ่งที่ว่านไห่เทาไม่รู้ก็คือ เรื่องราวที่เขาทำนั้นถูกโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ตแล้ว ก่อนหน้านี้เขาสั่งการอย่างไร? วิดีโอและคลิปเสียงเหล่านั้นถูกโพสต์บนอินเทอร์เน็ตทั้งหมดแล้ว
เมื่อนักข่าวได้รับข่าวสารนี้ก็อดเบิกตากว้างไม่ได้ พวกเขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาตรวจสอบ ถึงพบว่ามีคนอัปโหลดรูปภาพของสถานที่แห่งนี้ลงบนอินเทอร์เน็ต ตอนนี้มีคนดูอยู่เยอะมาก!
ในเมื่อว่านไห่เทาสามารถซื้อนักข่าวเหล่านี้ได้ เนี่ยเฟิงเองก็สามารถสอดแทรกคนของตัวเองเข้าไปได้เช่นกัน เนี่ยเฟิงคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเขาจึงล่อให้ว่านไห่เทาเดินเข้าสู่กับดักทีละก้าว
แน่นอน ด้วยความสามารถของเนี่ยเฟิง อันที่จริงเขาสามารถทำลายตระกูลว่านได้เพียงนิ้วเดียว แต่เนี่ยเฟิงก็ไม่ได้ทำ เขาแค่ต้องการทำให้ว่านไห่เทาสองพ่อลูกสิ้นหวัง พวกเขาเห็นแก่เงินนักไม่ใช่หรือ ตอนนี้ให้พวกเขาได้ลิ้มรสชาติของการไม่มีมเงินดูบ้าง
เมื่อว่านไห่เทาเห็นคนเหล่านี้ สายตาของเขาก็ดูแปลกไปเล็กน้อย คนอื่นๆ กำลังพากันดูโทรศัพท์มือถือของตัวเอง เขาเองก็ยังรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และพบว่ามีข้อมูลเชิงลบมากมายเกี่ยวกับตัวเขาบนอินเทอร์เน็ต!
“ใครเป็นคนส่งมา? คลิปวิดีโอนี้ถูกตัดต่อ มันไม่ใช่ของจริง มีคนต้องการจะใส่ร้ายผม!”
ว่านไห่เทารีบอธิบาย แต่คำอธิบายของเขาไม่มีประโยชน์ ทุกคนเห็นเขาสูบบุหรี่อย่างอารมณ์ดี ซื้อรถหรู บ้านหรู แล้วยังบอกพวกเพื่อนเลวว่า “อยากหาเงินก็ทำได้ง่ายๆ ขอเพียงใช้เงินเพียงเล็กน้อยสร้างชื่อเสียง ก็จะมีคนซื้อสินค้าของคุณมากขึ้น สร้างภาพลักษณ์ที่ดี ต่อให้ขายสินค้าต้องห้าม พวกเขาก็พูดอะไรไม่ได้!”
วิดีโอนี้เป็นความจริง ว่านไห่เทาไม่สามารถปฏิเสธได้ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ตาม
ว่านฟาฉายอ่อนไหวกับข่าวคราวบนอินเทอร์เน็ตมาก หลังจากเรื่องราวอื้อฉาวของลูกชายถูกเปิดเผย เขาได้ติดต่อกับทีมประชาสัมพันธ์ทันทีเพื่อช่วยกู้สถานการณ์ แต่อีกฝ่ายก็ยังเร็วกว่าเขา แม้ว่าพวกเขาจะลบวิดีโอก็ลบไม่ได้
ว่านฟาฉายรู้ว่าตนเองไม่สามารถปกป้องลูกชายของเขาได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงออกแถลงการณ์ทันทีว่า กลุ่มและบริษัทของเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับว่านไห่เทา ทุกอย่างที่ว่านไห่เทาทำก็ไม่เกี่ยวข้องกับว่านฟาฉายทั้งสิ้น
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไร้ประโยชน์ เพราะชาวเน็ตใช้เงินซื้อไม่ได้ พวกเขารู้สึกว่าว่านฟาฉายและว่านไห่เทานั้นไม่ต่างกัน
เนื่องจากเขาเลี้ยงดูลูกชายให้ออกมาหน้าซื่อใจคดเช่นนี้ พ่อของพวกเขาย่อมไม่ได้ดีไปกว่านี้อย่างแน่นอน ดังนั้นชาวเน็ตจึงสร้างพันธมิตรด้านความยุติธรรมขึ้นมาเองเพื่อปราบว่านฟาฉาย ในเมื่อได้ทำลงไปแล้ว มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะปิดบังความจริง
