พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่54 การประชุมทางวิชาการ
บทที่54 การประชุมทางวิชาการ
หลิวปั๋วทงคิดว่าด้วยเส้นสายของตัวเองแล้วน่าจะมีคนมาหาเขาไม่น้อย แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะอยู่ในห้องเย็นหนึ่งคืน ก็ไม่มีใครมาหาเขาเลย
ในตอนนั้นเองผู้อำนวยการกลับมาแล้ว
หลิวปั๋วทงมองผู้อำนวยการ พูดตะคอกใส่ทันที”มึงยังไม่ปล่อยกูออกไปอีก นายรู้ไหมว่าขังกูแล้วจะเป็นยังไง! ”
ผู้อำนวยการกระตุกมุมปาก ดูออกว่าเขาโกรธมาก
“หลิวปั๋วทง นายทำเรื่องเลวที่เลวร้ายแบบนั้นทุกคนรู้หมดแล้ว ผมไม่เคยคิดเลยว่า จะมีแกะดำอยู่ในสถานีตำรวจของเรา! ”
ถ้าไม่ใช่ข้างบนระงับวิดีโอไว้ หมอนี้อาจก่อให้เกิดความไม่พอใจต่อสาธารณชนได้
“ถุ้ย! มึงไม่ต้องมาขู่กู กูบอกให้ กูได้นั่งในตำแหน่งรองผู้อำนวยการได้ด้วยอายุแค่นี้ อีกไม่นานกูก็จะแทนที่มึงแล้ว ตอนนี้มึงมาประจบประแจงกูก็ยังทัน! ”
หลิวปั๋วทงไม่เชื่อว่าตัวเองจะแพ้แล้ว เขายังคงคิดว่าจะมีคนมาช่วยเขา แต่ว่าเมื่อหัวล้มแล้ว คนอื่น ๆ ก็จะหายไปเช่นกัน
เมื่อก่อนตอนที่เขาเป็นรองผู้อำนวยการ มีคนตั้งมากมายมาประจบเขา แต่ว่าเขาในตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เขาเป็นแค่บุคคลอันตรายที่ใคร ๆ ก็ทอดทิ้ง
ผู้อำนวยการมองท่าทางที่ไม่รู้จักสำนึกผิดของหลิวปั๋วทง เขาอดถอนหายใจแล้วส่ายหัวไม่ได้ ยังไงก็เป็นเพื่อนร่วมงานกัน เห็นคู่หูของตัวเองตกต่ำสภาพแบบนี้ ผู้อำนวยการไม่สามารถพูดโน้มน้าวได้
เขาเดินออกไป หาเย่หรูเสว่ “เสี่ยวเสว่ เรื่องนี้ให้เธอจัดการแล้วกัน”
ครั้งก่อนผู้อำนวยการฟังคำแนะนำของรองผู้อำนวยการ ถึงตกลงให้เย่หรูเสว่ย้ายไปที่กองตำรวจจราจร และเย่หรูเสว่ก็สร้างประโยชน์มาเรื่อย ๆ รองผู้อำนวยการมาถึงจุดนี้อีกครั้ง ผู้อำนวยการรู้เรื่องทุกอย่างในนั้นแน่นอน
“ผู้อำนวยการวางใจได้ค่ะ ฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้ดีค่ะ”
หลังจากหลิวปั๋วทงเกิดเรื่อง คนที่เกี่ยวข้องกับหลิวปั๋วทงพูดได้ว่าตื่นตระหนัก เพราะว่าเกี่ยวข้องกันลึกมาก
เย่หรูเสว่ก็เพราะว่าคลายคดีสร้างประโยชน์ได้ เลยเลื่อนขั้นจากหัวหน้าทีมเป็นหัวหน้ากอง
เดิมทีเนี่ยเฟิงอยากจัดงานฉลองให้เย่หรูเสว่ แต่ว่าเย่หรูเสว่ยุ่งกับการสืบสวนจนไม่มีเวลาว่าง
