พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่430 เรื่องเก่ายังไม่ซา เรื่องใหม่มาอีก
ฝูหลังตงพยักหน้า คิดในใจว่าเมื่อมีเนี่ยเฟิงอยู่เขาจะอุ่นใจมากขึ้น ครั้งนี้ยังได้แก้แค้นอีกด้วย
เข็มเงินของเนี่ยเฟิงยอดเยี่ยมจริงๆ เขาเฝ้าอยู่ที่นี่ทั้งคืน รักษาผู้ป่วยไปหลายราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่ถูกปาดคอ
เพียงแต่ว่าที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลของหมิงอี๋หาน ดังนั้นจึงไม่สามารถปรุงยาเม็ดหรือยาใช้ภายนอกได้ในตอนนี้ ถ้ามีล่ะก็ อาการบาดเจ็บของพวกเธอก็จะหายดีแล้ว
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เนี่ยเฟิงยังมีน้ำใจปรุงอาหารที่มีคุณสมบัติเป็นยาให้กับฝูยานหรงและฝูหลังตงด้วย
แม้แต่หมอในโรงพยาบาลก็รู้สึกแปลกใจมาก พวกเขาสังเกตบาดแผลบนร่างกายของฝูหลังตงและฝูยานหรง พบว่ามันหายดีอย่างรวดเร็ว ไม่น่าเชื่อเลย
พวกเขานึกถึงบรรดาเด็กหญิงที่ถูกปาดคอที่ถูกส่งมาที่นี่ก่อนหน้านี้ พวกเธอก็ถูกส่งมาที่โรงพยาบาลและมีคนช่วยเหลือ ดังนั้นจึงหายดีอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้พวกเธอสามารถพูดจาได้แล้ว แต่บาดแผลยังไม่หายสนิท
เสี่ยวจิ้งและคนอื่นๆ หวาดกลัวมาก ถึงอย่างไรเมื่อพบเจอกับเรื่องน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ พูดออกไปก็ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว
ทางโรงเรียนก็กำลังสืบสวนเรื่องนี้อยู่เช่นกัน โชคดีที่มือสังหารถูกจับ และยังชดใช้เงินเป็นจำนวนมาก
แน่นอน เงินจำนวนนี้เนี่ยเฟิงเป็นคนถอนออกมาจากบัญชีของหลัวซู่ ตอนนี้หลัวซู่ก็มีเงินอยู่ไม่น้อย ถ้าไม่เช่นนั้นจะมีคฤหาสน์หรูหราเช่นนั้นได้อย่างไร
เนี่ยเฟิงเก็บกวาดหลัวซู่ กำจัดกลุ่มทหารรับจ้างฟลามิงโกที่หลัวซู่ว่าจ้างมา และยังได้รับเงินก้อนนั้นจากทีมนักฆ่าด้วย
เหตุผลหลักคือกลุ่มทหารรับจ้างฟลามิงโกได้กระทำการละเมิดกฎ สมควรถูกกำจัดอยู่แล้ว
ตอนนี้พวกเขายังไม่จำเป็นต้องตามหาทีมไล่ฆ่ามืออาชีพเพื่อกำจัดผู้ที่ละเมิดกฎด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนของสำนักมังกรลงมือเอง มันจึงมีความน่าเกรงกลัว
เมื่อคืนเนี่ยเฟิงได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นอีกชุดหนึ่งแล้ว หลังจากอาบน้ำในโรงแรมที่อยู่ในละแวกใกล้ๆ เขารู้สึกสดชื่น และไม่มีบาดแผลบนร่างกายเลย
ทันทีที่ฝูยานหรงนึกถึงภาพที่เนี่ยเฟิงสังหารศัตรู เธอก็รู้สึกว่าเขาช่างเก่งกาจ น่าเลื่อมใสอย่างหาที่เปรียบมิได้
พอเหลยจ้านและคนอื่นๆ ทราบข่าวก็รีบมา พอได้ยินว่าเนี่ยเฟิงได้ช่วยชีวิตฝูยานหรงไว้ เหลยจ้านก็นึกชิงชังอยู่ในใจ
“เฮ้อ! ทำไมคนที่ถูกจับตัวไปไม่เป็นผมนะ! ถ้าเป็นผมล่ะก็ ผมจะได้เห็นความองอาจห้าวหาญของพี่เฟิง! ให้ตายสิ!”
ฝูยานหรงไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี เธอชี้ไปที่บาดแผลบนหัวไหล่ของตนแล้วถามว่า “งั้นคุณยินดีจะได้รับบาดเจ็บไหม?”
“แน่นอน! ขอแค่ได้เห็นความแข็งแกร่งของพี่เฟิง ไม่ว่าอะไรผมก็ยินดี!”
ฝูยานหรงคิดว่าถ้าเขาได้เห็นจริงๆ ว่าเนี่ยเฟิงเก่งกาจแค่ไหน เขาคงจะตกใจมาก เพราะตอนที่เนี่ยเฟิงสังหารสมาชิกเหล่านั้นของทีมนักฆ่า มันน่ากลัวเหลือเกิน
พลังที่แสดงออกมานั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดผวา น่าสะพรึงกลัวจริงๆ
เพียงแต่ตอนนี้ฝูยานหรงมองเนี่ยเฟิงผ่านตัวกรอง เนี่ยเฟิงได้ช่วยชีวิตเธอ เธอย่อมรู้สึกว่าสิ่งที่เนี่ยเฟิงทำนั้นเป็นเรื่องปกติ
“พี่เฟิง ทำไมตอนนั้นคุณไม่อัดคลิปไว้ น่าเสียดายจัง!”
เนี่ยเฟิงอดหัวเราะไม่ได้ อันที่จริงไลฟ์สดเมื่อคืนนี้น่าจะถูกบันทึกไว้แล้ว…
แน่นอน ที่สนามฝึกของสำนักมังกร หลายคนกำลังฝึกโดยมีรอยคล้ำใต้ตา
เมื่อคืนเฟยหลงไม่ได้นอนทั้งคืน เขาเอาแต่คิดว่า “การเคลื่อนไหวเช่นนั้นทำอย่างไร? มันเร็วเกินไปหรือเปล่า?”
ต้องบอกว่าในตอนแรกทหารเหล่านี้ไม่เชื่อว่าเนี่ยเฟิงจะเก่งกาจเช่นนั้นจริงๆ
เพราะพวกเขาก็เป็นคนที่เคยเข้าสนามรบเช่นกัน ย่อมรู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของการเข้าสู่สนามรบ
แต่เขาคิดไม่ถึงว่าความร่วมมือของทีมนักฆ่า จะดีไปกว่ากองกำลังพิเศษอย่างพวกเขา
ไม่ใช่ ควรจะบอกว่าอยู่กันคนละระดับอย่างสิ้นเชิง
สิ่งนี้ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัว
ตอนเนี่ยเฟิงเข้าสู่สนาม เขามีเพียงเข็มเงินสำหรับการฝังเข็มอยู่ในมือ แต่เขาสามารถวิเคราะห์ได้อย่างใจเย็น
เขารู้ว่าจะจัดการกับคนเหล่านั้นด้วยวิธีไหน
ยิ่งไปกว่านั้น ความสามารถของศัตรูก็ค่อนข้างแข็งแกร่ง!
นี่คือจุดที่เนี่ยเฟิงยอดเยี่ยม
“เมื่อคืนผมไม่ได้นอนทั้งคืน ผมยังคงขบคิดในสิ่งที่ครูทหารพูด”
ชิงเหนี่ยวพูดด้วยดวงตาสีดำคล้ำในขณะที่กำลังทำซิทอัพ
“ก็ใช่น่ะสิ? ผมยังคิดว่า คุณพูดถึงจำนวนกระสุน เขาไม่ต้องดูก็รู้ว่ากระสุนยังเหลืออีกกี่นัด หลังจากที่คิดทบทวนดูแล้ว มันไม่น่ากลัวไปหน่อยเหรอ?”
เฟิ่งหวงค่อยๆ ผ่อมลมหายใจออกมา บางทีนี่อาจเป็นความแตกต่าง
ตอนนี้พวกเขาเคารพเนี่ยเฟิงด้วยใจ ไม่กล้าดูถูกเขาอีกต่อไป
ครูทหารคนนี้ที่หน่วยเหนือส่งมา แข็งแกร่งเหลือเกิน!