ในไม่ช้าพวกเขาก็ค้นพบทุกอย่างที่ว่านฟาฉายเคยทำ หลังจากที่ข้อมูลเกี่ยวกับความหน้าซื่อใจคด การทุจริต และการติดสินบนของสองพ่อลูกได้รับการเปิดเผย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เข้าร่วมการสืบสวนอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้พวกเขามีร้อยปากก็แก้ตัวไม่ขึ้นแล้ว
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตาเดียว เนี่ยเฟิงพอใจมากเมื่อได้เห็นทิศทางการดำเนินไปของเรื่องนี้
และภาพลักษณ์ที่ดีของเขาก็ถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว
เดิมเนี่ยเจิ้งก็ได้รับความชื่นชมจากผู้คนจำนวนมากอยู่ และเนี่ยเฟิงก็ถูกผลักขึ้นสู่จุดสูงสุดในชั่วพริบตา
สำหรับเนี่ยเฟิงแล้ว การยืนอยู่บนจุดสูงสุดนั้นไม่มีความกดดันเลย
ก่อนที่ละครตลกนี้จะจบลง เนี่ยเฟิงก็ชิงถอนตัวแล้ว เพราะตัวเอกคนต่อไปไม่ใช่เขา แต่เป็นว่านไห่เทาที่ยังคงแก้ตัวให้ตัวเองอยู่
เนี่ยเฟิงไปหาชิวมู่เฉิงแล้ว เมื่อชิวมู่เฉิงเห็นว่าเนี่ยเฟิงกลับมาเร็วเกินไป เธอจึงรู้สึกงุนงง “พิธีเสร็จเร็วจัง?”
“มีความวุ่นวายเกิดขึ้นในงาน ผมเลยฉวยโอกาสออกมาเร็วหน่อย ตอนแรกผมคิดว่าคุณว่านจะเป็นคนดี แต่ไม่คิดว่าเขาจะทำเรื่องโหดร้ายแบบนี้!”
เนี่ยเฟิงเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ชิวมู่เฉิงฟังด้วยท่าทางที่น่าสงสาร
“พี่รู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นคนเลว พี่รู้สึกอึดอัดตั้งแต่แรกเห็นเขาแล้ว ที่แท้ก็เป็นนายทุนหน้าซื่อใจคดอีกคน”
แม้ว่าชิวมู่เฉิงจะรู้สึกโกรธ แม้ว่าเธอจะพยายามหาเงินเหมือนกัน แต่เธอก็ไม่เคยบีบคั้นคนอ่อนแอมาก่อน
“พี่ใหญ่ จู่ๆ ผมก็รู้สึกสงสารคนพิการพวกนั้น หลายคนเป็นเสาหลักของครอบครัว แต่เพราะความพิการ ก็เลยทำงานไม่ได้ เอาแบบนี้ไหม เราให้ตำแหน่งงานพวกเขา ให้พวกเขาเลี้ยงตัวเอง แบบนี้พวกเขาก็จะทำตัวดี และไม่ต้องกังวลว่าจะถูกหลอกอีก”
สาเหตุหลักมาจากสังคมนี้มีตำแหน่งให้คนพิการน้อยเกินไป คนที่มีแขนขาแข็งแรงยังหางานไม่ได้ นับประสาอะไรกับคนพิการ
ชิวมู่เฉิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ข้อเสนอของนายไม่เลว แต่เรายังต้องวางแผนกันก่อน”
“ครับ!”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า อันที่จริงเขามีกิจการมากมายอยู่ในมือ และไม่ว่าเขาจะทำอะไร เขาก็สามารถจัดให้คนพิการเหล่านี้เข้ามาได้ เพียงแต่ว่าตอนนี้เขาประกาศต่อสาธารณชนไปแล้วว่าเขามีเพียงพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวเท่านั้น
เนี่ยเฟิงยังไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของเขาได้
ว่านฟาฉายและว่านไห่เทาลูกชายของเขาถูกแช่แข็งแล้ว หลังจากที่เรื่องอื้อฉาวของพวกเขาถูกเปิดเผย ถ้าพวกเขาจะสร้างภาพลักษณ์ขึ้นมาใหม่ ก็ล้วนเป็นคำพูดที่เหลวไหลไม่น่าเชื่อถือ แม้ว่าจะยังมีทรัพย์สินอยู่บ้าง แต่การบริจาคอันจอมปลอมในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้ประชาชนโกรธมาก พวกเขาจำเป็นต้องควักเงินจ่ายเพื่อทำตามสัญญา
พวกเขาสองพ่อลูกได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน และพวกเขายังต้องจ่ายเงินอีกก้อนใหญ่ สำหรับพวกเขาแล้วเรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัดกร่อนไปถึงกระดูกอย่างแท้จริง