หลังจากเว่ยซื่อกรุ๊ปล้ม ชิวมู่เฉิงก็ยุ่งจนไม่มีเวลาพักเลย
พวกเธอทั้งสองคนไม่มีเวลาพาเนี่ยเฟิงปรับตัวเข้ากับการทำงาน
หลังจากพี่สาวทั้งเจ็ดคนคุยกันก็ตัดสินใจให้เนี่ยเฟิงอยู่กับพี่สี่หมิงอี๋หาน
“แผลกลางฝ่ามือของนายยังไม่หายสนิท เอางี้ไปฝึกกับน้องสี่แล้วกัน”
พอเนี่ยเฟิงนึกถึงประสาทสัมผัสไวในการมองทะลุปรุโปร่งของพี่สี่ ก็อดตัวสั่นไม่ได้ ในบรรดาพี่สาว สายตาของหมิงอี๋หานนั้นร้ายกาจและเฉียบคมที่สุด
แผลพวกนั้นบนตัวเขา ก็ปิดหมิงอี๋หานไม่ได้
ก็ไม่รู้ว่าช่วงเวลาที่อยู่กับหมิงอี๋หานจะโดนพี่สี่ขุดอะไรรึเปล่า เขาว่ามีความเป็นไปได้
เช้าวันรุ่งขึ้น เนี่ยเฟิงยังไม่ตื่นก็รู้สึกว่ามีคนเข้ามาในห้อง ร่างกายของเขามีความระมัดระวังมาก แทบจะเป็นการตอบสนองตามจิตใต้สำนึก ปกติถ้าจับมืออีกฝ่ายแล้ว ก็บีบคอเธอได้เลย
การเคลื่อนไหวนี้ของเนี่ยเฟิงพูดได้ว่าคล่องแคล่วมาก แต่หลังจากที่เขาเห็นว่าเป็นใคร เขาก็ชะงักเล็กน้อย “พี่สี่? พี่มาได้ไง? ”
“ขนาดหลับยังระวังขนาดนี้เหรอ? ”
หมิงอี๋หานยักคิ้ว จากนั้นก็ผลักมือเนี่ยเฟิงออก “พี่กลัวนายนอนเพลินไป ทางเดียวกันพอ พี่มารับนายเลยดีกว่า”
เนี่ยเฟิงยิ้มแห้ง ๆ จากนั้นลุกขึ้น เขาจับตัวเอง ผมที่เหมือนอย่างกับรังนก “ถ้างั้น พี่สี่ พี่ออกไปก่อนได้ไหม ผมจะไปแต่งตัว”
“นายเป็นยังไงพี่สี่ก็เห็นมาหมดแล้ว? อีกอย่าง พี่รู้ว่านายตื่นตอนเช้าจะแข็งแรงมาก! ”
หมิงอี๋หานหยอกล้อแบบนี้ ทำเอาคนเซียนอย่างเนี่ยเฟิงพูดไม่ออกทันที
แต่ว่าสุดท้ายหมิงอี๋หานก็ถอยออกไป เนี่ยเฟิงรีบลุกขึ้นมา เปลี่ยนชุด
หลังจากพวกเขากินอาหารเช้าเสร็จขึ้นรถ เนี่ยเฟิงนั่งที่นั่งข้างคนขับแล้วมองทิศทางของรถ ไม่ได้ไปทางโรงพยาบาล เขารู้สึกแปลกใจทันที “พี่สี่ พวกเราจะไปไหนเหรอครับ? ”
“วันนี้มีการประชุมวิชาการต้องเข้าร่วม พอดีเลยพานายไปดู เมื่อก่อนนายเรียนการแพทย์กับคุณตาไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ยังจำได้รึเปล่า? ”
คุณตาของเนี่ยเฟิงเก่งด้านศิลปะการต่อสู้ทั้งสิบแปด เป็นคนเก่ง ทั้งด้านการแพทย์ ทั้งด้านศิลปะการต่อสู้
เดิมทีคุณตาของเนี่ยเฟิงเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และศิลปะการต่อสู้ที่มีชื่อเสียง ตอนนั้นลูกสาวและลูกเขยของเขาไปเที่ยวทะเล แล้วยังเรียกคุณตาไป แต่ตอนนั้นคุณตามีโครงการต้องตาม ก็เลยไม่ได้ไป