เนี่ยเฟิงไม่รู้ว่าคนเหล่านี้คิดอะไรอยู่ เพราะหลังจากฝูหลังตงและคนอื่นๆ กินข้าวเสร็จแล้ว เขาก็ได้รับคำขอร้องจากฝูหลังตง
“ผมเพิ่งได้รับข้อความจากลูกค้า เขาต้องไปเอาทรัพย์สมบัติชิ้นหนึ่งที่พิพิธภัณฑ์ แต่ตู้นิรภัยของสมบัติชิ้นนั้นต้องเปิดสแกนรูม่านตาของผมจึงจะสามารถเปิดได้ ตู้นิรภัยนั่นคุณก็สามารถเปิดได้ด้วย ดังนั้น…”
“ปู่ฝูไม่จำเป็นต้องพูดหรอก ผมรู้ว่าต้องทำยังไง ผมจะไปเดี๋ยวนี้ คุณพักผ่อนให้สบาย”
เนี่ยเฟิงพูดจบก็ออกไป ก่อนจะมาถึงพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวหลังตง
แม้ว่าฝูหลังตงจะไม่อยู่ที่นั่น แต่พิพิธภัณฑ์ส่วนตัวยังคงเปิดอยู่ จึงมีผู้คนมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก
ตอนที่เนี่ยเฟิงมาถึง อีกฝ่ายก็รออยู่ข้างนอกเป็นเวลานานแล้ว
เขาเป็นลูกค้ารูปร่างผอมบาง ยิ้มและพูดกับเนี่ยเฟิงว่า “ต้องรบกวนคุณหน่อยนะครับ”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า เห็นได้ชัดว่าลูกค้าคนนี้รู้สึกประหม่า ข้างกายเขายังมีคนอื่นอยู่ด้วย เนี่ยเฟิงระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา รู้ว่าเรื่องนี้อาจไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น
แต่เขาก็ยังพาลูกค้าเข้าไป ทันทีที่เข้าไปถึงโถงรับแขก คนที่อยู่ข้างกายลูกค้าก็ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณก็คือเนี่ยเฟิงสินะ?”
“ดูท่าทางคุณจะพุ่งเป้ามาที่ผมจริงๆ คุณรู้อยู่แก่ใจว่าท่านขาหัก มาไม่ได้ ดังนั้นจึงใช้วิธีการที่โง่เขลาแบบนี้น่ะเหรอ?”
เนี่ยเฟิงเลิกคิ้วขึ้น เปิดโปงอีกฝ่ายอย่างไม่ปรานี
ชายคนนั้นมองพิจารณาเนี่ยเฟิง “ในเมื่อดูออกแล้ว งั้นก็รบกวนมากับพวกเราด้วย”
เนี่ยเฟิงกลับไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เลย ต้องจัดการกับอีกฝ่ายพ่วงด้วยลูกค้าอีกคนหนึ่ง ถ้าเขาไม่ตามไปก็เกรงว่าลูกค้าคนนี้จะเดือดร้อนไปด้วย
“เรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับผม ในเมื่อมันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคนอื่น ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยเขาไป”
พอเนี่ยเฟิงพูดเช่นนี้ อีกฝ่ายก็อดหัวเราะไม่ได้ “มองไม่ออกเลยว่า คุณจะยังมีจิตใจเมตตาขนาดนี้”
เนี่ยเฟิงไม่อยากถือสาหาความชายคนนั้น แน่นอนว่าเขาสามารถกำจัดชายผู้นี้ได้ทันที แต่หากทำเช่นนี้ก็จะไม่รู้ว่าใครเป็นคนสั่งให้เขาทำเช่นนั้น
เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจมาหาตนโดยเฉพาะ ดังนั้นเนี่ยเฟิงจึงไม่อ้อมค้อม ยอมไปกับเขาอย่างง่ายดาย
ในเวลานี้ลูกค้าถอนหายใจอย่างโล่งอก หลังจากเนี่ยเฟิงออกไปกับพวกเขาแล้ว เขาก็ขอให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลความปลอดภัยของลูกค้า
เนี่ยเฟิงถูกชายคนนั้นพาไปที่รถคันหนึ่ง รถขับวนไปวนมาจนมาถึงคฤหาสน์หลังหนึ่ง มันดูหรูหรามาก
เขาชำเลืองมองแล้วก็ละสายตากลับ พอเข้าไปก็ถูกห้อมล้อมด้วยกลุ่มคนที่แต่งตัวดูโหดเหี้ยม
เนี่ยเฟิงเลิกคิ้วขึ้น “ตอนนี้เริ่มแล้วหรือยัง? แต่พูดตามตรงนะ คนพวกนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผมจริงๆ”
คำพูดของเนี่ยเฟิงกระตุ้นความไม่พอใจของพวกเขาทันที พวกเขามองมาทางเนี่ยเฟิงด้วยความโมโห