แต่นึกไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายสิ่งที่เขาได้คือฝันร้ายที่ลูกสาวลูกเขยรวมถึงหลายชายหายไป
ตอนที่เขาสืบหาเรื่องนี้ได้รู้ทุกอย่าง จากนั้นก็ถูกตามฆ่า เพื่อปิดความสามารถของเขา เขาจึงไม่เปิดเผยชื่อ
นี่ก็คือสาเหตุที่เนี่ยเฟิงตามหาคุณตาไม่เจอสักที
“แน่นอนยังจำคำสั่งสอนของคุณตาได้ ผมจะลืมได้ไง แต่ว่าพี่ก็รู้ว่าคุณตาสอนแพทย์แผนจีน การประชุมวิชาการของพี่……”
“ไม่เป็นไร ไม่มีใครกล้าทำนาย ถ้ามีใครกล้าพูดอะไร พี่จะทำให้มันเป็นแค่น่าง”หมิงอี๋หานพูดนิ่ง ๆ
เนี่ยเฟิงอดถอนหายใจไม่ได้ : จริงอย่างที่ว่าผู้หญิงที่เรียนแพทย์น่ากลัวมากจริง ๆ
สักพักพวกเขาก็มาถึงแพทย์สมาคมเมืองจินไห่
เนี่ยเฟิงเงยหน้ามอง “แพทย์สมาคมนี้ดูหรูหรา น่าจะใช้เงินสร้างเยอะสินะ? ”
“เมื่อก่อนแพทย์สมาคมไม่ใช่แบบนี้ หลังจากเปลี่ยนประธานสมาคม ที่นี่ก็เปลี่ยนไปมาก อีกอย่างตระกูลจูก็ลงทุนเงินไปมาก”
หมิงอี๋หานพูดถึงตรงนี้ก็ขมวดคิ้ว “ยังไงพี่ก็ไม่ชอบคนพวกนั้น”
“ตระกูลจูน่าจะทำธุรกิจการแพทย์สินะ? ”
“ในเมื่อนายถามแล้ว งั้นพี่ก็บอกนายแล้วกัน ตอนนั้นโรงพยาบาลเฟิร์สตกไปอยู่ในมือพวกเขาไม่ใช่รึไง? ”
โรงพยาบาลเฟิร์สคือทรัพย์สินของตระกูลเนี่ย
หลังจากตระกูลเนี่ยล้ม ทรัพย์สินขนาดใหญ่ที่สำคัญถูกแบ่งโดยคนในเมืองจินไห่ และคนที่แบ่งทรัพย์สินของพวกเขาออกไปก็คือสี่ตระกูลตัวพ่อ
“แต่ว่าไม่เป็นไร แม้ว่าโรงพยาบาลของตัวเองจะไม่สามารถแข่งกับเขาได้ แต่ว่าอนาคตอันใกล้ พี่จะเหยียบพวกมันอยู่ใต้เท้าให้หมด”
นี่มันปกติมาก โรงพยาบาลที่หมิงอี๋หานอยู่ตอนนี้สำหรับโรงพยาบาลเฟิร์สเมื่อก่อนแล้ว แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน แต่ว่าด้วยความพยายามที่ไม่ท้อถอยของหมิงอี๋หาน ตอนนี้โรงพยาบาลคังหมิงของเธออยู่อันดับต้น ๆ แล้ว
“พี่สี่สุดยอดมาก! ”
“พี่ไม่ได้เก่งอะไร ในบรรดาพวกเราทุกคน มีแต่นายที่มีความสามารถรอบด้านและเก่งที่สุด ตอนนั้นคุณตาบอกแล้วว่านายฉลาดมาก เรียนอะไรก็เร็ว แต่มีข้อเดียวที่ไม่ดี ก็คือซนมาก เขาสอนศิลปะการต่อสู้สอนด้านการแพทย์ให้นาย ก็เหมือนบังคับวัวไปกินหญ้าแต่มันไม่ยอมกิน ไร้ประโยชน์เลย”
เนี่ยเฟิงยิ้มอย่างเขินอาย “พวกเราอย่าคุยกันตรงหน้าประตูสิ รีบขึ้นไปกันเถอะ! ”
หมิงอี๋หานหันกลับมา พาเนี่ยเฟิงเข้าไปในห้องประชุม